Summary
คุยกับ ‘เจ๊ดำ’ เจ้าของช่อง jdumofficial ผ่านบทบาทของการเป็นพิธีกร นักพากย์กีฬา อินฟลูฯ และนักร้อง! …บนเส้นทางที่ล้มมากกว่าลุก แต่ดันสนุก! มากกว่าเศร้า หลายคนอาจจะรู้จักผลงานของเจ๊ดำผ่านช่องทางต่างๆ มาแล้ว…แต่บทความนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักตัวตนของเขาคนนี้ทุกแง่มุมกันเลย เริ่ม!
เด็กที่ชอบเตะบอลร้อยทั้งร้อยอาจเคยฝันอยากเป็น ‘นักฟุตบอล’ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เด็กชายดำ หรือแฟนฟุตบอลในโลกออนไลน์รู้จักกันดีในชื่อ ‘เจ๊ดำ – ศุภชัย หนุมาศ’ ฝัน
เขาไม่เคยฝันเห็นตัวเองเลี้ยงบอลรอบสนาม ภาพที่ชัดกว่าคือการถือไมค์ในฐานะผู้ประกาศข่าวกีฬา หรือไม่ก็นั่งอยู่หลังจอสวมบทผู้บรรยายฟุตบอล โดยมี ย.โย่ง เอกชัย นพจินดา ตำนานนักพากย์กีฬา ผู้ประกาศข่าว และคอลัมนิสต์เบอร์หนึ่งของไทยเป็นไอดอล
ขอบคุณภาพจากเจ๊ดำและเพจ jdumofficial
“ถามว่าเคยอยากเป็นนักฟุตบอลไหม…ก็มีบ้าง แต่ดูทรงไม่น่าได้ (หัวเราะ) นักข่าวฟุตบอลหรือผู้บรรยายกีฬาน่าจะใช่ทางมากกว่า ไอ้เราตอนเด็กๆ ก็ชอบเล่นเป็นผู้ประกาศข่าวซะด้วย เวลาอยู่บ้านคนเดียว นั่งดูบอลจะปิดเสียงแล้วบรรยายตาม ทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่”
อยากอยู่หน้ากล้อง เลือกพูดมากกว่าวิ่ง ทรงนี้เด็กมั่น พูดเก่งแน่ๆ แต่เปล่าเลย! “เจ๊ขี้อายมาก ถ้าดูรูปตอนเด็กๆ จะเห็นเจ๊อยู่ขอบๆ เฟรม อยู่บ้านก็พูดน้อย ขลุกอยู่กับหนังสือ ไม่ก็เตะบอลกับเพื่อน ไม่ค่อยมั่นใจว่าพูดแล้วจะมีคนฟัง เริ่มมั่นใจมากขึ้นน่าจะช่วงมัธยม เป็นช่วงที่รู้เรื่องฟุตบอลเยอะขึ้น เลยมีเรื่องไปคุยกับเพื่อนได้ แต่ก็ไม่ถึงกับมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในการเป็นนักพากย์บอล มั่นใจเรื่องเดียวคือ เราชอบมัน”
เจ๊ดำชอบถึงขั้นพกสมุดหนึ่งเล่มไว้จดเรื่องที่สนใจ “ใครเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก นัดชิงใครเจอกับใคร ใครทำประตูได้ จดทุกอย่างที่สนใจ เลยจำข้อมูลได้แม่น อีกอย่างยุคนั้นดูบอลตามอัตภาพ ถ้าถ่ายทอดสดช่อง 3 5 7 9 ก็จะได้ดู บางแมตช์ต้องดูผ่านกล่อง UBC เงินไม่มีก็ดูไม่ได้ ทำให้ชอบอ่านสตาร์ซอคเกอร์มาก ไม่ก็อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ฟุตบอลในห้องสมุดไปเลย”
ขอบคุณภาพจากเจ๊ดำและเพจ jdumofficial
“โฟกัสแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า โฟกัสกับวันนี้ ต้องทำให้ดีที่สุด
หลังจากนี้จะเป็นยังไงให้คนดูตัดสิน
