People

ฉัตรชัย วงศ์มานะโรจน์ศรี “ภูตะวัน”
เชื่อมโยงผู้คนด้วยธรรมชาติกับความเป็นไทย

ภิรญา นริศชาติ 15 Oct 2025
Views: 505

Summary

จุดเริ่มต้นจากความสงสัยและแรงบันดาลใจ นำมาซึ่งการทดลองอย่างไม่หยุดยั้ง “ภูตะวัน” ได้พัฒนาจากแบรนด์ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเล็กๆ สู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมออร์แกนิกไทย ไม่เพียงแต่เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพ แต่ยังมุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงผู้คนกับธรรมชาติ และส่งเสริมความยั่งยืนในสังคม วันนี้ “ภูตะวัน” ได้พิสูจน์แล้วว่า เป็นไปได้ ที่พลังคนไทย พาแบรนด์ไทยเติบโตสู่เวทีระดับโลก

“ผมอยากเห็นแบรนด์ไทยเป็นที่ยอมรับ อยู่ในไลฟ์สไตล์ของคนต่างชาติ ไม่ใช่แค่ของฝากจากเมืองไทย” …คำบอกเล่าความฝันที่กำลังค่อยๆ เติมเต็มสู่ความสมบูรณ์ของ คุณกัส – ฉัตรชัย วงศ์มานะโรจน์ศรี Brand Founder บริษัท ภูตะวัน เฮิร์บ แอนด์ คอสเมติค จำกัด

ฟังดูเรียบง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยพลัง มาทำความรู้จักตัวตนของเขาผ่านแบรนด์ภูตะวัน แบรนด์ไทยที่เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและอะโรมาเทอราพีจากธรรมชาติ

 

“โฟกัส” กับสิ่งที่ทำ เป้าหมายชัดเจน

ตัดสิ่งที่ไม่ใช่ออก ช่วยให้สำเร็จเร็วขึ้น

 

จุดประกายจากความสงสัย สู่เส้นทางของกลิ่น

คุณกัสพาเราย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อน เริ่มต้นจากเด็กคนหนึ่งที่ชอบทดลอง และค้นพบว่าตัวเองชอบค้าขาย รู้สึกว่าการรับเงิน ทอนเงินเป็นเรื่องสนุก เขาลงทุนเปิดร้านขายของชำเล็กๆ ที่บ้าน จากเงินลงทุนหลักร้อยเติบโตกลายเป็นหลักพัน และหลายหมื่นบาท ก่อนจะปิดตัวลงเพราะวิกฤตเศรษฐกิจ เงินก้อนนี้พาคุณกัสไปเรียนรู้อีกหลายธุรกิจ จนกระทั่งพบว่า “สบู่” เหมาะที่สุดในการลงทุน ด้วยสังเกตเห็นสบู่ของคุณแม่ในห้องน้ำที่ทุกคนในบ้านต้องใช้

ภาพจาก FB: Phutawan

“สบู่ใช้แล้วหมดไป ใช้แล้วเกิดการซื้อซ้ำ ซึ่งผมไม่เคยเห็นสบู่ของแม่โฆษณาที่ไหนมาก่อน มันน่าจะมีสรรพคุณบางอย่าง ถ้าของมันใช้ดี ก็จะเกิดการบอกต่ออัตโนมัติ” คุณกัสเริ่มเรียนรู้ศาสตร์ของกลิ่นหอม และอยากนำพืชสมุนไพรต่างๆ ของไทยใส่ลงไป เป็นสบู่ข้าวหอมมะลิ สบู่ตะไคร้ จึงเริ่มคิดค้นส่วนผสมตามแบบฉบับนักทดลอง หาความรู้ครบทุกมิติ ทั้งจากหนังสือ อินเทอร์เน็ต อบรมสัมมนา และแม้แต่งานแฟร์   ค่อยๆ connect the dots ไปเรื่อยๆ

• สบู่ก้อนแรกวางจำหน่ายภายใต้ชื่อแบรนด์ นากาโน่ ตามกระแสนิยมในชื่อต่างประเทศ ต่อมาจึงเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับผลิตภัณฑ์และตลาด

• ภูตะวัน ชื่อนี้เกิดจากภาพความประทับใจของภูเขาและดวงตะวัน ระหว่างเดินทางที่คุณกัสท่องเที่ยว จ.แม่ฮ่องสอน จึงนำทั้งสองคำมารวมกัน และใช้ชื่อนี้นับแต่นั้นมา

“เวลาเรารู้เป้าหมายของเราชัด เราเดินเร็วขึ้นเยอะ

เพราะได้ตัดสิ่งที่ไม่ใช่ออกไป ภูตะวันเดินนานถึง 25 ปี

เราไม่ได้เดินเร็ว แต่เราเดินให้นานและอยู่ให้ได้ มันเป็นสิ่งที่เรามีความสุข”

