Product

ส้มตำอบกรอบ ปรุงด้วยรักจากใจ
ส่งต่อความแซ่บ นัวตำรับไทย
จาก ‘แม่ตุ๊ก’

วรากร เพชรเยียน 24 Feb 2022
Views: 539

จากภาพจำร้านส้มตำที่มาพร้อมเสียงป๊อกๆ ของสากกระทบครกไม้ที่เชิญชวนให้ผู้คนที่เดินผ่านหน้าร้านน้ำลายสอ เพราะสัมผัสได้ถึงรสชาติเผ็ดนัวของส้มตำรสจัดจ้าน วันนี้ ‘แม่ตุ๊ก’ แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารไทยแปลงโฉมส้มตำที่เราเคยรู้จักให้ออกมาเป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูป ที่เพียงแค่เทน้ำลงไปคลุกเคล้าด้วยอินเนอร์ ก็ได้ส้มตำรสชาติแซ่บมารับประทาน ทั้งสะอาด ปลอดภัย และโภชนา การครบถ้วนเหมือนเพิ่งตักออกจากครก

‘แม่ตุ๊ก’ แบรนด์ผลิตภัณฑ์วัตถุดิบและอาหารของคนไทยเกิดขึ้นมายาวนานกว่า 30 ปี โดยแม่ตุ๊ก หรือคุณตุ๊ก-สมคิด อินทรบุตร เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้ง ปัจจุบันคุณต้น-ธุรกิจ อินทรบุตร เข้ามาบริหารงานให้กับบริษัทเอ็ม ที เกษตรแปรรูป จำกัด โดยมีแบรนด์แม่ตุ๊กและอีกสามแบรนด์อยู่ภายใต้บริษัท มีส้มตำอบกรอบของแม่ตุ๊กเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อ ที่เต็มไปด้วยความแปลกใหม่ และยังคงเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้ได้อย่างครบถ้วน จนได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี เมื่อปี 2560 ที่พาให้ส้มตำโกอินเตอร์สู่สายตาโลก

 

จากร้านเล็กๆ ตลาดสี่มุมเมืองสู่บริษัทใหญ่

ก่อนหน้าที่จะพัฒนามาเป็นบริษัทใหญ่ผลิตสินค้าโลคอลที่มีคุณภาพอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ แม่ตุ๊กเริ่มมาจากการเป็นร้านค้าขายของในตลาดสี่มุมเมืองมาก่อน จนกระทั่งมองเห็นลู่ทางขยายให้สามารถทำเป็นโรงงาน เพื่อพัฒนาสินค้าให้มีความสะอาด ปลอดภัย “คุณแม่ค้าขายอยู่ที่ตลาดสี่มุมเมือง เป็นแบบขายส่ง-ขายปลีกเกี่ยวกับพวกผักดอง หน่อไม้ดอง ปลาร้า จนถึงทุกวันนี้ก็เกือบจะสามสิบปีแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังคงขายอยู่ จนมาปี 2550 ได้เปิดเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดชื่อ PK Food Supply” ซึ่งมีโปรดักต์เพิ่มเติมเป็นสินค้าบรรจุน้ำปลาร้า มะนาวถ้วย กระเทียมถ้วย…จากนั้นในปี 2557 จึงได้พัฒนาเป็นบริษัทจำกัด ก่อนหน้านี้แม่ตุ๊กเป็นรายแรกๆ ที่ริเริ่มผลิตน้ำปลาร้าบรรจุขวดขาย และยังคงเป็นสินค้าสร้างชื่อของบริษัทมาจนถึงทุกวันนี้

จากประสบการณ์การได้ใกล้ชิดกับสินค้าโลคอล บรรจุกระเทียม หน่อไม้ดองมาอย่างยาวนาน เส้นทางการผลิตสินค้าจึงเริ่มพัฒนาและปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย ด้วยการนำเข้าเครื่องจักรเพื่อนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ โดยมีวิสัยทัศน์ของบริษัทคือ ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่สากล

