บรรยากาศเต็มไปด้วยการเชือดเฉือนกันอย่างดุเดือด!! สำหรับสนามเชียงใหม่ เพราะ  สกิลดนตรีของแต่ละวงประกวดที่เข้ารอบมาสู่การแสดงสดของสนามแข่งขันฯ นี้…เรียกว่าไม่มีใครยอมใคร ต่างก็งัดทีเด็ดทั้งหมดที่มีกันออกมาคว้าคะแนนจากคณะกรรมการ แบบทั้งมัน ทั้งลุ้น…หัวใจทุกคนต่างก็เต้นแรง จนได้รู้ผลกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ย้อนกลับไปเช็กผลผู้เข้ารอบจากสนามขอนแก่น คลิกเลยที่นี่

THE POWER BAND 2025 SEASON 5 การประกวดวงดนตรีสากลประจำปีที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 โดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เดินหน้าสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่อยากเติบโตบนเส้นทางดนตรี ภายใต้คอนเซปต์ “MUSIC CREATES MORE POSSIBILITIES พลังดนตรี เป็นไปได้ ไม่สิ้นสุด” พร้อมแรงสนับสนุนจากพันธมิตรชั้นนำในวงการดนตรีทั้ง ค่าย Muzik Move ค่าย Smallroom ค่าย LOVEiS Entertainment ค่าย What The Duck ค่าย Warner Music Thailand ค่าย XOXO Entertainment รวมถึง Singha Corporation, T-POP STAGE, The Guitar Mag, Yamaha Music Thailand และพันธมิตรใหม่ในปีนี้อย่าง ค่าย YUPP! ค่าย Universal Music Thailand และ Multiply by eight

สนามเชียงใหม่ในรอบโซนนิ่ง มีวงที่ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 11 วง จากหลายจังหวัดทั่วประเทศเดินทางมาร่วมเวที ไม่ว่าจะเป็นในรุ่นมัธยมศึกษาหรือรุ่นบุคคลทั่วไป แบ่งเป็นรุ่นมัธยม (High School Class) ทั้งหมด 8 วง มีทั้งวงจากภาคเหนือและจากทั่วประเทศ มีทั้งวงเดินทางไกลมาจากภูเก็ต วงจากตะวันออกเฉียงเหนือมีวงที่ไม่ใช่หน้าใหม่สำหรับเวทีนี้ อีกทั้งยังมีวงจากกรุงเทพฯ ที่ต่างแสดงฝีมือได้อย่างยอดเยี่ยม ได้แก่ วง APOCALYPSE (สังกัดอิสระ) กรุงเทพฯ วง Hidden Track (โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย) ศรีสะเกษ วง SleepLow (โรงเรียนสตรีสิริเกศ) ศรีสะเกษ วง Super Natural (วิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย) สุโขทัย วง Temple Heart (โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย) ลำปาง วง THE BELEBT (โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย) เชียงราย วง The Most (สังกัดอิสระ) ภูเก็ต และ วง Triamudomsuksa (โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา) กรุงเทพฯ ส่วนรุ่นบุคคลทั่วไป เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ (Professional Class: Road to Artists) ได้เข้ารอบมาด้วยกัน 3 วง เป็นวงจากภาคเหนือทั้งหมด ได้แก่ วง Function3 เชียงใหม่ วง PARA พิษณุโลก และ วง Revenge For Loseboy ลำปาง

แต่ละวงมีความโดดเด่นทั้งในเรื่องแนวเพลง การเรียบเรียง การนำเสนอ ไปจนถึงพลังใจที่พร้อมลุยบนเวทีจริง ซึ่งทั้งหมดต้องผ่านสายตาของคณะกรรมการ 3 คน ที่ร่วมกันเฟ้นหาวงที่เหมาะจะไปต่อในเวทีระดับประเทศ ได้แก่ อ.แป๊ป – วิโรจน์ สถาปนาวัตร จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล คลิกอ่านเรื่องของอาจารย์แป๊ป ได้ที่นี่  พี่ติ๊ก – กฤษติกร พรสาธิต นักร้องนำวง Playground และผู้บริหารค่าย Home Run Music คลิกอ่านเรื่องพี่ติ๊กได้ที่นี่ และ พี่เป้ – ไพสิฐ คำกลั่น โพรดิวเซอร์จากค่าย Melodic Corner คลิกอ่านเรื่องพี่เป้ได้ที่นี่

วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศรุ่นมัธยมศึกษา (High School Class)

จากสนามเชียงใหม่ ได้แก่

• วง Super Natural
วิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย สุโขทัย

• วง Hidden Track
โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย ศรีสะเกษ

• วง Triamudomsuksa
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ

ภาพโดย Expert Kit

ตลอดจากการแข่งขันที่ขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นและเปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ ดำเนินรายการโดยสองพิธีกรคนเก่ง อย่าง แทค – ณฐพล เหลืองกนกวนิช และ แพน ภัทรธรโภคิน ก็ได้ผู้ผ่านเข้ารอบจากสนามเชียงใหม่ในรุ่นมัธยมศึกษา (High School Class) ทั้งหมด 3 วง ซึ่งแต่ละวงต่างก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว และมีมุมมองต่อดนตรีที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือความชัดเจนในตัวเอง และความพร้อมจะพัฒนาให้ไปได้ไกลกว่านี้ อ่านเรื่องพิธีกรคนเก่งทั้งสองคน ทั้งเรื่อง แพน ภัทรธรโภคิน คลิกที่นี่  หรือ อ่านเรื่อง แทค ณฐพล คลิกที่นี่

ไม่ว่าจะเป็นวงดนตรีสุดสร้างสรรค์มาจากจังหวัดสุโขทัย อย่างวง Super Natural วิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย สุโขทัย ที่โชว์ผลงานโดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยการผสมผสานดนตรีไทยกับดนตรีสากลอย่างลงตัว ทั้งระนาดเอก ระนาดทุ้ม ตะโพน รวมถึงชุดเครื่องเป่าจาก Brass Section โดยสร้างความโดดเด่นไม่มีใครเหมือนด้วยการใช้ “บีตบ็อกซ์” ของสมาชิกในวงที่ควบตำแหน่งมือกลอง ส่วนเสียงจากเครื่องดนตรีไทย มีการใช้ระนาดถึง 2 ตัวร่วมกับกลองตะโพนที่ได้มือกีตาร์เปลี่ยนตำแหน่งมารับหน้าที่นี้ ส่วนอัลโต้แซกโซโฟนสาวต้องมาเสริมความสนุกด้วยเสียงฉิ่ง ช่วยเติมลูกเล่นให้โชว์ของวงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้ง เพลง เกินต้าน (PiXXiE) ในแบบของพวกเขาเอง และ เพลง สุดปัง (Milli) เป็นแร็ปจากต้นฉบับในแบบผสมผสานดนตรีไทยโดยวงนาฏศิลป์ได้อย่างน่าสนใจ

“สุดปัง เก่งมาก ทำเพลงมิกซ์ออกมาได้น่าสนใจ มีความคิดสร้างสรรค์ สีสันและอารมณ์ผสมผสานกันดี เป็นโชว์ที่บอกถึงการซ้อมเยอะมาก” อ.แป๊ป ให้ความเห็นถึงที่มาของคะแนน ในขณะที่พี่ติ๊กก็ชื่นชอบมากๆ ”ชอบความคิดสร้างสรรค์ ชอบไดนามิกของโชว์ เรียบเรียงมาอย่างดีใส่ใจมากๆ ทุกคนคือวัตถุดิบชั้นยอด“

“ความสามัคคีของพวกเราและความเป็นธรรมชาติตามชื่อวงเลย

รอบต่อไป เจอพวกเราแน่ มีอะไรเด็ดๆ มาให้คนดู เตรียมตัวไว้เลย

ดนตรีมันหลอกกันไม่ได้ วงไหนซ้อมเยอะ วงไหนซ้อมน้อย มันเห็นชัดเลย”

