Passion

D Gerrard
ชายผู้กลับไปแก้ไขอดีตในทุกวัน

กฤษณา คชธรรมรัตน์ 13 Nov 2023
Views: 4,803

Summary

ดี เจอร์ราร์ด (D Gerrard) D มาจากนามสกุลดอนกาเบรียล ส่วน Gerrard มาจากชื่อจริงของเขา “ไบรอัน เจอร์ราร์ด อุกฤษ วิลลีย์ บรอด ดอนกาเบรียล” ซึ่งเป็นชื่อที่คุณพ่อชอบเรียก

นอกจากงานเพลง เขายังรับบทนักแสดงในภาพยนตร์เรื่องแรกคือ 4KINGS

กาแล็กซี GALAXY ft. Kob The X Factor เป็นเพลงที่มียอดวิวมากกว่า 237 ล้าน

• เขาเคยร่วมงานกับศิลปินอาร์แอนด์บีชื่อดังจากเกาหลี บอมคีย์ (BUMKEY) ในเพลงCome Back To Me”

ซิงเกิล Paradise Online” เป็นเพลงทีเขียนขึ้นมาในช่วงที่คุณพ่อของเขาป่วยหนักก่อนจะเสียชีวิต กับคำถามว่าคุณพ่อจะพบสรวงสวรรค์ที่ตามหาไหม

เรารู้จัก D Gerrard ครั้งแรกจากเวทีแข่งขันรายการ “ดิ เอ็กซ์ แฟกเตอร์ ไทยแลนด์” (The X Factor Thailand) 2017 กับ “ไม่เหมือนใคร” (Unique) เรารู้จักเขาเพิ่มขึ้นในฐานะศิลปินแถวหน้าของค่าย เวย์เฟอร์   เรคอร์ดส์ (Wayfer Records) ภายในรั้ววอร์นเนอร์ มิวสิก ประเทศไทย เจ้าของเพลง “กาแล็กซี (GALAXY)” ที่ฮิตติดชาร์ตและฮิตมากในการแข่งขัน THE POWER BAND 2023 SEASON 3 ที่หลายวงเลือกเพลงของเขาขึ้นมาโชว์ฝีมือบนเวที (ตัวเขาเองก็ขึ้นโชว์มินิคอนเสิร์ตที่เวทีสนามขอนแก่นด้วย) หนังเรื่อง 4KINGS!! ที่เขาร่วมแสดง ใกล้จะออกฉาย

และเรากำลังจะได้รู้จักเขามากขึ้นไปอีกเลเวลพร้อมกันกับการพูดคุยต่อไปนี้…

 

“ผมอยากให้เพลงไทย ถูกจัดอยู่ชาร์ตของต่างประเทศบ้าง

อยากให้เพลงไทยเป็นมาตรฐานสากลครับ แทนที่เราจะต้องไปตามสากลที่เป็นมาตรฐาน

ผมอยากสร้างจุดยืนให้กับประเทศไทย”

 

Thaipower.co: ถ้าอยากทำความรู้จัก D Gerrard เราควรเริ่มจากเพลงไหนดี

D Gerrard: จริงๆ แล้วเพลงของผมทุกเพลง แทบจะอธิบายเรื่องราวและตัวตนของผมได้ดีมากๆ เลย แต่ละเพลงก็จะเป็นการนำเสนอมิติของดี เจอร์ราร์ดในแต่ละบริบท แต่ถ้าถามว่าเพลงไหนนำเสนอความเป็นดี เจอร์ราร์ดได้มากที่สุด ถ้าในอดีตผมมองว่ามันคือเพลง “ไม่เหมือนใคร”

คุณคงไม่เคยเจอ กับใครต่อใครที่คล้ายผม

เพราะผมไม่เหมือนใคร

That’s what we’re talking about

ขื่นขมตั้งเท่าไร กับพวกผู้ชายเย็นชา

แต่ว่าผมนั้นไม่เหมือนใครเหล่านั้น”

ทุกวันนี้ผมพยายามสร้างบทเพลงที่จะตอบโจทย์นี้ให้ชัดขึ้น นอกจากความไม่เหมือนใครแล้ว สิ่งที่ผมเป็นมันขยายความได้มากกว่านั้นยังไงได้บ้าง พอพูดว่าไม่เหมือนใครก็จะได้คำถามต่อมาว่าไม่เหมือนยังไง เลยได้คำตอบว่า อ๋อเราต้องขยายความเพิ่มเติมด้วย ก็เลยเกิดมาเป็นเพลงต่อๆ มาหลายเพลง

 

