Passion

‘ปิยะ ชื่นสกุล’ โค้ชไทย
มองการเดาะบอลมุมใหม่ให้เป็นอาชีพ

วรากร เพชรเยียน 20 Oct 2023
Views: 609

Summary

จากการเดาะบอลที่หลายคนมองว่าเป็นแค่ทักษะประกอบการเล่นฟุตบอล โค้ชปิยะ ชื่นสกุล เปลี่ยนมันให้กลายเป็นอาชีพ เป็นการแข่งขันและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ที่สำคัญไปกว่านั้นอยากผลักดันให้การเดาะบอลเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ด้วยความเชื่อว่ายังมีนักกีฬาที่มีความสามารถอีกมากมายที่ยังรอที่จะมีโอกาสโชว์ความสามารถ

“กีฬาเดาะบอลเป็นกีฬาที่ไม่ต้องใช้แรงเยอะ แต่หลักๆ คือเป็นการโชว์ความสวยงามมากกว่าการโชว์ความแข็งแรง ลีลา ท่าทาง สกิล ไอเดียสร้างสรรค์ และท่าแปลกใหม่” คือเสน่ห์ของกีฬาเดาะบอลที่ทำให้โค้ชปิยะ ชื่นสกุล ยังคงอยู่ในวงการนี้ ซึ่งเขาบอกว่าน่าเสียดายที่ต่างชาติแทบจะเลิกฮิตกันแล้ว ประเทศไทยยังไม่ได้เริ่มต้นเลย

เราได้มาพูดคุยกับ คุณปิยะ ชื่นสกุล โค้ชเดาะบอล แชมป์เดาะบอลของประเทศไทย และยังเป็นผู้คว้ารองอันดับ 1 ในการแข่งขันเดาะบอล ที่ประเทศญี่ปุ่น ถึงเส้นทางการเป็นนักเดาะบอล ความรักและมุมมองที่อยากผลักดันกีฬาชนิดนี้ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในประเทศไทย ด้วยความเชื่อว่าการเดาะบอลสามารถเป็นไปได้! มากกว่าแค่ทักษะประกอบการเล่นฟุตบอล นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของพลังคนไทย…ไม่เพียงเท่านั้น เขายังใช้สกิลเดาะบอล แบ่งปันเรื่องราวดีๆ สู่สังคมและผู้ด้อยโอกาสอีกด้วย

ในบรรดาทักษะการเล่นฟุตบอลต่างๆ ทักษะเดาะบอล…ผมมองว่ามันเป็นทักษะที่มหัศจรรย์ มันเป็นได้มากกว่าแค่ทักษะเล็กๆ น้อยๆ และยังสามารถต่อยอดเป็นวิชาชีพได้ด้วย

โค้ชปิยะ ชื่นสกุล
โค้ชเดาะบอล แชมป์เดาะบอลของประเทศไทย

 

ถอดรหัสเส้นทางสู่ความสำเร็จฉบับโค้ชปิยะ ชื่นสกุล

• การฝึกซ้อมเป็นเรื่องสำคัญ และต้องหมั่นฝึกซ้อมอยู่ตลอดเวลา

• หาตัวเองให้เจอว่าตัวเองมีความถนัดในเรื่องไหน แล้วมุ่งทำในสิ่งนั้นให้เต็มที่

• การยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำเป็นเรื่องสำคัญเพราะเมื่อยึดมั่นแล้วเราจะสามารถหาทางให้สามารถทำเป็นอาชีพได้

ความฝันที่เปลี่ยนแปลงไป

ก่อนหน้าที่คุณปิยะจะก้าวมาเป็นนักกีฬาเดาะบอลเต็มตัว ความฝันสมัยยังเด็กของเขาคือการเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ “ความฝันตอนม.ต้น คืออยากเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ พอโตขึ้นความคิดก็เปลี่ยนไป รู้สึกว่าถ้าเล่นบอลคู่แข่งเยอะ กว่าจะติดสโมสร กว่าจะติดทีมชาติ ติดแล้วจะได้เล่นตัวจริงรึเปล่าด้วย” ยิ่งสมัยตอนเรียนที่โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คุณปิยะเล่าว่าเขาเล่นฟุตบอลไม่เก่งเลย แต่ก็คัดตัวติดในทีมฟุตบอลโรงเรียน ด้วยความรู้สึกว่าตัวเองเล่นฟุตบอลสู้เพื่อนไม่ได้ คุณปิยะเลยตั้งมั่นว่าจะฝึกเดาะบอลให้เก่งให้ได้

“ความเป็นเด็กก็คิดว่าถ้าเราเดาะบอลเก่งจะทำให้เราเล่นฟุตบอลเก่งไปด้วย” หลังจากนั้นคุณปิยะก็ได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกในสโมสรองค์การโทรศัพท์ หรือปัจจุบันใช้ชื่อว่า สโมสรฟุตบอลทีโอที คัดตัวติดเพราะทักษะการเดาะบอลที่โดดเด่นกว่าใคร จนได้มีงานโชว์เดาะบอลตามงานต่างๆ

