Passion

ขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งมิตรภาพ
วงนัด 9 มา 10 ซาวด์เช็คเสร็จกินข้าวก่อน

กฤษณา คชธรรมรัตน์ 3 Dec 2021
Views: 1,650

หลังจากขับเคี่ยวมาอย่างเข้มข้น เวทีแข่งขัน THE POWER BAND การประกวดดนตรีสากลสมัยนิยม ผสมเครื่องเป่า ประจำปี 2564 ที่คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย จับมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้วงดนตรีจากทั่วประเทศได้แสดงฝีมือทางดนตรีมาสรรค์สร้างบทเพลงในแบบฉบับของตัวเอง ทำโชว์ออกมาให้สมบูรณ์แบบสำหรับเวทีที่ให้ปล่อยความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง

นัด 9 มา 10 ซาวด์เช็คเสร็จกินข้าวก่อน วงดนตรีชื่อทั้งยาวและสะดุดหู คือหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่ทำผลงานได้สะดุดใจคณะกรรมการจนคว้าตำแหน่งรางวัลชมเชยในประเภท Class F (ระดับมัธยมศึกษา) มาไว้ได้เต็มอ้อมกอด เราเลยอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักหนึ่งในสุดยอดฝีมือจากเวทีนี้ให้มากยิ่งขึ้น

 

จับมือกันเพื่อจุดหมายที่มั่นคง

นัด 9 มา 10 ซาวด์เช็คเสร็จกินข้าวก่อน (ขอสูดลมหายใจเฮือกหนึ่งหลังอ่านชื่อวงจบ) คือกลุ่มเด็กนักเรียนจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) หนึ่งในสถานศึกษาที่มีวิชาเอกให้นักเรียนเลือกอย่างหลากหลาย เพื่อต่อยอดการศึกษาในสายงานต่างๆ ที่เด็กๆ สนใจได้อย่างตรงจุด

ผู้มีดนตรีในหัวใจอย่างสมาชิกของวงนี้ จึงกำลังขะมักเขม้นกับการเรียนในสาขาที่พวกเขาชื่นชอบอย่างดุริยางคศิลป์นั่นเอง

“พวกเราวงนัด 9 มา 10 ซาวด์เช็คเสร็จกินข้าวก่อน ได้ชื่อวงมาจากที่พวกเรานัดกัน 9 โมง แต่ชอบมาสาย กว่าจะซาวด์เช็คเสร็จก็เที่ยงแล้วพักกินข้าวก่อน กว่าจะได้ซ้อมก็บ่าย อาจารย์เลยตั้งชื่อนี้ให้ พวกเราก็ว่าตลกดี แปลกด้วย และชื่อนี้ตรงกับคาแรคเตอร์ของวงพอดี เลยเป็นตั้งพิเศษเพื่องานนี้ค่ะ” อันนะ สุชญา วงษ์วรรณ (ดับเบิลเบส) คนสำคัญของวง มาช่วยไขความกระจ่างให้กับความสงสัยของทุกคนเมื่อได้ยินชื่อวงสุดกวน

“เราตกลงกันว่าจะเล่นเพื่อความสนุก

พอเราสนุกไปกับมัน

เสียงเพลงก็จะไปในทางนั้น”

อันนะ สุชญา วงษ์วรรณ
วงนัด 9 มา 10 ซาวด์เช็คเสร็จกินข้าวก่อน (ดับเบิลเบส)

 

สมาชิกทั้ง 10 คนรวมตัวกันในฐานะวงดนตรี เพื่อเวที THE POWER BAND แต่ถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น พวกเขาทั้งหมดคือเพื่อนร่วมชั้นที่สนิทสนมกัน เฮไหนเฮนั่น งานไหนมา ก็จับมือกันไปลุยงานนั้น

