Passion

สัมฤทธิ์ ชูกลิ่น สร้างสรรค์สิ่งใหม่
ในสไตล์ SAXTEX

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว 10 Jan 2023
Views: 510

กว่าจะก้าวมาถึงความสำเร็จตรงนี้ได้ กระเป๋าผ้าใบแฟชั่นที่ใช้มุมมองและของดีของไทยๆ แจ้งเกิดได้ด้วยการใช้ไอเดียไม่ซ้ำใคร ของคุณสัมฤทธิ์ ชูกลิ่น ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Saxtex ด้วยการนำเอาผ้ากระสอบข้าวเก่ามาเคลือบด้วยน้ำยางพาราสูตรเฉพาะ แล้วนำไปตัดเย็บเป็นกระเป๋าใบเก๋ พร้อมทำให้กระเป๋าใบเก่งนั้นควบรวมการเป็น accessories สำหรับอุปกรณ์ Gadget ต่างๆ ที่มีสีสันและสไตล์ที่ไม่ซ้ำใครไปด้วยในตัว 

ไอเดียที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้เพราะผู้ชายที่รักในสิ่งที่เขาทำ และในวันนี้คุณสัมฤทธิ์ได้เรียนรู้ ทดลอง และพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่หลายปี จากทำงานด้านเสื้อผ้า คลุกคลีกับการค้าขาย การตลาด และวงการแฟชั่นมาตลอด เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์การการทำงานทุกด้านมาเสริมศักยภาพให้ตัวเอง แต่เนื่องจากต้องรับผิดชอบดูแลทางบ้าน เขาจึงลาออกมาเริ่มทำธุรกิจส่วนตัว โดยใช้ความชำนาญที่ติดตัวมาผลิตเสื้อยืดและกระเป๋าผ้า

หลายปีต่อมารู้สึกว่าตลาดเริ่มตัน และยอดขายได้รับผลกระทบ เรื่องราวของกระเป๋าผ้าใบที่ใช้ชื่อว่า “แซกเท็กซ์” นี้จึงเกิดขึ้นด้วยวิกฤตครั้งนั้นสร้างโอกาสให้อย่างแท้จริง ปัจจุบันเขาพาแบรนด์ของตัวเองมาถึงจุดได้รับความนิยม เราเลยอยากพาคุณย้อนกลับไปทำความรู้จักที่จุดเริ่มที่ไม่ธรรมดานี้กัน

 “ถ้าอยากทำธุรกิจของตัวเอง อย่างแรกคือ ต้องมองตัวเองก่อนว่าอะไรที่ตัวเองน่าจะถนัด 
ดูทักษะและคุณค่าของตัวเราว่าต่อยอดไปทางไหนได้บ้าง ตรงนี้เป็นพื้นฐานที่จะทำให้อดทนกับอุปสรรคที่จะเจอข้างหน้าได้”

สัมฤทธิ์ ชูกลิ่น ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Saxtex

 

ยิ่งลองทำ ยิ่งสนุก ไม่หยุดเรียนรู้ 

แต่กว่าที่แซกเท็กซ์จะประสบความสำเร็จและออกมาสวยแบบนี้ คุณสัมฤทธิ์ใช้เวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่หลายปี เข้าร่วมอบรมและร่วมโครงการประกวดมากมาย คิดค้นวัสดุชนิดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อให้ได้วัสดุในการทำกระเป๋าและรองเท้าที่แตกต่าง นำคำวิจารณ์ที่ได้รับมาปรับปรุงและพัฒนา ตั้งแต่ปี 2015-2019

ไม่ว่าจะเป็นคอร์สอบรมแฟชั่นดีไซน์ การประกวดนวัตกรรมสินค้าด้านยางพารา โครงการ Thailand Green Design Awards แม้กระทั่งนำผลิตภัณฑ์ไปประกวดที่ประเทศไต้หวันคนเดียว ซึ่งทุกครั้งที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง หรือได้รับรางวัลจากการเข้าร่วมเป็นประโยชน์และมีการพัฒนาเกิดขึ้นเสมอ

