ถ้าถามถึงนักร้องหญิงเสียงดี ชื่อหนึ่งในอันดับแรกๆ ต้องมีเธอคนนี้ “SILVY” ซิลวี่ – ภาวิดา มอริจจิ ศิลปินหญิงสายเลือดไทย-อิตาเลียน เจ้าของเสียงทรงพลังที่เคยคว้าใจผู้ชมจากรายการประกวดร้องเพลงสุดฮิต ทั้ง The Star 7 และ The Voice Thailand Season 6

จากเวทีนั้นทำให้เธอมีโอกาสปล่อยทั้งเพลงตัวเองและเพลงประกอบละครอีกหลายๆ เพลง แต่หลังจากนั้นซิลวี่หายไปพักใหญ่…

กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์รูปลักษณ์ที่แตกต่างจากพิมพ์นิยมของศิลปินหญิงในยุคนี้ของเธอ หลายคนอาจจำได้ว่า ซิลวี่เคยร่วมงานกับเจฟ ซาเตอร์ ศิลปินหนุ่มเสียงละมุน ในเพลง Far คลิกอ่านบทสัมภาษณ์เจฟ

ก่อนที่ซิลวี่จะสร้างเซอร์ไพรส์ กลับมาพร้อมความมั่นกับบทบาทใหม่ ในฐานะศิลปินเดี่ยวคนล่าสุดของค่ายเพลงระดับอินเตอร์ Warner Music Asia เปิดตัวให้แฟนเพลงทั่วโลกได้รู้จัก นักร้องหญิงผู้มีเสียงร้องสไตล์อาร์แอนด์บีสุดเข้มข้น ตัวตนเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ด้วยอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดแรก “SILVY”

ขอบคุณภาพจาก Warner Music Thailand

“ไปทัวร์รอบโลก เป็นอีกหนึ่งอย่างที่อยากทำ ไม่ต้องทัวร์ยิ่งใหญ่

แต่ได้ไปเผยแพร่เพลงของเรา ความเป็นเราที่ต่างประเทศ

อยากไปเล่นคอนเสิร์ต…ไปเฟสติวัลที่นั่นที่นี่ อยากไปอีกหลายประเทศ”

ซิลวี่ – ภาวิดา มอริจจิ
ศิลปินมีผลงานเพลง XL, Queen และ Pretty Girl

เปิดตัวด้วย ‘XL’ เพลงเนื้อหาจี๊ดใจที่เล่าจากประสบการณ์ตัวเอง “อยากให้เพลงนี้เล่าเรื่องของตัวเอง ธีมหลักก็เป็นเรื่องร่างกายของตัวเองในแง่บวก” และแน่นอนที่เพลงนี้สร้างพลังบวกและสั่นสะเทือนหัวใจผู้หญิงทุกไซส์

ซิลวี่ยังส่งต่อพลังแห่งความมั่นใจกับเพลง  ‘Queen’  “เราเป็นพวกรักและเชื่อมั่นในตัวเอง สนับสนุนให้ทุกคนมีอิสระ และ ‘เป็นตัวเอง’ โดยไม่ต้องนอยด์ว่าคนอื่นจะคิดยังไง ‘Queen’ เป็นเพลงสำหรับชุมชนคน LGBTQ+ ก็จริง แต่ก็อยากให้…ทุกคนเลยนะ ร้องและเต้นไปด้วยกัน” ส่วนเพลง “PLS” เล่าถึงความรักที่ใช่ในความรู้สึก ซึ่งมิวสิกวิดีโอนำเสนอผ่านมุมมองความรักของกลุ่มหลากหลายทางเพศ ทำให้เธอเป็นเหมือนตัวแทนของคนหลายกลุ่ม

ซิลวี่ยังทลายกรอบอีกด้านโดยทำเพลงภาษาไทยครั้งแรก ภายใต้สังกัด Warner Music Thailand     ซิงเกิลล่าสุดชื่อ “Pretty Girl (ใกล้เธอ)feat.  Pat Zweed n’ Roll” ที่ว่าด้วยเรื่องราวความรักที่เป็นไปตามความรู้สึกและหัวใจเรียกร้อง กับการอยากอยู่ใกล้ๆ คนบางคน จนยกให้เป็น Pretty Girl ในโลกของเรา