เรามีหน้าที่ทำงานของเราให้ดีที่สุด”
เจ๊ดำ – ศุภชัย หนุมาศ
อินฟลูฯ ช่อง jdumofficial, เฟรนด์บอล Leicester City
เตรียมความพร้อม…ชิมลางสนามซ้อม
พอเริ่มเห็นทาง ก็เริ่มกำหนดทิศและแผนการเพื่อพิชิตฝัน เจ๊ดำบอกว่าทักษะแรกที่ต้องมีเพื่อเตรียมเป็นผู้ประกาศข่าวกีฬาที่ดีคือ ‘ภาษาอังกฤษ’ เขาจึงเลือกแผนการเรียน Bell English Program ซึ่งเป็นแผนการเรียนการสอนที่โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ร่วมกับ Bell Educational Services ประเทศอังกฤษ สอนโดยครูจากอังกฤษ จบมัธยมปลายก็ไปเข้าเอแบค คณะนิเทศศาสตร์
ขอบคุณภาพจากเจ๊ดำและเพจ jdumofficial
“เจ๊เรียนไม่จบมหาวิทยาลัย ด้วยปัญหาทางบ้าน แต่แพสชันเรื่องฟุตบอลไม่จบนะ ตอนนั้นทางเดียวที่จะพาตัวเองเข้าใกล้ความฝันได้คือต้องเข้าไปอยู่ในสยามกีฬาให้ได้ พอเขาเปิดรับตำแหน่งผู้สื่อข่าวสายต่างประเทศก็ลุยเลย เพราะถ้าได้ทำมีโอกาสไปประจำที่อังกฤษ 2 ปี เจ๊เป็น 1 ใน 200 กว่าคนที่ได้รับเลือก”
“แต่ทำไม่ถึง 10 วันก็ลาออก ด้วยความที่เรายังไม่พร้อมในหลายๆ ด้าน และปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เราไม่เหมาะ ทั้งการเดินทางจากบ้านพระราม 2 มาทำงานที่รามอินทรา ต้องเข้างาน 2 ทุ่ม เลิกตี 5 ก็เลยต้องทิ้งความฝันนั้นไป”
สำหรับเจ๊ดำถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะมันตอกย้ำให้เขาเชื่อว่า เขาเดินมาถูกทาง “ที่ไหนเปิดรับผู้ประกาศ ผู้บรรยาย หรืองานด้านกีฬาก็ไปสมัคร ระหว่างที่นั้นเจ๊ก็ทำงานอื่นไปด้วย ทำทุกอย่างที่จะเอาชีวิตรอด เก็บของเก่าขาย ช่วยที่บ้านขายอาหาร ไปช่วยพี่สาวนำเข้าอะไหล่เครื่องจักร คลินิกเสริมความงามของเพื่อนก็เคยไปทำ แต่ที่ยังทำมาจนถึงตอนนี้คือ วงดนตรี”
Thaipower.co: ช่วยอธิบายตัวตนเจ๊ดำสั้นๆ
เจ๊ดำ: คนกระจอกที่ไม่เคยยอมแพ้ในสิ่งที่รัก
ให้ฟุตบอลเลี้ยงชีพ ให้ดนตรีเลี้ยงจิตวิญญาณ
“ดนตรีและกีฬา คือสองสิ่งในชีวิตที่เจ๊มีแพสชันกับมันมากๆ ชอบดนตรีเพราะสนุก เวลานั่งเล่นกีตาร์ร้องเพลงในวงเหล้า ซ้อมดนตรีกับเพื่อน เล่นดนตรีกลางคืน ทั้งหมดนี้เราทำเพราะความสนุก แต่ความสนุกอย่างเดียวมันไม่พอที่จะก้าวไปเป็นมืออาชีพหรือเลี้ยงชีพได้ โชคดีที่เพื่อนในวงเก่งและเขาให้โอกาส จากเล่นดนตรีกลางคืนสุดท้ายก็ได้ออกซิงเกิลเพลง ‘คนตัวเล็ก’ กับ ‘ที่ใดมีรัก’ ในชื่อวง Romantic Comedies”
หรือถ้ากำลังสงสัยว่าเพลง ‘รักเก่าเศร้าใหม่’ กับ ‘พ่อบ้านใจกล้า’ ของวง Get Well Soul ก็เจ๊ใช่แมะ?!
