Playground

THE POWER BAND 2025 SEASON 5 x FAI NGERN FAI THONG
เสื้อมัดย้อมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งดนตรี

ภิรญา นริศชาติ 2 Jun 2025
Views: 526

Summary

เวที THE POWER BAND กลับมาพร้อมกับพลังดนตรี…พลังแห่งความเป็นได้ใหม่ๆ ที่เติมเต็มความฝัน ไม่เฉพาะกับเหล่าผู้เข้าประกวด แต่ยังรวมไปถึง “ฝ้ายเงินฝ้ายทอง” ตัวแทนชุมชนม้งแห่งบ้านป่ากลาง จ.น่าน ผู้อยู่เบื้องหลังงานฝีมือมัดย้อมของเสื้อสวยคอลเลกชันล่าสุดแบบลิมิเต็ดเพื่อเวทีนี้โดยเฉพาะ ดนตรีกับเสื้อมัดย้อมเป็นไปได้อย่างไร ไปติดตามกัน

เข้าสู่ปีที่ 5 แล้วสำหรับ THE POWER BAND 2025 เวทีประลองความสามารถทางดนตรีเพื่อค้นหาคนรุ่นใหม่สู่การเป็นศิลปินมืออาชีพ โดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย และวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

สิ่งหนึ่งที่จะช่วยบันทึกและเป็นสีสันเพิ่มเติมให้กับบรรยากาศการประกวดครั้งนี้ ต้องยกให้ “สีคราม” จากเสื้อที-เชิ้ตคอลเลกชันล่าสุดเพื่อซีซันนี้เท่านั้น ติดตามรายละเอียดการแข่งขันได้ที่นี่

ผลงานความทุ่มเทจาก ฝ้ายเงินฝ้ายทอง โดย ชง – อรทัย อินรัง ผู้นำผ้าเขียนเทียนซึ่งเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของชนเผ่าม้งมาใช้สร้างสรรค์คอลเลกชันจากผ้าลวดลายพิเศษไม่เหมือนใคร แล้วพาผลงานออกจากบ้านป่ากลาง อ.ปัว จ.น่าน ไปให้ชาวโลกได้รู้จัก

ภาพโดย ภูมิ นริศชาติ

ในวันที่เมืองน่านกำลังได้รับการผลักดันให้เป็นเมืองมรดกโลกแห่งใหม่ต่อไปจากการส่งองค์การยูเนสโกพิจารณา พื้นที่การทำงานฝีมือผ้าของฝ้ายเงินฝ้ายทองเลือกที่จะมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับตัวเอง จากที่เคยทำผ้าฝ้ายย้อมลายเขียนเทียนก้าวมาสู่การทำผ้ามัดย้อมคราม และยังกระจายงานต่อให้คนในชุมชนมาร่วมด้วยช่วยกัน ฝ้ายเงินฝ้ายทองได้เรียนรู้โอกาสใหม่ ได้ประสบการณ์จากความท้าทายในการสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่คุ้นเคย และยังได้ปัดฝุ่นความฝันดั้งเดิมที่เคยมี…จากโปรเจกต์นี้

 

ปรับเปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า

เราเริ่มต้นบทสนทนาด้วยการอัปเดตจากที่เคยคุยกันครั้งก่อน คุณอรทัยบอกว่า ผ่านไปเกือบปี  เธอยังคงเรียนรู้และส่งผลงานเข้าประกวดต่อไป อ่านเรื่องของ อรทัย อินรัง กับการทำฝ้ายเงินฝ้ายทองได้ที่นี่

