People

7 สาว 4EVE
กับ 7 ภาพที่เล่าทุกก้าวบนเวทีระดับโลก

กฤษณา คชธรรมรัตน์ 8 Aug 2025
Views: 816

Summary

เมื่อ 4EVE เปิดมือถือเลือกภาพพิเศษของพวกเธอมาเล่าประสบการณ์สำคัญให้เฉพาะ Thaipower.co  เป็นภาพที่บอกเล่าชีวิตของพวกเธอในช่วงก้าวกระโดดจากเด็กสาว จนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ หลังจากก้าวแรกเริ่มเดบิวต์เป็นปีที่ 4 และเข้าสู่การทำงานแบบอินเตอร์ฯ สะสมประสบการณ์ในฐานะศิลปินที่ไม่หยุดนิ่ง เป็น T-Pop แถวหน้าสู่สากลโดยมี EP Album เป็น 5 เพลงภาษาอังกฤษ และยังเป็นก้าวจากเวทีระดับประเทศ…สู่เวทีระดับโลก

เมื่อ 4EVE ก้าวขึ้นเวทีเทศกาลดนตรี HEAD IN THE CLOUDS ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา นั่นไม่ใช่แค่การแสดงอีกหนึ่งโชว์ แต่เป็น “บทใหม่” ของความฝันที่กลายเป็นจริง เพราะแม้ว่าก่อนนี้พวกเธอจะเดินทางไปแสดงในต่างประเทศ แต่ครั้งนี้ไปไกลกว่าที่เคย

ก่อนถึงวันนั้น สมาชิกทั้ง 7 คนยังได้เติมเต็มอีกหนึ่งความฝัน ใน EP Album ‘GLOW’ ที่พวกเธอได้ร่วมทำงานกับ Brian Kennedy ศิลปินผู้เคยทำเพลงให้กับนักร้องชื่อดังอย่าง Rihanna, Jennifer Hudson, Backstreet Boys รวมไปถึงทีมงานระดับโลกคนอื่นๆ อย่าง Rob (Robert Persaud), Piao และ Fussy

 

HEAD IN THE CLOUDS (HITC) FESTIVAL คือ

เทศกาลดนตรีประจำปีสุดปังที่จัดโดย 88rising
ค่ายเพลงที่ซัปพอร์ตศิลปินเอเชียให้ไปไกลระดับโลก
เริ่มต้นจัดมาตั้งแต่ปี 2018 ที่ลอสแอนเจลิส
จุดประสงค์หลักคือการรวมตัวของดนตรี ศิลปะ
และวัฒนธรรมเอเชียเข้าไว้ด้วยกัน ในงานจะมีศิลปินเจ๋งๆ
หลากหลายแนว ทั้งฮิปฮอป อาร์แอนด์บี และป็อป
มาโชว์พลังกันเพียบ! HITC กลายเป็นเวทีสำคัญที่ทำให้
ศิลปินเอเชีย อย่าง Joji, Rich Brian, NIKI
รวมถึง Milli ของไทยเรา โด่งดังไปทั่วโลก

 

และหลังจากกลับจากลอสแอนเจลิสไม่นาน 4EVE ก็ได้กลับมาเจอกับแฟนๆ ชาวไทยในอีกหนึ่งเวทีสำคัญ มินิคอนเสิร์ตที่ THE POWER BAND 2025 SEASON 5 สนามเชียงใหม่ ซึ่งจัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมพันธมิตรค่ายเพลงระดับแนวหน้าของประเทศ และ Multiply by Eight ภายใต้คอนเซปต์ MUSIC CREATES MORE POSSIBILITIES พลังดนตรี เป็นไปได้ ไม่สิ้นสุด ที่เสียงเชียร์ เสียงร้องตาม และบรรยากาศกลายเป็นพลังให้พวกเธอเดินหน้าต่อบนเส้นทางดนตรีที่กำลังเติบโตขึ้นทุกวัน (มีภาพบรรยากาศมินิคอนเสิร์ตนั้นมาให้ชมกันที่ท้ายบทความนี้)