“ใช่เลยเจ๊เอง ย้ายมาอยู่ค่าย FLYWAY Entertainment กับพี่แม็ค ศรัณย์ ก็เปลี่ยนชื่อวงเป็น Get Well Soul ตอนนี้ออกไปแล้ว 2 ซิงเกิล และมีอีกเรื่อยๆ ตั้งใจจะปล่อยปีละเพลงสองเพลง”
“สำหรับเจ๊ดนตรีคือความสนุก เราก็ยังคงทำมันต่อไป แต่ฟุตบอลมันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น เพราะในทุกช่วงเวลาที่เราทำงานอื่นๆ ฟุตบอลมันยังวนเวียนอยู่ในชีวิตตลอด”
ขอบคุณภาพจากเจ๊ดำและเพจ jdumofficial
Thaipower.co: นักดนตรีหรือนักร้องที่อยากฟีเจอริ่ง
เจ๊ดำ: ตูน บอดี้สแลม
เป้าหมายเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือ ‘ความรับผิดชอบ’
เจ๊ดำบอกว่า ‘jdumofficial’ เริ่มต้นมาจากความชอบเพียวๆ และอยากให้แฟนช่องได้รู้จักตัวตนของเจ๊มากที่สุด ก่อนหน้านั้นเจ๊ดำเคยได้ทำงานที่รักครั้งแรกแบบฝันที่เป็นจริงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พบกับความผิดหวังมาก่อน เพราะหลังเตรียมความพร้อมมาหลายปี โอกาสลงสนามจริงก็มาถึง เมื่อผู้ให้บริการกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียมดิจิตอลเจ้าหนึ่ง ซื้อลิขสิทธิ์ช่อง MUTV (เอ็มยูทีวี) ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมา และเจ๊ดำก็ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 8 ทีมงาน
“จำได้ว่าการทำงานทุกวันคือความสุข ได้แปลข่าว บรรยายกีฬา เป็นช่วงเวลาที่ดีมาก จนกระทั่ง ผู้บริการกล่องเจ้านั้นหมดสัญญาแล้วมีอีกช่องมาซื้อต่อ แต่เราไม่ได้ไปต่อ โชดดีที่ พี่เจด (เจษฎา ศรีวิเศษ) มาชวนให้ไปเป็นคู่พากย์ฟุตบอลไทยลีก ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้กลับเข้าสู่วงการอีกรอบ และต่อยอดไปทำรายการ ‘ฟุตบอลโฟกัส’ ที่ช่อง 5 และจัดรายการ Football online ที่ FM 99 จนกระทั่งปี 2018 ก็เริ่มทำช่อง ‘jdumofficial’ วันนี้เป้าหมายก็เหมือนเดิม คืออยากให้มันเป็นพื้นที่ของคนที่มีความชอบเหมือนกันมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน สิ่งที่เพิ่มเข้ามาน่าจะเป็นความรับผิดชอบ ด้วยความที่ช่องมันโตขึ้น ความรับผิดชอบก็โตตาม ต้องรับผิดชอบต่อทีมงาน ต่อคนดู ต่อตัวเอง”
ขอบคุณภาพจากเจ๊ดำและเพจ jdumofficial
“เจ๊คิดว่าประสบการณ์ของเรามีส่วนอย่างมากที่ทำให้ช่องมีเอกลักษณ์ เพราะเจ๊ดูฟุตบอลและศึกษามานาน ไหนจะประสบการณ์การทำงานทำให้รู้ว่าเรื่องอะไรที่ควรพูด ไม่ควรพูด โดยเฉพาะการทำงานยุคโซเชียล คุณต้องรับผิดชอบทุกคำพูดให้ได้ ดังนั้น ใครไม่จริง อยู่ไม่นาน ใครจริง จะอยู่ได้”
สลับหมวก ‘นักพากย์’ กับ ‘เจ้าของช่อง’
นอกจากเป็น ‘เจ้าของช่อง’ โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ ที่สร้างสรรค์ content หลากหลายมาเสิร์ฟ ปัจจุบันเจ๊ดำยังสวมหมวกเป็นผู้บรรยายฟุตบอลให้กับช่องยูทูบ BG SPORTS เราอดถามไม่ได้ว่าสลับอารมณ์อย่างไร มีเผลอหลุดความเจ๊ระหว่างทำงานหรือไม่?
