Passion

กิฟท์ สุทธิดา The Piclic Band
ฝีมือ! ที่ไม่บังเอิญด้วยโชคชะตา

ณัฐวิมล เศารยะพงศ์ 5 Dec 2022
Views: 732

มือกีตาร์เจ้าของรางวัล Outstanding บนเวที THE POWER BAND 2022 SEASON 2 จัดโดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย กับผลงานโชว์ที่ทำออกมาได้สนุกและมีเพอร์ฟอร์มแข็งแรง มาตั้งแต่รอบคัดเลือกที่สนามภูมิภาค จังหวัดเชียงใหม่ 

กระทั่งเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ กรุงเทพฯ The Piclic Band ก็ยิ่งฉายความเป็นร็อกเล็กๆ ในชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนออกมาได้อย่างสุดปัง! และโดนใจผู้ชมกันไปไม่น้อย

แล้วผลก็เป็นไปตามคาด ด้วยความโดดเด่นของโชว์ ทำให้ เดอะ ปิ๊กลิ๊ก แบนด์ ได้ชัยชนะไปครอบครอง กับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งของ Class A (รุ่นมัธยมศึกษา) ชนิดไม่มีอะไรที่ค้านสายตาคนดูแม้แต่น้อย ซึ่งเราได้พาคนอ่านไปทำความรู้จักกับเรื่องราวน่ารักน่าเอ็นดูของสาวๆ ตัวเปี๊ยกทั้ง 5 กันมาแล้ว

แต่กับอีกรางวัลคือ “นักดนตรียอดเยี่ยม” ที่พ่วงมาด้วย ทำให้เราต้องย้อนกลับไปชวน กิฟท์ – สุทธิดา พันธ์ศรี มือกีตาร์ มาคุยแบบเดี่ยวๆ อีกครั้ง เพราะด้วยฝีไม้ลายมือในทางกีตาร์ที่เขาฝึก บวกเข้ากับอินเนอร์ในการโซโลกีตาร์ของสาวน้อยหัวใจร็อกคนนี้บนเวที ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดา!!

“หนูอยากเป็นศิลปิน เพราะหนูอยากขึ้นไปเล่นบนเวทีใหญ่ๆ ให้ได้เหมือนพี่ๆ ที่เป็นไอดอลวงต่างๆ ของหนู ถ้าเป็นไปได้หนูก็อยากเป็นศิลปินที่มีงานเล่นดนตรีไปตลอด
ถึงจะมีเหนื่อยบ้าง แต่หนูก็จะสู้ให้ได้ค่ะ”

กิฟท์ – สุทธิดา พันธ์ศรี มือกีตาร์ The Piclic Band
(รางวัล Outstanding จาก THE POWER BAND 2022)

 

มือกีตาร์ที่เริ่มจากอิเล็กโทน

อย่างที่รู้จากตอนสัมภาษณ์วง ว่าสาวๆ เดอะ ปิ๊กลิ๊ก แบนด์ เริ่มหัดเล่นดนตรีกันมาตั้งแต่ยังอยู่ ป.2 เราเลยถามกิฟท์ให้ลึกลงไปอีกนิดว่าการเล่นดนตรีของเธอนั้น เกิดขึ้นมาจากความชอบส่วนตัว หรือทางครอบครัวสนับสนุน เด็กสาวตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง

“คือที่โรงเรียนจะมีคาบเรียนอิเล็กโทนกับครูแตน (ฐิติพงศ์ วงศ์ชัย) อยู่แล้วค่ะ แล้วหนูก็อยากเรียนเพิ่ม หนูก็เลยไปขอครูสอนเพิ่ม แต่พอเล่นๆ ไปหนูรู้สึกว่าอิเล็กโทนยังไม่ใช่สิ่งที่ชอบ ครูแตนเลยแนะนำให้ลองเล่น   อูคูเลเล่ค่ะ”

แม้จะเป็นการเริ่มเล่นดนตรีจากวิชาในโรงเรียน แต่พอได้ลองเล่นไปเรื่อยๆ มันกลายเป็นความสนุก แต่ด้วยความที่ตอนนั้นยังเป็นเด็กมาก กิฟท์จึงยังไม่ได้มีเป้าหมายกับความฝันทางดนตรีมากนัก แต่หนักไปทางเล่นตามคำแนะนำของครู และเล่นเพื่อสนุกกับเพื่อนๆ มากกว่า

“ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก หนูก็รู้สึกแค่ว่าเล่นได้ แล้วร้องตามได้มันก็สนุกแล้ว” แต่หลังจากที่ครูแตนเริ่มเห็นแววของนักเรียนทั้ง 5 และคิดเปลี่ยนแนวทางจากวงอูคูเลเล่ให้มาเล่นวงสตริงแทน แม้จะต้องหัดจับเครื่องดนตรีกันใหม่ แต่ด้วยที่มีพื้นฐานการดีดอูคูเลเล่มาอยู่แล้ว มันเลยทำให้กิฟท์สามารถต่อยอดการเล่นกีตาร์ไปได้โดยปริยาย “พอเปลี่ยนมาเล่นกีตาร์ หนูรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ยาก แล้วก็ไม่ง่ายนะคะ หนูว่าหัวใจมันอยู่ที่การฝึกซ้อมของเราด้วยค่ะ ถ้าฝึกบ่อยๆ เราก็จะทำได้”

 

3 เคล็ดลับจากกิฟท์ มือกีตาร์ เจ้าของรางวัล Outstanding

• “มีใจ” ให้ดนตรีที่เล่น
• ซ้อมหนัก…เพื่อความแม่นยำ พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
• เล่นให้สนุก…ตามฟิลที่รู้สึก

 

ซ้อม ซ้อม ซ้อม!!

ในแง่ของการพัฒนาตัวเอง กิฟท์เป็นนักเรียนที่ขึ้นชื่อเรื่องความขยันในการฝึกซ้อมค่อนข้างมาก ด้วยความเป็นเด็กที่มีมานะ ทั้งในเรื่องเรียนและเรื่องเล่นดนตรี  อีกทั้งครอบครัวก็ให้การสนับสนุนในสิ่งที่รักอย่างเต็มที่ กิฟท์จึงสามารถแบ่งเวลาให้กับทั้งสองสิ่งได้อย่างลงตัว

“ถ้ามีเวลาว่างหนูก็จะกลับมาซ้อมที่บ้านค่ะ หนูจะแยกซ้อมมาเลย ถ้ามีการบ้านก็จะทำการบ้านให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาซ้อมทีหลังค่ะ” เพราะกิฟท์มีคติประจำใจที่ว่า  “ต้องซ้อมเท่านั้น ถึงจะทำให้ฝีมือพัฒนา !”

นอกจากการซ้อมส่วนตัวให้เยอะตามคติที่ตั้งไว้ กิฟท์ยังเอานักดนตรีที่เก่งๆ ในทางกีตาร์หลายๆ คน มาเป็นต้นแบบ เพื่อที่จะพัฒนาฝีมือของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น “หนูอยากเก่งเหมือนพี่ยอด บอดี้สแลม (ธนชัย ตันตระกูล) เวลาหนูเห็นพี่เขาเล่นบนเวที มันทำให้หนูฮึดสู้ขึ้นมาตอนท้อๆ เลยค่ะ” นอกจากความในใจที่ว่า กิฟท์ยังบอกถึงความฝันที่ซุกไว้ด้วยดวงตาเป็นประกาย

“ใจหนูนะคะ หนูอยากเป็นศิลปิน หนูอยากเข้าวงการ เพราะหนูอยากขึ้นไปเล่นบนเวทีใหญ่ๆให้ได้เหมือนพี่ๆ ที่เป็นไอดอลวงต่างๆ ของหนู ถ้าเป็นไปได้หนูก็อยากเป็นศิลปินที่มีงานเล่นดนตรีไปตลอด ถึงจะมีเหนื่อยบ้าง แต่หนูก็จะสู้ให้ได้ค่ะ”

แต่อย่างน้อยๆ ที่เวที THE POWER BAND 2022 SEASON 2 ก็ได้เติมเต็มความฝันให้สาวน้อยคนนี้ ได้โชว์ศักยภาพทางดนตรีให้ทุกคนได้เห็น และทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้เป็นศิลปินไปแล้วครึ่งหนึ่ง โดยเฉพาะซีนที่กิฟท์ยกขาข้างหนึ่งยันตู้แอมป์แล้วโซโลกีตาร์เดือดๆ ถือเป็นช็อตที่เรียกเสียงกรี๊ดจากกองเชียร์ข้างเวที…ขอบเวที…และทั่วทั้งฮอลล์ได้อย่างล้นหลาม