“ทุกครั้งที่กรรมการวิพากษ์วิจารณ์หรือติชม ทุกๆ การประกวด ทุกๆ โครงการที่ผ่านมาทำให้ผมได้ความรู้มาก เพราะมันมีหลายมิติที่เราคาดไม่ถึง ผมเชื่อว่าส่วนหนึ่งที่ผมไปได้รางวัลจากที่ต่างๆ ไม่ใช่เพราะผมเก่ง แต่เพราะปี 2015-2018 ผมผ่านเวทีเหล่านี้มา และก็ตกผลึก”

 

ไม่หยุดสร้างสรรค์ 

แม้ว่าตอนนี้แซกเท็กซ์จะมีผลิตภัณฑ์กระเป๋าหลายแบบที่มีฟังก์ชันการใช้งานแตกต่างกันไป แต่แซกเท็กซ์ก็ยังคงมีไอเดียใหม่ ๆ อยู่เสมอ

“ในปีนี้ก็จะพัฒนาไปในกลุ่มคนที่ใช้ Gadget มากขึ้น ไอเดียยังคงอยู่ในสาย urban lifestyle หรือวิถีชีวิตแบบคนเมือง จากทำงานที่ออฟฟิศ มาทำงานที่บ้าน เดี๋ยวนี้กลายเป็น work from anywhere”

แต่ยังไม่พอแซกเท็กซ์ยังสร้างสิ่งใหม่และจะก้าวไปให้ไกลกว่าเดิม ล่าสุดผมเพิ่งเปิดตัวแนวคิดใหม่ ผมอยากได้ภาพใหม่ ๆ ของแซกเท็กซ์ ผมก็ไปร่วมมือกับ YouTuber ด้านเซิร์ฟสเกตช์แล้วก็เอาแผ่นยางของผมไปติดบนแผ่นเซิร์ฟบอร์ด สำหรับคนที่เล่นเซิร์ฟสเกตช์แล้วอยากจะแต่งบอร์ดตามรสนิยมด้วยสีสีนและลวดลายใหม่ ๆ ผมสามารถทำให้ได้ และมันใช้ได้จริงด้วย หรือใครที่มี EV Scooter อยู่แล้ว มาแต่งด้วยแซกเท็กซ์ ผมก็สามารถทำลายเดียวกับรองเท้า กระเป๋า เป็นคอลเลกชันได้เลย”

“สิ่งที่อยากทำในอนาคตอีกอย่างก็คือเรื่องการท่องเที่ยวครับ สืบเนื่องจากเรื่อง EV Scooter มีผู้ประกอบการในบ้านเราเขาทำอยู่แล้ว เช่น จัดกลุ่ม EV Scooter เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ หรือเที่ยวชุมชนบางลำพู ถ้าแซกเท็กซ์ก็เข้าไปร่วมมือกับกิจกรรมแบบนี้ นอกจากการตกแต่ง EV Scooter แล้ว ผมอาจจะทำกระเป๋าใบเล็ก ๆ เพื่อเป็นของที่ระลึกสำหรับผู้ที่มาเข้าร่วมกลุ่มท่องเที่ยว ถ้าคุณไม่ได้มาเที่ยวเมืองไทยคุณจะไม่ได้กระเป๋านี้นะ ทำให้แซกเท็กซ์ให้เป็นวัสดุที่เป็นอัตลักษณ์ของเมืองไทย ให้คนที่มาเที่ยวเมืองไทยเห็นวัสดุ เห็นงานฝีมือ เห็นภูมิปัญญาแบบนี้ แล้วรู้ว่าเป็นของที่ระลึกจากเมืองไทย”

 

