ภาพผ้าฝ้ายทอมือที่หลายคนคุ้นตา คือผ้าทอเนื้อหนา ดีไซน์สุดแสนจะธรรมดา ซึ่งนิยมกันมากในหมู่ผู้ใหญ่ แต่ KHUNJACK แบรนด์ผ้าฝ้ายทอมือ กลับมีภาพที่ต่างออกไปจนคนรุ่นใหม่ต้องอยากได้มาไว้ใช้สักตัว ลองมาฟัง คุณจุฬา พรรณเชษฐ์ ทายาทรุ่น 2 ของ KHUNJACK ธุรกิจผ้าฝ้าย เล่าถึงการเดินทางกว่า 30 ปีที่ปรับเปลี่ยนรูปโฉมไปบ้าง แต่ยังคงกลิ่นอายความดั้งเดิมอยู่
แบรนด์ “คุณแจ๊ค” เริ่มจากธุรกิจร้านผ้าฝ้ายของคุณแม่ ใช้จุดเด่นของลายผ้ากับคุณภาพของเนื้อผ้าสร้างความแตกต่างจากผลงานของร้านอื่นๆ เริ่มต้นจากผ้าฝ้ายของร้านดั้งเดิม เน้นความพิเศษจากการเป็นผ้าทอมือ ต่อยอดให้เป็นเสื้อผ้าที่ใช้มุมมองของการดีไซน์และเทรนด์แฟชั่นทันสมัยเพิ่มเข้าไป
ชุดผ้าฝ้ายทอมือของ KHUNJACK จึงให้สัมผัสที่นุ่มนวล สวมใส่สบาย มีสัมผัสของความเป็นเสื้อผ้าสไตล์ท้องถิ่น…เป็นที่จดจำในทรงเฉพาะ อย่างเสื้อทรงปีกค้างคาวหลากลวดลายและสีสัน หรือเสื้อผ้าที่ใช้ลายผ้าไทยสะท้อนความเป็น “พื้นเมือง” ของชาวเหนือเอาไว้ด้วย อย่างเสื้อปักม้ง เสื้อไต เสื้อคอจีน กางเกงย้งประยุกต์ หรือกางเกงทรงฟักทองที่กลายเป็นผลงานที่ได้รับความนิยม นอกจากนั้นยังมีของใช้อื่นๆ เช่น หมวก ผ้าพันคอ กระเป๋าผ้า กระเป๋าใส่ของกระจุกกระจิก เป็นต้น
เสื้อผ้าในก้าวแรก…สู่การเติบโต
“หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่แต่งงานกัน ก็ได้เริ่มมองหาธุรกิจสำหรับครอบครัว จึงเลือกขายเสื้อผ้าในลักษณะรับมาขายไป รับแบบที่ชาวบ้านทำอยู่แล้วมาขาย จนรู้จักกลุ่มชาวบ้านมากขึ้น ทำให้มองเห็นความต้องการของตลาด จึงเริ่มขอนำผ้าเป็นชิ้นมาขายบ้าง และเริ่มสร้างแบรนด์ของตัวเองในชื่อ ดรุณีผ้าฝ้าย ซึ่งเป็นชื่อจริงของคุณแม่”
สินค้าช่วงแรกของ ดรุณีผ้าฝ้าย ยังคงเป็นผ้าฝ้ายทอมือ ตัดเย็บเป็นพวกเสื้อผ้า แล้วค่อยๆ ปรับแบบไปเรื่อยๆ ค่อยๆ เพิ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ เข้าไป
“เราไม่ได้ติดต่อกับชาวบ้านเพียงกลุ่มเดียวเพื่อทำผลิตภัณฑ์ชนิดเดียว เราพยายามหากลุ่มชาวบ้านที่หลากหลายมากขึ้น โดยสินค้าจะใช้ไอเดียของเราในการออกแบบทั้งหมด เพราะเรารู้ว่าลูกค้าของเราคือใคร”
ในที่สุดแบรนด์ KHUNJACK ก็ได้ก่อตั้งขึ้นในอีกหลายปีถัดมาเพราะอยากให้ดูทันสมัย และรองรับลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
“KHUNJACK มาจากชื่อเล่นของคุณแม่ค่ะ ชื่อนี้ให้ความรู้สึกชิกและเท่ เพราะท่านเป็นสาวเท่ ทันสมัย เข้ากับดีไซน์ในช่วงหลังๆ ปัจจุบัน ดรุณีผ้าฝ้าย ยังคงดำเนินธุรกิจอยู่ ควบคู่ไปกับแบรนด์ KHUNJACK ในตอนแรกทั้งสองแบรนด์ยังมีความคล้ายกันด้วยเราใช้ซัปพลายเออร์เดียวกัน อาจจะไม่เห็นความแตกต่าง จึงวางแผนให้ แบรนด์ KHUNJACK แข็งแกร่งขึ้น โดยการแบ่งกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ชัดเจนในการจัดการ ทำให้ได้ฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่อายุน้อยลง