วง Super Natural
วิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย สุโขทัย

“จากคอมเมนต์กรรมการ เรารู้สึกว่าถ้าเราลองค้นหาตัวตนของวงให้เจอ

แล้วกล้าเล่นในแนวที่เป็นเรา ด้วยความเข้าใจในดนตรีของตัวเอง

มันก็ต้องมีบ้างล่ะที่จะได้รางวัล”

วง Hidden Track
โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย ศรีสะเกษ

วงเข้ารอบต่อไปคือ Hidden Track จากโรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย ข้ามภาคมาจากศรีสะเกษ เคยขึ้นเวทีและแสดงได้โดดเด่นมาแล้วจากสนามขอนแก่น แต่กลับมาอีกครั้งที่เชียงใหม่ด้วยพลังที่หนักแน่นขึ้นอีก กลมกล่อมขึ้นอีก และชัดเจนมากขึ้นอีกเลเวลด้วยการนำคอมเมนต์ของกรรมการที่ได้รับไปปรับซ้อม เสิร์ฟทั้งสองเพลงในเวอร์ชันของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม นักร้องนำทั้งร้องและเต้น อ่านเรื่องนักร้องนำของวงนี้คลิก  พร้อมใช้เสียงประสานได้อย่างสุดยอดไม่ว่าจะเป็น เพลงวันครบเลิก (NONT) หรือเพลง Pick a Card (PiXXiE) จนคว้าตั๋วรอบชิงชนะเลิศได้ในที่สุด วงนี้มีคำตอบเดียวสำหรับทุกคำถามคือ “ซ้อม” และอีกหลายระดับของคำว่า “ซ้อม” แต่ไม่ใช่แค่ซ้อมหนักอย่างเดียว พวกเขายังตั้งใจพัฒนาตัวเองด้วยความเข้าใจในสิ่งที่ทำ วง Hidden Track กลับมาพร้อมพลังใจที่ชัดขึ้น และแนวทางที่เริ่มนิ่งมากขึ้น อ่านเรื่องครูเสือ ผู้คุมวง Hidden Track คลิกที่นี่

”เข้มข้นและเด็ดขาดดีมาก แสดงถึงความใจสู้และตั้งใจตลอดเวลา“ อ.แป๊ปดีใจที่วงได้ไปต่อ ในขณะที่พี่ติ๊กแจกคะแนนและคอมเมนต์แบบพัฒนาการของวงมาในทุกสนาม “เปลี่ยนแปลงดีขึ้นมากๆ กลมกล่อมลงตัว ทุกอย่างเติมเต็มกันและกัน“

ปิดท้ายรุ่นมัธยมด้วยวงประกวดจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพมหานคร ที่เป็นสมาชิกใหม่สำหรับ THE POWER BAND เกือบทั้งหมด แต่ก็กลับมาพร้อมพลังใหม่ที่น่าจับตา ด้วยโชว์ที่ละเอียดอ่อนแต่แข็งแรงในเวลาเดียวกัน

ความพิเศษของโชว์จาก วง Triamudomsuksa สำหรับเพลงเวลาเธอยิ้ม (POLYCAT) กับเพลง DejaYou (PiXXiE) ในเวอร์ชันที่สร้างสรรค์ให้แตกต่างออกไป ยังอยู่ที่การเลือกใช้เสียงจากชุดเครื่องเป่าและเชลโลเข้ามาเติมความละมุนและเพิ่มมิติให้กับเสียงดนตรีของวงในเพลง ซึ่งฟังแล้วสัมผัสได้ถึงการคิดมาแล้วอย่างตั้งใจ แม้นักร้องนำจะมาจาก วง Thanks Mom วงที่เคยคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ของรุ่นมัธยมมาได้เมื่อซีซันที่แล้ว โชว์ของปีนี้ไม่ได้อาศัยพลังเสียงในการร้องเพียงอย่างเดียว แต่ส่งผ่านการร่วมร้องและประสานเสียงร้องทั้ง 3 คน รวมทั้งความคิดสร้างสรรค์ในด้านการเรียบเรียงและการเลือกเครื่องดนตรีได้อย่างมีชั้นเชิง คลิกอ่านเรื่องของวง Thanks Mom เมื่อซีซันที่ 4 ได้ที่นี่