ขอบคุณภาพจาก Warner Music Thailand

ThaipowerCo: ช่วยเล่าถึงเพลง Pretty Girl (ใกล้เธอ) หน่อย

ซิลวี่: แพลนตั้งแต่ต้นปีว่าจะทำเพลงไทย ตอนนั้นเพลงที่ปล่อยล่าสุดเป็นเพลงไทยแล้วรู้สึกอยากกลับมาดูแลแฟนเพลงที่ไทย คอมเมนต์ของผู้ติดตามเราทางช่องทางต่างๆ เป็นคนไทย เลยอยากมีเพลงที่เขาร้องตามได้ที่เขาชอบด้วย ได้เป็นเพลงนี้ซึ่งอินสไปเรชั่นยังคงเกี่ยวกับ LGBT แต่เป็นเพลงช้าแบบแอบชอบใครสักคนข้างเดียว…“แม้ว่าใครจะมองไม่เห็นกัน เธอคือคนเดียวที่ฉันฝัน”

TPco: อยู่ค่ายเพลงอินเตอร์ ซิลวี่อยากปักหมุดตัวเองไว้ที่จุดไหนในวงการเพลงระดับโลก

ซิลวี่: ซิลอยากให้เพลงเราได้ติดท็อปชาร์ต Spotify ระดับโลก อยากไปให้ถึงนะ ตอนนี้ยังเป็นแค่ที่ไทย เราเดินหน้าในไทยให้ฐานมั่นคง แล้วคิดว่าถ้าวันหนึ่งเพลงเราได้ไปนอกไทยแลนด์อย่างจริงๆ จังๆ มันจะดึง opportunity ต่างๆ มา

ไปทัวร์รอบโลก เป็นอีกหนึ่งอย่างที่อยากทำ ไม่ต้องทัวร์ยิ่งใหญ่แต่ได้ไปเผยแพร่เพลงของเรา ความเป็นเราที่ต่างประเทศ ปีที่ผ่านมาได้ไปต่างประเทศเยอะค่ะ ไปนิวยอร์ก…เป็นหนึ่งในตัวแทนศิลปินงาน LGBT ของ Spotify ไปฮ่องกงได้ไปร้องเพลงด้วย อยากทำอะไรอย่างนี้อีกเยอะๆ อยากไปทัวร์ ไปเล่นคอนเสิร์ตที่คนเยอะๆ ไปเฟสติวัลที่นั่นที่นี่ อยากไปอีกหลายประเทศ

Suggestion

คุยกันแบบฟังก์ๆ
กับ “จะไป FUNK” …ของดีจากลำปาง

Passion

เบอร์ลิน สุภัสสรา
พลังเสียงจากหัวใจ สู่ชัยชนะอันยิ่งใหญ่

Passion

ขอบคุณภาพจาก Warner Music Thailand

TPco: คอนเสิร์ตในความฝันที่อยากจะทำเป็นแบบไหน

ซิลวี่: มีฝัน ต้องเรียกว่าฝัน ก็คืออยากจะมีคอนเสิร์ตฮอลล์ใหญ่ๆ คนร้องเพลงเราได้ แน่นอนบนเวทีเราจะต้องขอเปลี่ยนชุดเปลี่ยนลุคเยอะๆ แล้วก็มีผาดโผนขึ้นสลิง ร้องเพลงโชว์ทุกอย่างที่ตัวเองมี ไม่ว่าจะเป็นเพลงช้าเพลงเร็ว เพลงเต้น มีอะไรทำให้หมด เพราะว่าถ้าได้จัดทั้งทีก็ไม่รู้จะได้จัดอีกเมื่อไหร่ ก็เป็นฝันที่อัดให้หมดเลย

แฟชั่นไอเทมที่ซิลวี่ขาดไม่ได้

• ช่วงนี้อินกางเกงเอวต่ำ ความ Y2K มันมาเนอะ

ได้โชว์ ความเอวต่ำ ใส่เสื้อลงมาแล้วมันได้อีกลุค

TPco: ภูมิใจอะไรในตัวเองมากที่สุดตั้งแต่เกิดถึงวันนี้

ซิลวี่: ภูมิใจที่เรายังไม่หมดไฟในการเป็นศิลปิน เพราะมันก็ลุ่มๆ ดอนๆ ขึ้นๆ ลงๆ มาตั้งแต่อายุสิบห้าค่ะ วันนั้นคิดว่าไม่น่าได้เป็นศิลปินแล้ว เราแฮปปีที่จะร้องเพลงแต่มันไม่ใช่แนวเรา

