Summary
เข้มกว่านี้ ก็เอสเปรสโซดับเบิ้ลช็อตแล้วแหละ! ที่สนามกรุงเทพฯ ทั้ง 15 วงประกวดต่างเค้นความสามารถออกมาสู้กันแบบไม่มีใครน้อยหน้าใคร เมื่อมวยถูกคู่มาเจอกัน คนดูอย่างเราก็ได้กำไรไปเต็มๆ หลังจากทีม Thaipower.co นั่งเล็งอยู่นานสองนาน ก็ได้โอกาสคว้าน้องๆ “นักร้อง” และ ”นักดนตรี” ตัวแทนจาก 12 วง มาพูดคุย แต่ละคนจะแน่สักแค่ไหน ไปติดตามกันเลย!
12 นักร้อง – นักดนตรี
รวมวงประกวดจากรุ่นมัธยมฯ
สนามกรุงเทพฯ
ที่สนามกรุงเทพฯ ในรอบโซนนิ่งของการประกวดวงดนตรีระดับประเทศ THE POWER BAND 2025 SEASON 5 จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จับมือพันธมิตรจากหลายๆ ค่ายเพลงชั้นนำระดับประเทศ อย่าง Muzik Move, Smallroom, LOVEiS Entertainment, What The Duck, Warner Music Thailand, XOXO Entertainment และพันธมิตรอุตสาหกรรมดนตรี Singha Corporation, T-POP STAGE, The Guitar Mag, Yamaha Music Thailand รวมถึงพันธมิตรใหม่ YUPP! Entertainment, Universal Music Thailand และ Multiply by Eight ภายใต้คอนเซปต์ MUSIC CREATES MORE POSSIBILITIES พลังดนตรี เป็นไปได้ ไม่สิ้นสุด
THE POWER BAND ซีซันนี้ได้เฟ้นคัดตัววงดนตรีมากความสามารถจากทั่วทุกสารทิศตลอดเวลาของโครงการ ไม่ว่าจะโซนภาคเหนือ ใต้ ออก ตก จนเวียนมาที่สนามกรุงเทพฯ เช็กผลตัดสินสนามกรุงเทพฯ พร้อมเก็บตกบรรยากาศเวทีการแสดงในวันนั้น คลิกที่นี่
ผู้เข้าแข่งขันแต่ละวงทุ่มกันสุดตัว มีเท่าไรใส่เกินร้อย เพื่อคว้าตั๋วใบสุดท้ายนี้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ทำให้การแข่งขันทวีดุเดือดขึ้นไปคูณสอง โดยเฉพาะสุดยอดวงดนตรีระดับมัธยมศึกษา (High School Class) ที่เหล่ากรรมการให้คอมเมนต์ว่า “คะแนนเฉือนกันเป็นหลักทศนิยม” เรียกได้ว่าแต่ละวงโชว์ความสามารถทางด้านดนตรีกันแบบสูสีคู่คี่กันแบบไม่มีใครยอมใคร Thaipower.co ขอพาทุกคนไปรู้จักกับตัวแทนนักร้องและนักดนตรี ทั้ง 12 วง ที่การันตีได้เลยว่าไม่ใช่แค่เด็ดพริก 10 เม็ด แต่นี่คือกลุ่มวงดนตรีเด็ดพริก 11 เม็ด เพราะพวกเขาและเธอ “เด็ดเกิน”
มินา นักร้องนำวง SOUL SYNC
ริว – เจอาร์ – ปลาวาฬ สมาชิกวง Z1NITH
สิงห์ – อิงฟ้า กับ หมิงหมิง สมาชิกวง Temple Heart
และที่ว่าเด็ดของสนามนี้ รุ่นมัธยมฯ ยังมีตัวแทนวงที่เราเคยพาไปทำความรู้จักกันมาแล้วจากในสนามก่อนๆ เข้ารอบที่สนามนี้ด้วยอีก 3 วง ได้แก่วง SOUL SYNC สังกัดอิสระ (กรุงเทพฯ) อ่านเรื่องของสมาชิกวง SOUL SYNC คลิกที่นี่ วง Z1NITH สังกัดอิสระ (กรุงเทพฯ) อ่านเรื่องสมาชิกวง Z1NITH คลิกที่นี่ และ คลิกที่นี่ หรือ คลิกที่นี่ และวง Temple Heart จากโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย (ลำปาง) อีกด้วย อ่านเรื่องสมาชิกวง Temple Heart คลิกที่นี่ หรือคลิกที่นี่
• หยกกี้ – พุทธรักษา ทองสุข
นักร้องนำ วง NOW AND DEE
โรงเรียนเตรียมอุดมดนตรี
วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล (นครปฐม)
“พอแข่งเสร็จ รู้สึกโล่งเลยค่ะ
เพราะเราตื่นเต้นกับการแข่งครั้งนี้มากๆ”
Thaipower.co ขอมอบตำแหน่ง “องค์แม่” ประจำรายการ THE POWER BAND 2025 SEASON 5 สนามกรุงเทพฯ ให้กับน้องหยกกี้ นักร้องนำ วง NOW AND DEE ไปเลย ด้วยเสียงร้องอันทรงพลังบวกกับการร้องอิมโพรไวซ์ในท่อนแอดลิบ ที่บอกได้หลายคำเลยว่า “ทำดี ทำถึง พ่นไฟ ไฟลุก” ฟังแล้วหูเคลือบทองหลายชั้น บวกกับทางดนตรีของวงที่แน่นปึ้ก เครื่องเป่าที่ผสานในแนวดนตรีอย่างลงตัว ส่งผลให้ วง NOW AND DEE ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปแบบสวยๆ
“ปีนี้วงของพวกเรามาแข่งเป็นปีแรก รู้สึกสนุกกว่าที่คิดไว้อีก แม้กติกาในการแข่งขันจะโหดใช้ได้ แต่ก็รู้สึกว่าท้าทายดีค่ะ เพราะทำให้พวกเราได้พัฒนาตัวเองกันทั้งวงเลย รู้สึกดีมากๆ ที่ผ่านเข้าสู่รอบไฟนอลมาได้ เพราะได้ข่าวว่าแค่สนามกรุงเทพฯ การแข่งขันก็ดุเดือดมากๆ แล้ว ไม่รู้ว่ารอบไฟนอลจะมีอะไรรอพวกเราอยู่ ตื่นเต้นมากค่ะ” อ่านบทสัมภาษณ์อ.ปริญญ์ ครูผู้คุมวง คลิกที่นี่