วง Triamudomsuksa กรุงเทพฯ เพิ่งมาประกวด THE POWER BAND 2025 SEASON 5 นี้เป็นครั้งแรก ในขณะที่วงเตรียมอุดมศึกษา เมื่อซีซันที่ 3 วงคว้ารางวัลชนะเลิศ ควบนักดนตรีตำแหน่งซอคว้ารางวัล Outstanding มาได้ (ทั้งสองวงต่างก็มาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาด้วยกันทั้งคู่ ต่างกันที่ใช้ชื่อวง วงหนึ่งชื่อวงเป็นภาษาไทยและอีกวงหนึ่งชื่อวงเป็นภาษาอังกฤษ) คลิกอ่านเรื่องวงเตรียมอุดมศึกษา แชมป์ THE POWER BAND 2023 SEASON 3 ได้ที่นี่  หรือคลิกอ่านเรื่องเจสัน ปัณณทัต ซอมือรางวัล Outstanding จากซีซัน 3 ได้ที่นี่

”สกิลดี มีการ arrange ได้น่าสนใจ ผมเป็นคนชอบเชลโลอยู่แล้ว ซึ่งเขาทำออกมาได้ดีเช่นกัน“ อ.แป๊ป ให้ความเห็นตรงจุดที่เป็นความโดดเด่นของวง ในขณะที่พี่เป้ช่วยให้คะแนนคอมเมนต์ไปที่การร้องของ Front Man ทั้งหมดของวง ”นักร้องทั้ง 3 คน สกิลดีลงตัวมาก การ arrange เพลงดี ยิ่งทำให้น่าสนใจขึ้นไปอีก“

“การซ้อมเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราผ่านเข้ารอบ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การไม่ Burn out การให้กำลังใจกัน …อย่างมีใครลงเวทีมา แล้วร้องไห้ บอกว่าเล่นผิดไป พวกเราก็บอกว่า เฮ้ย ไม่เป็นไร พวกเราชอบผลงานที่ทำออกมาแล้ว เราเล่นดีแล้ว อย่างน้อยอย่าทำลายหรือทำร้ายพวกเดียวกันเอง ให้กำลังใจไปด้วยกัน

กุญแจของพวกเราคือ การรักกัน เข้าใจกัน ให้กำลังใจว่าพวกเราทำได้ สิ่งเหล่านี้ประกอบเป็นกุญแจที่จะไขไปสู่ความสำเร็จ”

วง Triamudomsuksa
(โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา) กรุงเทพฯ

วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ

รุ่นบุคคลทั่วไป เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ Professional Class: Road to Artists

จากสนามเชียงใหม่ ได้แก่

• วง Revenge For Loseboy ลำปาง

ภาพโดย Expert Kit

ส่วน รุ่นบุคคลทั่วไป เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ (Professional Class: Road to Artists) ของสนามเชียงใหม่สำหรับซีซันนี้มีเพียงวงเดียวที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้  และวงนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เพราะพวกเขายืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมาตลอด โดยนำเสนอแนวเพลงของวงเป็นแบบร็อกหนักๆ เลือกหยิบ เพลงหรือ (SLUR) และเพลงที่วง “ทำเอง” ทั้งเขียนเนื้อร้องและทำนองเองอย่าง เพลงอย่าขอให้ฉันกลับไป

Revenge For Loseboy วงเมทัลจากลำปาง ที่แม้จะเติบโตท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่แทบไม่มีใครฟังหรือเล่นดนตรีแนวนี้ แต่พวกเขาก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนทิศทาง ด้วยพลัง ความชัดเจน และความพยายามจะพัฒนาแนวดนตรีของตัวเองให้เข้าถึงคนฟังมากขึ้น วงนี้จึงไม่ใช่แค่ “ตัวแทนของลำปาง” แต่เป็นตัวแทนของคนที่ยังเชื่อในดนตรีแบบที่ตัวเองรัก และกล้าผลักมันไปให้ไกลกว่าเดิม

