Summary
สมาชิกวัยมัธยม 6 คน เชื่อมโยงภาษาเดียวกันด้วย “ดนตรี” พวกเขามีความฝันเป็นหนึ่งเดียว คือ “อยากสร้างเพลงของตัวเอง” และ “ก้าวสู่การเป็นศิลปินอาชีพ” การมาประกวดดนตรีเวที THE POWER BAND 2025 SEASON 5 คือเส้นทางที่จะพิสูจน์ว่า “พลังดนตรี” จะพากันก้าวไปได้ไกลกว่าที่คิด!!
The Elemyst วงดนตรีอิสระ ที่อุดมด้วยส่วนผสมความชอบหลากสไตล์ ตั้งแต่ แจ๊ส คลาสสิก ร็อก ป็อป ไปจนถึง เร็กเก้ พวกเขาอะเรนจ์ดนตรีกันเอง พร้อมทำโชว์ที่สนุกสนาน ไม่ซ้ำใคร ให้เกิดขึ้นบนเวทีประกวด THE POWER BAND 2025 SEASON 5 การประกวดวงดนตรีสากลประจำปี 2568 จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ภายใต้คอนเซปต์ “MUSIC CREATES MORE POSSIBILITIES พลังดนตรี เป็นไปได้ ไม่สิ้นสุด” ออกมาเป็นตัวเองสุดๆ – ไม่เกินคาด The Elemyst ได้เป็นหนึ่งใน 6 วงที่คว้าตั๋วสนามสุดท้ายรอบโซนนิ่งกรุงเทพฯ เข้าไปชิงแชมป์รุ่นมัธยมศึกษาได้สำเร็จ เช็กผลตัดสินสนามกรุงเทพฯ พร้อมเก็บตกบรรยากาศเวทีการแสดงในวันนั้น คลิกที่นี่
“ตอนแรกก็ไม่รู้ว่ารวมตัวแล้วเราจะอยู่ได้ยังไง
แต่ละคนแตกต่างกันมากจริงๆ
แต่เรารักในเสียงดนตรีเหมือนกัน เลยอยู่ด้วยกันได้ง่ายมากๆ”
วง The Elemyst (กรุงเทพฯ)
รุ่นมัธยมศึกษา (High School Class)
THE POWER BAND 2025 SEASON 5
สนามกรุงเทพฯ
ปกป้อง (กีตาร์) – ปิ่น (ไวโอลิน) – พิงกี้ (ร้องนำ)
เมื่อธาตุลึกลับทั้ง 6 สายมาจอยกัน
วงดนตรีขนาดเล็ก ที่ต่างที่ต่างทางกันมา พกฝีมือดนตรีมาแบบแน่นๆ แถมมีจุดร่วมเป็นหนึ่งเดียวคือ “หัวใจที่รักดนตรี“ และเมื่อไหร่ที่เมโลดีบรรเลงขึ้น ธาตุทั้ง 6 ก็จะหลอมพลังเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้ชื่อ The Elemyst กับสมาชิกที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังแห่งดนตรี ประกอบด้วย…
พิงกี้ – พัทธนันท์ สุวรรณลิขิต (ร้องนำ) ศึกษาที่ OpenSchool for Creatives and Design สาวน้อยผู้มีพลังเสียงและคาแรกเตอร์สดใสเป็นศูนย์กลางของวง
มินมิน – แพรไพลิน เสาธงยุติธรรม (คีย์บอร์ด) ศึกษาที่ Denla British School ลูกสาวของ หนึ่ง – จักรวาล เสาธงยุติธรรม ผู้เติบโตมากับดนตรีแจ๊สตั้งแต่เด็ก และซึมซับความเป็นศิลปินมาจากคุณพ่อเต็มๆ
ปิ่น – พิมพ์นัฎชนก ภิรมย์พร (ไวโอลิน) กำลังเตรียมสอบ GED เจ้าของตำแหน่งเครื่องสายหนึ่งเดียวของวง ที่เล่นดนตรีได้หลากชิ้น ทั้งเครื่องไทยเดิมและสากล เพราะคุณพ่อเป็นเจ้าของโรงเรียนสอนดนตรี เสียงไวโอลินของปิ่น สร้างมิติทางเสียงได้อย่างน่าทึ่ง !!