แต่ล่าสุด ฝ้ายเงินฝ้ายทองไปวิ่งออกร้านหาตลาดน้อยลง หันมาทุ่มเทเวลาทำผลิตภัณฑ์ที่จะกลายร่างเป็นเสื้อ THE POWER BAND Limited Edition สำหรับปีนี้อย่างตั้งใจที่สุด ได้สร้างพื้นที่โรงงานเล็กๆ แห่งใหม่ในบริเวณพื้นที่เดิมของบ้านที่ใช้ทำผลงานของฝ้ายเงินฝ้ายทองเพื่อเสริมความตั้งใจที่จะให้คนทำงานได้อยู่กับชุมชน บอกกับชาวบ้านทั้งชาวไทยและชาวม้งในชุมชนว่า “พวกเขาจะได้ทำงานที่อยู่บ้านกับครอบครัว และยังได้ทำอาชีพที่เป็นงานภูมิปัญญา”

นอกจากนั้นอีกสิ่งใหม่ที่ ฝ้ายเงินฝ้ายทอง ริเริ่มด้วยได้แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งจากโอกาสที่ได้ทำเสื้อ THE POWER BAND ในครั้งนี้ คือการเริ่มจัดเวิร์กช็อปผ้าเขียนเทียนโดยชาวม้ง ถ่ายทอดความภูมิใจของภูมิปัญญาของชุมชนที่ทำงานฝีมือนี้มาด้วยกัน เธอเล่าให้ Thaipower.co ฟังว่า…เหนื่อยน้อยลง ได้โอกาสสร้างสรรค์ผลงานมากขึ้น พร้อมกับมีเวลาอยู่กับชุมชนมากขึ้นด้วย

 

ทำผ้ามัดย้อม จากความถนัดทำผ้าเขียนเทียน

โอกาสมาต้องคว้าไว้

จากการทำผ้าเขียนเทียนมาเป็นผ้ามัดย้อมคราม ตอนที่ คิง เพาเวอร์ ติดต่อมาให้ทำเสื้อมัดย้อมในครั้งนี้ เธอเล่าให้ฟังว่าตอบรับในทันที แม้ว่าความถนัดของฝ้ายเงินฝ้ายทองนั้นคือการเขียนเทียนแล้วย้อมครามลงบนผ้าฝ้าย แต่ความรู้ดั้งเดิมที่ไม่เคยหยิบมาใช้นานแล้วคือการย้อมครามนี่เอง “ดีใจที่ คิง เพาเวอร์ ติดต่อมา นั่นอาจแสดงว่าผลงานของเราอาจจะอยู่ในสายตาของเขาแล้ว…รู้สึกดีใจและหนักใจไปด้วยในคราวเดียว เมื่อ คิง เพาเวอร์ มอบโอกาสให้ยังไงก็ต้องทำ โอกาสมาแล้วต้องคว้าไว้แม้ไม่ได้กำไรก็ต้องทำ…เพราะคิดว่า ‘ขาดทุนคือกำไร’ อย่างไรก็จะได้ความรู้ใหม่ ได้อาชีพใหม่ นี่ล่ะคือกำไรแล้ว

เธอจึงคว้าโอกาสนั้นด้วยความมั่นใจและพร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ แม้ว่าหนึ่งในทีมงานชาวม้งมือย้อมขาประจำยังบอกว่ายาก “ถึงจะยาก แต่คิดว่าทำได้” เพราะไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้…เธอสารภาพอย่างจริงใจ

 

ฟังเพลงอะไร?

ตอนฝ้ายเงินฝ้ายทองสร้างผลงาน

“ฟังทุกแนวเลย พี่ชอบนักร้องฝรั่ง…ชอบดนตรี”

โดย ภูมิ นริศชาติ

“ย้อม” ครามให้ผ้าขาว

แน่นอนว่าการย้อมสีไปพร้อมกับทำให้เกิดลวดลายนั้นไม่ง่ายเลย ต้องมัดและย้อมอย่างน้อย 3 รอบ แต่ละรอบใช้เวลาไม่น้อยกว่าจะได้ทั้งสีครามและลายผ้ามัดย้อม…ที่ลงตัว ฝ้ายเงินฝ้ายทองได้รับโจทย์จากทีมโครงการ THE POWER BAND ให้ทำเสื้อที-เชิ้ตมัดย้อมครามจำนวนหลายร้อยจนถึงหลักพันตัว ซึ่งยังไม่เคยทำผลงานในจำนวนมากเช่นนี้มาก่อนและต้องยอมรับเลยว่า ฝ้ายเงินฝ้ายทองใช้ทั้งความตั้งใจและความพยายามอย่างมากในการมัดย้อมสีและลายสวยงามให้กับเสื้ออย่างสุดฝีมือ