“มันตื้นตันใจ บอกไม่ถูกเลยค่ะ เหมือนแบบ…เรามาถึงจุดนี้ได้แล้วเหรอ (หัวเราะ) ก็เหมือนกับเป็นครึ่งทางฝันของเราแล้วส่วนหนึ่ง แล้วเราก็ได้ใกล้ชิดผู้บริหารค่ายไปแล้วส่วนหนึ่งด้วยค่ะ ซึ่งพอได้รางวัลOutstanding มา หนูก็ดีใจมากๆ เลยค่ะ เหมือนหนูได้เข้าตากรรมการสักนิดหนึ่งไปแล้ว” แม้จะปิดประโยคด้วยเสียงหัวเราะเขินๆ แต่ก็ไม่สามารถปิดบังใบหน้าที่เปี่ยมสุขของเด็กสาวได้แม้แต่น้อย – ถ้าใครได้เห็นสีหน้าของกิฟท์ในตอนนั้น เป็นต้องเชื่ออยู่แล้วแหละว่าเธอรู้สึกดีใจกับความสำเร็จนี้จริงๆ

 

เคล็ดลับคือเล่นให้สนุก…ตามฟิล

เราเลยถามเคล็ดลับจากกิฟท์ว่า ใช้วิธีบิลด์อารมณ์ตอนเล่นกีตาร์อย่างไร ถึงเล่นได้ “องค์ลง” ขนาดนี้? “ก็บอกไม่ถูกค่ะ เพราะจังหวะมันอยู่ในหัวตลอด หนูก็เล่นไปตามฟิลที่รู้สึกเลยค่ะ” คำตอบของกิฟท์ ทำให้ย้อนกลับไปนึกถึงคำพูดของฟิล์ม (ปณิชา มณีวรรณ) นักร้องนำ เดอะ ปิ๊กลิ๊ก แบนด์  ที่พูดเอาไว้ในช่วงหนึ่งตอนคุยกับสมาชิกทั้งวง โดยฟิล์มเล่าติดตลกว่า เวลาร้องๆ อยู่ แล้วหันไปดูข้างๆ ทีไร ก็มักจะเห็นกิฟท์เล่นกีตาร์พร้อมโยกหัวสนุกสนานไปกับฟีฟ่า (อภิสรา แก้วก๋อง) มือเบสทุกทีไป …อารมณ์มันคงเป็นไปตามฟิลในเพลงแบบที่กิฟท์ว่าจริงๆ

แต่กว่าจะได้การเล่นที่ “อิน” ไปกับดนตรีขนาดนี้ กิฟท์ยังยืนยันอีกครั้งว่า เธอต้องซ้อมหนักกับการมาเวที THE POWER BAND ครั้งนี้จริงๆ เพราะซ้อมกับวงก็ว่าหนักแล้ว พอกลับมาบ้านก็ยังต้องซ้อมเดี่ยวต่อ เพื่อให้โน้ตที่เล่นเกิดความแม่นยำที่สุด “เวลาซ้อมที่บ้านตอนกลางคืนก็จะต้องใส่หูฟังซ้อมค่ะ เพราะถ้าเสียงดังเดี๋ยวโดนดุ” เด็กน้อยหัวเราะร่ากับเรื่องราวที่บอก

ด้วยความสำเร็จกับทั้งสองรางวัลที่ได้มา มันคือสิ่งที่ทำให้กิฟท์และวง เดอะ ปิ๊กลิ๊ก แบนด์ มีกำลังใจในการเล่นดนตรีเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว และที่พวกเธอบอกเอาไว้ ว่าจะนำเงินรางวัลที่ได้จากการประกวด ไปซื้อเครื่องดนตรีเพิ่ม เพื่อจะได้เอาไปพัฒนาศักยภาพให้กับเหล่านักเรียนดนตรีที่โรงเรียนวชิราลัยต่อไป นั่นคือเป้าหมายส่วนแรก

อนาคตและการส่งต่อ เดอะ ปิ๊กลิ๊กแบนด์ NEXT GEN

กิฟท์ขอเล่าแทนความตั้งใจของครูแตน ที่ตอนนี้กำลังจะสร้างวง เดอะ ปิ๊กลิ๊ก แบนด์ เจน 2 ขึ้นมา “สำหรับวง เดอะ ปิ๊กลิ๊ก แบนด์ เจนต่อไป พวกหนูก็เป็นคนสอนดนตรีน้องๆ กันเองค่ะ ครูก็บอกว่าให้สอน เขาจะมาเป็น ปิ๊กลิ๊ก รุ่นที่สองของพวกเรา ก็เลยอยากให้เราเป็นคนถ่ายทอดให้น้องๆ เองเลย เพราะพวกเราก็เริ่มมาตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ เหมือนกัน”