เพลงให้กำลังใจ Cheer Up สมาชิกในวง
• เพลง สุดปัง (MILLI)
วง NOW AND DEE: “เพราะวงพวกเราปังมาก
ต้องเพลงนี้เท่านั้นถึงจะสมมง”
นอกจากความสามารถของวง NOW AND DEE จะ ‘สุดปัง’ อย่างที่น้องหยกกี้บอกแล้ว สมาชิกในวงแต่ละคนยัง ‘สุดฮา’ อีกด้วย “มีอยู่วันหนึ่งคุณแม่ของพี่คนหนึ่งในวงทำไข่พะโล้จำนวน 120 ฟองมาให้พวกเรากิน ซึ่งมันกินทีเดียวไม่หมดอยู่แล้ว ช่วงนั้นเจอใครในโรงเรียนก็เรียกมาช่วยกันกิน แจกจ่ายให้ได้มากที่สุด ไม่รู้ว่าแม่ทำมาให้กินหรือแก้บน ทุกวันนี้คนทั้งโรงเรียนยังแซวเรื่องนี้กันอยู่เลยค่ะ แต่เอาจริงกินไข่แล้วก็รู้สึกมีเอเนอร์จีในการซ้อมอยู่เหมือนกันนะคะ (หัวเราะ)”
เส้นทางแห่งความฝันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป บางครั้งอาจพบเจออุปสรรคที่หนักหนาจนทำให้เกิดความท้อแท้หมดหวัง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เคยบั่นทอนกำลังของน้องหยกกี้ “เวลาท้อ อยากให้ทุกคนอย่ามัวแต่มองด้านหน้ามากจนเกินไป ลองหันกลับไปมองด้านหลังบ้าง ย้อนกลับไปดูสิ่งที่ทำมาในอดีต จะรู้สึกเลยว่าเรามาไกลมากแล้ว ไกลเกินกว่าที่จะยอมแพ้แล้วหันหลังกลับ ไม่ใช่ว่าเราทำครั้งแรกครั้งเดียวแล้วจะได้เลย มันอาจจะมีล้มบ้างระหว่างทาง ไม่ได้อย่างที่ต้องการบ้าง เราต้องสู้ต่อไปค่ะ เพราะความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร”
• มิกกี้ – บุญชนิต นาคสุข
มือกลอง วง Woodstock
โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า (กรุงเทพฯ)
“ปีนี้วงที่เก่งๆ เยอะมาก พวกเราสุดยอดมาก
ที่ผ่านงานหินขนาดนี้มาได้”
หลายๆ คนคงเคยได้ยินชื่อเทศกาลดนตรี อย่าง Woodstock Music & Art Fair ด้วยความที่อยากให้วงโด่งดังและเป็นที่รู้จักเหมือนอย่างศิลปินที่ได้ไปเล่นในเทศกาลนี้จึงกลายมาเป็นที่มาของชื่อวง Woodstock ที่รวบรวมเหล่าสมาชิกที่มีความรักและความศรัทธาในเสียงดนตรีเข้าไว้ด้วยกัน ย้อนอ่านเรื่องของวง Woodstock เมื่อซีซันก่อน คลิกที่นี่
มิกกี้ เป็นมือกลองของวงมาตั้งแต่รุ่นแรก เขากับวงจึงเข้าประกวดในรายการ THE POWER BAND มาตั้งแต่ซีซันที่ 3 และ 4 มิกกี้เปรียบเสมือนเสาหลักของวงที่คอยดูแลน้องๆ และเสนอไอเดียทางด้านดนตรีต่างๆ
“ผมเป็นคนฟังเพลงเยอะ พยายามค้นหาแนวดนตรีใหม่ๆ ทำความเข้าใจว่าแต่ละแนวเพลงมีความแตกต่าง และมีวิธีการเล่นยังไง แล้วชวนพี่ๆ น้องๆ ในวงมาฟังแนวเพลงใหม่ๆ ไปด้วยกัน อยากให้ทุกคนมีความเข้าใจที่ตรงกัน พอกรรมการชมว่าวงเรามีความเข้าใจทางด้านดนตรีสูง ก็เลยรู้สึกปลื้มใจมากครับที่กรรมการมองเห็นสิ่งที่เราทำมาโดยตลอด”
เพลงให้กำลังใจ Cheer Up สมาชิกในวง
• เพลง ถ้าเธอไม่ไหว (Serious Bacon x TATTOO COLOUR)
วง Woodstock: “ถ้าน้องๆ ไม่ไหว ยังมีพี่อยู่ครับ”
อ่านบทสัมภาษณ์ ศิลปิน Serious Bacon คลิกที่นี่
ด้วยฝีมือตีกลองอันโดดเด่น หนักแน่น และมีลูกเล่นเทคนิคผสมผสานที่ทำให้เพลงที่แสดงบนเวทีมีมิติมากขึ้น บวกกับความทุ่มเทในการฝึกซ้อมมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่รู้ข่าวว่า THE POWER BAND SEASON 5 ได้เริ่มต้นขึ้น ส่งผลให้วง Woodstock ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปแบบสมศักดิ์ศรี “อยากให้ทุกคนหมั่นขยันฝึกซ้อม ซ้อมแบบถูกวิธี หาแนวดนตรีของตัวเองให้เจอ หาความชอบของตัวเองให้เจอ และพัฒนาตัวเองไปให้ถึงที่สุดครับ อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว เป็นน้ำก้นแก้วก็ได้ครับ จะได้เติมเข้าไปได้เยอะๆ (หัวเราะ)”
Suggestion
• เอลลี่ – อรีย์ มีเกซ
มือเบส วง Zizters
สังกัดอิสระ (กรุงเทพฯ)
แม้จะแพ้ แต่พวกเราจะฝึกซ้อมใหม่ เตรียมตัวมาใหม่