แต่ตอนนี้ภูมิใจที่ตัวเองยังกล้าตอบว่า ฉันอยากเป็นศิลปินระดับโลก เพราะเมื่อห้าปีที่แล้วยังไม่กล้าพูดว่าอยากโกอินเตอร์หรืออยากเป็นอะไรบ้าง เพราะรู้สึกว่าอาจยังทำไม่ได้ แต่วันนี้แน่นอนมีความสงสัยในตัวเองอยู่แล้วแต่ภูมิใจที่เรากล้าพูด ภูมิใจในตัวเองที่แฟนเพลง tag มาว่าฟังเพลงเรานะ

TPco: นอกจากเพลงโดนใจแล้ว ซิลวี่ยังถูกใจแฟนๆ ด้วยเสื้อผ้าและลุคต่างๆ ถ้าให้อธิบายสไตล์ของตัวเองจะอธิบายว่ายังไง

ซิลวี่: ถ้าเป็นคำที่อธิบายแฟชั่นสไตล์ของตัวเองซิลจะไม่มี ซิลมีแค่คำว่า “no rules” ซิลไม่มีกฏเกณฑ์เลย ซิลจะไปสไตล์ไหนก็ได้ วันหนึ่งซิลอยากจะแต่งร็อกขึ้นมาซิลก็ใส่เสื้อหนัง วันหนึ่งซิลจะใส่ Only Jeans Look ก็จะใส่ Body Suit อย่างวันนี้ที่มาเดินมินิรันเวย์ร่วมงานเปิด LCFC x BAN KHAO TAO COLLECTION ก็ใส่ผ้าไทย คือไปได้หมดเลยค่ะ มันคือ  genderless fashion สำหรับซิล มันเป็นเรื่องที่สนุกสนาน เลยไม่ได้มีสไตล์เฉพาะเจาะจง ที่เห็นภาพชัดหน่อยอาจจะเป็นความโป๊ ชอบแต่งตัวโป๊ อย่างวันนี้ใส่เสื้อยืดก็ขอเขาถกขึ้นมาเห็นพุงนิดหน่อย เราชอบให้เห็นทรวดทรง

ขอบคุณภาพจาก Warner Music Thailand

TPco: เหมือนเป็นการบอกความเป็นซิลวี่ในรูปแบบหนึ่ง?

ซิลวี่: คิดว่านะคะ…เป็นสิ่งที่ทำให้เรามั่นใจขึ้นด้วย เราเปิดเนื้อหนังอย่างช่วงเอว มันเสริมให้เราเดินแบบมั่นใจ เดินแบบโมเดลได้ วันนี้มาเดินแบบ ก็รู้สึกว่ามันส่งเสริมเราอะ ถ้าเราไม่ได้ครอปเสื้อก็จะเป็นอีกเวย์หนึ่ง จะเป็นความไม่เปรี้ยวมาก ถ้านึกถึงซิลวี่นึกถึงอะไรก็นึกถึงความเปรี้ยว (แซ่บมาก?) ประมาณนั้นมั้งคะ

TPco: อย่างวันนี้เป็นผ้าไทยอาจไม่ได้ไปทางแซ่บ ซิลวี่ดึงความมั่นใจจากที่ไหนมาใช้

ซิลวี่: ต้องยอมรับว่าซิลไม่ค่อยได้ใส่ผ้าไทยเลย อย่างมากก็คือผ้ามัดย้อมที่เป็นฟิลคล้ายๆ ผ้าบาติก เพราะเป็นคนภูเก็ต ที่ผ่านมาเคยแต่งตัวไทยตอนสมัยเด็กๆ ตอนเรียนตีขิมหรือเรียนรำ แต่พอโตขึ้นมาก็ไม่ค่อยได้ไปทางนั้น แต่วันนี้แต่งไทยให้โมเดิร์น คอลเลกชันเขามีผสมผสานยีน ดูมีความเท่ขึ้น มีความทันสมัยขึ้น เราก็ขอเขา ครอปเสื้อนิดหน่อย แต่ยังคงคอนเซปต์ คิง เพาเวอร์ อยู่ด้วย