เต๋า เศรษฐพงศ์ พาไปชมการทำเสื้อ THE POWER BAND 2025
ในรายการผจญไทยทาง YouTube: Kingpower Thaipower พลังคนไทย

แถมยังนับเป็นการลองผิดลองถูก ทำการทดลองหลายวิธีกว่าจะได้ผลลัพธ์เป็นที่พอใจ ประสบการณ์ท้าทายแรกคือ เนื้อผ้าซึ่งเป็นเสื้อผ้ายืดตัดเย็บเป็นเสื้อสำเร็จย้อมติดสีได้ยากกว่าการย้อมสีผลิตภัณฑ์ผ้าของฝ้ายเงินฝ้ายทอง ที่เป็นผ้าฝ้ายทอและย้อมก่อนการตัดเย็บ จึงลองเพิ่มขั้นตอนการแช่ผ้าก่อนทำการย้อมสีเพื่อล้างสารเคลือบผ้าออก และใช้ครามวิทยาศาสตร์เป็นตัวช่วยให้ทันในเวลาที่มีจำกัด

ภาพจาก FAI NGERN FAI THONG

ความยากยังอยู่ที่ต้องย้อม ‘ผ้าหมาด’ พอเหมาะ เพื่อมาเริ่มต้นกระบวนการมัดย้อม วิธีการมัดผ้าก่อนย้อมสียังมีผลต่อลวดลายที่จะเกิดขึ้นหลังการย้อม เมื่อเลือกตำแหน่งมัดได้แล้วจะค่อยๆ ขยุ้มเสื้อเข้าหากันทีละน้อย มัดด้วยหนังยางให้ไม่แน่นหรือหลวมจนเกินไป…เพราะส่วนนี้เองที่จะทำให้เกิดลวดลาย แล้วค่อยนำไปลงบ่อครามให้สีฟ้าครามค่อยๆ ซึมเข้าสู่เสื้อให้เต็มที่แล้วจึงเอายางรัดไว้ออกรอจนหมาด แล้วนำลงบ่อครามอีกครั้งเพื่อให้ส่วนที่ถูกมัดได้ดูดซึมสีด้วย

หากสีย้อมที่ได้ยังเข้มไม่ถูกใจจะเอากลับไปลงบ่ออีกครั้ง ตากให้แห้ง ซักด้วยน้ำสะอาดแล้วขยี้เบาๆ แช่ใช้เวลาในน้ำยากันสีตก ก่อนจะตากให้แห้ง รีด และพับให้เรียบร้อยก่อนจะนำส่งต่อไปสกรีนข้อความ ขั้นตอนแล้วขั้นตอนเล่า…อย่างใจเย็นและจดจ่อ แน่นอนว่าทำทุกขั้นตอนอย่างเบามือด้วยความทะนุถนอมที่จะไม่ให้เสื้อยืดผ้าย้วยคอย้วยระหว่างการมัดย้อม

 

“มัด” ผ้า สร้างลวดลายจากหัวใจ

เสื้อสีครามเข้มถูกแซมบางๆ ด้วยลายเส้นสีฟ้าอ่อนทำให้ผ้าพื้นของเสื้อยืดดูมีมิติ บางคนอาจเรียก ‘ลายหินแตก’ ตามลักษณะที่เห็น แต่สำหรับฝ้ายเงินฝ้ายทองขอเรียกว่า ‘ลายก้อนเมฆ’

