สำหรับการขับเคี่ยวแข่งขันที่สนามภูเก็ตที่ผ่านมา ยังคงเป็นที่ประทับใจและเรียกได้ว่า มันสะใจ! เพราะวงดนตรีรุ่นบุคคลทั่วไป: เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ (Professional Class: Road to Artist) ทำได้ดี เปลี่ยนบรรยากาศช่วงบ่ายๆ ที่ของวันแข่งขันให้ลุกเป็นไฟ เพราะจำนวน 3 ใน 4 วงที่ประกวดผ่านมาสู่การแสดงสดของรอบโซนนิ่ง เป็นวงร็อกหนักแน่น มีพ่วงมาเพียง 1 วงที่มาในดนตรีป็อปเบาๆ ฟังสบาย ส่งผลให้ไวบ์โดยรวมของการแข่งขันสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ครบรส เราเลยจะพาไปรู้จักกับตัวตนวงเหล่านั้นผ่านนักร้องนำ…และโลกสองใบของพวกเขา

THE POWER BAND 2025 SEASON 5 การประกวดดนตรีสากลประจำปี 2568 จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จับมือพันธมิตรจากหลายๆ ค่ายเพลงชั้นนำระดับประเทศ และ Multiply by Eight ภายใต้คอนเซปต์ MUSIC CREATES MORE POSSIBILITIES พลังดนตรี เป็นไปได้ ไม่สิ้นสุด ก็ได้เดินทางมาใกล้จะได้รู้ผลว่าใครคือแชมป์กันแล้ว อย่าลืมติดตามกันอย่างใกล้ชิด ชนิดที่ห้ามกะพริบตา เช็กผลตัดสินรอบโซนนิ่งที่สนามภูเก็ต คลิกที่นี่

กลับมาที่เรื่องราวของเรากันบ้าง “โลกสองใบ” ของแต่ละวง…มันคืออะไรอย่างไร เรื่องนี้ก็ต้องติดตามชนิดที่ห้ามกะพริบตาเช่นกัน

• กอล์ฟ – กิตติภัทร สุขวันดี
• บี – ศรัณย์ภัทร รักสม
นักร้องนำ วง 22 Days (ภูเก็ต)

ความที่สมาชิกแต่ละคนในวงมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ แต่เพราะทุกคนมีความฝันและเป้าหมายเดียวกัน ทำให้เกิดการรวมตัวเฉพาะกิจขึ้นภายใน 22 วันก่อนการประกวด แม้จะมีเวลาซ้อมน้อย แต่ทุกคนก็พร้อมที่จะสู้และทุ่มเท เพื่อเดินไปสู่ความสำเร็จเคียงข้างกัน ซึ่งจุดเด่นของวง 22 Days คือซาวน์ดนตรีที่ผสมผสานความเป็นร็อกที่มีกลิ่นอายดนตรีโซลจางๆ จนเกิดเป็นแนวฟิวชันที่น่าสนใจ

กอล์ฟ: ส่วนตัวผมจะร้องเดี่ยวมากกว่า ไม่ได้อยู่ประจำวงไหนเป็นหลัก การร้องเพลงถือเป็นงานอดิเรกของผม นั่นโลกใบที่หนึ่ง ส่วนโลกอีกใบของผม คือผมเป็นคนเดียวในวงที่เรียนสาขาวิชาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไม่ได้เรียนมาทางด้านดนตรีโดยตรงแบบเพื่อนๆ เขา เพราะผมรู้สึกว่าการร้องเพลงอิสระ เราสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ตลอดเวลา อย่างตอนที่เพื่อนๆ ชวนมาเป็นนักร้องของวง ผมก็ดีใจนะที่เพื่อนๆ นึกถึงเราทั้งๆ ที่เราไม่ได้เรียนมาด้านนี้ แถมตรงไหนที่ร้องไม่ได้ ร้องแล้วติด ก็มีเพื่อนๆ คอยซัปพอร์ต ช่วยสอน ช่วยบอกเทคนิค อุ่นใจมากครับ

บี: ตอนนั้นวงยังมีกอล์ฟเป็นนักร้องนำแค่คนเดียว แต่ว่าเสียงกอล์ฟหาย ร้องได้ไม่เต็มที่ เลยเรียกผมมาช่วย มาแบ่งท่อนร้องกัน ตรงไหนที่ช่วยได้ก็ช่วยกัน ชื่อวงของเราคือ 22 Days แต่ผมนี่มาแค่ 2 Days เลยนะ สดๆ ร้อนๆ สุดๆ (หัวเราะ)