“โชคดีที่ทาง BG SPORTS ให้อิสระเราเต็มที่ จะใส่ลูกล่อ ลูกชน มีมุกอะไรก็ได้ตามสไตล์แต่ต้องอยู่ภายใต้ความเหมาะสม ซึ่งเจ๊เองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ เวลาสวมหมวกนักพากย์จะวางความเป็นแฟนบอลแมนยูฯ ไว้ก่อน ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นตามที่เห็น ไม่ใส่ความรู้สึกส่วนตัวลงไป อันไหนไม่ชัวร์ไม่พูด ถ้ามีผู้บรรยายร่วมจะต้องนัดแนะกันก่อนจะได้ไม่ขัดกัน ส่วนลีลาและลวดลายใส่ได้พอประมาณ แต่ถ้าเป็นช่องเราเองอันนี้เป็นตัวเรา 100% คนที่เข้ามาดูคือคนที่ชอบในทิศทางและสไตล์ของเรา”
ขอบคุณภาพจากเจ๊ดำและเพจ jdumofficial
Thaipower.co: ใครคือนักเตะที่ลงสนามเมื่อไหร่ก็วางตาไม่ได้
เจ๊ดำ: โรนัลโด หลุยส์ นาซาริโอ เดอ ลิมา
ตำนานดาวยิงทีมชาติบราซิล
ลีลาการเลี้ยงฝันผ่านอุปสรรค
แล้วกับคนที่ไม่ชอบล่ะ เจ๊รับมือยังไง? “ตอนทำช่องใหม่ๆ รับมือไม่ได้ ตุ๊ดมาก!” เจ๊ดำบอกว่า บางที LIVE อยู่หันไปเจอคอมเมนต์แรงๆ เลิก LIVE ไปเลย หรือบางคลิปปั้นมาอย่างดี คนดูก็เยอะ เจอคอมเมนต์แย่หน่อยถึงขั้นลบคลิป
“เดี๋ยวนี้ดีขึ้นเยอะ แต่แน่นอนยังเจ็บปวด ยังรู้สึก เพราะเราเป็นคน แต่เราก็ค่อยๆ เรียนรู้ จุดเปลี่ยนเกิดจากวันนั้น LIVE แล้วมีคอมเมนต์ด่า โกรธด้วยงอนด้วยเลยลบ LIVE สักพักมีแฟนช่องอินบ็อกซ์เข้ามาจำได้ว่าเป็นสิบคนเลยนะ พูดคล้ายๆ กันว่าเขารอดูเรา เขาติดตามเรา ทำไมเราถึงต้องใส่ใจคอมเมนต์แบบนั้นแล้วพวกเขาล่ะ ผมนี่ขึ้นเลย! เหมือนโดนเตือนสติ เราไปให้ค่ากับคนที่เขาไม่เห็นค่าแล้วทิ้งคนที่เหลือแบบนี้ไม่ได้ มืออาชีพไม่ทำแบบนี้ ต้องเลือกว่าเก็บอะไรมาเป็นอารมณ์ หรือจะเลือกอยู่กับสิ่งไหน”
ตอนนี้รับมือยังไง? “ง่ายมาก แบนแล้วบล็อก ช่องโตช้าไม่ติด เพราะเราต้องการให้บรรดาอีหอยหลอด แฟนด้อมของเจ๊ดำและคนในคอมมิวนิตีของช่องมีความสุขกับการที่ได้ดูคอนเทนต์ ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน จะต้องไม่มีดราม่าเกิดขึ้นในช่องเด็ดขาด ไม่มีการพาดพิงช่องอื่น ไม่พูดถึงคนอื่น ไม่ชวนทะเลาะกับใคร นี่คือกฎของช่อง”
ขอบคุณภาพจากเจ๊ดำและเพจ jdumofficial
Suggestion
โอกาสเป็นของคนที่พร้อม
คิดยังไงกับคำนี้? เจ๊ดำบอกว่า “ได้ยินเมื่อไหร่ก็จะรู้สึกว่ามันจริง เพราะเจ๊ไม่เคยถอดใจ ไม่เคยหยุด ถ้าวันที่โดนปฏิเสธแล้วให้สิ่งนั้นมาตัดสินว่าเราทำไม่ได้หรอก เป็นสิ่งนี้ไม่ได้หรอก คงไม่มีเจ๊ดำในวันนี้ แต่กว่าจะคิดแบบนี้ได้ มันผ่านความคิดผิดๆ มาเยอะ ผ่านกระบวนการโทษคนอื่นยกเว้นโทษตัวเองมาแล้ว กว่าจะหันกลับมามองตัวเองและกล้าบอกกับตัวเองว่า เราต่างหากที่ยังดีไม่พอ ไม่พร้อม และกลับมาเตรียมตัวให้มากขึ้น อ่านมากขึ้น ดูมากขึ้น ศึกษามากขึ้น เพื่อที่ว่าวันไหนโอกาสมาเจ๊จะใส่ให้เต็มเหนี่ยว”
Thaipower.co: ใครคือคนที่มีอิทธิพลต่อแนวคิดในการทำงาน