ความอดทนผ่านพ้นปัญหา 

ปลายปี 2019 คุณสัมฤทธิ์ก็พร้อมที่จะลงทุนทำธุรกิจ มีหน้าร้านที่สามย่านมิตรทาวน์ เปิดร้านได้ประมาณ 5-6 เดือน ก็ประสบปัญหาเดียวกันกับคนทั่วโลก นั่นก็คือสถานการณ์โควิด “พอเจอเหตุการณ์โควิดผมก็กลับมาตั้งสติว่า เงินทองที่ลงทุนไป ที่เสียหายไป ต้องยอมเสีย ไม่ไปต่อ ผมว่าทุกคนก็ปรับตัวกันไปตามลักษณะของธุรกิจ หลังจากนั้นผมก็ไปให้ความสนใจในเรื่อง E-Commerce
โซเชียลมีเดีย ด้านขายออนไลน์ เพิ่มมากขึ้น”

“วันหนึ่ง คิง เพาเวอร์ ติดต่อมาหาผม ให้ผมไปนำเสนอสินค้า เพื่อนำสินค้าไปลงขายในออนไลน์ ซึ่งเป็นแนวทางที่ผมกำลังสนใจพอดี ซึ่งมีประโยชน์มากที่ทำให้ผมได้รู้จักและมีประสบการณ์ในเรื่องนี้เพิ่มขึ้น”

แม้ปัญหาจะเข้ามาในเวลาที่ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี “ผมเจอปัญหาอุปสรรคเยอะ แต่สิ่งที่จะช่วยได้คือ ความอดทน อดทนกับทุกปัญหา ทุกสถานการณ์ บางปัญหาก็ไม่ได้แก้ได้ทันที ต้องใช้ความอดทนเพื่อรอเวลาให้ปัญหามันคลี่คลาย แค่สภาวะโควิดอย่างเดียวก็พอแล้ว คนอื่นๆ ก็อยู่ในสภาพนี้กันหลายคน ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว นี่ก็เป็นตัวอย่างว่าความอดทนเป็นตัวเดียวที่ต้องใช้ และยังจำเป็นต้องใช้ในอนาคต เพราะเราก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น”

Feedback จากลูกค้ามีค่าดั่งทอง 

การทำธุรกิจสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง คือ การรับฟังเสียงสะท้อนของลูกค้า เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนางานของเราให้ดียิ่งขึ้น “ช่วงที่แซกเท็กซ์วางขาย ฟีดแบ็กจากลูกค้ามีทั้งชมทั้งด่า ผมจะดีใจมากถ้าเจอด่า เพราะนี่คือสิ่งที่ผมจะเอากลับไปแก้ไข ช่วงที่ขายที่สามย่านมิตรทาวน์ ผมไปขายเองทุกวัน มันเป็นเวลาทองของผม เป็นเวลาที่ผมได้ข้อมูลและ Feedback จากลูกค้า ผมได้สังเกตคนที่เดินเข้ามาจับ สังเกตบทสนทนาที่คุยกัน คำถามที่ถามมา คำแนะนำที่ได้ เป็นเวลาที่ผมได้คุยกับลูกค้า ทำให้ผมรู้จักลูกค้า นี่เป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงตัวผมได้ดีมาก การมีฟีดแบ็กจากคนนอก ก็เหมือนว่าคนมองเห็นคุณค่าของสิ่งที่เราทำ ไม่ต้องถึงกับชื่นชมหรอก การได้คุยกับคนอื่นมันก็เป็นกำลังใจที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเรามีตัวตน”

 

ส่งต่อองค์ความรู้สู่สังคม 

กระเป๋าทุกใบของแซกเท็กซ์ เรียกว่างานฝีมือได้เต็มปาก เพราะเป็นงานทำมือทุกใบ ที่เป็นแบบนั้นเพราะว่าคุณสัมฤทธิ์ตั้งความหวังไว้ว่า อยากส่งต่อองค์ความรู้นี้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้คนต่อไป