กอล์ฟ: บีคือฮีโร่ 2 วันสุดท้ายจริงๆ ครับ เป็นพระผู้มาโปรด (หัวเราะ)

โลกใบที่หนึ่ง: ปกติกอล์ฟจะร้องเพลงแบบเป็นนักร้องเดี่ยว
บีก็เป็นนักร้องที่เคยแต่ร้องเดี่ยว

โลกอีกใบหนึ่ง: กอล์ฟไม่ได้เรียนร้องเพลงมาแต่เรียนสถาปัตยกรรม
ส่วนบีตามปกติจะอยู่กับดนตรีแนวบลูส์ คนละทางกับที่ร้องขึ้นเวทีประกวดนี้

Thaipower.co: 22 DAYS…วงร็อกทั้งใจ
แต่ลึกๆ ข้างในแอบบลูส์ & ป็อป

บี: ชอบแนว Eric Clapton
โดยเฉพาะเพลง Wonderful Tonight ชอบสุดๆ ไปเลย

กอล์ฟ: ชอบ The Toys, NONT
และ Jeff Satur หูเคลือบทอง แสงออกหูแบบคอมโบ

นอกจากกอล์ฟจะมีโลกใบหนึ่งเป็นหนุ่มสถาปนิก – วิศวกรแล้ว อีกด้านหนึ่งเป็นนักร้องประจำวง 22 Days แล้ว หนุ่มบี เพื่อนซี้คู่หูดูโอ้ ก็มีโลกสองใบไม่แพ้กัน

บี: จริงๆ แล้วผมเป็นนักร้องประจำวงแนวเพลงบลูส์ครับ นี่อาจเป็นโลกอีกใบของผม คือผมเล่นกีตาร์แนวบลูส์มาก่อน เริ่มร้องเพลงแนวบลูส์ด้วย เพราะอยากร้องคลอไปกับกีตาร์ที่เราเล่นได้ ก็เลยฝึกร้องเพลงเรื่อยมา ถ้าร้องเพลงไทยผมอาจจะสู้กับคนอื่นไม่ค่อยได้ แต่ถ้าแนวสากลหรือแนวบลูส์คือสู้สุดใจครับ

กอล์ฟ: คติประจำใจของบีคือ “เพลงไทยผมอาจจะไม่สู้ แต่เพลงสากลคือเปิดโหมดอัลติ (Ultimate) ให้เลยครับ”

(ไม่รอช้าบีก็โชว์ร้องเพลง Wonderful Tonight ของ Eric Clapton ท่อนสั้นๆ ให้ได้ฟังเป็นบุญหู)

“เราอยากให้คนฟังมีความสุขมากกว่า

ที่จะมานั่งดูว่าตรงนี้ใช้สกิลอะไร

ตรงนั้นเล่นแบบไหน ถ้าคนดูแฮปปี

พวกผมก็แฮปปีครับ”

วง 22 Days (ภูเก็ต)

กอล์ฟ – บี วง 22 Days

กอล์ฟ: ถ้ามีโอกาสอยากให้ไปดูศิลปินแสดงสดเยอะๆ ไปดูเขาเล่นยังไง ร้องยังไง การแสดงบนเวทีเขาทำยังไง บางทีก็อาจทำให้เกิดแรงบันดาลใจสร้างสรรค์ผลงานเพลงของตัวเองขึ้นมาก็ได้ ผมมองว่าดนตรีมันไม่ได้ยากและไม่ได้ง่าย แต่จําเป็นที่จะต้องฝึกฝนอยู่เสมอ คนที่เขาเก่งๆ มีพรสวรรค์ เขายังต้องฝึกฝนเลย เราก็ควรที่จะฝึกซ้อม ฝึกฝน พัฒนาตัวเองอยู่เสมอครับ

บี: ดนตรีทำให้ผมมีทุกวันนี้ ดนตรีทำให้ผมออกมาจากอะไรหลายๆ อย่างได้ ดนตรีทำให้ผมผ่านช่วงเวลาที่ยากลําบากมาได้ ผมมีเพื่อน มีพี่น้อง มีคอนเนกชัน มีเงินใช้ในทุกวันนี้ มีงานทำ มันเกิดมาจากดนตรีทั้งนั้นเลยครับ ทั้งชีวิตของผม ผมก็คงจะยังใช้ดนตรีนําทางชีวิตของผมไปเรื่อยๆ จนกว่าผมกับดนตรีจะตายจากกันไปครับ