เจ๊ดำ: เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
อดีตผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แพสชันที่ถูกต้อง..ต้องลงมือทำ
“เจ๊ไม่เชื่อเรื่องการคิดถึงความสำเร็จก่อนการลงมือทำ บางคนบอกว่าคุณต้องฝันให้ไกลก่อน แต่ทางของเจ๊คือ ฝันได้แต่ก็ต้องลงมือทำ อย่างการทำช่องไม่เคยคิดว่าจะต้องเป็นช่องดังมีล้านซับ เจ๊โฟกัสแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า โฟกัสกับวันนี้ ต้องทำให้ดีที่สุด หลังจากนี้จะเป็นยังไงให้แฟนช่องตัดสิน ให้คนดูตัดสิน เรามีหน้าที่ทำงานของเราให้ดีที่สุด”
เจ๊ดำบอกว่าวิธีเช็กง่ายๆ ว่าสิ่งที่คุณทำวันนี้มันใช่แพสชันของคุณหรือเปล่า ให้ลองถามตัวเองว่า “คุณอยู่กับสิ่งนี้ได้ทุกวันไหม อยู่กับมันได้ ทุกเวลาไหม เจออุปสรรคแล้วยังอยากทำต่อหรือเปล่า”
ขอบคุณภาพจากเจ๊ดำและเพจ jdumofficial
“มีคนเคยถามว่าเจ๊อยู่กับฟุตบอลทุกวันเบื่อไหม คำว่าเบื่อไม่เคยออกจากปาก เพราะรู้สึกโชคดีที่เรามีโอกาสได้ทำในสิ่งที่เรารักมากๆ จนมันกลายเป็นอาชีพที่ดูแลครอบครัวเราได้ หรือต่อให้วันนี้ไม่ได้ทำงานสายนี้ เจ๊ก็ยังดูฟุตบอล ยังอยากพูดคุยเรื่องฟุตบอลอยู่ดี มันแปลว่าเราชอบมันมาก จนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต”
“คุณอย่าไปคิดว่าได้ทำตามแพสชันแล้วจะไม่มีอุปสรรค ไม่ว่าจะทำงานที่ชอบหรือไม่ชอบก็มีอุปสรรคทั้งนั้น ทุกงานมีปัญหาหมด แต่ถ้าจะต้องเจออุปสรรค เจอปัญหา สู่เลือกทำในสิ่งที่ชอบไม่ดีกว่าเหรอ แต่ก็นั่นแหละสุดท้ายแล้วทุกอย่างเริ่มต้นจากการลงมือ อย่ามัวแต่ฝัน ทำด้วย!”
โลกที่มอง…ถูกหล่อหลอมมาจากครอบครัว
ไม่แปลกใจเลยเมื่อเจ๊ดำบอกว่าวิธีมองโลกแบบนี้ถูกหล่อหลอมมาจากพ่อและแม่ เจ๊บอกว่าคุณพ่อเป็นคนมองโลกในแง่ดี ไม่ค่อยโกรธหรือว่าร้ายใคร คุณแม่ก็เช่นกัน เป็นผู้หญิงทำงานที่รักและเคารพในงานที่ทำ
“เจ๊เติบโตมาในครอบครัวที่ไม่มีการเปรียบเทียบ ไม่เคยถูกกดดันให้เป็นเหมือนใคร มันเลยปลูกฝังเรามาตั้งแต่เด็กให้เรามีวิธีคิดแบบนี้ หรือเรื่องแพสชันการทำงานคุณพ่อก็เป็นตัวอย่างที่ดี ท่านรักในการขับแท็กซี่มากๆ และทำมันมาตลอด”
“เจ๊อยากขอบคุณครอบครัวที่ให้โอกาสให้เราได้คิดเอง ทำเอง มาตลอด ขอบคุณที่ล้มลุกคลุกคลานและอดทนรอคอยที่จะมีวันนี้ด้วยกัน แต่ถ้าให้ขอบคุณตัวเองก็คงจะขอบคุณที่บ้าการอ่าน บ้าการดูฟุตบอล เก็บเล็กผสมน้อย สั่งสมประสบการณ์มาจนถึงวันนี้”
ขอบคุณภาพจากเจ๊ดำและเพจ jdumofficial
มากกว่าแคมเปญแต่คือแรงบันดาลใจ