ดี เจอร์ราร์ดที่เรา(อาจ)ไม่รู้

• ผมมีความรักอยู่เสมอครับ มันเป็นความรักที่มีความรักต่อทุกๆ อย่าง และผมอยากให้ทุกคนเรียนรู้ที่จะมอบความรักให้กันนะ อยากให้ทุกคนลองมองคนอื่นโดยคิดว่าเป็นตัวเราบ้าง ว่าเขาเป็นยังไงเขาเครียดมาไหม เขารู้สึกยังไงบ้าง บางทีคุณอาจเป็นคนที่ช่วยให้เขายิ้มได้ก็ได้นะ

 

TP: งั้นความเป็นดี เจอร์ราร์ดในขณะนี้คือ…

D Gerrard: ในขณะนี้ ต้องเป็นเพลงที่ชื่อว่า “พาราไดซ์ออนไลน์” ครับผม เป็นเพลงที่เหมือนเป็นหมุดหมายที่ปักไว้ว่า ตอนนี้ ดี เจอร์ราร์ด เป็นอย่างนี้แล้วนะในปัจจุบัน มันเป็นการยกระดับ ให้ภาพที่คุณเคยเห็นหรือได้ยินถูกยกระดับจากสิ่งที่เป็น เหมือนกับว่าผมเคยทำข้าวกะเพรา ตอนนี้ผมก็ไม่ได้ทำเมนูอื่นนะ ผมทำข้าวกะเพราเนื้อวากิว

 

TP: และในแง่มุมหนึ่ง เพลงนี้ยังมีที่มาจากการเสียชีวิตของคุณพ่อ

D Gerrard: ก่อนคุณพ่อจะเสียท่านอยู่ใน Vegetable stage ผมเกิดคำถามในใจว่า คุณพ่อที่หลับเป็นผักอยู่นั้นจะมีความสุขไหม จะได้พบสรวงสวรรค์เหมือนที่คุณพ่อตามหามาตลอดรึเปล่า ด้วยความกังวลนี้ผมเลยคิดว่างั้นเป็นไปได้ไหมที่จะสร้างสรวงสวรรค์สำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ขึ้นมาเพื่อที่จะไม่ต้องมีใครต้องไปรอลุ้นเอาตอนตายอีกว่าจะได้ไปสวรรค์รึเปล่า”

ก็รอยยิ้มของเธอมันช่างดึงดูด

ฉุดให้คิดถึงเพียงแต่เธอ..แม้ยามฟื้นตื่น

(I will miss you)

จะยอมแลกทุกสิ่ง เพื่อให้ค่ำคืนนี้อยู่ชั่วนิจนิรันดร์

จะยอมทิ้งทุกอย่าง แล้วนอนหลับลึกดำดิ่งสู่ภวังค์”

TP: เพลงฮิปฮอปมักนำเสนอดาร์กไซด์ แต่ดูเหมือนคุณเป็นฮิปฮอปที่อยากโชว์ด้านที่สวยงามสว่างไสว

D Gerrard: ในทุกๆ อย่างมันมีทั้งดีทั้งไม่ดี ฮิปฮอปก็มีทั้งดีทั้งไม่ดี แต่มันถูกนำเสนอในด้านดาร์กมาก เลยกลายเป็นภาพติดตา ผมอยากจะให้เห็นด้านดีของมันบ้าง

จริงๆ แล้วโลกสวยงามนะครับ ผู้คนน่ารัก มีความสวยงามในทุกๆ คน เรามีความดีอยู่ในตัวเรา เพียงแต่เราเลือกนำเสนอด้านไม่ดี อาจจะเพราะว่าอารมณ์มันพาไปบ้าง

โลกเราก็เหมือนเพลงฮิปฮอปครับ ถูกนำเสนอในด้านไม่ดีเยอะเกินไป แล้วคนก็คิดว่าสิ่งที่เราทำไม่ดี มันเป็นเรื่องปกติ ถูกมองเป็นแบบนั้นไป ผมมองว่าวันหนึ่งเขาอาจะได้เรียนรู้สิ่งที่ดีกว่าก็ได้ เพราะว่าถ้าเราไม่เคยตกนรก เราจะรู้ได้ยังไงว่าสวรรค์เป็นยังไง ถ้าเราไม่เคยฝันร้าย เราจะตื่นได้ยังไง

และในขณะที่ทุกคนเขาทำแบบดาร์กมาหมดแล้ว ผมทำฮิปฮอปขาวมันเลยดูจะง่ายกว่าด้วยซ้ำ เพราะว่ามันโดดเด่นกว่า ในขณะที่ทุกอย่างมันมืดไปหมดแล้ว

 