ฉัตรชัย วงศ์มานะโรจน์ศรี
ผู้ประกอบการ แบรนด์ภูตะวัน

คุณกัสศึกษาต่อด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตปราจีนบุรี ซึ่งสนับสนุนสิ่งที่เขาทำอยู่ ทุกสุดสัปดาห์จะต้องนั่งรถกลับบ้านที่สมุทรปราการเพื่อมาดูแลร้านที่ตลาดชุมชน ซื้อวัตถุดิบ และผลิตสินค้าในสไตล์โฮมเมด เป็นแบบนั้นตลอดช่วงเวลาการเป็นนักศึกษา

“ผมไม่รู้สึกว่าขาดอะไร ผมมีความสุข แฮปปีดี… พอได้ทำธุรกิจ มันคือความสนุก ได้ลองผิดลองถูก ได้อยู่กับสิ่งที่ชอบ ทำให้ผมเจอสิ่งที่ใช่เร็วขึ้น

หลังเรียนจบคุณกัสเลือกเปิดสาขา 2 ที่ตลาดนัดจตุจักร ไม่ใช่เพราะขายดีจนต้องขยาย แต่เพราะมองเห็นโอกาสที่ชาวต่างชาติจะได้พบเจอสินค้าของเราเพิ่มขึ้น

 

ยึดมั่นในธรรมชาติและออร์แกนิก

“เวลาเรายืนอยู่จุดไหน เราจะมองหาเป้าหมายต่อไปเสมอ” คุณกัสเดินหน้าพัฒนา ภูตะวัน ให้เป็น Organic Skin Care & Aroma Therapy ในวันที่คนยังไม่ค่อยรู้จักคำว่า ออร์แกนิก ด้วยวิสัยทัศน์ของนักทดลองที่ไม่หยุดนิ่ง ทำให้เห็นเทรนด์การตลาด กล้าคิดต่าง และเลือกใช้วัตถุดิบปลอดภัย ปราศจากสารเคมี ได้การรับรองมาตรฐานออร์แกนิกจาก USDA Organic และ ECOCERTแต่ความท้าทายคือ ความรู้สึกของผู้บริโภค ที่มีต่อเนื้อสัมผัส กลิ่น และผลลัพธ์หลังใช้งาน ส่วนใหญ่ยังคุ้นชินกับสินค้าที่มีสารเคมีทำให้กลิ่นหอม หรือใช้แล้วผมไม่ชี้ฟู การสร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความพึงพอใจจึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องมุ่งมั่นพัฒนา
“ภูตะวันเป็นแบรนด์ไทยแท้ แต่เราเรียนรู้จากแบรนด์ต่างประเทศ นำความสำเร็จของเขามาปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของคนไทย เพื่อให้เกิดการยอมรับ เชื่อมั่นในคุณภาพและเข้าถึงใจของผู้บริโภค”

 

แนวคิดแบรนด์ไทยเติบโตไกลสู่เวทีระดับโลก

ตามแบบอย่าง ภูตะวัน

• สร้างจุดร่วมในความเป็นมนุษย์ ไม่มีแบ่งแยก

• ย่อยความเป็นไทยให้นานาประเทศสามารถเข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย

• เรียนรู้วัฒนธรรมและบริบทของแต่ละประเทศ

สินค้าเป็นเพียงสะพานที่เชื่อมโยงผู้คนเข้ากับธรรมชาติ

หนึ่งจุดเด่นของภูตะวันที่ครองใจลูกค้ามายาวนาน คือความเป็นออร์แกนิก “เราเป็นสะพานที่ทอดไปหาลูกค้า เราส่งมอบการแก้ปัญหา ประสบการณ์ อารมณ์ความรู้สึกมากกว่าการเป็นแค่โปรดักต์” ภายในร้านของภูตะวัน จะสัมผัสได้ถึงวัตถุดิบธรรมชาติที่มาจากชุมชน ไม่ใช่แค่แชมพู หรือบอดีสครับ แต่คือเรื่องราวของผู้คนและวัฒนธรรม ภายใต้แนวคิด “Natural Connect People” ให้ธรรมชาติเชื่อมโยงผู้คน ใช้ธรรมชาติจากประเทศไทย รวมทั้งวัตถุดิบและวัฒนธรรมไทย สินค้าอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ การเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกผ่านสินค้าและกิจกรรมเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว

ขอบคุณภาพจาก Phutawan

• นิทรรศการน่าสนใจที่ภูตะวันเคยจัดขึ้น มีชื่อว่า “Dream – แค่อยากมีฝันกับเขาบ้าง” ถ้าอยากประสบความสำเร็จกับฝันในโลกความจริง ต้องรักตัวเองและให้ความสำคัญกับการนอน แนวคิดนี้สะท้อนให้เห็นในผลิตภัณฑ์ สเปรย์ฉีดหมอน ที่ไม่ได้แค่หอม แต่ยังส่งต่อแง่คิดการรักตัวเอง ใส่ใจการพักผ่อนและดูแลตัวเองให้มากขึ้น

 

ไม่เน้นโตเร็ว

แต่ค่อยๆ เติบโตอย่างมั่นคง

 

กลับไปสู่ราก เชื่อมโยงชุมชน เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

คุณกัสเล่าถึงโอกาสครบรอบ 20 ปีของแบรนด์ภูตะวัน ที่อยากทำอะไรให้เป็นมากกว่าการเป็นแค่ผู้ผลิต เริ่มจากค้นหาวัตถุดิบใหม่ๆ แล้วชื่อ ภูตะวัน ก็ดึงความสนใจไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน อันเป็นที่มาของชื่อแบรนด์

เขาเริ่มศึกษาถึงวัตถุดิบหรือพืชพรรณที่สามารถต่อยอดในเชิงอุตสาหกรรม จนได้พบกับตะไคร้แดง  พืชท้องถิ่นที่มีศักยภาพ แต่การรับซื้อวัตถุดิบอย่างเดียวอาจเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชนได้ยากและไม่ยั่งยืน จึงสนับสนุนเครื่องกลั่นน้ำมันหอมระเหยให้แก่ชุมชน อันเป็นที่มาของความร่วมมือกับกลุ่มเกษตรยิ้มออร์แกนิก กลุ่มเกษตรกรชาวไทยภูเขาที่รวมตัวกันเพาะปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งมีพื้นฐานความรู้การทำออร์แกนิกพืชเชิงเดี่ยว และการสกัดน้ำมันหอมระเหย

ภูตะวันเข้าไปเสริมในส่วนของข้อมูลและความรู้ต่างๆ ปรับปรุงโรงเรือน สร้างมาตรฐาน เพื่อวัตถุดิบจะได้เข้าสู่โรงงานผู้ผลิตแบบมีเอกสารรับรอง ในระดับสากล “เราไม่ได้ผูกขาดการซื้อขายกับเราเจ้าเดียว เขาสามารถขายได้อย่างอิสระ” ผลจากความร่วมมือนี้ออกมาเป็น ผลิตภัณฑ์ซีรีส์ตะไคร้แดง และน้ำมันหอมระเหยกลิ่นตะไคร้ทั้งหมดของภูตะวันส่งตรงมาจากแม่ฮ่องสอนเช่นกัน

 

กลิ่นหอมจากภูตะวัน ที่อยากแนะนำ

• กลิ่นจัสมิน
ช่วยปรับสมดุลจิตใจ คลายความเหนื่อยล้า

• กลิ่นลาเวนเดอร์ คาโมมายล์ มาร์จอแรม
ช่วยผ่อนคลายลดความตึงเครียด

• กลิ่นตระกูลซิตรัส
สำหรับความคิดสร้างสรรค์ ค้นหาแรงบันดาลใจ

• กลิ่นโรสแมรี
ช่วยเสริมความจำ สร้างสมาธิ ให้ความรู้สึกโล่งโปร่งสบาย

 

“ผมชอบกลิ่นหญ้าแฝก หรือกลิ่นประเภทป่า ใบไม้ ให้ความรู้สึกสดชื่นดี” นอกจากนี้ยังช่วยให้ใจสงบ เพิ่มสมาธิอีกด้วย

ภูตะวันได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ จึงมีอีกมากมายหลายกลิ่นให้เลือก ซึ่งมีสรรพคุณแตกต่างกันไป มีทั้งกลิ่นที่สกัดเองและนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อให้มีความหลากหลาย “หลายครั้งมาจากกลิ่นที่ผมชอบเป็นหลัก ผสมรวมกับทีมงาน” แล้ววางโครงตลาดและกลุ่มเป้าหมาย จากนั้น R&D จะนำไปพัฒนาต่อ ส่งให้กลุ่มทดลอง ก่อนจะผลิตเป็นสินค้าออกสู่ตลาด

 

แบ่งปันเป้าหมายของแบรนด์ภูตะวันล่าสุด

• เป็น Organic Skin Care & Aroma Therapy ที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย เพื่อเพิ่มการเชื่อมต่อกับธรรมชาติและผู้คน

• ให้ผลิตภัณฑ์ถ่ายทอดประสบการณ์ในด้านอารมณ์ ความรู้สึก ผ่านนิทรรศการและศิลปะ

• “Phutawan Life” คอนเซปต์สโตร์ที่ผสมผสาน Living, Healing Sense และ Inner Nourishment เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