ส่วนเส้นทางการเป็นนักฟุตบอล คุณปิยะเล่าว่าเขาเลิกเล่นฟุตบอลทีมไปเลยแล้วมามุ่งทางการเดาะบอลอย่างเดียว ไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ คู่แข่งในประเทศไทยในขณะนั้นยังมีไม่มากเพราะยังไม่ค่อยมีใครทำแบบนี้ เส้นทางการเดาะบอลจึงเริ่มต้นขึ้น เริ่มฝึกซ้อมวันละ 5-7 ชั่วโมง และความทุ่มเทนี้ก็พาคุณปิยะเดินทางไปแข่งขันและโชว์ทักษะในต่างประเทศ

 

ผันสารตั้งต้นความฝัน ปรับสู่สิ่งที่ทำให้ฝันเป็น.ไป.ได้

 

รางวัลชีวิตไม่ใช่แค่ชนะการแข่ง

“เมื่อปี 2556 ผมไปแข่งที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กติกาคือขึ้นเวทีครั้งละคน มีเวลาให้คนละหนึ่งนาที มีคนที่มาสมัครห้าสิบกว่าคน แต่ว่าคัดเข้ารอบสุดท้ายหน้างานเลย 32 คน จับคู่ 16 คู่ แล้วผมก็ได้รองแชมป์อันดับหนึ่งมา ตอนนั้นเป็นม้ามืดด้วยได้แข่งกับญี่ปุ่นเลย” นอกจากรางวัลที่ไปแข่งต่างประเทศแล้วก็มีรางวัลอื่นๆ ที่เคยแข่งด้วย อย่างรางวัลจากรายการของไทยคัพ ได้แชมป์เดาะบอลประเทศไทย ปี 2545

แต่ถึงจะได้รางวัลจากการแข่งขันเดาะบอลมามาก ถ้าให้เทียบแล้วก็ยังไม่เท่าการได้รับเชิญไปโชว์ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นรางวัลชีวิตของจริง “รางวัลใหญ่สำหรับผมไม่จำเป็นต้องเป็นการเดินทางไปแข่ง การได้รับเชิญให้ไปโชว์ผมถือว่าเป็นรางวัลใหญ่ของผมแล้ว เพราะไม่มีคู่แข่ง ประเทศที่เชิญต้องพิจารณาและเห็นว่าผมมีดีพอที่จะเชิญและไม่เชิญคนเดาะบอลประเทศอื่นไป”

คุณปิยะเดินทางไปโชว์เดาะบอลหลายประเทศ ทั้งใกล้และไกลรวมกว่า 7-8 ประเทศ รวมถึงที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วย ซึ่งเขาเล่าว่าน่าจะเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับเกียรติให้ไปโชว์ไกลถึงที่นั่น

 

พลังคนไทยในต่างแดน ด้วยศักยภาพ “เดาะบอล”

 

เดาะบอลมาราธอนช่วยเด็กกำพร้า

“ตอนนั้นมีแรงบันดาลใจมาจากพี่ตูน บอดี้สแลม ที่ทำโครงการก้าวคนละก้าว เปลี่ยนจากการวิ่งมาราธอนมาเป็นการเดาะบอลมาราธอน ผมก็เลยจะเริ่มรับบริจาคตั้งแต่เริ่มไปจนถึงลูกบอลตกพื้น

ด้วยความที่อยากทำบุญวันเกิด เขาจึงตั้งใจหารายได้เพื่อนำเงินไปมอบช่วยเหลือเด็กกำพร้าที่สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า วัดสระแก้ว จังหวัดอ่างทอง เริ่มตั้งแต่ไปปรึกษาหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดสระแก้วถึงไอเดียนี้ ซึ่งหลวงพ่อก็เห็นดีด้วยและให้กำลังใจกลับมา จากนั้นติดต่อกับห้างสรรพสินค้าด้วยตนเอง โชคดีที่ทางห้างฯ ไม่คิดค่าใช้จ่ายและได้มอบอุปกรณ์การกีฬาสนับสนุนด้วย จบวันนั้นคุณปิยะเล่าว่าได้รับเงินบริจาคไปเกือบสองหมื่นบาท ยังไม่รวมกับคนที่มีใจดีบริจาคผ่านการโอนเงินเข้าทางบัญชีของวัด ใช้เวลาไปทั้งหมด 9 ชั่วโมง

นอกจากการได้มอบเงินช่วยเหลือเด็กกำพร้าแล้ว คุณปิยะยังได้มีโอกาสไปเดาะบอลโชว์ให้เด็กๆ ได้ดูและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เป็นจุดที่ยิ่งภูมิใจเพราะอยากให้คนได้รู้จักกีฬาชนิดนี้มากขึ้น เพราะสำหรับคุณปิยะแล้ว กีฬาให้ทั้งสุขภาพแข็งแรง และสามารถต่อยอดเป็นอาชีพ มีรายได้เลี้ยงตัวเองได้ด้วย โดยเฉพาะกีฬาเดาะบอลที่ไม่ใช่แค่ทักษะประกอบแต่เป็นไปได้มากกว่านั้น