“พวกเราอยู่ห้องเดียวกันหมดเลย อยู่ด้วยกันมา 3 ปีแล้ว ตั้งแต่ม. 4 เป็นเพื่อนสนิทที่ไปไหนไปกัน ตอนแรกพวกเรารวมตัวกัน เพราะทำโครงงานส่งอาจารย์ จะทำละครเวทีด้วยกัน ทุกอย่างเสร็จแล้วเหลือแค่ซ้อมกับแสดงจริง เหมือนเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว เป็นโปรเจกต์ที่ให้เลือกว่าจะทำละครหรือทำเป็นหนังสือ เอกดนตรีอย่างพวกเราก็อยากแสดง แต่พอมีโควิดก็ไม่ได้ทำ พวกเราก็เสียใจนิดหน่อย ทีนี้อาจารย์อีกท่านเห็นว่ามีงานประกวด THE POWER BAND พอดี เลยเอาวงเราที่ทำงานส่งอาจารย์ไปแข่ง” แพร-พรนัชชา คูเอกชัย หนึ่งในนักร้องนำ ผู้ถนัดในการผสมผสานเพลงป็อปและอาร์แอนด์บี เล่าถึงจุดเริ่มต้น ที่พวกเขาอยากได้เพียงโอกาสนำสิ่งที่ลงมือสร้าง ขึ้นไปอวดโฉมบนเวที

เดินทางไป อย่าหวั่นไหวใครกางกั้น

จากโปรเจกต์โรงเรียนสู่การแสดงบนเวทีระดับประเทศ โจทย์ยากคือสิ่งที่รอพวกเขาตะลุยเข้ามาแก้

“การแข่งครั้งนี้เราตกลงกันว่าจะเล่นเพื่อความสนุก ด้วยความที่เราสนิทกันเลยง่ายขึ้นเยอะเลย แบบเพลงนี้จะขอเป็นแบบสนุก เต้นๆ หน่อย ทุกคนก็จะโยกตาม พอเราสนุกไปกับมัน เสียงเพลงก็จะไปในทางนั้น” อันนะเล่าถึงการแข่งขันครั้งนี้ที่พวกเขายังคงรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว

“การแบ่งหน้าที่ในวงก็เริ่มจากเราคุยกันก่อน ว่าอยากทำเพลงนี้นะ มองจุดเดียวกันก่อนว่าจะทำแบบไหน ปรับฟิลทุกคนให้ตรงกัน แล้วก็ให้เพื่อนที่เป็นมือกลองไปทำเดโม่ คิดไลน์มาคร่าวๆ ก่อน แล้วก็มาช่วยกันฟัง แล้วค่อยแก้ในทางของตัวเองกันอีกที เช่น เครื่องเป่าไปช่วยกันฟังว่าต้องปรับหรือเปล่า” แพรเล่าให้ฟังเพิ่มเติม

“อย่างส่วนของนักร้อง เราก็สนิทกัน ชอบร้องเพลงด้วยกัน ปกติร้องเล่นกันบ่อยๆ อยู่แล้ว แต่ไม่เคยมาแข่งจริงจังแบบนี้ เราก็ช่วยกันคิดว่า ใส่ตรงนี้ดีไหมเอาตรงนี้ออกดีไหม เรามีการอัดคอรัสกันไว้ก่อน แล้วก็มาลองดูในโน้ตว่าคอรัสเพราะไหม เพี้ยนหรือเปล่า อาจารย์ก็จะช่วยดูอีกครั้งว่าไลน์นี้ดีหรือเปล่า แล้วก็จะมาแก้กันทีหลังว่า เช่นว่า อยากให้ท่อนนี้เติมความสว่างเข้าไป

บางทีที่เราคิดกันก็อาจจะไม่กว้างเท่า อาจารย์ก็เข้ามาช่วย เราก็จะคิดมาแล้วให้อาจารย์แก้ไข พอมาเจอกันก็มาเกลาอีกที เราพยายามทำให้มันแตกต่าง พอได้ออกมามันจะเป็นความสนุก” แซมมี่-กัญญาวีร์ ซอนาติ อีกหนึ่งนักร้องนำ เจ้าของพลังเสียงผู้หลงในในสไตล์แจ๊สและคลาสสิก และยังเป็นอีกหนึ่งในพลังขับเคลื่อนของวงที่ช่วยเติมเต็มมากกว่าแค่เรื่องของเสียงร้อง