แฟชั่นไอเทมที่ซิลวี่ขาดไม่ได้

• ซิลจะไม่ขาดแอ็กเซสซอรี เพราะหลายสไตล์มาก บางวันก็แต่งบอยๆ

ที่ไม่เคยขาดเลยคือต่างหู ไม่ใส่จะรู้สึกมันหน้าโล้นๆ เพราะเราผมสั้นด้วย

TPco: สำหรับซิลวี่แฟชั่นกับดนตรีมันเกี่ยวเนื่องกันยังไง

ซิลวี่: ซิลว่าดนตรีเป็นภาพเหมือนกัน เป็นการเล่าเรื่องเหมือนกัน ฉะนั้นถ้าเรามีดนตรีแบบหนึ่ง แล้วเราแต่งตัวแฟชั่นเพื่อมาซัปพอร์ตสิ่งๆ นั้น ภาพมันก็จะไปด้วยกันซิลว่ามันสืบเนื่องกัน เพราะสมมติซิลร้อง XL แต่ซิลไม่ได้แต่งตัวเปรี้ยววันนั้น คนอาจจะไม่เก็ตแมสเสจ XL ขนาดนั้น ซิลรู้สึกว่ามันเสริมกันค่ะ

TPco: ถ้าได้ทำแฟชั่นโชว์ จะครีเอตเป็นแบบไหน?

ซิลวี่: อยากทำคล้ายๆ ของ Victoria’s Secret ที่แบบว่ามีปีก แล้วมีนางแบบที่ไม่จำเป็นต้องผอมอย่างเดียว ให้ทุกๆ คนได้มาเฉิดฉายในแบบของตัวเอง เป็นโชว์ที่รวมความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องเจนเดอร์ รูปร่าง หรืออะไรก็ตาม เรื่องเสื้อผ้าก็เช่นกัน มันอาจจะดูสเปะสปะ แต่ซิลรู้สึกว่าการที่เราดึงสิ่งสำคัญหรือสิ่งที่มัน stand out จากคนคนหนึ่งมาได้ แล้วเอามารวมกันในจุดๆ นั้น ซิลว่ามันแสดงความยูนีค…เป็นเรื่องที่ควรจะยิ่งผลักดันไปอีก

TPco: ถ้ามีแฟชั่นแบรนด์เป็นของตัวเองอยากจะทำแบรนด์แนวไหน?

ซิลวี่: ช่วงที่หายๆ ไป ซิลไปเป็นแม่ค้าค่ะ เปิดขายลงไอจี ขายเสื้อครอปอย่างเดียวเลย เพราะเราชอบ แต่ไม่ได้กลับไปขายแล้ว

ถ้ามีก็คิดว่าคงจะเป็นการนำเสนอความ Feminine Energy เยอะๆ หน่อย ไม่ต้องกลัวว่าจะใส่เสื้อกล้ามไม่ได้เพราะแขนใหญ่ หรือว่าใส่ขาสั้นไม่ได้เพราะขาใหญ่ แล้วก็อยากทำกางเกงยีนสำหรับคนที่ขาหรือสะโพกใหญ่ เพราะว่ามีปัญหานี้ เอ…บางทีเราใส่สะโพกกับขาพอดีแต่เอวหลวม อยากเปิดแบรนด์ที่คนสามารถ customize ได้ให้เป็นแบบเราเอง อันนี้พูดแบบฝันๆ นะคะ ไม่รู้จะทำจริงได้หรือเปล่า อยากให้คนที่มีรูปร่างไม่เป็นไปตามนอร์มเขาได้ใส่แล้วรู้สึกมั่นใจแล้วก็สวย

TPco: ยังมีอะไรอยากจะทำอีกไหมคะ?

ซิลวี่: น่าจะเป็นเรื่องรอยสักมั้งคะเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ คิดว่าเรื่องเจาะน่าจะไม่มีแล้ว ซิลชอบรอยสักที่ทำเป็นคำในภาษาอิตาเลียน แปลว่า “I’m still learning” คอยเตือนตัวเองว่าไม่ต้องกังวลเพราะว่าเราเรียนรู้ได้เสมอ ผิดก็เริ่มใหม่ ผิดก็เริ่มใหม่