 

แบ่งปันผู้อื่นเมื่อมีโอกาส

การเดาะบอลไม่ใช่แค่ส่วนหนึ่งของฟุตบอล

ในบรรดาทักษะการเล่นฟุตบอลต่างๆ จะเดาะบอล เลี้ยงกรวย (เลี้ยงลูกหลบกรวย) แปรบอล ทักษะเดาะบอล…ผมมองว่ามันเป็นทักษะที่มหัศจรรย์อย่างหนึ่ง มันเป็นได้มากกว่าแค่ทักษะเล็กๆ น้อยๆ ที่เอาไปประกอบกับการเล่นฟุตบอลในสนาม และมันยังสามารถต่อยอดเป็นวิชาชีพอย่างผมได้ด้วย

คุณปิยะเล่าว่า เขาพยายามโชว์และพูดถึงมุมมองด้านนี้ให้กับน้องๆ ที่เคยไปโชว์เดาะบอลตลอด แม้ว่าสำหรับบางคนอาจมองว่าเป็นแค่ทักษะประกอบการเล่นฟุตบอล แต่ว่าจริงๆ แล้วสามารถเป็นอะไรได้มากกว่านั้น ได้ฝึกใช้ร่างกายและความคิด จำเป็นต้องมีสมาธิและความคิดสร้างสรรค์เพื่อครีเอตท่วงท่า ลีลาการเดาะบอล ในขณะเดียวกันก็ต้องทรงตัวและควบคุมลูกบอลให้เด้งไปในทิศทางและจังหวะที่ตัวเองต้องการด้วย

ปัจจุบันคุณปิยะเปิด “คลินิก” สอนชาวต่างชาติเดาะบอล ที่วอล์กกิ้งสตรีต ในจังหวัดภูเก็ต 5 นาที 100 บาท ไม่ใช่แค่เพื่อหารายได้ให้ตัวเอง แต่ก็ยังมุ่งหวังให้กีฬาชนิดนี้ถูกมองเห็นและถูกผลักดันเหมือนกับกีฬาชนิดอื่นๆ และเชื่อว่ามีนักกีฬาตัวเล็กๆ อีกมากที่ยังต้องการการสนับสนุนจากหน่วยงาน

 

ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วลงมือทำ

 

“ผมเชื่อว่ายังมีนักกีฬาอีกหลายชนิดที่มีความสามารถ เจ๋งจริง แต่ว่ายังไม่พร้อมเรื่องกำลังทรัพย์ สนับสนุนตัวเองให้ไปได้ไกล อยากให้ผู้ใหญ่ที่มีกำลังมากพอเข้าถึงคนเหล่านั้น เพราะมันมีคนที่ท้อไปเอง เลิกไปเองเพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ อย่างผมยังโชคดีที่ความสามารถเกี่ยวกับฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาสากล ผมยังสามารถเล่น สอนคนต่างชาติได้”

นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณปิยะบอกเราว่า เขาตั้งใจอยากพูดถึงมากๆ เพราะอยากเห็นกีฬาเดาะบอลและกีฬาในไทยได้รับการสนับสนุน ด้วยความเชื่อว่าคนไทยมีศักยภาพมากพอที่จะไปเอาชนะต่างชาติได้

เรื่องราวของคุณปิยะกับเส้นทางที่เลือกเดินในกีฬาเดาะบอลน่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาและเด็กรุ่นใหม่หลายคนที่กำลังค้นหาตัวเอง ทั้งยังเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับการเดาะบอลว่าไม่ใช่แค่ทักษะประกอบการเล่นกีฬาฟุตบอล แต่จริงๆ แล้วสามารถเป็นตัวเด่นได้เหมือนกัน และบางทีหากได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ กีฬานี้ก็อาจส่งคนไทยไประดับโลกและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้เช่นกัน

 

มืออาชีพที่เป็นไปได้…แบบ “โค้ชปิยะ”

✔ ผันสารตั้งต้นความฝัน ปรับสู่สิ่งที่ทำให้ฝันเป็น.ไป.ได้

✔ ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วลงมือทำ

✔ พลังคนไทยในต่างแดน ด้วยศักยภาพ “เดาะบอล”

✔ แบ่งปันผู้อื่นเมื่อมีโอกาส

 

คลิกชม “คนไทยสุดยอดแห่งความเป็นไปได้” อีก 1 คนอย่างโค้ชปิยะ ชื่นสกุล จากรายการ THE POWER GANG EP.3

 

Author

วรากร เพชรเยียน

Author

อดีตแอร์โฮสเตสผันตัวมาเป็นนักเขียน ผู้หลงใหลศิลปะและการเดินทาง นิยมการบอกรักประสบการณ์ผ่านตัวหนังสือ

Author

บริษัท ยานแม่ จำกัด

Photographer

เป็นโปรดักชั่น เฮาส์ ที่ไม่ได้คิดนอกกรอบ เเต่คิด...นอกโลก