• กัล – กัลยากร แจ่มวิถีเลิศ

นักร้องนำ วง MOUSOU DIVISION (ภูเก็ต)

MOUSOU DIVISION เป็นอีกหนึ่งวงดนตรีเน้นๆ จากสนามภูเก็ต ที่ทำผลงานการแข่งขันได้ดีไม่แพ้วงอื่นๆ ความหมายของชื่อวงมาจากภาษาญี่ปุ่น MOUSOU อ่านว่า โมโซ ที่แปลว่า การเพ้อฝัน และเติมคำว่า DIVISION ลงไป เพื่อสื่อถึง “ทีมที่มีความฝันร่วมกัน” จากชมรมดนตรีโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ จังหวัดภูเก็ต ภายใต้การดูแลของ ครูจ๊อบ – บุญเลิศ ปานนุ่ม และวง MOUSOU DIVISION เดิมเคยใช้ชื่อวงว่า “มอซอ” คว้ารางวัลชนะเลิศ รุ่นมัธยมศึกษา ใน THE POWER BAND 2022 SEASON 2 มาแล้ว ย้อนอ่านเรื่องวงเมื่อตอนคว้ารางวัล คลิกที่นี่

เราเป็นวงรุ่นน้องของวง มอซอ สมาชิกดั้งเดิมที่เหลืออยู่ตอนนี้ ก็จะมี ปูน โปสรินท์ (กีตาร์) และ ข้าวหอม ธิดาทิพย์ (กลอง) นอกจากวงเราแล้วจะมีวงอื่นๆ อยู่อีกหลายวงในชมรมของโรงเรียน จริงๆ ปีที่แล้ววงก็ส่งคลิปมาประกวดด้วย แต่ไม่ผ่านเข้ารอบโซนนิ่ง ปีนี้พวกเราผ่านมาได้ รู้สึกดีใจค่ะที่ได้เข้ามาแสดงในรอบนี้ แถมยังได้เล่นที่ภูเก็ตบ้านของพวกเราอีกด้วย ตอนที่อยู่บนเวทีก็ตื่นเต้นและกดดันนิดหน่อย แต่ว่าพอแข่งเสร็จก็รู้สึกโล่งค่ะ เพราะเราทำเต็มที่ ทำดีที่สุดแล้วค่ะ ผลจะเป็นยังไงก็พร้อมรับค่ะ ย้อนอ่านเรื่องของวง MORSOR คลิกที่นี่  หรือ อ่านเรื่องของปูนกับข้าวหอมและนักดนตรีวงอื่นๆ จากสนามภูเก็ต คลิกที่นี่

Thaipower.co’s Note

MOUSOU DIVISION…วงร็อกทั้งใจ

แต่ลึกๆ ข้างในแอบซินธ์ – ป็อป

กัล: ชอบเพลงแบบของ POLYCAT ค่ะ

แม้ภายนอกจะดูเป็นสาวร็อกเสียงร้องทรงพลัง แต่แนวเพลงโปรดจากวงดนตรีที่กัลชอบที่สุดกลับเป็น POLYCAT สองแนวดนตรีที่คอนทราสต์กันอย่างมาก แต่ทุกอย่างหลอมรวมให้กัลเป็นนักร้องนำของวง MOUSOU DIVISION ที่ทำผลงานได้ดีจนได้รับคำชมจากกรรมการจากสนามภูเก็ต อ่านบทสัมภาษณ์ นะ POLYCAT คลิกที่นี่

“กรรมการอยากให้ดนตรีมีไดนามิกของเพลงที่มากกว่านี้ บวกกับเสียงร้องบางช่วงที่หนูใส่พลังมากเกินไป ก็อาจจะต้องปรับลดลงมาให้บาลานซ์กับดนตรีมากขึ้น แต่โดยรวมกรรมการชมว่าวงเราทำได้ดี”