Thaipower.co ชวนสมาชิก 4EVE ทั้ง 7 คน มาเลือก “ภาพหนึ่งภาพ” ที่อยากเล่า ไม่ใช่ภาพที่สวยที่สุดหรือเพอร์เฟกต์ที่สุด แต่เป็นภาพที่มีความหมายลึกที่สุดในใจ…เป็นภาพที่มีเสียงหัวเราะ ความกดดัน ความภูมิใจ ความเหนื่อย ความสนุก หรือน้ำตาซ่อนอยู่

และเมื่อแต่ละคนเริ่มเล่าเรื่องราวจากภาพนั้น สิ่งที่เราได้ ไม่ใช่แค่เบื้องหลังการทำงานระดับโลกเท่านั้น แต่คืออีกด้านของการเติบโตในฐานะศิลปิน และในฐานะเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เชื่อและทำในสิ่งที่ตัวเองรัก

 

• อ๊ะอาย:

ภาพ “ห้องอัดเสียงที่เปลี่ยนโลกของเราไปเลย”

“หนูเลือกภาพที่อยู่ในห้องอัดเสียงค่ะ เป็นภาพที่มีทั้งทีมงานนั่งอยู่ในห้องเดียวกัน แล้วเราก็เป็นหนึ่งในคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเพื่ออัดเพลงใหม่ หนูจำได้เลยว่า ตอนนั้นนั่งอยู่ในห้อง หนูรู้สึกว่า เอ๊ย นี่คือการทำงานอีกโลกหนึ่งเลยนะ มันดูจริงจังมาก ทุกคนตั้งใจมาก แล้วเราก็รู้สึกว่า ‘เราต้องทำให้ได้’ เพราะนี่ไม่ใช่การอัดเสียงเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาแล้ว มันเป็นอะไรที่ใหม่ และยิ่งใหญ่มากสำหรับเรา”

“แต่ที่หนูชอบคือพอเปิดประตูออกจากห้องอัด มันเป็นอีกบรรยากาศเลยค่ะ ข้างนอกพี่ๆ เขานั่งเล่นกีตาร์กันอยู่ พี่แฮนเล่นกีตาร์ไร้สายแบบบลูทูธ แล้วก็มีพี่ออมกับพี่พั้นช์นั่งร้องเพลงกันอยู่ คือมันอบอุ่นมาก หนูว่ามันเป็นภาพที่มีความขัดแย้งกันดีนะ ข้างในเราจริงจังมาก แต่ข้างนอกคือบ้านของเรา เป็นความสนุกแบบที่เราเคยชิน”

 

แฮนน่า: “พูดถึงห้องอัดเสียง หนูมีภาพในใจเหมือนกันค่ะ เป็นตอนอัดเพลง Snooze คือเฉพาะท่อนฮุกอย่างเดียว หนูใช้เวลาสองชั่วโมงเต็มในการอัดเสียงคนเดียวเลยนะคะ (หัวเราะ) หนูเหนื่อยมาก เหมือนอัดไม่จบสักที สุดท้ายหนูก็เขียนโน้ตใส่กระดาษวางไว้ให้พวกเราคนที่จะเข้ามาอัดเสียงต่อไปว่า ‘สู้ๆ นะ’ กับ ‘พวกแกตายแน่!’ คือหนูเขียนด้วยความขำๆ แต่มันก็เป็นความจริงใจนะ เพราะมันยากจริงๆ (หัวเราะ)”

พั้นช์: ”จำได้ว่าเขียนไว้ว่า ‘ช่วยด้วย’ กับ ‘พวกแกตายแน่’ คือขำมาก (หัวเราะ) แต่ก็เข้าใจแหละ เพราะตอนนั้นมันใช้เวลาอัดเสียงกันยาวนานมากทุกคน“