ท้าทายตัวเองใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอน”
สมาชิกในวง Zizters รวมตัวกันผ่านการออดิชันจากคอมมิวนิตีแห่งหนึ่ง จากคนแปลกหน้าที่ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อน มาสู่เคมีที่เข้ากันแบบเกินต้าน สมาชิกหญิงล้วนทั้ง 5 คนสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วจนเหมือนพี่น้อง จึงกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของชื่อวงสุดเก๋ ที่เปลี่ยนตัว S จากคำว่า Sisters ให้เป็นตัว Z เหมาะสมกับวงดนตรีร็อก Gen Z ที่มีลีลาแดนซ์สุดมันเป็นที่สุด
“พวกเราอยากออกมาแข่งขันมากขึ้นก็เลยตัดสินใจออกจากคอมมิวนิตีนั้น เพื่อออกมาเจอโลกกว้าง ลงแข่งขันเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด ตอนที่เรียบเรียงเพลงเสร็จใหม่ๆ ก็มีเอาไปลองแข่งที่อื่นดูบ้าง เพื่อนำคอมเมนต์ที่ได้รับมาปรับแก้ไข บางเพลงก็แก้หลายรอบมากๆ แต่ทุกเวอร์ชันที่พวกเราเล่นในแต่ละครั้งจะรู้สึกว่าสนุกดี ไม่ได้รู้สึกว่ายากหรือต้องเปลี่ยนตัวเองมากเท่าไร”
เพลงให้กำลังใจ Cheer Up สมาชิกในวง
• เพลง เรือเล็กควรออกจากฝั่ง (Bodyslam)
วง Zizters: “เพราะพวกเรายังไปต่อได้ไกลกว่านี้
นี่แค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นค่ะ”
อ่านบทสัมภาษณ์ศิลปิน Bodyslam คลิกที่นี่
น้องเอลลี่ให้คำนิยามวงของตัวเองว่า “chaotic” เพราะสมาชิกทุกคนชอบทำตัวบ้าๆ บอๆ แถมยังชอบเต้นกันเป็นชีวิตจิตใจ “พวกเราเป็นวงที่ชอบแสดงออกมากๆ Dancing, Singing and Doing silly things คือ 3 สิ่งที่จะขาดไม่ได้ ไม่เคยมีวันไหนที่ซ้อมแล้วจะเคร่งเครียด จริงจัง ทุกวันมีแต่เสียงหัวเราะและความสนุกสนานค่ะ”
เมื่อถามถึงความคาดหวังในการแข่งขันครั้งนี้ น้องเอลลี่ตอบอย่างมั่นใจว่า “แน่นอนว่าพวกเราอยากเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ อยากรู้ว่าเราจะไปได้สุดที่ตรงไหน แต่ผลการแข่งขันก็เหมือนดาบสองคม มีชนะก็ต้องมีแพ้ มีคำติก็ต้องมีคำชม เราต้องไม่เอาสิ่งเหล่านี้มาบั่นทอนกำลังใจ คำวิจารณ์ในแง่ลบที่ได้มาให้นำมาพัฒนาตัวเราเอง อย่าไปจมอยู่กับมัน และต้องไม่ลืมที่จะสนุกไปกับสิ่งที่เราทำอยู่เสมอ โชว์ให้ทุกคนได้เห็นถึงตัวตนและความสามารถของเราค่ะ”
• ริว – ณัฎฐ์นันธ์ วิรุณานนท์
มือกลอง วง oxyZgen
โรงเรียนดนตรี กิตติ กีตาร์ปืน (กรุงเทพฯ)
“นี่คือเวทีใหญ่เวทีแรกของผม
เกือบวูบไปอยู่เหมือนกัน แต่ยังดีที่กลับมาได้”
“ออกซิเจน แม้จะมองมันไม่เห็น แต่ก็ขาดมันไม่ได้” นี่คือคำตอบเท่ๆ จากน้องริว มือกลอง วง oxyZgen หนึ่งในสมาชิก Gen Z ที่พร้อมจะขับเคลื่อนวง oxyZgen ให้ทุกคนตกหลุมรักและขาดพวกเขาไม่ได้เหมือนอย่างชื่อของวง
“ก่อนหน้ามาประกวดที่ THE POWER BAND วงเราต้องไปงานที่หัวหินมา ตอนที่ประกวดฉากด้านหลังมันหล่นมาใส่ตัวผม แต่ไม่มีใครเห็นเลย พยายามส่งสัญญาณเรียกพี่ๆ เทคนิคด้านข้างก็ไม่เป็นผล เลยต้องเล่นต่อไปทั้งอย่างนั้น จนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่ง พี่เขาถึงเห็นว่าฉากร่วงลงมา แล้วถึงมาช่วยเอาออกไปจากตัวผม มานั่งย้อนคิดๆ ดูตอนนี้ก็รู้สึกว่า เออ…ตอนนั้นก็ยังเล่นต่อไปได้เนอะ” ริว มือกลอง แชร์เรื่องราวสนุกๆ ที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ให้ฟังแบบขำๆ
เพลงให้กำลังใจ Cheer Up สมาชิกในวง
• เพลง แดงกับเขียว (ไททศมิตร)
วง oxyZgen: “เพลงปลุกใจพร้อมไฟต์ครับ”
ระหว่างการประกวดแม้ ริว มือกลอง จะถูกใครหลายๆ คนเอ่ยปากแซวสไตล์แต่งตัวที่ใกล้เคียงศิลปินรุ่นใหญ่ แต่น้องริวบอกกับ Thaipower.co ว่า “แม้ผมจะมาในลุคของพี่ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ แต่จิตวิญญาณการแข่งขันวันนี้คือวงร็อกเต็มขั้น” สัมผัสได้ถึงไฟแห่งการแข่งขันที่ลุกโชนของน้องริว “ดนตรีก็เหมือนดาบสองคมครับ ถ้าเราเล่นเฉยๆ ก็จะมีแต่ความสนุกสนาน แต่ถ้าเราเริ่มจริงจังมากๆ ก็ถือว่าเป็นงานที่ดูดพลังพอสมควร เพราะฉะนั้นถ้ามีความฝันและอยากมุ่งมาทางนี้จริงๆ ต้องอย่าท้อแท้ ทำไปเรื่อยๆ แล้วเราจะคว้าชัยชนะได้ในที่สุดครับ”