“ตอนที่ส่งคลิปเข้าประกวด พวกเราใช้เพลง ลืมไปแล้วว่าต้องลืมยังไง (Fade) ของ Jeff Satur แต่ในรอบแสดงสดเปลี่ยนมาใช้เพลง พัง ของ Indigo แทน เพราะรู้สึกว่าเพลงของเจฟฟ์ยังไม่ค่อยลงตัวกับเสียงของหนูเท่าไร พอเปลี่ยนเป็นเพลง ถ้าฉันเป็นเขา ของ INK WARUNTORN แล้วรู้สึกว่ามันเคลียร์กว่า เข้ากับเสียงของหนูเองมากกว่า อ่านบทสัมภาษณ์ Jeff Satur คลิกที่นี่

ความโหดคือเพิ่งตัดสินใจเปลี่ยนตอน 2 อาทิตย์สุดท้ายก่อนประกวด หลังจากที่รู้ผลแล้วว่าเข้ารอบที่สนามภูเก็ต งานหินอยู่เหมือนกัน เพราะมีเวลาซ้อมที่กระชั้นชิดมาก แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ โดยส่วนตัวจะชอบร้องเพลงที่ฟังสบายๆ มากกว่า เวลามาประกวดก็คิดว่าต้องโชว์เสียงร้องสักนิดหนึ่ง อาจจะไม่ถึงกับเป็นโลกสองใบขนาดนั้น เอาเป็นว่าชอบทั้งสองแนวจะดีกว่าค่ะ”

“ให้คะแนนทุกคนในวงเกิน10 เลยค่ะ

เพราะทุกคนเต็มที่และทุ่มเท

ให้กับการแข่งรายการนี้มากจริงๆ ”

วง MOUSOU DIVISION (ภูเก็ต)

กัล วง MOUSOU DIVISION

“หนูรู้สึกว่าการแข่งดนตรีก็เป็นความชอบความสามารถอย่างหนึ่งค่ะ ไม่ว่าผลที่ออกมาจะแพ้หรือชนะ ก็ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าทำเต็มที่แล้ว ก็เหมือนกับเพลง ไม่แข่งยิ่งแพ้ ของพี่เบิร์ดค่ะ…แข่งไปเถอะค่ะ หาประสบการณ์ให้ตัวเอง หาประสบการณ์ให้วง คงจะมีสักวันหนึ่งที่เป็นของเราค่ะ ไม่อยากให้ทุกคนหยุด มีท้อได้ แต่อยากให้ สู้ๆ ต่อไปค่ะ”

โลกใบที่หนึ่ง: เธอต้องร้องแนวร็อกหนักๆ

โลกอีกใบหนึ่ง: แต่สไตล์ถนัดคือชอบร้องเพลงฟังสบายๆ
และชอบฟังเพลงแบบของ POLYCAT

Suggestion

แพสชัน ความฝัน มิตรภาพ
วง BrushTooth

Passion

อาคีโกะ โอเซกิ ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น
กับความสุขที่โปรยปราย

Passion

• จู – ณัฐนิชา แสงศิริ
• ต้นน้ำ – อารญาภรณ์ อิสสระวงศ์เทวา
นักร้องนำ วง อรชร (สมุทรปราการ)

สำหรับแฟนรายการ THE POWER BAND อาจจะเคยคุ้นชื่อวง อรชร มาบ้าง เพราะวงเคยผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ในซีซัน 3 และ ซีซัน 4 มาแล้ว

แน่นอนว่าลายเซ็นอันโดดเด่นของวง อรชร อยู่ที่แนวดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ มีการผสมผสานแนวดนตรีร็อก และ Progressive เน้นรายละเอียดทางดนตรีเข้าไว้อย่างกลมกล่อม ทำให้ดนตรีของวง อรชร มีมิติเพิ่มมากขึ้น อรชร มีจุดเริ่มต้นมาจาก ครูโต – จุมพล เพิ่มสิน ครูผู้คุมวง ได้ไปดูการแสดงตลกของคณะอรชรเชิญยิ้ม และถูกใจชื่อ อรชร จึงได้ใช้ชื่อนี้เป็นชื่อวงในชมรมดนตรีของ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สมุทรปราการ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

จู: ปกติชอบร้องเพลงแนวป็อปทั่วๆ ไป มีพี่อิ้งค์ วรันธร และ Serious Bacon เป็นไอดอลในดวงใจ แต่พอได้เข้าวง อรชร ก็คือร็อกมาเลย เปลี่ยนประสบการณ์ เปลี่ยนแนวไปเลย อ่านบทสัมภาษณ์อิ้งค์ วรันธร คลิกที่นี่