“อุปสรรคทำให้ทุกคนกระตือรือร้นมากขึ้น

ต้องรู้ตัวเองว่าต้องทำอะไร

และเราต้องเชื่อใจเพื่อนมากๆ

ว่าทุกคนเต็มที่ ทำให้สามัคคีกัน

และนี่คือเวทีแรกสำหรับวงพวกเรา”

แซมมี่ กัญญาวีร์ ซอนาติ
วงนัด 9 มา 10 ซาวด์เช็คเสร็จกินข้าวก่อน (ร้องนำ)

 

“ในการซ้อมออนไลน์มันก็ทำให้เราได้ประสบการณ์

ได้ความรู้อะไรมากขึ้น ถ้ามันไม่ดี

เราก็ได้ลองทำ เพราะถ้าไม่ได้ทำ เราจะเสียใจ”

แพร พรนัชชา คูเอกชัย
วงนัด 9 มา 10 ซาวด์เช็คเสร็จกินข้าวก่อน (ร้องนำ)

 

“ผมจะรับช่วงต่อมาจากเพื่อนๆ ที่เลือกเพลงกัน จะเอาเพลงที่เขาเลือกมาวางโครงกว้างๆ ทั้งหมดก่อน ผมจะพยายามเอาคนที่มีพรสวรรค์เด่นๆ โชว์เพื่อเป็นจุดแข็งของวง ส่วนคนอื่นช่วยกันซัปพอร์ต แต่ทุกคนก็มีความเด่นของไลน์ตัวเอง ไม่มีใครด้อย จะเด่นในหน้าที่ของตัวเอง

จุดแข็งของวงเราคือแนวเพลงที่เราจะคิดนอกกรอบ ผมต้องคิดให้มันแหวกที่สุด ไม่อยู่ในกรอบว่าจะเป็นแนวแจ๊ส แนวฟังกี้ เราจะเอาแนวนี้มาผสมกับแนวนั้น ป็อป ยิปซี กรู๊ฟ ดูเหมือนอาจจะไม่เข้ากัน แต่เราจะเล่นให้เข้ากันให้ได้ ช่วยกันเติมให้มันสมบูรณ์ที่สุด อีกอย่างคือเรามีดับเบิลเบสซึ่งเป็นเสน่ห์ของวงครับ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทุกวงจะมีดับเบิลเบสแบบนี้ แล้วอันนะคือดับเบิลเบสยอดฝีมือที่ได้รางวัลมาหลายรายการ”เอิร์ธ-นารายน เงินศรีสุข มือกลองผู้รับหน้าที่โปรดิวเซอร์ ผู้สร้างภาพความเป็นวงให้ชัดเจน

“หนูรู้สึกว่าเวลาเล่น เสียงมันจะนิ่มกว่า ถึงแม้จะใส่ซาวนด์หรือเอฟเฟกต์อะไรไม่ได้ แต่มันจะได้กลิ่นเนื้อไม้ของดับเบิลเบสเลย ก็ขอบคุณเพื่อนที่ให้ไปเล่นในวงด้วย” อันนะผู้ตกหลุมรักเครื่องดนตรีชิ้นใหญ่มาตั้งแต่เด็ก มาให้คำตอบว่าเสน่ห์ที่เพื่อนๆ ชอบคืออะไร

“นักร้องนำทั้ง 2 คน ก็เป็นเพื่อนสนิทกันอยู่แล้ว เขาทำงานด้วยกันได้อย่างดี ทุกคนคือทีมเวิร์ก ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง” เอิร์ธ ขยายถึงขั้นตอนการสร้างงานเพลงที่สะท้อนถึงความเป็นตัวตนของเพื่อนๆ ทุกคน

บนทางเดินที่มีขวากหนาม พวกเขาไม่เคยคร้ามถอยไปไหน

ปีแห่งโควิด-19 ที่การแพร่ระบาดซัดมาหลายระลอก ทำให้หลายสิ่งชะงักงัน รวมไปถึงเวทีของนักดนตรีผู้มีความฝันนี้ด้วย แน่นอนว่าแพรและเพื่อนๆ ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