ดี เจอร์ราร์ดที่เรา(อาจ)ไม่รู้

• ผมเป็นคนชอบพูดคุย แต่ว่าคนอื่นคิดว่าผมชอบอยู่เงียบๆ

• ผมไม่ค่อยเล่นโซเชียลมีเดีย

• ผมเลี้ยงแมว ที่บ้านตอนนี้จะเลี้ยงตัวหนึ่งสีดำ ชื่ออามาเตราสึ แปลว่าเทพีแห่งดวงอาทิตย์ โดนพระอาทิตย์จนเกรียมเลย

 

TP: คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จหรือยัง

D Gerrard: ถามว่าประสบความสำเร็จไหม เดี๋ยวผมจะอธิบายก่อน ความสำเร็จที่ผมคิด มันยิ่งใหญ่มากครับ แต่ก้าวที่จะเดินไปตรงนั้น มันเกิดจากความสำเร็จเล็กๆ ที่หลอมรวมกันเพื่อให้เกิดความสำเร็จใหญ่

ภาพใหญ่ที่ว่าก็คือ ผมอยากจะให้เพลงไทย ถูกจัดอยู่ชาร์ตของต่างประเทศบ้าง ถูกจัดอยู่ในบิลบอร์ดของอเมริกาบ้าง อยากให้เพลงไทยเป็นมาตรฐานสากลครับ แทนที่เราจะต้องไปตามสากลที่เป็นมาตรฐาน ผมอยากสร้างจุดยืนให้ประเทศไทย เพื่อเป็นคำพูดให้คนรุ่นหลังว่า ครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยอยู่ในจุดที่ทุกคนจะเคารพนับถือในฐานะประเทศที่สร้างผลงานเพลงที่ดีออกมา

ซึ่งถ้าถามว่าที่ผมทำอยู่ ผมคิดว่ามันสำเร็จหรือยัง ถ้าภาพใหญ่ยังไม่สำเร็จ แต่ภาพเล็กที่คนอื่นเห็นว่าสำเร็จก็อาจจะใช่ครับ

 

TP: จากสกอร์เต็ม 10 คุณให้คะแนนชีวิตตัวเองเท่าไร

D Gerrard: โห ชีวิตนี้มีความสุขมากเลยนะ ผมสนุกมากเลย ทั้งสิ่งที่ไม่สวยก็มีความสุข เพราะเรามองหาข้อดีของความไม่สวยเจอแล้ว ว่ามันทำให้เราเห็นว่าเราจะทำสิ่งที่สวยกว่าได้ยังไง

ผมเลยรู้สึกว่าชีวิตต่อจากนี้มันค่อนข้างจะสมบูรณ์ครับ เหมือนกับพระอาทิตย์ฉายแสงลงมาหาผม เอาเป็นว่าช่วงชีวิตของผมที่ผ่านมาก็มีทั้งกลางวันกลางคืนใช่ไหม แต่กลางคืนอาจจะยาวมากหน่อย จนมาถึงช่วงนี้มันเป็นพระอาทิตย์กลับมาอีกครั้งแล้ว เป็นช่วงเช้าที่กำลังจะไปเที่ยง และถ้าไปถึงเที่ยงได้นี่ดีเลย มันก็จะสว่างเจิดจ้าที่สุด ซึ่งมันยากมากเลยที่จะไปตรงนั้น ผมกำลังคิดอยู่ว่าเราก็มีความสุขกับตรงนี้ไปเรื่อยๆ ก็เลยมองว่าตรงนี้มันคือสิบแล้ว  ต่อไปถ้ามันจะดีกว่านี้ก็สิบ และต่อไปถึงมันจะแย่กว่านี้ ผมก็ยังให้สิบอยู่

 

 ดี เจอร์ราร์ดที่เรา(อาจ)ไม่รู้

• ผมชอบฟังคลาสสิกครับ ทำให้ผมอารมณ์ดี คลาสสิกเป็นมารดาแห่งดนตรีทั้งมวล
เพราะว่าดนตรีต่างๆ ที่แตกแขนงมาในยุคปัจจุบันก็ดั้งเดิมมาจากคลาสสิก
เวลาที่ฟังคลาสสิกก็เหมือนมาหาแม่ ผมคิดถึงแม่ครับช่วงนี้ก็เลยฟังคลาสสิกบ่อย

• ผมเพิ่งอ่านเต้าเต๋อจิง หนังสือที่เกี่ยวกับลัทธิเต๋าจบไป
ตอนนี้ผมอ่านหนังสือชื่อว่า “คุณคือพลาซีโบ”

 