กิฟท์บอกว่า ในระหว่างนี้เธอยังมีเวลาที่จะช่วยพัฒนาวง เดอะ ปิ๊กลิ๊ก แบนด์ เจนใหม่ได้อีก 2 ปี เพราะตอนนี้กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.4 แต่หลังจบ ม.6 ไปแล้ว ตัวกิฟท์และเพื่อนๆ ก็ต้องต่างเดินหน้าไปสู่ถนนค้นฝันในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งตัวเธอเองก็มีความตั้งใจจะเรียนทางด้านดนตรีต่อไป และการจะยังเป็น เดอะ ปิ๊กลิ๊ก แบนด์ เจนแรกอยู่หรือไม่นั้น ก็ยังไม่รู้อนาคต

“ตอนนี้ยังบอกไม่ได้เลยค่ะ เพราะถ้าพวกหนูจบ ม.6 ไป ก็ไม่รู้ว่า เดอะ ปิ๊กลิ๊ก แบนด์ จะเป็นยังไงต่อ แต่ตัวหนูตั้งใจไว้แล้วว่าจะเรียนสายดนตรีโดยตรงเลย หนูคิดอยากไปเรียนที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล นะคะ แต่คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วง เพราะหนูเป็นผู้หญิง (บ้านของเธออยู่ที่เชียงใหม่) ซึ่งตรงนี้เราก็ต้องยอมรับค่ะ ก็เลยอาจจะต้องหาที่เรียนในเชียงใหม่แทน เพราะที่มช. (มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) ก็มีคณะที่สอนดนตรี  ม.พายัพก็มี แล้วอีกที่ก็ราชภัฏเชียงใหม่ค่ะ”

ด้วยทักษะที่เกิดขึ้นจากความขยันฝึกซ้อมมาหลายปี บวกเข้ากับประสบการณ์ทางดนตรีที่สั่งสม ไม่ว่าจะเป็นเวทีประกวดหลายเวทีที่ผ่าน รวมถึงงานอีเวนต์ต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ที่วงได้ไปเล่น น่าจะทำให้กิฟท์มีต้นทุนที่สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนในคณะดนตรี ไม่ที่ใดก็ที่หนึ่งได้ตามความตั้งใจ

และไม่ว่าอนาคตกิฟท์จะเอาความฝันของเธอไปวางไว้ตรงไหน เราเชื่อมั่นว่าสาวน้อยผมเปียคนนี้จะผ่านทุกวิถีก้าวไปด้วยความสำเร็จ เพราะอย่างน้อยรางวัลที่ได้มาในวันนี้ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “ถ้าคุณกล้าฝัน และกล้าลงมือทำ คุณก็จะทำมันได้!” เหมือนอย่างที่มือกีตาร์ขาร็อกแห่งวง เดอะ ปิ๊กลิ๊ก
แบนด์ “ได้ทำ” และ “ทำได้” มาแล้ว!

“ไม่มีอะไรมากเลยค่ะ แค่ฝึกซ้อมไปเรื่อยๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ถ้าซ้อมหนักแล้ว ก็ยิ่งต้องซ้อมขึ้นไปอีกเรื่อยๆ แล้วฝีมือเราก็จะพัฒนาเองค่ะ” เจ้าของรางวัล “นักดนตรียอดเยี่ยม” THE POWER BAND 2022 SEASON 2 ทิ้งคำพูดไว้อย่างน่าคิด

Author

ณัฐวิมล เศารยะพงศ์

Author

นักเขียนที่นอกจากจะทำตัวเป็นทาสแมวตัวยง ยังชอบเอาเวลาว่างจากการเขียนงานไปเสาะหาเรื่องกิน เรื่องเที่ยว แล้วทำให้เป็นเรื่องเดียวกัน

Author

บริษัท เอ็กเปิร์ดคิด จำกัด

Photographer

การรวมตัวของคนโปรดักชั่น ที่ยังเชื่อในพลังสร้างสรรค์ เราจึงคิดและผลิตงานศิลปะทุกรูปแบบ