เริก (เบส) – ออมเล็ต (กลอง) – มินมิน (คีย์บอร์ด)
เริก – ฤกษ์ เลิศสมพงษ์ (เบส) ศึกษาที่ บางปะกอกวิทยาคม มือเบสที่เข้ามาในจังหวะสำคัญ แม้เริกจะเป็นสมาชิกใหม่ แต่เขากลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่มาเติมช่องว่างของวงให้ลงตัว
ปกป้อง – ปกป้อง วสิกชาติ (กีตาร์) ศึกษาที่ ศูนย์การเรียนโอเพ่นสคูล หนุ่มหัวใจร็อก เริ่มเส้นทางดนตรีจากการเล่นกลอง ก่อนจะเปลี่ยนมากีตาร์ไฟฟ้าที่ถ่ายทอดความเป็นตัวเองได้ชัดที่สุด
ออมเล็ต – นันท์ทากานต์ วีระพันธุ์ (กลอง) ศึกษาที่ Heathfield International School มือกลองสาวผู้มีสไตล์การตีเป็นเอกลักษณ์และมีเอเนอร์จีล้น จนถูกยกให้เป็น “ตัวจี๊ดของวง”
ทลายกำแพงคนแปลกหน้าด้วยดนตรี
“จริงๆ Elemyst วงนี้มีมาแล้ว 3 เวอร์ชันด้วยกัน เวอร์ชันแรกพูดตรงๆ เลยว่าหนูโดนเพื่อนเท (หัวเราะ) เวอร์ชันที่สองมีพี่ปิ่นกับปกป้องเข้ามาแล้ว แต่ว่าสมาชิกตำแหน่งอื่นๆ ยังเป็นคนอื่นอยู่ค่ะ ส่วนเวอร์ชันที่สามเป็นมือเบสอีกคนค่ะ (ฮีโร่ – ธรรม เล็กแหลมหลัก) ซึ่งหนูเสียดายมากๆ หนูรักมือเบสคนนี้มากๆ เพราะเรียนอยู่ที่เดียวกัน แต่เขาติดปัญหาสุขภาพในวันที่ใกล้ๆ ประกวดแล้ว ก็เลยต้องหามือเบสใหม่”
เริกคือมือเบสคนใหม่ของวง ที่เข้ามาเติมเต็มให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
“พวกเราอยากขอบคุณมือเบสคนเก่า เพราะเขาเก่งมากๆ แล้วก็ดีใจมากๆ ที่เขามาดูพวกเราแข่ง (รอบโซนนิ่ง) แล้วก็ขอบคุณพี่เริกที่เข้ามาเป็นฮีโร่คนใหม่ของพวกเราด้วยค่ะ” เสียงของสาวๆ ในวงช่วยกันบอก
การโคจรมาเจอกันของคนแปลกหน้า 6 คน มีเรื่องราวที่เต็มไปด้วยโชคชะตาและความบังเอิญผ่าน “ดนตรี” ล้วนๆ โดยมีพิ้งกี้เป็นศูนย์กลางที่ดีลทุกคนมารวมตัวแบบ “เฉพาะกิจ” เพื่อแข่งขัน THE POWER BAND 2025 SEASON 5 โดยตั้งใจที่จะต่อยอดความฝันในอนาคต
การรวมตัวครั้งนี้จะยืนยาวแค่ไหน พวกเขาบอกยังไม่รู้ปลายทางที่แน่ชัด แต่ที่แน่ๆ “ความสนุก” คือหัวใจหลักที่จะยึดโยงกันไว้ในการเล่นดนตรีเสมอ
“ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าพอรวมตัวแล้วเราจะอยู่ได้ยังไง เพราะพวกเราแต่ละคนแตกต่างกันมากๆ จริงๆ แต่สิ่งที่เรามีเหมือนกัน คือเรารักในเสียงดนตรีค่ะ ก็เลยอยู่ด้วยกันได้ง่ายมากๆ” มินมิน บอก
แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้คนแปลกหน้า 6 คนเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ?
เริกโพล่งตอบทันทีแทบไม่ต้องคิด “ผมบอกได้คำเดียวเลยครับ มันคือดนตรี!!”
“ดนตรีคือภาษากลางที่เราคุยกันรู้เรื่องที่สุดครับ มันเป็นภาษาที่ทุกคนเข้าถึงได้ ทุกคนไม่มีกำแพงกับมันครับ” สิ่งที่ปกป้องบอก ทำเอาเพื่อนๆ ถึงกับว้าว พร้อมบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “โคตรคม!!”