• ดีน – ชนกนพ สุเมรุรัตน์
นักร้องนำ วง First Floor
สังกัดอิสระ (กรุงเทพฯ)
“ผ่าน – ไม่ผ่านไม่รู้ แต่ไม่เสียใจแน่นอนค่ะ
เพราะบนเวทีพวกเราทำเต็มที่
และสนุกไปกับมันจริงๆ”
ด้วยความที่ห้องซ้อมประจำของน้องๆ สมาชิกในวงตั้งอยู่ชั้นที่ 1 จึงเป็นที่มาของชื่อวง First Floor สีสันอันโดดเด่นของวง First Floor คงต้องยกให้กับความสดใสเป็นธรรมชาติของน้องดีน นักร้องนำของวง ที่ผสานเข้ากับแนวดนตรีที่ทุกคนที่ได้ฟังแล้วต้องได้รับความเฟรช สดใสซาบซ่านกลับไปอย่างแน่นอน
“เวลาที่หนูร้องท่อนไหนไม่ได้ หรือมีอะไรติดขัด ส่วนใหญ่เวลาซ้อมจะฝึกการใช้สเกลเสียง เพื่อขยายเรนจ์เสียงของเราให้กว้างขึ้น พยายามฝึกร้องให้แตะโน้ตต่างๆ ที่เราทำไมได้ พอฝึกซ้อมแบบนี้บ่อยๆ จะสามารถร้องไปถึงโน้ตที่ต้องการได้ในที่สุดค่ะ”
เพลงให้กำลังใจ Cheer Up สมาชิกในวง
• เพลง วัดใจ (Silly Fools)
วง First Floor: “วัดใจไปเลยค่ะ
ได้ไปต่อหรือพอแค่นี้”
น้องดีน มีคุณแม่เป็นนักร้องอิสระ เติบโตขึ้นมาท่ามกลางเสียงเพลงและเสียงร้องของคุณแม่มาโดยตลอด ทำให้น้องดีนซึมซับเรื่องการร้องเพลงไปโดยไม่รู้ตัว “หนูเพิ่งจะมาร้องเพลงจริงจังเมื่อช่วงต้นปีนี้เองค่ะ ส่วนใหญ่คุณแม่จะช่วยสอนเรื่องการวอร์มเสียงและวิธีการเอนเตอร์เทนบนเวทีให้เป็นหลักค่ะ ก็พยายามนำมาปรับใช้บนเวทีการแข่งขันให้ได้มากที่สุด”
ปิดท้ายด้วยข้อคิดสั้นๆ จากน้องดีนที่ฝากถึงทุกคนที่มีเส้นทางความฝันแบบเดียวกันว่า “ถ้าชอบอะไร มีความฝันอะไร อยากให้ทุกคนเต็มที่กับมันไปเลยค่ะ แล้วสักวันสิ่งที่เราฝันไว้ จะสำเร็จอย่างแน่นอน ถ้าเราไม่ยอมแพ้ไปเสียก่อน”
Suggestion
• พิงกี้ – พัทธนันท์ สุววรรณลิขิต
นักร้องนำ วง The Elemyst
สังกัดอิสระ (กรุงเทพฯ)
“แค่อยากให้คนฟังแล้วเข้าใจแนวเพลงของเรามากขึ้น
อยากให้คนที่ไม่เคยฟังแนวนี้ ฟังครั้งแรกแล้วชอบเลย”
ด้วยความตั้งใจที่อยากจะนำเสนอความคิด ผลงาน และดนตรีแนวไอริชที่ตัวเองรักให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น น้องพิงกี้ นักร้องนำ วง The Elemyst จึงเริ่มรวบรวมเหล่าสมาชิกที่มีแพสชันทางดนตรี ขึ้นมาบน ‘เรือโจรสลัด’ แห่งนี้ ชักธงขึ้นเสา เพื่อออกเดินทางไปตามหา “เส้นทางแห่งความฝัน” พร้อมกัน
“ดนตรีแนวไอริชมันจะมีกลิ่นอายของความแฟรีเทลอยู่นิดๆ หรือนึกภาพง่ายๆ อย่าง พวกหนังโจรสลัดก็ได้ค่ะ หนูเป็นนักร้องเดี่ยวมาก่อน และเริ่มอยากทำวง ก็เลยเริ่มชักชวนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มาร่วมวงกัน หนูอยากมาแข่งที่ THE POWER BAND เพราะอยากมีพื้นที่แชร์ผลงานของพวกเรา มาที่นี่แล้วทุกคนเทพกันอยู่แล้ว น่าจะเข้าถึงเพลงของหนูและให้คำแนะนำที่ดีได้ค่ะ” อ่านเรื่องของวง The Elemyst คลิกที่นี่
เพลงให้กำลังใจ Cheer Up สมาชิกในวง
• เพลง CINDERELLA (TATTOO COLOUR)
วง The Elemyst: “มอบให้กับช่วงเวลาที่ยากลำบากของพวกเรา
ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา”
แม้สมาชิกแต่ละคนจะเพิ่งรวมตัวกันได้ไม่ถึง 3 เดือน แต่ทุกคนก็สนิทสนมและเข้ากันได้เป็นอย่างดี “วง The Elemyst คือความสุขของหนู เราไม่รู้ว่าจะได้เล่นไปด้วยกันแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน พี่ออมเล็ต (มือกลอง) ก็กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ส่วนตัวหนูเองก็ทำงานเบื้องหลัง ทุกคนต่างมีงานของตัวเอง ก็เลยมองว่าการแข่งบนเวทีครั้งนี้ คือความสุขที่เราได้ใช้เวลาร่วมกันค่ะ”
หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาน้องพิงกี้ จากการประกวดรายการ The Golden Singer มาก่อน แต่อีกหนึ่งบทบาทของเด็กสาววัย 14 ปีคนนี้กำลังตั้งใจมุ่งมั่นไม่แพ้การร้องเพลง ก็คือ นักแต่งเพลงอาชีพ “หนูรับงานแต่งเพลงให้กับศิลปินและซีรีส์ต่างๆ อยู่ค่ะตอนนี้ อย่าง Player ไม่อาจห้ามรัก เป็นซีรีส์ที่หนูได้มีโอกาสได้ทำเพลงประกอบละครให้กับเรื่องนี้ที่กำลังจะออนแอร์เร็วๆ นี้ค่ะ”
“อยากบอกทุกคนว่า ให้ทำต่อไปถ้ายังมีความสุขอยู่ ถ้าไม่ได้เอนจอยกับมันแล้วก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องทำอีกต่อไป แต่ก่อนที่จะเลิกฝันอยากให้ทุกคนทำให้สุดจริงๆ นะคะ แบบสุดมากๆ เท่าที่เราจะทำได้ ในตอนที่ยังมีความสุขอยู่ ถ้าวันไหนที่รู้สึกว่าไม่ได้อยากทำแล้ว ก็หยุดค่ะ ไม่ต้องพยายามไปต่อ เพราะถึงจุดนั้นแล้ว ต่อให้ทำต่อไปก็ไม่ใช่สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดแล้วค่ะ”
• กรรณ – ธนกฤต วงศ์พระมิตร
มือกีตาร์ วง Heritage
โรงเรียนรัตนาเอื้อวิทยา (เชียงใหม่)
“ฝึกซ้อมให้เก่งไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวเอง”
กรรณ มือกีตาร์ วง Heritage ถือเป็นหนึ่งในขาประจำของการประกวด THE POWER BAND เพราะว่ามาแข่งขันในนามวง Heritage ตั้งแต่ซีซันที่ 2 “แม้ผมจะมาแข่งหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งก็ยังรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเดิม เหมือนกับตอนที่มาแข่งครั้งแรกเลย” กรรณแชร์ความรู้สึกให้ฟังหลังจากลงมาจากบนเวทีแบบสดๆ ร้อนๆ อ่านเรื่องของวง Heritage จากบทสัมภาษณ์ครูผู้คุมวง คลิกที่นี่
กรรณบอกกับเราว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าประกวดการแข่งขันกีตาร์แล้วล่มกลางทางเพราะตื่นเต้นมากเกินไปจนจำโน้ตที่เล่นไม่ได้ “ช่วงที่โชว์ล่มบนเวทีตอนนั้นก็รู้สึกเซ็งๆ นิดหนึ่ง เลยห่างๆ จากการเล่นกีตาร์ไป กีตาร์ก็วางเหงาๆ อยู่ที่บ้าน ช่วงโควิดไม่มีอะไรทำ ก็เลยลองกลับมาเล่นอีกครั้ง กลายเป็นว่าความรู้สึกเดิมๆ มันกลับมาอีกครั้ง ก็เลยลองฝึกจริงจังอีกครั้ง ผมรู้สึกว่าเวลาตัวเองอยู่กับกีตาร์แล้วมีความสุขมาก ถึงแม้ว่าตอนแข่งจะล่มก็ตามแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นแผลใจหรือเฟลอะไรมากนัก ก็ยังรู้สึกสนุกอยู่ดี สนุกอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าเวลาจับกีตาร์แล้วมันยิ้มได้ครับ”
เพลงให้กำลังใจ Cheer Up สมาชิกในวง
• เพลง My Name is Brian (Joke iScream)
วง Heritage: “เนื้อหาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกำลังใจ
แต่อยากมอบความฮานี้ให้ทุกคน”
กรรณเคยบอกว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเซนส์ทางด้านดนตรีสักเท่าไร ทำให้เวลาฝึกซ้อมอาจจะช้าสักนิดหนึ่ง แต่ไม่เคยยอมแพ้ “อยากให้ทุกคนที่ตั้งใจฝึกซ้อม ฝึกฝนให้สม่ำเสมอ มีวินัยกับตนเอง เพื่อทำตามความฝันของตัวเอง ฝึกซ้อมให้เก่งไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวเอง ดูผมเป็นตัวอย่างก็ได้ แม้วันนั้นจะเล่นแล้วล่มไม่เป็นท่า แต่วันนี้ผมได้มาแข่งในรายการระดับประเทศ อย่าง THE POWER BAND ก็เพราะผมไม่เคยยอมแพ้”
• ข้าวปุ้น – ปุณณวิช เลิศมัลลิกาพร
มือกีตาร์ วง The Elements
โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย (เชียงใหม่)
“บนเวทีโชว์ท่าดีดกีตาร์ไพล่หลังมาแล้ว
เวทีหน้าถ้าเข้ารอบอาจได้เห็นผมใช้ฟันหน้าดีดกีตาร์แทน”
อีกหนึ่งวงดนตรีที่เดินทางมาไกลจากภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันที่สนามกรุงเทพฯ โดยมีเป้าหมายที่อยากจะทำในสิ่งที่รัก ซึ่งได้คุณครู ผู้ปกครอง คนรอบตัวให้การซัปพอร์ตอย่างเต็มที่ เห็นได้จากจำนวนกองเชียร์ที่เดินทางมาจากเชียงใหม่ พร้อมส่งเสียงเชียร์อันดังกึกก้องภายในอาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ สถานที่แข่งในวันนั้น ก็รู้แล้วว่าทุกคนเป็นแรงใจสำคัญให้กับวง The Elements อย่างแท้จริง “ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเองที่ทำผลงานออกมาได้ค่อนข้างดี สมกับที่ทุกคนเดินทางไกลมาเชียร์วงพวกเรา ทำเต็มที่ที่สุดแล้วครับ”