“เสน่ห์ของผ้ามัดย้อมคือ เรากำหนดลายไม่ได้ ลายจะออกมาแบบไหนอยู่ที่เทคนิคและจินตนาการของคนมัดในแต่ละครั้ง… และเพราะเสื้อไม่ได้ทำมาเพื่อนักท่องเที่ยวแบบที่เราคุ้นเคย แต่ทำมาเพื่อคนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจด้านดนตรี อยากให้เขาประทับใจ ภูมิใจ ใครเห็นเขาใส่ก็จะอยากใส่ตามไปด้วย” ดังนั้นคุณอรทัยจึงให้คุณจอย ผู้เป็นลูกสาวและเด็กชาวม้งในชุมชน ซึ่งมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับกลุ่มผู้เข้าประกวดทำการ “QC” ผลงาน เป็นอันดับสุดท้าย…หากดูแล้วยังไม่สวยถูกใจ เสื้อจะถูกนำกลับไปซ่อมสีซ้ำอีกรอบ

 

ดนตรีแบบไหน?

อยู่ในแรงบันดาลใจ

สร้างผลงานของฝ้ายเงินฝ้ายทอง

ลูกสาวของเธอชอบ Tayler Swift
ส่วนตัวคุณอรทัยชอบ Dua Lipa และเพิ่งได้ไปคอนเสิร์ตล่าสุดมา
Dua เป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน
“ดนตรีของเขาเร้าใจ มีพลังเหมือนดนตรี
ของน้องๆ ที่จะมาประกวดนั่นแหละ”
ซึ่งล่าสุดผลงานที่ส่งประกวด
คือชุด “ดอกไม้ระบายดอย”
ใช้เศษผ้าที่เหลือจากการผลิตมาขดเป็นดอกไม้
ที่ชุดและเครื่องประดับ

โดย ภูมิ นริศชาติ

 

ทำความเข้าใจโจทย์ หาวิธีที่ลงตัว

การทำงานของฝ้ายเงินฝ้ายทองร่วมกับทั้งคนไทยและคนม้งในชุมชนบ้านป่ากลางยังคงค่อยเป็นค่อยไป ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการทำงานที่บ้าน และไม่อยากทำงานที่ตัวเองไม่ถนัด อาจเพราะการมัดย้อมต่างจากการย้อมผ้าเขียนเทียน ความกังวลใจจึงมีมากกว่า คุณอรทัยเองก็ต้องการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานผลงานให้มีมาตรฐานเดียวกันทุกตัว เธอตัดสินใจลงมือทดลองทำผลงานด้วยตัวเองก่อน จนลงตัวแล้วจึงสอนต่อ โดยมีชาวม้งบางส่วนยินดีมาช่วยงานที่โรงงาน “ถ้าเราทำดี ก็จะมีงานมาอีก ไม่อยากให้เขาไปเหนื่อยทำไร่ทำสวน”

 

พลังแห่งดนตรี…อยู่ในเสื้อทุกตัว

Music Creates More Possibilities” คือข้อความบนอกเสื้อและเป็นธีมงานในปีนี้พลังดนตรีเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด “ดนตรีคือจังหวะ กระตุ้นให้เราทำงาน พี่ชอบทำงานกับเสียงเพลง มันยิ่งทำให้เราครีเอตงานได้ เพลิดเพลินไปทั้งวัน ทำไปก็นึกถึงน้องๆ ที่เล่นดนตรีไปด้วย เขาซ้อมมาหนักและตั้งใจสูง ถ้าเสื้อของเราส่งพลังให้เขามั่นใจขึ้นก็น่าจะดี พี่เป็นคนชอบการประกวดอยู่แล้ว นึกถึงความฮึกเหิมของการประกวดไปด้วย นึกถึงเขาใส่เสื้อที่เราทำ เป็นกำลังใจสำหรับเรา ทำให้เรามีพลัง ทุกครั้งที่ทำงานให้กับ คิง เพาเวอร์ จะรู้สึกถึงพลัง มีกำลังใจที่จะทำงานต่อไป”