แฮนน่า: ”ใช่ค่ะ เพราะช่วงนั้นเราใช้เวลาซ้อมกับอัดเสียงคิวมันเบียดกันมากๆ แล้วสิ่งที่ซ้อมกับสิ่งที่ต้องอัดจริงมันไม่เหมือนกันเลยนะคะ อย่างที่เรียนกับครูก็แบบหนึ่ง แต่พอถึงหน้างาน โพรดิวเซอร์เขาบรีฟอีกแบบ มันต้องปรับกันใหม่หมดเลย ต้องยืดหยุ่นสุดๆ ก็เลยใช้เวลานานมากๆ กับแต่ละเพลง”

• แฮนน่า:

ภาพ “ซ้อมยิ่งกว่าคอนเสิร์ตใหญ่”

“หนูเลือกรูปนี้ เป็นรูปเซลฟี่ตอนประชุมกัน เป็นวันก่อนที่เราจะบินไปอเมริกาเพื่อขึ้นเวทีคอนเสิร์ตที่ LA ครั้งนั้น ในรูปคือเรากำลังซ้อมแบบรันทรูทุกอย่าง ใส่เสื้อผ้าจริงที่จะใช้ขึ้นเวทีเพื่อเตรียมไปร้องไปเต้นที่นู่น ในภาพเป็นช่วงรีแคปกับทีมว่าต้องปรับอะไร โดยเราต้องทำให้มันทันในครึ่งชั่วโมง ก็พยายามยัดทุกอย่าง ว่าเธอต้องพูดแบบนู้นแบบนี้ให้พอดีในสามสิบนาที

เป็นการที่เราซ้อมเยอะยิ่งกว่าคอนเสิร์ตใหญ่อีก หนูรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก แล้วเราทำการบ้านกันมาอย่างหนัก พยายามรันทรูวันละสองรอบ เรารันทรูหลายรอบมากๆ เพื่อที่จะได้ไม่มีข้อผิดพลาดบนเวที”

 

• ตาออม:

ภาพ “รถเทรลเลอร์ที่มีความหมายมากกว่ารถ”

“ที่เลือกเป็นรูปห้องพักที่เป็นรถ(เทรลเลอร์) คือปกติเราเล่นงานเฟสติวัลที่ไทยเราจะได้อยู่เป็นห้องพักหรือเป็นเต็นท์ เราเคยเห็นเฟซบุ๊กของต่างประเทศมาบ้างที่ห้องพักของเขาเป็นรถ เรารู้สึกว่ามันเก๋มากเลยนะ ถ้าวันหนึ่งจะมีชื่อ 4EVE แปะอยู่ที่รถ แล้วภาพนั้นมันก็เกิดขึ้นจริงๆ เลยรู้สึกว่าพวกเราก็เดินทางมาถึงจุดนี้แล้วเนอะ

เรามีห้องพักเป็นรถแล้ว รู้สึกว่าเราเหมือนออกมาจากเซฟโซน ออกมาจากบ้านของพวกเรา ตื่นเต้นมากค่ะ ทุกคนต้องถ่ายรูปเช็กอิน

ส่วนตอนขึ้นเวทีจริงๆ หนูว่ามันเป็นความรู้สึกว่าเราอยากทำให้ดีที่สุดมากกว่า ซึ่งก่อนขึ้นมันจะตื่นเต้นมากๆ แต่พอขึ้นไปรู้สึกว่ามันเหมือนเราถือดาบแล้วเราสู้อยู่สุดกำลัง”

 

• มายด์:

ภาพ “ความรู้สึกแรกบนเวที HITC ที่ลืมไม่ลง”

“หนูเป็นคนเล่าต่อแล้วกันค่ะ ตอนไปถึงงาน เราไปเห็นรถก่อน แล้วค่อยไปซาวนด์เช็ก บนเวทีได้      ซาวนด์เช็กครั้งแรก แล้วเราถ่ายรูปที่เขาให้ใส่ wristband เวลาไปงานแบบนี้มันก็จะมีริสแบนด์หลายๆ ประเภท ซึ่งเราก็ใส่ริสแบนด์ “Artist” ขึ้นไป แล้วก็ไปเจอเวทีจริงครั้งแรก ไปเหยียบที่แสดงเป็นครั้งแรก