เมื่อ 2 วันก่อนแข่งหนูเสียงหาย เครียดมากแบบจะแข่งแล้ว ครูก็เครียดด้วย เสียงเพิ่งกลับมาวันแข่งเลยนะคะ ก็เลยเพิ่งได้ซ้อมก่อนลงสนามในช่วงเช้า จริงๆ หนูเป็นคนเสียงใสนะคะ แต่วันนี้คือเสียงยังแหบๆ อยู่ ต้องเปลี่ยนคีย์ร้องใหม่ เพราะเสียงยังกลับมาไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์

ต้นน้ำ: หนูเป็นนักร้องประกวดมิวสิคัลมาก่อนค่ะ ได้มีโอกาสไปแข่งที่ต่างประเทศบ้าง หรือเคยประกวดในโครงการ Young Music Artist Contest (YAMC) จัดโดย วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

พอมาเข้าวง อรชร ก็ไม่ได้ร้องมิวสิคัลเลยค่ะ มาแนวร็อกล้วนๆ เลยเหมือนกัน ปกติเวลาร้องเพลงมิวสิคัลก็ใช้เสียงที่ทรงพลังเหมือนกัน อย่างเพลง Journey to the Past จากเรื่อง Anastasia หรือ Think of Me จาก The Phantom of the Opera ก็เลยไม่ค่อยรู้สึกแตกต่าง หรือว่าร้องยากอะไรขนาดนั้น ก็ร้องได้เหมือนกันแค่เปลี่ยนวิธีการร้องค่ะ

Thaipower.co’s Note

อรชร…วงร็อกทั้งใจ

แต่ลึกๆ ข้างในแอบป็อป & มิวสิคัล

จู: ไอดอลของหนู คือ
Ink Waruntorn และ Serious Bacon

ต้นน้ำ : ชอบเพลงสากลมากกว่าเพลงไทย
เพราะเป็นนักร้องแนวมิวสิคัลมาก่อน

อ่านบทสัมภาษณ์ Serious Bacon คลิกที่นี่

โลกใบที่หนึ่ง: รักเพลงร็อกทั้งสองคน

โลกอีกใบหนึ่ง: คนหนึ่งถนัดร้องป็อป
อีกคนหนึ่งถนัดแนวมิวสิคัล

จู กับ ต้นน้ำ ถือว่าร้องเพลงร็อกและทำผลงานบนเวทีได้ดี จนแอบเซอร์ไพรส์เล็กๆ ตอนที่ได้รู้ว่าปกติแล้วทั้งสองคนร้องเพลงแนวอื่นที่ไม่ใช่แนวร็อกมาก่อน และถึงแม้ว่า วง อรชร จะมาแข่งขัน THE POWER BAND หลายครั้งแล้ว แต่สำหรับ 2 สาวนักร้องนำ จูและต้นน้ำ นี่คือครั้งแรกของพวกเธอกับเพื่อนสมาชิกคนละรุ่นสำหรับเวทีการประกวดดนตรีระดับประเทศแบบนี้ ย้อนอ่านเรื่องของวง อรชร คลิกที่นี่

ต้นน้ำ: ตอนแรกก็ตื่นเต้น แต่พอขึ้นไปร้องจริงๆ ความตื่นเต้นก็ค่อยๆ หายไป อาจจะเป็นเพราะเราโฟกัสในการร้องเพลงมาก และปกติหนูก็ร้องต่อหน้าคนเยอะๆ แบบนี้อยู่แล้วค่ะ

จู: แต่สำหรับหนูคือไม่เคยได้ทำอะไรแบบนี้เลย นี่แป็นครั้งแรกกับรายการที่ใหญ่ขนาดนี้ ถ้านับจริงๆ นี่คือเวทีที่ 3 ของหนูเองจากทั้งหมด ก็เลยรู้สึกตื่นเต้นมากๆๆๆๆ แต่ก็พยายามร้องให้ดีที่สุด เพราะเราซ้อมมาหนักมาก พยายามเอาชนะความตื่นเต้นให้ได้ค่ะ