ความจริงแล้วก่อนอยู่ตำแหน่งกีตาร์ของวง ข้าวปุ้น เป็นมือเบสมาก่อน แต่ด้วยความที่วง The Elements ขาดมือกีตาร์ ข้าวปุ้นจึงตัดสินใจเปลี่ยนมาเล่นกีตาร์แทนเพื่อให้ตำแหน่งครบในวง โดยฝึกกีตาร์ด้วยตัวเองเพื่อมาแข่งในรายการ THE POWER BAND นี้โดยเฉพาะ “พวกเราเคยส่งคลิปที่สนามเชียงใหม่ แต่ว่ารอบนั้นไม่ผ่าน มาผ่านที่สนามกรุงเทพฯ ตอนรู้พวกเรานั่งสอบอยู่คนละห้องกันครับ แล้วพอประกาศผล ผู้ปกครองส่งมาบอกในไลน์กลุ่มว่าวงเราผ่านแล้วนะ พอสอบเสร็จได้มือถือกลับมาเปิดดู คือเฮกันลั่นกับเพื่อนๆ เลยครับ ดีใจมากๆ”
เพลงให้กำลังใจ Cheer Up สมาชิกในวง
• เพลง ผู้ชนะ (เสก โลโซ)
วง The Elements: “ผ่านสนามกรุงเทพฯ ก็ดีใจแล้วครับ
แต่ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศจะดีกว่า”
สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ ข้าวปุ้น วง The Elements มองว่าทุกวงที่เข้าประกวดคือเพื่อนกัน เพราะเคยรู้จักและเคยเห็นหน้าค่าตาผีไม้ลายมือกันมาก่อนจากการแข่งขันในรายการอื่นๆ เลยไม่เคยมองใครเป็นคู่แข่ง ทำในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุด แข่งกับตัวเองสำคัญกว่า
“ผมพยายามตั้งใจซ้อมและเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุดครับ ไม่ได้ไปยึดติดกับคำติชมมาก ฟังแล้วก็นำมาปรับใช้ ไม่ต้องไปเสียใจหรือจมกับสิ่งเหล่านั้นมาก ผมมองว่ามันก็เป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งในชีวิต เดี๋ยวมันก็ผ่านไป แค่เราทำให้ดีที่สุด มุ่งมั่นเดินตามความฝัน แต่อย่าไปคิดมาก เราต้องดูแลจิตใจของเราด้วยครับ”
• นาย – นาย สิงห์โต
มือกีตาร์/ไวโอลิน วง Kids Do Band (วงคิดดู)
สังกัดอิสระ (กรุงเทพฯ)
“หนูคิดว่ารายการนี้ใหญ่สุดแล้ว
เราผ่านเข้ามาโชว์ได้
ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว”
อีกหนึ่งวงดนตรีที่น่าจับตามองประจำสนามกรุงเทพฯ ขอยกให้กับ วง Kids Do Band ซึ่งเป็นการรวมตัวของน้องๆ ผู้มีฝีมือจัดจ้านทางด้านดนตรี แต่ยังแฝงไว้ด้วยความน่ารัก ความซุกซน และความสดใสตามช่วงวัยของสมาชิกแต่ละคน “วันนี้ตกใจตัวเองมากที่บนเวทีตอนแข่งหนูเล่นไม่ผิดเลย นี่คือเวอร์ชันที่ดีที่สุดแล้วตั้งแต่เล่นและซ้อมเพลงนี้มา”
น้องนาย มือกีตาร์ วง Kids Do Band ถือได้ว่ามีลีลาการเล่นที่โดนเด่นและสามารถดึงดูดสายตาของคนดูได้ตลอดทั้งโชว์ แต่ก่อนจะมาเป็นมือกีตาร์ น้องนายเคยเล่นไวโอลินมาตั้งแต่ 2 ขวบ โดยมีคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ปลูกฝังความรักทางด้านดนตรีเสมอมา “ตอนเด็กๆ ที่เริ่มเล่นไวโอลิน คุณพ่อก็ฝึกเล่นกีตาร์ ส่วนคุณแม่ฝึกเล่นกลองไปพร้อมๆ กับหนูด้วยค่ะ จริงๆ หนูอยากเล่นกีตาร์มาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ว่านิ้วยังจับคอร์ดไม่ถึง ก็เลยเพิ่งมาเริ่มตอนโตแล้ว รู้สึกว่าเล่นกีตาร์แล้วเท่ แล้วก็กีตาร์แต่ละตัวมีความสวยงามที่แตกต่างกัน ที่บ้านมีหลายตัวมากๆ ค่ะ“
เพลงให้กำลังใจ Cheer Up สมาชิกในวง
• เพลง เด็กแล้วไง (ที่วงแต่งเอง)
วง Kids Do Band: “อายุเป็นเพียงตัวเลขค่ะ
เมื่อเทียบกับความสามารถของพวกเรา”
น้องนาย เคยได้แชมป์แข่งขันกีตาร์ในรายการ Ibanez Thailand ซึ่งเป็นแบรนด์กีตาร์ยี่ห้อโปรดของเธอ นอกจากฝีมือสุดจัดทางด้านกีตาร์ของน้องนายแล้ว ในการประกวด THE POWER BAND น้องนายยังตัดสินใจโชว์ท่อนไวโอลินโซโลในเพลงที่ใช้ประกวดอีกด้วย