“กระเป๋าของเราเป็นงานประกอบมือ ผมไม่ยอมใช้เครื่องจักรในการทำงานเลย เพราะผมมีความฝันว่า งานของผมจะสามารถถ่ายทอดความรู้ไปในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคมได้หรือเปล่า เอาความรู้นี้ไปสอนให้กับกลุ่มเปราะบางหรือผู้ที่ต้องการรายได้ ให้ทำวัสดุตัวนี้ป้อนให้ผม แต่วันนั้นจะมาถึงก็ต่อเมื่อเรามียอดขาย มีที่ขาย ไม่อย่างนั้นเราจะผลิตต้นทางไปทำไม ปลายน้ำต้องใหญ่ก่อนต้นน้ำถึงจะเกิดได้ แต่คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพราะผมคนเดียว มันมีองค์ประกอบและปัจจัยอื่น และสิ่งที่เราทำมันต้องได้รับการสนับสนุน ต้องมีคนเห็นด้วย”

 

ฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่สนใจธุรกิจ

มีคนรุ่นใหม่ที่ฝันอยากเป็นเจ้าของกิจการ อยากทำธุรกิจกันมากมาย ผู้ที่ผ่านประสบการณ์มาก่อนอย่างคุณสัมฤทธิ์ จึงมีเรื่องราวดีๆ มาแบ่งปันให้กับรุ่นน้องที่อยากเดินในสายธุรกิจ “ถ้าอยากทำธุรกิจของตัวเอง อย่างแรกคือ ต้องมองตัวเองก่อน ให้ลองย้อนกลับไปที่ตัวเองว่า อะไรที่ตัวเองน่าจะคุ้นเคยแล้วก็ถนัด อาจจะไม่ต้องถนัดมากแต่สามารถไปเรียนรู้เพิ่มเติมได้ เรียนแล้วไม่อึดอัด ไม่เป็นทุกข์ ดูทักษะและคุณค่าของตัวเราว่าพอจะเป็นอะไรได้ ต่อยอดไปทางไหนได้บ้าง ตรงนี้เป็นพื้นฐานที่จะทำให้คุณอดทนกับอุปสรรคที่จะเจอข้างหน้าได้มาก

อย่างที่ 2 ก็คือ ในเชิงการค้าจำเป็นจะต้องดูตลาด สิ่งที่คุณถนัด สิ่งที่คุณเป็น ทักษะที่คุณมีสอดคล้องกับความเป็นไปของตลาดหรือเปล่า การทำธุรกิจจะเล็กจะใหญ่ก็ต้องมองตลาด ปัจจุบันนี้มีคำศัพท์ที่บอกว่า ต้องรู้อินไซด์ของลูกค้า จำเป็นต้องรู้ตลาด ต้องรู้จักลูกค้า อย่างที่ 3 คือ แนวคิดการจับมือ ร่วมมือ หรือการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการอื่น ๆ เปิดใจที่จะทำงานกับคนอื่น ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ถ้าทำคนเดียวได้ ถ้าคุณเก่งขนาดนั้นก็ทำไปเถอะ”

 

เคล็ดลับความสำเร็จจากการทำสิ่งที่รักในสไตล์ Saxtex 

1.  ไม่หยุดเรียนรู้ ขยันในการฝึกฝนและพัฒนาผลิตภัณฑ์
2. คว้าโอกาสดีๆ ทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต
3. คิดให้ใหญ่ ฝันให้ไกล มองไปข้างหน้า
4. ปรับตัวให้ทันกระแสอยู่ตลอดเวลา
5. ร่วมมือ แลกเปลี่ยนเพื่อเรียนรู้ และหาประสบการณ์มาเติมเต็ม

 

SAXTEX (แซกเท็กซ์) 

ที่ตั้ง: 40/480 นวลจันทร์24 ถ.นวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10240

 

Facebook: SAXTEX

 

ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย

คลิก: SAXTAX

 

สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถหาสนับสนุนได้ที่คิง เพาเวอร์ทุกสาขา

Author

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว

Author

นักเล่าเรื่อง ผู้มีหนังสือและการเดินทางเป็นดั่งลมหายใจ นิยมชมชอบท้องฟ้า กาแฟ และแมว

Author

พีระรัตน์ ธรรมจง

Photographer

ทุกภาพที่ผมโฟกัสคือสิ่งสำคัญ ครอบครัวก็เช่นกันเป็นสิ่งสำคัญที่ผมโฟกัส