• บุกตลาดต่างประเทศ เพิ่มร้านสาขา และสร้างความร่วมมือในระดับนานาชาติ

• เข้าร่วม Osaka World Expo 2025 ณ ประเทศญี่ปุ่น

ภาพจาก FB: Phutawan

เมื่อเป้าหมายคือการปักธงไว้ที่ต่างประเทศ “ผมใช้ประตูของประเทศทั้งเข้าและออก ทั้งสนามบิน และ คิง เพาเวอร์ การได้วางจำหน่ายที่ คิง เพาเวอร์ ถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับอินเตอร์”

 

เรียนรู้จากความล้มเหลว

ถ้าผิดพลาดก็แค่ทำใหม่

 

เมื่อชื่อของเราไม่ใช่ของเรา

คุณกัสมองเรื่องส่วนตัวกับงานเป็นเรื่องเดียวกัน “เมื่อมีปัญหากับงาน ก็ยังเหลือตัวเอง… ผมเป็นคนคุยกับตัวเองรู้เรื่อง รักตัวเองในเรื่องของความรู้สึก… ถ้าข้างนอกมันทำให้ burn out ผมก็แค่กลับเข้ามาอยู่กับตัวเองสักพักก็พอ”

ในขณะที่ภูตะวันเริ่มขยายแบรนด์สู่ต่างประเทศ กลับพบกับบททดสอบครั้งใหญ่เรื่องเครื่องหมายการค้า ด้วยช่วงแรกยังขาดความรู้ คุณกัสเล่าว่า ถูกคู่ค้าจดทะเบียนชื่อ ภูตะวัน ที่สหภาพยุโรป และครั้งไปออกร้านที่จีน มีคนมาถ่ายรูปสินค้าของเราเยอะมาก ปรากฏว่าช่วงเวลาเดียวกันนั้น ชื่อของเราถูกนำไปจดทะเบียนที่จีนก่อนที่เราจะยื่นเอกสาร ทำให้ ภูตะวัน ต้องกลายเป็นผู้เช่าชื่อแบรนด์ตัวเองในตลาดจีนอยู่หลายปี และเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ คุณกัสจึงสร้างอีกแบรนด์ในชื่อ อินทรี (Intree) ขึ้นมาด้วย

“เราอยากเป็นแบรนด์ที่ไปเติบโตในต่างประเทศ พอประเมินแล้วว่า จีนและยุโรปเป็นตลาดสำคัญ และการบริหารหลายแบรนด์ยากต่อการจัดการ” อีกทั้งความรู้สึกไม่มั่นคงและยุ่งยากในการทำตลาดบนแพลตฟอร์มจีน จึงตัดสินใจซื้อชื่อกลับคืนมาในที่สุด

คุณกัสมองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ ผ่านการร่วมมือกันของแบรนด์ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เช่น แบรนด์น้ำพริกเผาคอลแลบกับแบรนด์ไอศกรีม “ผมว่าน่าสนุก ในอนาคตจะมีการคอลแลบแบบนี้อีกเยอะ” สำหรับภูตะวันมีคอลแลบกับหลายแบรนด์แต่ยังคงสอดคล้องกันอยู่ หากมีโอกาสร่วมกับแบรนด์อื่นในรูปแบบที่แตกต่างมากๆ ก็น่าสนใจ เพราะโลกยุคใหม่ “อะไรก็เป็นไปได้”

 

เคล็ดลับความสำเร็จของคุณกัส ฉัตรชัย

ที่ทำให้ภูตะวันเติบโตต่อเนื่องมากว่า 25 ปี

“โฟกัส” กับสิ่งที่ทำ เป้าหมายชัดเจน ตัดสิ่งที่ไม่ใช่ออก ช่วยให้สำเร็จเร็วขึ้น

เรียนรู้จากความล้มเหลว ถ้าผิดพลาดก็แค่ทำใหม่

ไม่เน้นโตเร็ว แต่ค่อยๆ เติบโตอย่างมั่นคง

ภูตะวัน (PHUTAWAN)

บริษัท ภูตะวัน เฮิร์บ แอนด์ คอสเมติค จำกัด

ที่ตั้ง: 918 หมู่ 2 ต.บางโปรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 10270

 

ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย

คลิก: PHUTAWAN

 

สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถสนับสนุนได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา

Author

ภิรญา นริศชาติ

Author

นักเขียนอิสระที่โตมากับนวนิยายของแก้วเก้า ยังคงจดบันทึกลงสมุด และทำงานกล่องดนตรีที่รัก เพราะเชื่อว่าแรงบันดาลใจสำคัญพอๆ กับจินตนาการ