ถึงคิวงานจะแน่นแต่ถ้าเป็นกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกับคนที่มีแพสชันคล้ายกันเจ๊ดำไม่เคยปฏิเสธ อย่างการได้ร่วมงานกับ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม ‘โครงการล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย’ หรือได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมทริปเปิดตัวคอลเลกชันพิเศษ “Northern Wild Nan Thailand X LCFC” จาก LCFC สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ที่จับมือกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพบ้านเชียงราย จังหวัดน่าน ต่อยอดเป็นของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประจำปี 2567และล่าสุดกับการเป็นพิธีกรรายการ THE POWERRR GAME
“ต้องขอบคุณพี่ๆ ทุกคนใน คิง เพาเวอร์ ที่ให้โอกาสเจ๊ได้มีส่วนร่วมในหลายแคมเปญ ฟังดูเหมือนเราเป็นผู้ให้แต่เป็นเราต่างหากที่ได้อะไรกลับมา อย่างการไปแจกลูกฟุตบอล เราได้เห็นรอยยิ้มของน้องๆ เห็นแววตาที่มีความสุข มันทำให้เจ๊มีความหวังว่าการที่มีองค์กรหรือใครสักคนเห็นคุณค่าของกีฬา และสร้างโอกาสผ่านลูกฟุตบอลหรืออะไรก็ตาม เขากำลังปลูกฝังให้คนๆ หนึ่งเติบโตมาเป็นนักกีฬาที่ดี เขาเติบโตมาด้วยการให้ เชื่อว่าเขาก็จะส่งต่อสิ่งที่เขาได้มาเหมือนกัน”
ภาพโดย Expert Kit
“หรืออย่างตอนที่ได้ไปร่วมกิจกรรมของคอลเลกชัน ‘Northern Wild Nan Thailand X LCFC’ เจ๊ชอบที่เขานำวัฒนธรรมถิ่น ภูมิปัญญาชาวบ้านมามิกซ์กับแฟชั่น ใส่ความเป็นเลสเตอร์ ซิตี้ และมีความเป็นไทยด้วย อยากเห็นสิ่งนี้ไปได้ต่อและขยายไปให้เยอะที่สุดเพราะปลายทางคือรายได้ของคนในชุมชน”
“กับบทบาทพิธีกร เรียกว่าไปเล่นสนุกมากกว่า แต่ก็ได้มุมมองใหม่ๆ จากเด็กยุคนี้นะ อยากให้ดู ในความสนุกมันสอนให้เราเรียนรู้การทำงานเป็นทีม เรียนรู้การวางแผน มันสนุกตรงที่เราไม่เคยเจอกันมาก่อนแต่จะวางแผนและช่วยกันยังไงให้ชนะอีกสองทีมให้ได้”
Thaipower.co: นักเตะคนไหนที่คุณอยากท้าแข้ง
เจ๊ดำ: ทีมนักเตะทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ยุคที่มี เอริค คันโตนา ช่วงฤดูกาล 1992-1997
ภาพโดย บริษัท ยานแม่
ไหนๆ ก็คลั่งบอลขั้นสุด ก่อนจบบทสัมภาษณ์เลยขอให้เจ๊ดำเปรียบชีวิตตัวเองกับเกมฟุตบอลว่าเหมือนกันยังไง เจ๊บอกว่า ฟุตบอลก็เหมือนชีวิต มีเสียเปรียบ ได้เปรียบ โดนยิงประตู เป็นฝ่ายทำประตู แต่ไม่ว่าจะเสียใจเพราะโดนยิง หรือดีใจที่ยิงได้ ก็ต้องลงสนามใหม่อยู่ดี หรือต่อให้เกมจบ เดี๋ยวก็มีเกมใหม่ให้เล่น
“คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเกมไหนจะได้เปรียบ คู่แข่งจะเป็นยังไง หน้าที่ของคุณคือฝึกซ้อมและเตรียมตัวให้พร้อม และถ้าเมื่อไหร่ที่ลงสนาม จำไว้เสมอว่า ตราบใดที่เกมยังไม่จบ โอกาสยังมีเสมอ”
ภาพโดย บริษัท ยานแม่
ติดตามผลงานของ “เจ๊ดำ jdumofficial” ได้ที่นี่
INSTAGRAM: jdumofficial
FACEBOOK: เจ๊ดำ
YOUTUBE: jdumofficial
TIKTOK: jdumofficial
ติดตาม EP.รายการที่เจ๊ดำไปร่วมมอบลูกฟุตบอลให้เด็กไทย
ติดตามรายการ THE POWERRR GAME EP. 5 ที่เจ๊ดำมาร่วมเป็นพิธีกร