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นในส่วนของกระเป๋า หมวก ที่รองแก้ว ผ้าพันคอ และกำลังจะขยายมาในส่วนผลิตภัณฑ์ของใช้ในบ้าน เช่น ผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร”
ลวดลายแปลกตา พัฒนาไม่หยุดยั้ง
จุดเด่นของ “คุณแจ๊ค” นอกจากจะอยู่ที่รูปแบบของงานดีไซน์แล้ว ยังเป็นเรื่องของผ้า สีสัน และลวดลายที่ถูกหยิบมาตัดเป็นเสื้อและกางเกงในรูปแบบเฉพาะตัวของ KHUNJACK ที่กล่าวถึงไปแล้วนั้น ทำให้เสื้อคอจีน กางเกงย้ง หรือเสื้อปีกค้างคาว ต่างไปจากรูปแบบดั้งเดิม ให้มีสีในเฉดของผ้าทอมือที่มีกลิ่นอายของแฟชั่นอยู่ด้วย บางชิ้นเหมือนเป็นลายเส้นกราฟิก หรือบางชิ้นก็ใช้คู่สีที่ทำให้ชุดดูไม่ธรรมดา นอกจากนั้นคุณภาพของผ้าและลายผ้าที่ไม่เหมือนใคร ทั้งหมดถูกออกแบบและพัฒนาเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นและแตกต่าง แต่ยังคงความเป็นผ้าทอมืออยู่
“ผ้าฝ้ายทอมือของเราต่างจากที่อื่น ตรงที่มีเส้นใยเล็กและบางมาก ทำให้ผ้าทอที่ได้มีเนื้อนิ่ม บางเบา ใส่สบาย ไม่ร้อนเวลาสวมใส่ นอกจากลายผ้าและสีสันบนผืนผ้าที่เราออกแบบจะถูกใจลูกค้าแล้ว ดีไซน์ของเราก็แตกต่างจากท้องตลาด ซึ่งแบบก็ต้องปรับเปลี่ยนการดีไซน์อยู่เรื่อยๆ พัฒนาจนได้สไตล์ของตัวเอง แต่ก่อนเราเน้นผ้าฝ้ายเป็นหลัก ตอนนี้เพิ่มเส้นใยอื่นเข้ามาเพื่อความหลากหลาย ได้แก่ เส้นใยเทนเซล เรยอน และกัญชง”
ใส่ใจเพื่อความยั่งยืน
คุณจุฬาบอกว่า หลังการตัดเย็บในแต่ละครั้ง จะเหลือเศษผ้า ขนาดเล็กใหญ่ มากน้อย ขึ้นอยู่กับการวางแพตเทิร์น ทำให้รู้สึกเสียดายหากจะต้องทิ้ง เพราะไม่พอเย็บให้เป็นเสื้อผ้า KHUNJACK จึงออกแบบผลิตภัณฑ์ที่นำเอาเศษผ้าเหล่านั้นมาดัดแปลง ออกแบบใหม่ ให้นำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด เช่น กระเป๋าใส่เครื่องเขียน กระเป๋าใส่เหรียญ เป็นต้น
ส่วนสีย้อมก็มีทั้งสีธรรมชาติและสีเคมี ซึ่ง KHUNJACK เลือกย้อมกับร้านที่ได้มาตรฐาน มีระบบจัดการที่ดี เลือกใช้เคมีที่ปลอดภัยต่อคนใส่ คนย้อมผ้า และสิ่งแวดล้อม
บททดสอบที่กลายมาเป็นโอกาส
เมื่อถามถึงอุปสรรคในการทำงาน ถ้าจะไม่พูดถึงสถานการณ์โควิด-19 คงเป็นไปไม่ได้
“ก่อนหน้านั้นทุกอย่างราบรื่นดี ลูกค้าเยอะ ทั้งนักท่องเที่ยวและส่งออก มีสินค้าที่เราวางตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ และ ที่ คิงเพาเวอร์ ด้วย โดยเฉพาะที่ คิง เพาเวอร์ สินค้าของเราขายดีมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกเดรสและงานปักมือ ยอดขายเกือบ 30% ของร้านมาจาก คิง เพาเวอร์
พอมีโควิด (ยอดขายซึ่งอยู่หน้าร้าน) ยอดขายก็ตกไปเยอะ เพราะการปิดประเทศ ไม่มีการเดินทาง โดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนซึ่งนิยมสินค้าของเราก็หายไปหมด ตัวร้านหลักเองก็ปิดไปประมาณ 2 เดือน จึงหันมาช่องทางออนไลน์ ปรากฎว่าขายดีมาก พอสถานการณ์กลับมาดีขึ้น ก็ผลิตงานได้น้อยลง เพราะคนของเราไม่พอ และเราเน้นขายแบบออฟไลน์มากกว่า ตอนนี้เรามีร้านค้าอยู่ที่ ถนนช้างม่อย จังหวัดเชียงใหม่ และมีวางขายในห้างสรรพสินค้า