เราขึ้นไปบนเวทีปุ๊บ ก็จะเดินให้ทั่ว ให้คุ้นกับเวที มันเป็นความตื่นเต้นค่ะ เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากที่เราเห็นได้รถเทรลเลอร์สำหรับวงเรา เหมือนมันยิ่งตอกย้ำว่า เราเป็นศิลปินที่ได้ขึ้นที่สเตจ HITC  นี่จริงๆ นะ เป็นการเตรียมตัวเตรียมใจว่าเราต้องเหยียบสเตจนี้นะ เราจะเพอร์ฟอร์มให้มันไปไกลที่สุดเท่าที่เราจะทำได้”

 

• โจริญ:

ภาพ “ที่มา…เพื่อขอกำลังใจ”

“ภาพรวมทุกคนเซลฟี่บนเวที ถ่ายไว้เพราะจะส่งให้ Choreographer ครูสอนเต้น เพราะว่าพออยู่ตรงนั้นแล้วเราต้องการกำลังใจค่ะ ตอนอยู่ที่ไทยเขาจะอยู่ใกล้ๆ เวลาซ้อมบล็อกกิงเราค่อนข้างจัดการกันเองได้พอสมควร เราชินเวทีที่ไทย ไปถึงที่นู้นเราก็ต้องจัดการตัวเอง เพราะว่าเขาไม่ได้ไปด้วย

อันนี้เราถ่ายแล้วก็ส่งให้เขาว่า ‘เนี่ย กำลังจะทำสิ่งนี้นะ อวยพรแล้วก็เป็นกำลังใจให้พวกหนูหน่อย’ เหตุการณ์หลังจากนั้นก็คือเขาก็จะโทร.มา…เฟซไทม์กัน แล้วก็พูดให้กำลังใจ ซึ่งมันเป็นความรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปเมื่อตอนเริ่มเดบิวต์ใหม่ๆ ที่เราต้องการกำลังใจจากหลายๆ คน”

มายด์:ครูคนนี้เป็นครูที่อยู่กับพวกเรามาตั้งแต่แรกด้วย ตบตีพวกเรามา เป็นศูนย์รวมจิตใจค่ะ”

• พั้นช์:

ภาพ “กับรูปที่ยังไม่ได้ลง…”

“เป็นรูปที่ถ่ายหน้าเวทีค่ะ หนูชอบรูปนี้เพราะว่าหนูชอบชุดนี้ หนูยังไม่ได้ลงรูปนี้ หนูเสียดาย กลัวคนไม่ได้เห็น ก็เลยเลือกรูปนี้มาเล่าค่ะ จริงๆ มันมีหลากหลายโมเมนต์มากที่หนูประทับใจกับทริปนี้…กับ  โพรเซสของงานครั้งนี้มากๆ วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เรารู้สึกว่าใกล้เป็นจริงแล้ว มันก็เลยเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น แล้วก็มีความรู้สึกว่า เฮ้ย เมื่อไหร่จะถึงพรุ่งนี้ซะที มันอยากรู้แล้วว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

จริงๆ มีอีกรูปที่อยู่ในใจ คือเซลฟีตอนกำลังเข้าห้องอัด อัดเพลง Starry Night ค่ะ เพราะว่าเรารู้สึกว่ามันเป็นวันที่เราได้เข้าไปห้องอัดด้วยกัน 7 คนกับพี่ๆ โพรดิวเซอร์ เราได้พูดไอเดียบางอย่างของแต่ละคนไปเพื่อช่วยเขาต่อยอดในการแต่งออกมาเป็นเพลงของเรา ก็รู้สึกว่าเรื่องนั้นก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งใหม่ๆ ที่เราได้มีส่วนร่วม”

• ฝ้าย:

ภาพ “จากแฟนคลับ…สู่การเป็นศิลปินร่วมเวที”