“เมื่อร่วมมือกัน คอยเป็นแรงผลักดันให้กันและกัน

เพื่อเดินไปให้ถึงฝันที่วางไว้ในวันข้างหน้า

แต่ต้องไม่ลืมพัฒนาตัวเอง

และขยันฝึกซ้อมเยอะๆ ด้วยนะคะ”

วง อรชร (สมุทรปราการ)

ต้นน้ำ: ทุกคนเรามีความฝันที่อยากจะเป็นอะไรก็ได้ค่ะ แต่ถ้ารู้ตัวแล้วว่าเราอยากเป็นอะไร และถ้าอยากเป็นอย่างที่ฝันไว้ ก็เอาให้สุดไปค่ะ ไปให้สุดในด้านนั้น หนูก็พยายามไปให้สุดในด้านการร้องเพลงอยู่ หนูเป็นกำลังใจให้อีกแรงหนึ่งค่ะ

จู: ทุกคนต้องทำตามความฝันตัวเอง แม้จะยาก จะเจออุปสรรคปัญหาอะไรมากน้อยแค่ไหน ก็อยากให้ทุกคนพยายามสู้ฝ่าฟันปัญหานั้นๆ ไปให้ได้ค่ะ หนูเชื่อว่าเราสามารถหาโอกาสที่จะทำตามความฝันของตัวเองได้เสมอ เพราะโอกาสมีอยู่รอบตัวเรา อยู่ที่เราจะเห็นและจับไว้ให้ได้หรือเปล่าค่ะ

• แซนด์ – ยอเกียรติ สระศรี
นักร้องนำ วง SANDY (อุดรธานี)

ใครได้ชมการแสดงสดรอบโซนนิ่งสนามภูเก็ต ของวง SANDY เป็นต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เหมือนกำลัง ‘ดูเวทีเดบิวต์แจ้งเกิดของศิลปินกลุ่มหนึ่งอยู่’ ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวของนักร้องนำ และความเป็นตัวเองที่โดดเด่นทำให้คว้าชัยชนะมาได้ กลายเป็นผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวของสนามนี้

ที่สำคัญกรรมการยังให้คำชมแบบไม่มีกั๊ก “ขอบคุณที่กลับมา ภาพลักษณ์ศิลปินชัดมาก นักร้องทำได้ดีและเป็นธรรมชาติมาก” แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังและจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในครั้งนี้ เกิดขึ้นในระยะเพียงไม่ถึงหนึ่งวันเท่านั้น

แซนด์: เมาท์ได้ไหมคะ ตอนที่ พี่ดิว – นพพล (คีย์บอร์ด) ชวนให้มาเป็นนักร้องนำของวง แล้วเราตัดสินใจมา ก็คือพี่ดิวส่งเพลงให้ฟังตอนบ่ายๆ แล้วตอนเย็นวันนั้นก็อัดคลิปส่งประกวดกันเลย

วันที่อัดคลิปเรามีเวลาแค่วันเดียวเพราะเป็นเดดไลน์ส่งคลิปแล้ว และต้องอัดทั้งหมด 2 เพลง แถมบางเพลงก็ยังเรียบเรียงไม่จบดี ด้วยความที่ไปยืมสถานที่ในมหาวิทยาลัยเพื่ออัดคลิป อัดไปอัดมา ปรากฏว่าเพิ่งร้องเพลง พบรักไปได้คำหนึ่ง ตำรวจก็ขึ้นตึกมาบอกว่า พวกเราเสียงดังในยามวิกาลนะครับ จะให้หยุดร้อง พวกเราก็ได้แต่ขอร้องค่ะ ขออัดคลิปเป็นรอบสุดท้าย เพราะว่ามันได้เท่านี้จริงๆ ไม่มีเวลาแล้ว เขาก็โอเค

อะ…ให้รอบสุดท้ายนะ แล้วเขาก็ยืนกอดอกยืนดูพวกเราเลย ก็ต้องร้องไปด้วย เกร็งๆ ไปด้วย แต่โชคดีที่ก่อนหน้านั้นเรามีอัดไปบ้างแล้ว ก็เลยยังพอมีตัวเลือกว่าจะส่งอันที่ดีที่สุด ตอนดูคลิปก็คือทุกคนเล่นไปร้องไป หน้าเหวอสุดๆ คลิปนั้นก็เลยไม่ได้ส่งเข้ามาประกวด เก็บไว้ดูขำๆ กันเอง (หัวเราะ) อ่านเรื่องของวง SANDY คลิกที่นี่