สิ่งที่ได้จากการทำโปรเจกต์นี้ร่วมกับ THE POWER BAND คุณอรทัยตอบด้วยแววตามุ่งมั่นเต็มไปด้วยความหวังว่า เหมือนได้กลับไปหยิบเอาความฝันครั้งเก่ามาปัดฝุ่นอีกครั้ง เพราะเดิมฝ้ายเงินฝ้ายทองเคยทำผ้ามัดย้อมผสมกับเขียนเทียนมาตั้งแต่คอลเลกชัน “ฟองคราม” ที่นำไปประกวดได้รับรางวัล ครั้งนั้นเคยมีผู้น่าเชื่อถือในวงการผ้าทักว่าผ้ามัดย้อมในตอนนั้นกำลังจะตกเทรนด์ เธอจึงตัดสินใจทิ้งการทำผ้ามัดย้อมไปด้วยความรู้สึกเสียความมั่นใจ จนโปรเจกต์นี้ทำให้เธอมีแรงบันดาลใจที่จะกลับมาสร้างสรรค์ผ้ามัดย้อมอีกครั้ง

แน่นอนว่าเราจะได้เห็นผ้ามัดย้อมสไตล์ฝ้ายเงินฝ้ายทอง เธอบอกว่าจะนำความรู้ครั้งนี้ไปต่อยอดผลงานใหม่ๆ และทำผ้าเป็นของตัวเอง ผ้าพื้นที่เป็นเอกลักษณ์ใหม่ของฝ้ายเงินฝ้ายทอง ลวดลายไม่ซ้ำใคร ให้เราได้ชมกันอีกต่อไปในเร็วๆ นี้

 

ฝ้ายเงินฝ้ายทอง (FAI NGERN FAI THONG)

ที่ตั้ง: 167 หมู่ 1 บ้านน้ำเปิน ต.ป่ากลาง อ.ปัว จ.น่าน 55120

 

ปักหมุดจุดเช็กอิน–แชะรูป-ท่องเที่ยวใกล้เคียง

• โรงบ่มปัว คาเฟ่ แอนด์ อีทเทอรี่คาเฟ่ที่ปรับเปลี่ยนมาจากโรงบ่มใบยาสูบเก่าแก่ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอาคารทรงสูงของโรงบ่มเรียงรายเป็นทิวแถวให้ถ่ายรูปอยู่หลายจุด พร้อมกับเรียนรู้วัฒนธรรมยาสูบ ยาเส้นของทางเหนือไปด้วยในตัว

• Cocoa Valleyรีสอร์ตและคาเฟ่ สำหรับโกโก้และช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ ที่นี่ปลูกและแปรรูปโกโก้จบในที่เดียว สามารถเยี่ยมชมขั้นตอนการผลิตตั้งแต่ต้นจนออกมาเป็นเครื่องดื่มและขนมเบเกอรีได้อีกด้วย

• วัดร้องแงวัดเก่าแก่ศิลปะไทลื้อ ได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะ สถาปัตยกรรมดีเด่น งดงามด้วยลายคำบนเสาวิหาร ชมจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างพื้นบ้าน และธรรมาสน์โบราณของล้านนา

Author

ภิรญา นริศชาติ

Author

นักเขียนอิสระที่โตมากับนวนิยายของแก้วเก้า ยังคงจดบันทึกลงสมุด และทำงานกล่องดนตรีที่รัก เพราะเชื่อว่าแรงบันดาลใจสำคัญพอๆ กับจินตนาการ

Web Editor

ปิ่นอนงค์ วัชรปาณ

Web Editor

บรรณาธิการเว็บ Thaipower.co อดีตบรรณาธิการบางสำนัก นักข่าวและคอลัมนิสต์จำเป็น โกสต์ไรเตอร์...ผู้รักการเดินทาง หลงใหลกลิ่นกาแฟ และเป็นมูฟวีเลิฟเวอร์

Author

ภูมิ นริศชาติ

Photographer

อดีตรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตที่จับกล้องมากกว่าจับปากกา เป็นช่างภาพอิสระตั้งแต่ยุคฟิล์มและแมกกาซีนรุ่งเรืองในขีดสุด