“ของหนูเป็นรูปถ่ายกับ Rich Brian คนนี้หนูติดตามเขาอยู่ก่อนแล้ว เขาเป็นศิลปินของ 88rising ซึ่งเป็นผู้จัดคอนเสิร์ต HITC นี้ด้วย หนูติดตามเขามาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ตอนเขาเริ่มเป็นแร็ปเปอร์ใหม่ๆ แล้วหนูก็ติดตามเวทีนี้มานานแล้วก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มาเจอเขาบนเวที แล้วก็ได้มาดูเขาเพอร์ฟอร์ม

เราตามเขาตั้งแต่เพลงแรกๆ ตั้งแต่ที่เขายังไม่ได้แมสขนาดนี้ จนวันหนึ่งได้มาเจอตัว ได้มาถ่ายรูปกับเขา คุยกับเขา ก็รู้สึกว่า ‘เราก็มาไกลนะ เราก็ตามเขามาขนาดนี้’  แล้วเขาฟอลเรากลับในฐานะอาร์ตทิสต์ด้วยกัน มันเลยเป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำ”

มายด์: “มีเรื่องจะเล่าเพิ่มด้วยค่ะ หลังจากที่เราโชว์อะไรเรียบร้อยเสร็จแล้ว น้องฝ้ายก็มีโมเมนต์ได้เจอศิลปินที่ชอบ เราลงจากเวทีมาปุ๊บมันมีซีนหนึ่ง ซึ่งไม่รู้กำลังเดินอยู่กับใคร พอเราลงจากเวทีมาแล้ว เราเดินกลับมาที่ตรงอาร์ตทิสต์วิลเลจ เดินกลับมาปกติเลย แล้วมีชาวต่างชาติคนหนึ่งเขาเรียก ‘You guys, 4EVE? You guys’ show was amazing.’ เขาชม เขาเห็นโชว์ของพวกเรา เขาเป็นใครก็ไม่รู้เลย เขาหันมาเรียกเพื่อบอกว่า ‘โชว์พวกยูดีมากเลยนะ’ เราก็หูย… เขารู้จักเราด้วย ไม่รู้หรอกว่าเขารู้จักมาก่อนหน้านั้นหรือเปล่า แต่ว่าเขามีความสุข แล้วก็แฮปปีกับโชว์ที่พวกเราพรีเซนต์ไป ก็เลยดีใจกับตรงนั้นมากๆ”

 

GROW ไปกับ GLOW

Thaipower.co: มาคุยกันต่อเรื่อง EP Album GLOW กันสักนิด บรรยากาศการทำงานระดับอินเตอร์นี่เป็นยังไงกันนะ

แฮนน่า: ฟีลเครียดๆ นิดหน่อยค่ะ ภาษาอังกฤษด้วย เจอคนใหม่ๆ ด้วย อย่างที่บอกค่ะ มันเหมือนการ     เดบิวต์ใหม่ ในสเตจใหม่ๆ เราอยากจะทำให้ภาพแรกให้มันออกมาดีที่สุดค่ะ แฮนน่าก็เลยอัดไปเลย สองชั่วโมง แต่ว่าใช้เวลาอัดเสียงกันนานทุกคนเลยค่ะ

ขอบคุณภาพจาก XOXO Entertainment

 

Brian Kennedy เป็นใคร?

โพรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง และนักดนตรีมากฝีมือชาวอเมริกัน
ที่คว้า Grammy Awards มาแล้วหลายสาขา
เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเพลงฮิตระดับโลกอย่าง “Disturbia” ของ Rihanna
“Forever” ของ Chris Brown รวมถึงเคยร่วมงานกับ
ศิลปินแถวหน้าอีกมากมาย เช่น Jennifer Hudson,
Lady Gaga, Kelly Clarkson, Ciara และ Backstreet Boys เป็นต้น

 

โจริญ: ตอนเราฟังเดโมพวกเราชอบกันมาก แล้วเราคาดหวังกับอัลบั้มนี้พอสมควร พวกเราชอบกันทุกคน เป็นอัลบั้มที่เราฟังกันเองด้วย แล้วก็ยังฟังเรื่อยๆ

อ๊ะอาย: ทุกวันนี้ตื่นเช้ามาหนูก็เปิดเพลง กดอัลบั้ม GLOW บิวต์ตอนเช้าค่ะ

ขอบคุณภาพจาก FB: 4EVE

 

Thaipower.co: เราปักหมุดใหม่หรือยังคะ เช่น…เราจะไป Coachella?