“พวกเราทุกคนคิดว่าคงจะไม่ได้แข่งแล้ว การซ้อมของเรามันลำบากเพราะต้องซ้อมออนไลน์ ซึ่งพวกเราไม่เคยซ้อมแบบนี้กันเลย ก็เลยต้องฝึกของตัวเองให้ดีมากๆ ก่อน คือแยกซ้อมของตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วค่อยมารวมกัน และได้รวมกันแค่ 3 วันก่อนมาแข่งซึ่งมันน้อยมาก”

เอิร์ธผู้ที่ต้องค่อยๆ ต่อจิ๊กซอว์ของเพื่อนๆ ทุกคนให้ออกมาเป็นภาพที่สวยงามลงตัวน่าจะรับบทหนักกว่าคนอื่นสักหน่อย “ตอนที่มาประกอบร่างนี้ก็หนักนะครับ วันแรกที่มารวมกันซ้อม กลายเป็นว่าพอใช้เครื่องเป่า เป่าแล้วเหมือนกันทุกตัว เสียงมันรบกวนกันจนเหมือนทุกอย่างโดนเครื่องเป่ากลบหมด เพราะผมทำดนตรีด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทำให้ไม่ได้เห็นภาพว่าพอเพื่อนนักดนตรีเขาเป่าจริงมันจะเป็นอย่างไร ผมเลยต้องกลับไปแก้” เรียกว่าพวกเขาทำงานกันจนเข็มวินาทีสุดท้ายกระดิก

“ผมชอบบรรยากาศตอนซ้อม

มันสนุก เป็นสีสันของชีวิต

และทุกคนให้ใจกัน”

เอิร์ธ นารายน เงินศรีสุข
วงนัด 9 มา 10 ซาวด์เช็คเสร็จกินข้าวก่อน (กลอง)

 

ท่ามกลางวิกฤตยังมีโอกาส เหมือนวงนัด 9 มา 10 ซาวด์เช็คเสร็จกินข้าวก่อน ก็ไม่เคยขาดพลังใจพลังกาย ที่พวกเขาหมั่นช่วยกันเติมจนเต็มเปี่ยม

“อุปสรรคแบบนี้ทำให้ทุกคนกระตือรือร้นมากขึ้น ไม่ใช่ว่ามารอซ้อมอย่างเดียว ทุกคนต้องรู้หน้าที่ของตัวเองว่าต้องทำอะไร ทุกคนต้องรู้ว่าอันนี้สำคัญ และเราต้องเชื่อใจเพื่อนมากๆ ว่าทุกคนเต็มที่ มันทำให้สามัคคีกัน และเรายังตั้งใจทำให้มันแตกต่าง เพราะนี่คือเวทีแรกสำหรับวงพวกเรา” แซมมี่ย้ำถึงพลังแห่งมิตรภาพ

“ในการซ้อมออนไลน์มันก็ทำให้เราได้ประสบการณ์ ได้ความรู้อะไรมากขึ้น ถ้ามันไม่ดี เราก็ได้ลองทำ เพราะถ้าไม่ได้ทำ เราจะเสียใจ” แพรเองก็มองเห็นข้อดีที่ซ่อนอยู่ในปัญหา

“ผมชอบบรรยากาศตอนซ้อม มันสนุก มันเป็นสีสันของชีวิต และทุกคนให้ใจกัน” เอิร์ธให้อีกคำตอบแทนใจของทั้งวง

คือรางวัลแด่ความฝันอันยิ่งใหญ่ให้ทุกคน

ตลอดการโชว์บนเวที THE POWER BAND ทุกคนสัมผัสได้ถึงความสุขและความสนุก ที่วงนัด 9 มา 10 ซาวด์เช็คเสร็จกินข้าวก่อน ส่งออกมาสุดพลัง เพื่อเดินหน้าสู่คำว่าดีที่สุดและเต็มที่อย่างที่สุด

“การมาประกวดแบบนี้เรื่องเพื่อนสำคัญมาก ความเป็นวง ถ้าเป็นใครก็ไม่รู้แล้วมาเล่นด้วยกัน มันก็จะไม่ได้แบบนี้” แพรยิ้มกว้างเมื่องานจบลง