“วิสัยทัศน์ของเรา เราอยากจะนำผลิตภัณฑ์ พืชผลของเกษตรกรมาทำให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและเป็นที่รู้จัก” นอกจากสินค้าโลคอลแล้ว ภูมิปัญญาอาหารไทยยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการพัฒนาสินค้า จนเกิดเป็นส้มตำอบกรอบ ผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูปแปลกตาน่าลิ้มลอง

เสิร์ฟความนัว ด้วยน้ำเปล่าเพียงหนึ่งถ้วย

“ส้มตำเป็นเมนูที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว เป็นที่นิยมในต่างชาติ” ต้นทางความคิดที่ทำให้แบรนด์แม่ตุ๊กแจ้งเกิดส้มตำกึ่งสำเร็จรูปห่อนี้ขึ้น จะมีอะไรที่น่าตื่นเต้นไปกว่าการฉีกซอง เทน้ำใส่…แล้วได้ส้มตำพร้อมรับประทาน!

เพราะส้มตำซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารสร้างชื่อและเป็นเอกลักษณ์ของไทยจึงเป็นตัวเต็งในการผลิตครั้งนี้ แม้จะมีอาหารไทยอื่นๆ ที่น่าสนใจ แต่ส้มตำก็เป็นอาหารที่แม้จะมีความสลับซับซ้อน แต่ก็มีข้อได้เปรียบมากกว่าอาหารอย่างต้มยำ หรืออาหารประเภทอื่น “พวกต้มยำกุ้ง มัสมั่น หรือผัดไทย จะต้องใช้ความร้อนในการทำให้อาหารสุกจึงจะรับประทานได้ แต่ส้มตำเราสามารถรับประทานได้ปกติ เทน้ำเปล่าลงไป คลุกแล้วรับประทานได้เลย”

ผลิตภัณฑ์อบกรอบจึงเกิดขึ้นมาพร้อมกับการที่แม่ตุ๊กเลือกใช้เครื่องจักรแบบใหม่ที่มีเทคโนโลยีการทำแห้งสุญญากาศหรือ Freeze Dried เข้ามาพัฒนาจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ “ฟรีซดรายเป็นเทคโนโลยีการถนอมอาหารที่ดีที่สุด มันจะกลับคืนรูปออกมาได้ 90-95% และโภชนาการก็ไม่หายไป แต่ก่อนเขาใช้กับพวกผลไม้ ทุเรียน มะม่วง เราก็สนใจอยากจะทดลองทำอาหารว่าจะสามารถทำได้ไหม ก็เลยทดลองดู”

จากการใช้วัตถุดิบที่ปลูกขึ้นภายในโรงงานในระยะเวลาการทดลองสูตรกว่าสองปี หลังจากเริ่มวางขายและมีออร์เดอร์การสั่งซื้อมากขึ้น บริษัทจึงขยายรับซื้อจากเกษตรกร “เราสั่งซื้อจากเกษตรกร ส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุดิบ ที่เราคัดสรรในเรื่องราคาและคุณภาพที่เรารับได้” วิธีนี้ถือเป็นการกระจายรายได้ให้กับเกษตรกรไปในตัวด้วย

 

ของหวานไม่ซ้ำใคร

ไม่เพียงความแซ่บนัวเท่านั้นที่แบรนด์แม่ตุ๊กนำเสนอ หากยังเพิ่มไลน์การผลิต พัฒนาจากอาหารคาวมาเป็นอาหารหวาน โดยยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์อาหารไทยอย่างข้าวเหนียวมะม่วงและข้าวเหนียวทุเรียน ของหวานขึ้นชื่อของประเทศไทย “จากการทำส้มตำอบกรอบ เรามาพัฒนาตัวขนมหวานออกมาเป็นข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทุเรียนไปด้วย เราตั้งใจให้สามารถรับประทานเป็นสแน็กได้เลย”