มายด์: มันก็มีคิดแหละค่ะ มันเป็นเรื่องอินสไปร์มากกว่า เราเห็นศิลปินหลายๆ คนที่เขาไปตรงนั้น โคตรเจ๋งเลยอะ สักวันจะเป็นวันของเราไหมนะ ฟีลนั้นมากกว่า ไม่ได้แบบ “ฉันจะต้องไป” ตอนนี้มันอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ความสามารถ และคอนเนกชัน และแฟนคลับ…ทุกอย่าง เพื่อที่จะเห็นเส้นทางที่จะทำให้เราไปถึงข้างหน้าให้ไกลกว่านี้ค่ะ 4EVE ทำงานแต่ละวันเต็มที่อยู่แล้ว ก็เก็บเกี่ยวอะไรไปเรื่อยๆ ค่ะ

อ๊ะอาย: ค่อยๆ ทำไป เอนจอยกับมัน เดี๋ยวมันก็มาเอง

โจริญ: จริงๆ 4EVE อาจไม่มี “งาน” ที่อยากไปให้ได้ แต่เป็น “สถานที่” ที่อยากไปด้วยกัน เราอยากไปทวีปนี้ เราอยากไปประเทศนี้ เมืองนี้ ด้วยกันก็จะดี

มายด์: มีสิ่งหนึ่งที่โจเคยพูดว่าอยากไปไอซ์แลนด์ โจเคยบอกว่า “เราได้ไปสถานที่ใหม่ๆ เพราะ 4EVE เหมือนกันนะ” ตาออมก็เคยพูดไว้ในรายการด้วย ความเป็น 4EVE มันทำให้เรามีโอกาสที่ได้ไปในที่ใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ ต้องขอบคุณ 4EVE ที่ทำให้เราเจอโลกที่กว้างขึ้น

 

เราก็ขอขอบคุณ 4EVE ที่ทำให้ภาพถ่ายธรรมดา เป็นเรื่องเล่าที่น่าประทับใจและแสนจะสร้างพลังใจ ย้อนกลับไปอ่านเรื่องราวของ 4EVE ผ่านตัวอักษร A ถึง Z คลิกที่นี่

 

เก็บภาพบรรยากาศการแสดงมินิคอนเสิร์ตของ 4EVE

ที่ THE POWER BAND 2025 SEASON 5 สนามเชียงใหม่มาฝากกัน

ติดตามบรรยากาศแบบเกาะขอบเวทีของสนามเชียงใหม่ เพิ่มเติม คลิกที่นี่

Author

กฤษณา คชธรรมรัตน์

Author

นักเขียนที่ให้ความสนใจกับทุกเรื่องบนโลก อย่างละนิดอย่างละหน่อย บ่อยครั้งจึงวาร์ปไปเขียนเรื่องโน้นเรื่องนี้อย่างสนุกสนาน

Web Editor

ปิ่นอนงค์ วัชรปาณ

Web Editor

บรรณาธิการเว็บ Thaipower.co อดีตบรรณาธิการบางสำนัก นักข่าวและคอลัมนิสต์จำเป็น โกสต์ไรเตอร์...ผู้รักการเดินทาง หลงใหลกลิ่นกาแฟ และเป็นมูฟวีเลิฟเวอร์

Author

อำพน จันทร์ศิริศรี

Photographer

ช่างภาพอิสระมากว่า 30 ปี...ที่คร่ำหวอดกับการถ่ายภาพรายการทีวีต่างๆ เช่น The Voice, The Rapper, The Stars Idol เป็นต้น และถ่ายภาพคอนเสิร์ตต่างๆ