เอิร์ธในฐานะผู้ดูแลภาพรวม ส่งยิ้มสดใสให้กับผลงานที่เหน็ดเหนื่อยมาตลอดหลายเดือน “การแสดงวันนี้ทุกคนทำออกมาได้เต็มความสามารถที่สุด ผมประทับใจที่ทุกคนไว้ใจกัน เหมือนมองหน้ากันแล้วเข้าใจ เราเป็นเพื่อนที่ดีกันอยู่แล้ว การเข้ารอบชิงทำผมจะดีใจตรงที่ว่าจะได้อยู่กับเพื่อนๆ อีก เราจะได้เล่นดนตรีด้วยกันอีก”

แซมมี่เองก็ดีใจกับการก้าวไปอีกขั้น “มันเหมือนทำให้เราพัฒนาตัวเอง พอเรายิ่งโตเวทียิ่งใหญ่ ยิ่งเพิ่มความรับผิดชอบ ตอนนี้พวกหนูทุกคนก็ยกภูเขาออกจากอกไปแล้ว”

“หนูอยากบอกว่าขอบคุณเพื่อนๆ ขอบคุณอาจารย์ ขอบคุณโรงเรียนที่ยังให้พื้นที่ซ้อมแม้จะได้เวลาน้อยก็ตาม แล้วก็ขอบคุณเวทีที่ให้เรามาประกวดและมาจนถึงตอนนี้” อันนะขอบคุณจากใจแทนเพื่อนๆ ทุกคน

“ตอนแรกไม่ได้หวังแม้แต่นิดเดียวแค่อยากเล่นด้วยกัน เข้ามารอบนี้ได้ เล่นให้ดีที่สุด มีความสุขที่สุดก็โอเคแล้ว เราเลยไม่ได้หวังว่าจะได้รางวัล แต่ทุกคนคิดว่ามันเป็นปีสุดท้ายแล้วที่เราทุกคนจะได้อยู่ด้วยกัน อยากเล่นกับเพื่อน อยากมาเจอ อยากมาเล่นด้วยกัน ก็เลยเต็มที่มาก อยากจะเล่นกับวงนี้ให้ดีที่สุด ให้มันออกมามีความสนุกและมีความสุข” แพรขอทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขอีกครั้ง

 

เรื่องไม่ลับ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ เกี่ยวกับวง

• อันนะคือดับเบิลเบสมือรางวัล

เธอเคยคว้าเหรียญเงิน รุ่น Senior การประกวด Virtual Virtuoso by Siam Sinfonietta และการแข่งขันดนตรีเครื่องสายในรายการ The International Virtual String Competition by FAA CU

• สมาชิกเกือบทั้งหมดของวงเป็น

นักเรียนวิชาเอกดุริยางคศิลป์ แต่เอิร์ธมือกลองผู้ควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์ กลับเป็นหนึ่งเดียวที่เรียนวิชาเอกดิจิทัลมีเดียอาร์ต

• ถ้าไปแอบฟังพวกเขาช่วงพักซ้อม เราจะได้

ฟังเพลงลูกทุ่งสุดมัน ไม่แน่ว่าครั้งหน้าพวกเขาอาจกลับมาพร้อมความเป็นลูกทุ่งจัดๆ ในเพลงที่พวกเขาสร้างสรรค์ก็เป็นได้

 

ตามติดผลงานเพลง มนุษย์เอ๋ย(Human Error)(ป๊อป ปองกูล) ในฉบับของวง นัด 9 มา 10 ซาวด์เช็คเสร็จกินข้าวก่อน จากขอบเวที THE POWER BAND โดยเฉพาะ ได้แล้วที่ YouTube : Kingpower Thaipower พลังคนไทย

 

Author

กฤษณา คชธรรมรัตน์

Author

นักเขียนที่ให้ความสนใจกับทุกเรื่องบนโลก อย่างละนิดอย่างละหน่อย บ่อยครั้งจึงวาร์ปไปเขียนเรื่องโน้นเรื่องนี้อย่างสนุกสนาน

Author

บริษัท เอ็กเปิร์ดคิด จำกัด

Photographer

การรวมตัวของคนโปรดักชั่น ที่ยังเชื่อในพลังสร้างสรรค์ เราจึงคิดและผลิตงานศิลปะทุกรูปแบบ