ต่างสไตล์ต่างขั้วบนเคมีที่ลงตัว
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ทำให้ The Elemyst แตกต่างจากวงอื่นๆ คือการที่สมาชิกแต่ละคนมีรสนิยมและพื้นฐานทางดนตรีไม่เหมือนกันเลย ความต่างเหล่านี้ กลายเป็นเสน่ห์ที่น่าค้นหา ตามคอนเซปต์ชื่อวงที่ตั้งกันไว้
Suggestion
The Elemyst มาจาก
การผสมคำว่า Element + Mystery
• Element สื่อถึงธาตุที่แตกต่าง
เปรียบกับสมาชิกแต่ละคนที่มีคาแรกเตอร์
และความชอบทางดนตรีไม่เหมือนกัน
• Mystery สื่อถึงความลึกลับ
และน่าค้นหาที่ซ่อนอยู่ในวง
Suggestion
“หนูโตมากับดนตรีคลาสสิกค่ะ เพราะเล่นไวโอลินมาตั้งแต่เด็ก เวลาเล่นวงใหญ่เราจะคุ้นกับการฟังรายละเอียดเล็กๆ ของเสียง พอมาอยู่กับวงนี้ ได้ลองเล่นกับร็อกบ้าง ป็อปบ้าง มันเลยเป็นการเปิดโลกใหม่ให้เราเหมือนได้ลองพูดอีกภาษา” ปิ่นบอก
ปกป้องเสริมว่า ตัวเขาเองมาทางสายร็อก พอมาเล่นกับเพื่อนๆ เลยต้องเบลนด์ความร็อกให้เบาลง เพื่อให้เกิดมิติที่น่าสนใจ ฝั่งมินมินที่มาสายแจ๊ส ก็เอาความถนัดของตัวเองมาเสริมลงไปในเพลง มือกลองพลังล้นอย่างออมเล็ตบอกว่า “หนูชอบเร็กเก้ค่ะ จังหวะมันโยกได้ แล้วเวลาผสมกับป็อปหรือร็อกมันโคตรมันเลย บางทีเราตีแบบเร็กเก้ แต่ให้กีตาร์ขึ้นแบบร็อก คนฟังก็งงว่าเพลงแนวไหนกันแน่ แต่ก็สนุกไงคะ”
ส่วนพิ้งกี้คือคนที่นำทุกเสียงมาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวผ่านเสียงร้องของตัวเอง
“สุดท้ายมันคือการหาจุดตรงกลางครับ เราไม่พยายามเปลี่ยนใครให้เหมือนกัน แต่เราพยายามหาว่า แต่ละสไตล์จะอยู่ร่วมกันได้ยังไง และตรงนั้นแหละคือเสียงของ The Elemyst” เริกสรุปตาม
ปล่อยหมัดเด็ดในโชว์ที่เร็กเก้
สิ่งที่ทำให้ The Elemyst แตกต่างคือการหลอมทักษะดนตรีที่หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน “เราไม่ได้ทำเพลงในกรอบเดียวค่ะ” มินมิน อธิบาย “ทุกคนมีแนวถนัดต่างกัน ทั้งป็อป ร็อก แจ๊ส คลาสสิก แต่พอมาผสมกัน แล้วมันกลายเป็นรสชาติใหม่ที่ไม่เหมือนใคร”
“หนูจะเล่าถึงเร็กเก้ของโชว์ ที่หนูเลือกมาประกวด คือก่อนหน้านี้เราเลือกมาแล้วว่าเราจะส่งเพลง ซ่อนไม่หา (เจฟ ซาเตอร์) กับเพลง Cinderella (Tattoo Colour) ซึ่งเพลง Cinderella เราก็ทำเสร็จไปประมาณหนึ่ง มินมินก็เพิ่มส่วนของเปียโนเข้ามาอีก เพื่อให้มันหวือหวาขึ้น อ่านเรื่องของวง TATTOO COLOUR คลิกที่นี่ ส่วนเพลง ซ่อนไม่หา (เจฟ ซาเตอร์) เราคุยกันถึงเรื่องเร็กเก้เล่นๆ แล้วพี่ออมเล็ตก็ตีเป็นเร็กเก้ขึ้นมา มินมินก็เล่นตาม ลองเล่นคอร์ดเพลง ซ่อนไม่หาดู ปกป้องกับพี่ฤกษ์ก็เล่นพร้อมกัน หนูกับพี่ปิ่นก็ตามมา” พิ้งกี้เล่าถึงช่วงที่วงช่วยกันอะเรนจ์เพลง จนได้สไตล์ที่ลงตัว อ่านเรื่องของเจฟ ซาเตอร์ คลิกที่นี่