ของว่างที่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของข้าวเหนียวทุเรียนและข้าวเหนียวมะม่วง อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมตั้งแต่ปากถุงเปิดออก นอกจากของหวานไทยแล้ว แม่ตุ๊กยังพัฒนาทุเรียนอบกรอบ มะม่วง และลำไยอบกรอบออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เสริม เป็นอีกสินค้าที่ช่วยเติมเต็มให้อาหารกึ่งสำเร็จรูปของแม่ตุ๊กมีความแตกต่างและหลากหลายจากแบรนด์ในท้องตลาด

นอกจากอาหารหวานแล้ว ยังมีอาหารคาวที่คิดแต่ยังไม่ได้เปิดตลาดอย่างต้มยำกุ้ง ผัดไทยด้วย และในเร็วๆ นี้ก็เตรียมปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบอาหารกึ่งสำเร็จรูปด้วย

“เร็วๆ นี้ที่จะจำหน่ายให้กับทางคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ก็จะเป็นบะหมี่ต้มยำกุ้งอบกรอบ คล้ายๆ กับถ้วยร้อน ของเราจะแตกต่าง ก็คือเราใช้กุ้งแม่น้ำจริงๆ ที่ไม่เหมือนกุ้งฝอย เราก็จะนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ของเราด้วย” อาจพูดได้ว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่แบรนด์แม่ตุ๊กพัฒนา มีจุดเริ่มต้นที่เข้มแข็งมาจากการเป็นผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบ อาหารโลคอลมาก่อน จึงสามารถพัฒนาเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและสะท้อนให้เห็นถึงความรู้ความตั้งใจในการผลิตสินค้าจริงๆ

อาหารที่ปรุงจากความตั้งใจและใส่ใจ

จากผลิตภัณฑ์อาหารที่มีอยู่อย่างหลากหลายของแบรนด์แม่ตุ๊ก โดยเฉพาะส้มตำอบกรอบ และผลิตภัณฑ์อบสุญญากาศที่นำออกมาจำหน่าย กว่าจะได้มาแต่ละชิ้นนั้นใช้เวลายาวนานและต้องใช้ความรักและความตั้งใจจริง “เราพัฒนาสูตรมากว่าสองปี เครื่องอบมันมีข้อจำกัดอย่างหนึ่ง คือพอเราปรุงได้รสเรียบร้อยแล้ว เอาเข้าไปอบ มันก็อาจจะลดในบางส่วน บางทีความหวานหายไป ความเผ็ดไม่มี”

การอบส้มตำอบกรอบแต่ละครั้งใช้เวลาในการอบกว่า 48 ชั่วโมงกว่าจะได้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งชิ้น เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ผลไม้อบกรอบที่ใช้เวลาอบน้อยกว่า การผลิตส้มตำจึงมีความยากและซับซ้อนกว่า ด้วยวัตถุดิบที่ผสมอยู่ในอาหาร “ถ้าเป็นตัวผลไม้ เราก็จะทำแบบทุเรียนหมด เท็กซ์เจอร์ของมันอบไม่ยาก แต่ตัวส้มตำมันมีทั้งเส้นมะละกอ กุ้ง มะเขือ ซึ่งเท็กซ์เจอร์แต่ละอย่างกว่าจะดูดความชื้นออกมาได้ 100% ก็ต้องผ่านการทดลองมาหลายรอบ”

 

ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้น โดยเฉพาะส้มตำอบกรอบและผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยกรรมวิธีการอบสุญญากาศ แม่ตุ๊กยังใส่ใจเรื่องแพ็กเกจจิงด้วยการเลือกถุงอะลูมิเนียมฟอยล์เป็นบรรจุภัณฑ์ ทำให้ส้มตำอบกรอบสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 1 ปี และแยกถุงถั่วและถุงกุ้งแห้ง โดยคำนึงถึงผู้บริโภคที่แพ้อาหารด้วย

ทั้งหมดนี้ถูกสรรค์สร้างขึ้นมาด้วยความรักและความตั้งใจของตัวแม่ตุ๊กเอง “คุณแม่เขาไม่ได้จบมาด้านอาหารเลย เป็นแม่ค้าขายของอยู่ในตลาด ส่วนผมจบทางด้านบริหารการตลาด เราก็ต้องเรียนรู้มาพอสมควรกว่าจะได้ออกมาแต่ละโปรดักต์ แต่ด้วยคุณแม่มีความตั้งใจที่อยากจะทำโรงงาน และอยากผลิตสินค้าให้เป็นที่รู้จักก็ต้องศึกษาและลงมือทำ” โรงงานได้มาตรฐาน GMP HACCP และ อย. จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นปลอดภัย