“คณะกรรมการชมว่า นอกจากเล่นกีตาร์แล้วหนูยังมีเวลาไปซ้อมไวโอลินอีก แต่หนูอยากบอกว่าบนเวที หนูเล่นตามฟีลของตัวเองล้วนๆ ค่ะ เพราะเพิ่งตัดสินใจใส่ท่อนไวโอลินลงไปตอนสองวันก่อนการแข่งขัน ส่วนใหญ่เวลาหนูโชว์ไวโอลินก็จะเล่นอิมโพรไวซ์อยู่แล้ว เลยไม่ได้รู้สึกว่ายากอะไร แค่เล่นไปให้มันเพราะๆ และเข้ากับคอร์ดของเพลง ตอนช่วงที่มันพีกๆ หนูก็เล่นโน้ตสูงใส่ลงไป แต่รู้สึกดีใจที่กรรมการชมว่าหนูเล่นได้ดีค่ะ”
“ตอนฝึกเราอาจจะไม่ต้องเครียดมากขนาดนั้น ซ้อมให้มันสนุกจะดีกว่าค่ะ เล่นและพร้อมแสดงจัดๆ ไปเลยตอนซ้อม ให้เหมือนตอนเราเล่นจริง แต่ไม่ต้องเครียดกับมันมาก เล่นให้เป็นตัวเอง แล้วทุกอย่างจะออกมาดีค่ะ”
Suggestion
• ลูกหม่อน – ทัศน์พล ชาอุ่น
มือกีตาร์ วง อะตอมมิค
โรงเรียนสาธิตฯ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) (กรุงเทพฯ)
“ปีนี้วงเรามีการเตรียมความพร้อมมากขึ้น
ทักษะก็ดีขึ้น ทำให้ภาพรวมวงในปีนี้ดีกว่าปีที่แล้วครับ”
วง ATOMIC เคยเข้าประกวด THE POWER BAND 2024 SEASON 4 ที่สนามกรุงเทพฯ และสนามนครปฐม แต่ในปีนี้วงเปลี่ยนใช้ตัวสะกดชื่อเป็นภาษาไทยว่า อะตอมมิค แทน เพื่ออยากให้วงได้แข่งขันเป็นลำดับสุดท้าย เนื่องจากสมาชิกทุกคนซึ่งต่างมาจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) กำลังอยู่ในช่วงสอบเข้า ม.4 เลยต้องเตรียมตัวทั้งด้านการเรียนและซ้อมดนตรี ไปพร้อมๆ กัน ทำให้อยากจะมีเวลาในการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันได้มากขึ้นอีกสักนิดก็ยังดี อ่านเรื่องของวง ATOMIC เมื่อซีซันก่อน คลิกที่นี่
“ปีที่แล้วมีคำถามจากกรรมการว่า ทำไม? วงเราจำเป็นต้องมีนักร้องนำ 2 คน (เป็นเรื่องของการแบ่งหน้าที่บนเวที) ปีนี้เราเลยปรับแก้ไขไลน์การร้องสำหรับสองคนให้ดีขึ้น เพิ่มไลน์ประสานเสียงเข้ามา นำข้อติชมที่ได้รับมาใช้ในการแข่งขันปีนี้ ปีที่แล้ววงเราไม่มีคีย์บอร์ด ทำให้ผมซึ่งเล่นกีตาร์ต้องประคองเพลงของวงไว้ แต่ปีนี้เราเพิ่มคีย์บอร์ดเข้ามาใหม่ ช่วยให้ผมไปโฟกัสทำหน้าที่ส่วนอื่นได้มากขึ้น เพิ่มเติมสีสันดนตรีด้วยกีตาร์ของเราเพิ่มลงไปได้อีกเยอะ เพราะคีย์บอร์ดและเบสคอยโอบอุ้มโชว์ทั้งหมดในปีนี้ไว้แล้ว”
เพลงให้กำลังใจ Cheer Up สมาชิกในวง
• เพลง Live & Learn (บอย โกสิยพงษ์)
วง อะตอมมิค: “ฟังแล้ว ทำให้ความฮึกเหิม
และความเข้มแข็งกลับมาอีกครั้ง”
แม้การแสดงบนเวทีในครั้งนี้ ลูกหม่อน วง อะตอมมิค จะบอกว่ามีเล่นผิดพลาดไปบ้าง แต่สำหรับหนึ่งปีที่ผ่านมาได้เปิดรับงานโชว์หรือไปประกวดเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ทางด้านดนตรี ช่วยให้ไม่ตื่นเวที ลดความเกร็งลงเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าคนจำนวนมาก “อยากให้ทุกคนฝึกเยอะๆ ซ้อมเยอะๆ ทำการบ้านมาก่อน ไม่ใช่แค่มาซ้อมในห้องซ้อมเลย มันจะไม่เวิร์กครับ และเวลาที่ขึ้นแสดง อย่าคิดว่าบนเวทีเป็นการประกวด ให้คิดว่า นี่คือเวทีของเรา ทุกคนดูมาดูคอนเสิร์ตของวงเราอยู่ครับ จะช่วยลดความตื่นเต้นลงได้”
• ออกัส – ชยธร สมจิตต์
มือคีย์บอร์ด วง Find me under palm
โรงเรียนเทศบาลบ้านท้ายช้าง (พังงา)
“เอนจอยกับการแข่งขันมาก
เล่นวงแรกแม้จะตื่นเต้นนิดหน่อย
แต่พอใจในผลงานสุดๆ ไปเลยครับ”
“แล้วเจอกันใต้ต้นปาล์ม” คือ คำพูดติดปากของน้องๆ วง Find me under palm เวลาเรียกทุกคนรวมตัวเพื่อฝึกซ้อมดนตรี ซึ่งมีต้นปาล์มต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาอยู่ต้นเดียวหน้าห้องชมรมดนตรีในโรงเรียน จนกลายมาเป็นชื่อวงที่ใช้ในการประกวดในครั้งนี้ สำหรับฝีมือการเล่นดนตรีอันโดดเด่น คงต้องยกให้น้องออกัส คีย์บอร์ด ที่มีลีลาท่าทางไม่ธรรมดา แถมยังเป็นสีสันให้กับวงและเพื่อนๆ สมาชิกอีกด้วย “พวกผมเคยมาแข่งปีที่แล้วในซีซัน 4 ที่สนามสุราษฎร์ฯ แต่ว่าไม่ผ่านเข้ารอบ ย้อนอ่านบรรยากาศการแข่งในครั้งนั้น คลิกที่นี่