แซนด์: ก็พยายามเป็นตัวเองให้ได้มากที่สุด พยายามคิดว่าเรามาจอยๆ กับน้องๆ พี่ๆ มาสนุกกัน เราเห็นถึงความตั้งใจของวงมาก แล้วเขาก็อุตส่าห์ชวนเรามาร่วมวง ก็ต้องพยายามทำให้เต็มที่ให้เขาเห็นถึงความตั้งใจของเราด้วย อันไหนที่เราช่วยได้เราก็ช่วยกันไป

Thaipower.co’s Note

SANDY…วงป็อปทั้งใจ

แต่ลึกๆ ข้างใน…เป็นคุณครูภาษาไทย

แซนด์: อาชีพจริง คือ คุณครูภาษาไทย
ที่โรงเรียนบ้านโพนสูง อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ค่ะ

แซนด์: ด้วยความที่เป็นคนชอบร้องเพลงมากๆ ค่ะ แต่อาชีพหลักตอนนี้ คือ เป็นคุณครูประถม แต่เรารู้สึกว่ายังอยากร้องเพลงอยู่ ก็เลยรับร้องเพลงกลางคืนไปด้วย มันก็เหมือนตอบโจทย์เรานิดหนึ่งว่า เรายังได้ทำสิ่งที่เราชอบ แต่แซนด์จะร้องเพลงแค่วันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น เพราะว่าวันธรรมดาจะหนักไป ถือเป็นงานเสริม เพราะถ้าจะให้ทิ้งไปเลยก็รู้สึกว่าเสียดายนิดหน่อย ก็เลยตัดสินใจที่ยังร้องเพลงอยู่ในทุกวันนี้ค่ะ

“ต้องอย่าลืมว่าอะไรคือสิ่งที่เราชอบสิ่งที่เรารักที่สุด

และอย่าปล่อยมือจากสิ่งนั้น

เพราะนั่นคือขุมความสุข

ที่จะทำให้เรามีพลังดำเนินชีวิตต่อไปได้ค่ะ”

วง SANDY (อุดรธานี)

แซนด์ วง SANDY

แซนด์: ตัวแซนด์เป็นคนหนึ่งที่มีแพสชันในการร้องเพลงค่อนข้างที่จะสูง พอเราไปทำงานประจำ บางส่วนในตัวเราก็รู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นตัวเอง เราสนุกกับงานนะ แต่ในใจลึกๆ เราก็ยังรักการร้องเพลงอยู่ มันน่าจะพอมีทางที่จะทำให้เราได้แสดงออก ได้ทำในสิ่งที่เรารัก ในสิ่งที่เราแฮปปี

เวที THE POWER BAND เลยเป็นเวทีที่ดีมากๆ สำหรับแซนด์ เพราะเป็นการได้ทำในสิ่งที่รัก แถมยังเหมือนได้จุดไฟในตัวเราอีกครั้งหนึ่ง เพราะนี่คือการแข่งขันไม่เหมือนกับที่เราร้องเพลงตามร้าน รู้สึกได้ย้อนวัย ได้เติมไฟให้ตัวเองอีกครั้งค่ะ

โลกใบที่หนึ่ง: คุณครูอาชีพ…สอนภาษาไทย ลูกศิษย์มากมาย สนุกกับการทำงานที่ชอบ

โลกอีกใบหนึ่ง: นักร้องเสียงอาชีพ เสียงดีและรักการร้องเพลง สนุกกับการทำสิ่งที่รัก

วงประกวด THE POWER BAND 2025 SEASON 5 รุ่นบุคคลทั่วไป สนามภูเก็ต

กับเพลงที่พวกเขาใช้ขึ้นเวทีประกวด มีดังนี้…

• วง22 Days – ภูเก็ตเพลง รถไฟบนฟ้า(D GERRARD) และ เพลง เจ็บน้อยที่สุด (ZEAL)

• วง MOUSOU DIVISION – ภูเก็ต เพลง DAY ONE (PUN) และ เพลง พัง (Indigo)

• วงอรชร – สมุทรปราการ เพลง บันไดสีแดง (HUGO) และ เพลง จงเรียกเธอว่านางพญา (Silly Fools)

• วง SANDY– อุดรธานี เพลง บานปลาย (BOWKYLION) และ เพลง พบรัก (INK WARUNTHORN)