ปัจจุบันสินค้าและผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีมากมายกว่าร้อยรายการ และยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าต่อไปส่งต่อความอร่อยและสินค้าให้กับห้างร้าน รวมถึง คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ที่เข้ามาเริ่มต้นขายได้กว่า 5 ปีแล้ว

“เราตั้งใจว่าจะเข้ามาขายกับทางคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี เพราะเราเห็นว่าสินค้าของเราเป็นสินค้าที่ให้คนไทยซื้อเป็นของฝาก ของที่ระลึก หรือเอาไปรับประทานเวลาไปเที่ยว ต่างประเทศ” ซึ่งก็ได้กระแสตอบรับที่ดีและถือเป็นอีกช่องทางที่ช่วยกระจายและเผยแพร่ภูมิปัญญาอาหารไทยสู่สายตาต่างชาติไปในตัว และในเร็วๆ นี้แม่ตุ๊กจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ บะหมี่ต้มยำกุ้งอบกรอบที่ใช้กุ้งแม่น้ำจริงๆ มาผ่านกระบวนการผลิต ซึ่งจะวางขายกับทางคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ด้วยอีกเช่นกัน

นับว่าแบรนด์แม่ตุ๊ก เป็นอีกขั้นหนึ่งของแบรนด์สินค้าที่นำเสนออาหารไทย ตำรับไทย ตามแบบภูมิปัญญาชาวบ้านให้มีความแปลกใหม่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ไม่เพียงรูปลักษณ์ สีสันสดใส หากแต่ยังสามารถรับรู้ได้ถึงความตั้งใจและความใส่ใจผ่านรสชาติที่เข้าถึงแก่น แซ่บนัวของส้มตำตามสูตรอาหารไทยรสเลิศในรูปแบบอาหารกึ่งสำเร็จรูปซึ่งพลิกโฉมหน้าส้มตำแบบดั้งเดิมไปอย่างสิ้นเชิง

 

MAETUK

ที่ตั้ง: บริษัท เอ็ม ที เกษตรแปรรูป จำกัด 2/1 หมู่ 8 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120

 

Facebook: MAETUK

ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย

คลิก: MAE TUK

 

สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถสนับสนุนได้ที่คิง เพาเวอร์ทุกสาขา

 

ปักหมุดจุดเช็กอิน–แชะรูป–ท่องเที่ยวใกล้เคียง

• Wisdom Farm ร้านกาแฟริมทุ่งนาแห่งอำเภอคลองหลวง ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มุ่งมั่นในการสืบสานพระราชปณิธานสู่การรักษาต่อยอดศาสตร์พระราชาด้านการเกษตร เหมาะจะมาเที่ยวในวันหยุด จิบกาแฟในบรรยากาศสบายๆ

• กระท่อมลุงจรณ์ สวนกระบองเพชรแห่งแรกในประเทศไทย ที่นี่มีกระบองเพชรหลากหลายสายพันธุ์วางจำหน่าย ทั้งแบบนำเข้า และแบบเพาะพันธุ์ขึ้นมาใหม่ เหมาะสำหรับคนรักกระบองเพชร

• วัดปัญญานันทาราม ภายในประดิษฐานเจดีย์พุทธคยาจำลองถอดแบบมาจากประเทศอินเดีย และมีภาพปริศนาธรรมแบบ 3 มิติ เพียงที่เดียวในโลก ที่นี่ก่อตั้งโดยหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นมรดกธรรมและสถานที่ปฏิบัติธรรม

Author

วรากร เพชรเยียน

Author

อดีตแอร์โฮสเตสผันตัวมาเป็นนักเขียน ผู้หลงใหลศิลปะและการเดินทาง นิยมการบอกรักประสบการณ์ผ่านตัวหนังสือ