“ฟีลหนัก(ทางดนตรี)ตลอดเวลา มีไดนามิกในการนำเสนอ ร็อกแบบมีมิติมีเลเยอร์” นับว่าวงเป็นร็อกหนักจับใจอ.แป๊ป ในขณะที่พี่เป้ ก็ให้คะแนนในความหนักแน่นนั้นตามผลงานบนเวทีของวงเช่นกัน ”เป็นร็อกที่ไม่ได้ฟังมานาน เป็นวงที่น่าสนใจ หนักหน่วงดี และเสียงนักร้องที่ผมชอบมาก“

“ความเป็นเมทัลคือสิ่งเดียวที่เราทั้งวงชอบเหมือนกัน เราจะยังเป็นเมทัล

แต่จะมีช่วงซอฟต์ลง ให้คนได้ฟังความเพราะของเพลงด้วยครับ”

วง Revenge For Loseboy
ลำปาง

หลังจากช่วงประกาศผลที่ทำให้หลายคนลุ้นจนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ สนามเชียงใหม่ก็ยังไม่ให้ใครพัก เพราะบรรยากาศความสนุกยังเดินหน้าแบบไม่มียั้ง กับมินิคอนเสิร์ตของเวทีที่เสิร์ฟหลายเพลงจากหลากหลายศิลปินจนได้ชื่อว่าเป็นคอนเสิร์ตไม่มินิ! เพราะจัดเต็มทั้งแสง สี เสียง และพลังความสุขจากเหล่าศิลปินรุ่นใหม่และรุ่นพี่ที่แท็กทีมกันมาปล่อยของอย่างเต็มที่บนเวทีเดียวกัน

ประเดิมความฮอตแบบไม่มีกั๊กด้วย 7 สาวสุดจี๊ดจาก วง 4EVE ที่ขนโชว์มาเรียกเสียงกรี๊ดและพลังแดนซ์จากแฟนๆ ได้ตั้งแต่โน้ตแรก เรียกว่าแค่เปิดเวที ความมันก็ทะลุเชียงใหม่ไปแล้ว พร้อมกับ “มงลง” ให้กับคนมี เบิร์ทเดย์…เซอร์ไพรส์ HAPPY BIRTHDAY สาวแฮนน่ากันบนเวที THE POWER BAND เลย ย้อนอ่านเรื่องของวง 4EVE คลิกที่นี่

ภาพโดย Expert Kit

จากนั้นต่อด้วยโชว์ของศิลปินรุ่นใหม่ไฟแรงที่เติบโตมาจากเวที THE POWER BAND โดยแท้ อย่างสองสาวพี่น้องเสียงดี PINGPING – PANPAN ที่มาพร้อมโชว์อบอุ่นแต่ทรงพลัง และห้าหนุ่มจาก วง KRYPTONYTE ที่พกความมั่นใจและสไตล์ชัดเจนมาเขย่าเวทีให้ลุกเป็นไฟ อ่านเส้นทางการเป็นศิลปินของ PINGPING – PANPAN คลิกที่นี่