“สารภาพก่อนเลยค่ะ ตอนแรกเราไม่ได้ตั้งใจจะเล่นด้วยซ้ำ เราแค่พักกันอยู่ พี่ออมเกิดคิดไอเดียอะไรก็ไม่รู้ ตีเร็กเก้ขึ้นมาเฉยเลย หนูก็เลย ‘เล่นกับพี่ออมด้วยดีกว่า’ ทุกคนก็เลยเล่นตาม แล้วพิ้งกี้ก็เลยร้องเพลง ซ่อนไม่หา หนูก็เลย เฮ้ย มันเข้ากัน !! พอเราตัดสินใจที่จะทำเร็กเก้ เราทั้ง 6 คนก็เลยไปนั่งฟังเร็กเก้หลายๆ แบบ ภายในเวลา …ไม่กี่นาที (หัวเราะ) แล้วก็ลองเลือกเวอร์ชันที่เราชอบที่สุดเอามารวมกัน” มินมินบอกตาม
“เราทำเพลงเป็นเร็กเก้ ฟิวชันนะคะ เพราะตอนแรกหนูตีเป็นเร็กเก้ เทรดิชันนัล เป็นคนละกรูฟ แต่เราอยากทำให้มันว้าวขึ้นมาหน่อย เพลงแรกมันจะเป็นสวิง ชัปเฟิลใช่ไหมคะ เพลงที่สองเราก็อยากให้มันต่อกัน ก็เลยทำเป็นชัปเฟิล เร็กเก้ เพราะจังหวะมันเป็นเร็กเก้ มันก็เลยต่อไปเนียนๆ” ออมเล็ตบอกแนวทาง
เพราะดนตรีคือแรงบันดาลใจ
พิงกี้: หนูรักดนตรีตั้งแต่เด็กค่ะ ตอนยังพูดไม่ได้ก็ชอบฮัมเสียงเพลงแล้ว พอโตขึ้น หนูได้ดู Michael Jackson บนเวที Super Bowl มันเหมือนโลกทั้งใบเปลี่ยนไปเลยค่ะ รู้ทันทีว่าดนตรีคือสิ่งที่อยากทำไปตลอดชีวิต
มินมิน: แรงบันดาลใจคือคุณพ่อค่ะ หนูโตมากับเสียงซ้อมดนตรีของพ่อทุกวัน จนมันกลายเป็นธรรมชาติ อยากจะทำเพลงที่คนฟังแล้วได้ความสุขเหมือนที่เราเคยได้จากดนตรี
ปิ่น: เวลาเล่นแล้วคนดูยิ้มตามหรือขยับตัวตามจังหวะ มันเป็นความสุขที่สุดค่ะ รู้สึกว่าดนตรีมันเชื่อมเราเข้าหากันได้แบบไม่ต้องใช้คำพูด
ออมเล็ต: หนูไม่อยากมีไอดอลค่ะ แต่อยากเป็นไอดอลให้กับคนอื่น อยากให้ใครสักคนหันมาจับกลองเพราะเห็นเราบนเวที.
เริก: ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำครับ เพื่อนชวนไปลองออดิชันเฉยๆ แต่พอได้เล่นด้วยกัน รู้สึกเหมือนจังหวะมันตรงกันพอดี และกลายเป็นบ้านหลังใหม่ของเรา
ปกป้อง: จริงๆ ผมเริ่มจากกลอง แต่ยกกลองไปจีบสาวไม่ได้ เลยเปลี่ยนมาเล่นกีตาร์แทน (หัวเราะ) แต่เอาจริงๆ คือผมหลงรักเสียงกีตาร์ไฟฟ้ามาก มันเหมือนเป็นอีกภาษาหนึ่งที่ใช้บอกความรู้สึกเราได้
การมาประกวดเวที THE POWER BAND 2025 SEASON 5 ชัยชนะอาจไม่ใช่เป้าหมายสำคัญที่สุดของ The Elemyst แต่มันคือโอกาสที่ทุกคนอยากมาสร้างความสนุก ได้เป็นตัวของตัวเองในการเล่นดนตรี และที่สำคัญ ยังได้ส่งต่อเสียงเพลงที่รักไปสู่คนฟัง เพราะทุกคนเชื่อว่าความสุขระหว่างการเล่นดนตรีคือ “พลัง” ที่แท้จริง และ “พลัง” นี้ กำลังพาทุกคนเดินเข้าใกล้ความฝันทีละก้าว ในการที่จะสร้างผลงานเพลงของตัวเอง และเติบโตจนเป็น “ศิลปินอาชีพ” อย่างเต็มภาคภูมิในอนาคต
“ดนตรีจะพาเราไปได้ทุกที่ เพราะพลังดนตรีเป็นไปได้ไม่สิ้นสุดครับ” เริกบอกทิ้งท้ายแบบเท่ๆ
วง The Elemyst หยิบเพลง CINDERELLA มาแข่งขันในรอบโซนนิ่ง สนามกรุงเทพฯ
@kingpowerthaipower เพลง CINDERELLA ถูกยกระดับด้วยการเรียบเรียงและร้องจากวง The Elemyst สร้างความแปลกใหม่จนได้รับคำชม หยิบมาโชว์ในรอบโซนนิ่ง #THEPOWERBAND2025BKK #KingpowerThaipower #ThePowerBand2025 #THEPOWERBAND #TheElemystxTHEPOWERBAND
♬ เสียงต้นฉบับ – King Power Thai Powerพลังคนไทย – King Power Thai Powerพลังคนไทย