TP: ดูคุณเป็นคนมองโลกในแง่ดี

D Gerrard: ตั้งแต่เกิดเลยครับ แต่มันเปลี่ยนตอนผมเห็นความจริงของโลกนี้ว่ามันไม่ได้สวยงามอย่างที่ผมเห็น ทำให้ผมอยากทำโลกนี้ให้สวยขึ้น เหมือนแบบที่มันควรจะเป็น

 

TP: อุปสรรคอะไรที่รู้สึกว่ากว่าจะผ่านมาได้มันยากมาก

D Gerrard: ชีวิตมันคือการพิสูจน์ตัวเองตลอดเวลาครับ ถ้าอยากจะได้รับอะไร เราต้องคู่ควรกับมัน ฉะนั้นถ้าเราไม่พิสูจน์ตัวเอง มันก็ไม่มีความหมาย ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าคุณเก่งมาจากไหน ตัวเราเราจะรู้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นถ้ายิ่งเป็นเรื่องเลวร้ายยิ่งต้องพิสูจน์เลยครับว่ามันไม่จริง ไม่งั้นความชั่วร้ายจะชนะครับ

 

TP: เคยรู้สึกอยากกลับไปแก้ไขอดีตบ้างไหมคะ

D Gerrard: ผมว่าผมกลับไปแก้ไขอดีตตลอดเลยนะ ผมไปในความคิดฮะ เรามีความทรงจำของสิ่งที่เราทำพลาดไปในอดีต มันจะกลับมาเสมอ ถ้าเราไม่เรียนรู้บริบทแค่ต่างกัน ฉะนั้นผมกลับไปแก้ไขอดีตในความทรงจำผม เพื่อให้อนาคตที่จะเกิดสิ่งไม่ดีไม่เกิดขึ้นซ้ำ เพื่อทำให้ปัจจุบันและอนาคตดีขึ้น

 

TP: มีคำพูดหนึ่งว่า ทุกสิ่งบนโลกนี้ล้วนเป็นไปได้

D Gerrard: ผมเชื่อนะครับ อย่างตอนนี้ ที่ผมมานั่งสัมภาษณ์อยู่ตรงนี้ได้ยังไง ถ้าผมไม่ทำในสิ่งที่ผมทำมาแล้วจนมันเป็นไปได้ ถ้าผมไม่ลุกขึ้นมาเล่นกีตาร์ ร้องเพลง เล่นดนตรี พิสูจน์ตัวเองจนมาถึงวันนี้ที่ผมมานั่งสัมภาษณ์อยู่นี้มันจะไม่เกิดขึ้น และถ้าคุณอยากให้เรื่องในอนาคตเป็นไปได้ คุณต้องทำตั้งแต่ตอนนี้ครับ

TP: มีจุดสะดุดหรือมีจุดเปลี่ยนในชีวิตบ้างไหม

D Gerrard: ทุกวันเลยครับ จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นตลอด เพียงแต่เราต้องสังเกตอยู่ตลอด และเมื่อคุณตระหนักในสิ่งต่างๆ จะทำให้เกิดจุดเปลี่ยนขึ้นมาและจุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณตระหนักก็เกิดจากฝันร้าย ความสุขก็ทำให้คนเปลี่ยน ความรักก็ด้วย…เป็นสิ่งที่สวยงามครับ เราเปลี่ยนเป็นคนดีได้เพราะว่าเรารักใครบางคน ก็มีนะ

 

TP: อยากให้คนจดจำคุณอย่างไร

D Gerrard: เป็นเพื่อนที่แสนดีครับ ผมอยากให้บ้านเราเป็นครอบครัวเดียวกัน อยากให้คนได้เห็นว่าทั้งโลกคือครอบครัวเดียวกัน แล้วผมก็เป็นเพื่อนคุณคนหนึ่งเท่านั้นเอง เราชอบคิดว่าครอบครัวเป็นแค่นี้ แค่ที่เรามีอยู่ แต่จริงๆ ครอบครัวคือทั้งโลกนี้ และผมอยากเป็นเพื่อนกับทุกคนครับ

Author

กฤษณา คชธรรมรัตน์

Author

นักเขียนที่ให้ความสนใจกับทุกเรื่องบนโลก อย่างละนิดอย่างละหน่อย บ่อยครั้งจึงวาร์ปไปเขียนเรื่องโน้นเรื่องนี้อย่างสนุกสนาน

Author

อำพน จันทร์ศิริศรี

Photographer

ช่างภาพอิสระมากว่า 30 ปี...ที่คร่ำหวอดกับการถ่ายภาพรายการทีวีต่างๆ เช่น The Voice, The Rapper, The Stars Idol เป็นต้น และถ่ายภาพคอนเสิร์ตต่างๆ