กลับมาครั้งนี้ก็เลยอยากเข้ารอบมากๆ ครับ พวกเรานำคำแนะนำจากปีที่แล้วมาปรับปรุงการแสดงของปีนี้ให้เพอร์เฟกต์มากขึ้น ไม่ได้เล่นดนตรีเพียงอย่างเดียว แต่เพิ่มการสื่อสารกับคนดูเข้ามาด้วย พยายามเอนเตอร์เทนคนดูให้ได้มากที่สุดผ่านแนวดนตรีร็อกที่พวกเราชื่นชอบ แต่ครั้งนี้ปรับเป็นเวอร์ชันที่ฟังเข้าใจง่ายขึ้นครับ”
“ปีนี้พวกเราตั้งใจกันมากๆ ซ้อมหนักมาก เลยนำเพลงสนุกๆ มาเรียบเรียงใหม่เป็นแนวร็อก เพื่อนำเสนอความตัวตนของเราลงไป อยากทำให้ทุกอย่างบนเวทีออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด ก็เลยสนุกกันเต็มที่อย่างที่ทุกคนเห็น ผมนี่โยกไม่หยุดเลย นักร้องนำของวงเราก็เอเนอร์จีล้นเหลือ เห็นได้จากการวิ่งไปวิ่งมาบนเวที (หัวเราะ)”
เพลงให้กำลังใจ Cheer Up สมาชิกในวง
• เพลง วัดปะหล่ะ? (4EVE)
วง Find me under palm: “ทำให้เต็มที่ ไปให้สุด
ผลจะออกมาเป็นยังไง พวกเราขอลองวัดกันดูสักครั้ง”
แม้ว่าการเดินทางจากพังงาขึ้นมาแข่งขันที่กรุงเทพฯ จะใช้เวลานานกว่า 12 ชั่วโมง แถมยังเจอรถติดหนักกว่าจะถึงที่พักเล่นเอาหมดแรง แต่น้องออกัสและเพื่อนๆ ก็ไม่เคยย่อท้อ พลังใจยังคงเต็มเปี่ยมและปณิธานที่ตั้งไว้ไม่เคยสั่นคลอน “พวกเราคุยกันในวงตลอดว่าเราจะกลับมาสู้อีกครั้ง เราจะไม่ยอมแพ้ แม้ปีที่แล้วจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน
พวกเราก็ไม่เคยหมดกำลังใจ ยังคงฝึกซ้อมกันอย่างหนักเพื่อที่จะได้ทำได้ดีที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ รายการ THE POWER BAND เป็นรายการให้โอกาสคนมีฝัน ได้มีพื้นที่ทำตามความฝัน เลยอยากให้ทุกคนสู้กับความฝันของตัวเองดูสักตั้ง แม้จะมีอุปสรรคก็พยายามก้าวข้ามไปให้ได้ครับ”
• จีโอ้ – รัชพล เฉลาวิจิตร
มือแซกโซโฟน วง Fourfortytwo
โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย (ราชบุรี)
“แม้การแข่งครั้งนี้จะมีอุปสรรคมากมายหลายอย่าง
แต่ The Show Must Go On ครับ”
ความถี่มาตรฐานสากลในการจูนเสียงของเครื่องดนตรีสากลจะอยู่ที่ 440 Hz แต่ด้วยความเคยชิน สมาชิกทุกคนต่างปรับจูนเสียงไว้ที่ 442 Hz เพราะเคยเป็นสมาชิกจากวงโยธวาทิตมาก่อน ทำให้เวลาเล่นเครื่องดนตรีสากล เสียงจะออกมาแปร่งหู เพี้ยนหน่อยๆ ซึ่งจีโอ้ แซกโซโฟน บอกถึงที่มาของวงว่า “รู้สึกมันเป็นคาแรกเตอร์ของวงเราก็เลยเอามาตั้งเป็นชื่อวงครับ”
ด้วยความที่เป็นวงดนตรีแนวฟิวชัน ภายในหนึ่งเพลงอาจจะมีทั้งร็อก บอสซ่า แจ๊ส สวิง ฯลฯ ทำให้คนดูเพลิดเพลินไปกับการแสดงของวง Fourfortytwo ได้อย่างไม่ยากนัก “ความฝันของผมอย่างหนึ่งคือการได้ขึ้นโชว์ในรายการ THE POWER BAND นี้ เราเป็นวงดนตรีที่แหวกออกไป อาจจะแตกต่างจากวงอื่นๆ ทำให้รู้สึกว่าน่าจะสู้คนอื่นได้ เราอยากพาผู้ฟังทุกคนไป ‘นั่งรถไฟเหาะ’ เพลงหนึ่งๆ เลยใส่แนวดนตรีที่หลากหลายลงไป ผมเชื่อว่าทุกคนต้องสนุกไปกับโชว์ของพวกเราอย่างแน่นอน”
เพลงให้กำลังใจ Cheer Up สมาชิกในวง
• เพลง บางระจันวันเพ็ญ (คาราบาว)
วง Fourfortytwo: “ผมจะเปิดเพลงนี้ให้เพื่อนๆ ฟัง
สร้างความฮึกเหิมก่อนจะรู้ผลครับ”
น้องจีโอ้ บอกกับ Thaipower.co อย่างจริงใจว่า เขาอาจจะเป่าแซกโซโฟนเล่นดนตรีเป็นงานอดิเรกเท่านั้น เพราะไม่ได้มีความฝันที่จะเป็นนักดนตรีอาชีพ แต่ที่มาแข่งขันเพราะอยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์และใช้เวลาช่วงวัยรุ่นร่วมกับเพื่อนๆ กลุ่มนี้ให้ได้มากที่สุด
“ผมมองว่าดนตรีก็คือกิจกรรมชนิดหนึ่ง การที่เรามีสกิลไว้ติดตัวก็ไม่ได้เสียหายอะไร การได้ร้องเพลงเฮฮากับเพื่อนๆ ถือว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่งครับ ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่เล่นดนตรีเป็นงานอดิเรก แม้เราจะมีความฝันที่ต่างกัน แต่เราก็ยังร่วมทางไปด้วยกันได้ ดนตรีทำให้เรามีเพื่อนมากขึ้น ทำให้เราผ่อนคลาย แต่ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่แน่ว่าวันข้างหน้าผมอาจจะเปลี่ยนใจมาเดินสายดนตรีก็ได้ ใครจะรู้”