ด้วยความที่เราเป็นธุรกิจครอบครัว ช่องว่างระหว่างวัยก็เป็นส่วนหนึ่งในอุปสรรคที่ต้องเผชิญ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการแชร์ไอเดียกัน โดยเฉพาะเรื่องของการออกแบบ บางแบบอาจจะดูผู้ใหญ่ไป หรือวัยรุ่นไป ก็ต้องค่อยๆ ปรับกันไป ในดีไซน์ของคุณแม่ก็จะแซมความเป็นเรา (ลูก) เข้าไปด้วย เพื่อให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าของ KHUNJACK พอเปิดรับกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ทำให้ได้กลุ่มที่เป็นผู้ใหญ่ด้วย วัยรุ่นด้วย ถ้ามาที่ร้าน KHUNJACK กันเป็นครอบครัวก็จะได้ของกลับไปทุกคน เพราะที่ร้านมีผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิง ผู้ชาย และเด็ก รวมถึง Living zone อีกด้วย”
ต่อยอดแสดง “พลังไทย”
ตอนนี้ตลาดเริ่มกลับมาดีขึ้นพอสมควร คุณจุฬาบอกว่า “ลูกค้าคนไทยมีสัดส่วน 40% และต่างชาติ 60% เพราะผู้คนเริ่มออกเดินทางแล้ว เรามีส่งไปขายที่ประเทศออสเตรเลียและญี่ปุ่น ทำให้แบบเสื้อผ้า KHUNJACK มีดีไซน์ผสมผสานความเป็นเอเชียและยุโรป บางแบบจะออกสไตล์ญี่ปุ่น บางแบบมีความเป็นจีน บางแบบเป็นยุโรป แล้วแต่ว่าช่วงไหนแบบไหนจะนิยม ตัวร้านเองก็ต้องตกแต่งให้เข้ากับสไตล์เสื้อผ้าในช่วงนั้นๆ ด้วย”
KHUNJACK แบรนด์ผ้าทอของไทย ที่มีความชิก เท่ ในวันนี้ยังไม่หยุดพัฒนาตัวเอง จากงานชาวบ้านท้องถิ่น สามารถนำพาตัวเองไปสู่ตลาดโลกได้ รอชมและอุดหนุนงานคุณภาพของ KHUNJACK ได้อีกในเร็วๆ นี้
คุณแจ๊ค (KHUNJACK)
ที่ตั้ง: 278-280 ถนนช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50300
Facebook: KHUNJACK
Instagram: KHUNJACK
ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย
คลิก: KHUNJACK
สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถหาสนับสนุนได้ที่คิง เพาเวอร์ทุกสาขา
ปักหมุดจุดเช็กอิน-แชะรูป-ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ถนนช้างม่อย เป็นถนนสายการค้าเก่าแก่แห่งหนึ่งของเชียงใหม่ ด้วยบรรยากาศและตึกรามบ้านช่องอายุหลายสิบปีกลายเป็นเสน่ห์ของถนนสายนี้ไปเสียแล้ว ปัจจุบันมีร้านค้าสไตล์แฮนด์เมด คาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขนม เก๋ๆ มาเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าแวะชิมช็อปได้สบายๆ ตลอดทั้งวัน
• ประตูท่าแพ แลนด์มาร์กเมืองเชียงใหม่ ลายอิฐมอญบนกำแพงเมืองบอกเล่าประวัติศาสตร์อันยาวนาน แถมมีฝูงนกพิราบพร้อมรอเข้าฉากถ่ายรูปกับเรา
• ร้านหวายน้ำผึ้ง ไม่ไกลจากร้าน KHUNJACK จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์หวาย และของใช้หัตถกรรมงานจักสาน พร้อมมุมถ่ายรูปฮิปๆ ที่ใครมาก็ต้องแชะ
• Brewginning คาเฟ่ที่ต้องแวะเช็กอิน นอกจากรสชาติกาแฟที่ต้องลิ้มลองแล้ว ตัวอาคารที่ปรับปรุงจากตึกเก่าแก่โดยยังคงโครงสร้างเดิมไว้เกือบทั้งหมด จะถ่ายมุมไหนก็ฮิป