ภาพโดย Expert Kit

และเมื่อเสียงดนตรีของศิลปินรุ่นพี่ต้นแบบอย่าง วง The Richman Toy ดังขึ้น เราก็ไม่มีทางอยู่นิ่งได้อีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวงนี้เพิ่มดีกรีความเอกซ์คลูซิฟด้วยแขกรับเชิญพิเศษที่เซอร์ไพรส์ทุกคน อย่าง อิมเมจ – สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ (อิมเมจ The Voice) มาขึ้นเวทีแจมกัน….เมื่อการแสดงของวงมาถึงเพลงฮิตที่ทุกคนร้องตามได้ และเป็นเพลงยอดนิยมที่วงประกวด THE POWER BAND เลือกมาใช้ประกวดบนเวทีแห่งนี้บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น เพลงอ๊อด อ๊อด หรือ เพลงกระเป๋าแบนแฟนยิ้ม ก็ทำให้คนดูทั้งสนามลุกขึ้นมากระโดดไปพร้อมกันแบบหยุดไม่ได้ ก่อนจะส่งท้ายบรรยากาศสุดประทับใจด้วยโชว์พิเศษจาก PUN หนุ่มปัน – สรณวรรธ ที่ปิดท้ายเวทีแห่งนี้ด้วยเสียงร้องของศิลปินพร้อมแฟนเพลงที่ร่วมแจมร่วมจอยดังก้องไปทั่วทั้งฮอลล์

ภาพโดย Expert Kit

ไม่ว่าจะมาเพื่อแข่ง หรือมาเพื่อชมมินิคอนเสิร์ตในสนามเชียงใหม่ครั้งนี้คือของขวัญอีกชิ้นที่บอกกับเราว่า พลังของดนตรีไม่เคยจำกัดอยู่แค่การประกวด แต่มันคือพื้นที่ที่ทุกคนได้มาร่วมรู้สึกไปด้วยกันอย่างแท้จริง

แล้วพบกันครั้งหน้าที่สนามภูเก็ต!

วงที่ผ่านเข้ารอบออดิชัน THE POWER BAND 2025 SEASON 5 มาแสดงสดที่สนามเชียงใหม่ทั้งหมด มีดังนี้ …

รุ่นมัธยมศึกษา สุดยอดวงดนตรีระดับมัธยม (High School Class) ได้แก่

• วง Apocalypse (สังกัดอิสระ) กรุงเทพฯ ใช้ เพลงวันครบเลิก (NONT) กับ เพลงรู้อยู่ (D Gerrard)

• วง Hidden Track (โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย) จ.ศรีสะเกษ ใช้ เพลงวันครบเลิก (NONT) กับ เพลง Pick a Card (PiXXiE)

• วง SleepLow (โรงเรียนสตรีสิริเกศ) จ.ศรีสะเกษ ใช้ เพลงดอกไม้ที่รอฝน (The Toys x NONT) กับ เพลงอกหักแต่บอกแฟนไม่ได้ (SLAPKISS)

• วง Super Natural (วิทยาลัยนาฏศิลป์สุโขทัย) จ.สุโขทัย ใช้ เพลงเกินต้าน (PiXXiE) กับ เพลงสุดปัง (Milli)

• วง Temple Heart (โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย) จ.ลำปาง ใช้ เพลง ร(W)8 (GENE KASIDIT) กับ เพลงมันเป็นใคร (POLYCAT)

• วง THE BELEBT (โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย) จ.เชียงราย ใช้ เพลงดูดี (POLYCAT) กับ เพลง อยู่ (D Gerrard)

• วง The Most (สังกัดอิสระ) จ.ภูเก็ต ใช้ เพลงเมื่อคืน (Season Five feat. The Parkinson) กับ เพลงมันเป็นใคร (POLYCAT)

• วง Triamudomsuksa (โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา) กรุงเทพฯ ใช้ เพลงเวลาเธอยิ้ม (POLYCAT) กับ เพลง DejaYou (PiXXiE)

รุ่นบุคคลทั่วไป เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ PROFESSIONAL CLASS : ROAD TO ARTIST) ได้แก่

• วง Function3 จ.เชียงใหม่ ใช้ เพลงบันไดสีแดง (Hugo) กับ เพลงผลงานที่วงแต่งเองชื่อ “อาหวัง”

• วง PARA จ.พิษณุโลก ใช้ เพลงเจ็บน้อยที่สุด (Zeal) กับ เพลงลาลาลอย (The Toys)

• วง Revenge For Loseboy จ.ลำปาง ใช้ เพลงหรือ (SLUR) กับ เพลงผลงานที่วงแต่งเองชื่อ “อย่าขอให้ฉันกลับไป”