นับเวลาได้ 6 ปีแล้วที่สองคู่หูเพื่อนซี้อารมณ์ดีอย่าง ปอ – กฤษสรัญ จ้องสุวรรณ (ร้องนำ) และ น้ำวน – วนนท์ กุลวรรธไพสิฐ (กีต้าร์) “ดูโอคู่ปลา” Whal & Dolph (วาฬแอนด์ดอล์ฟ ที่ใช้ชื่อตามปลาใจดีที่ซี้คอยดูแลกัน) จับมือกันว่ายมาราธอนผลัดผสมฝ่าคลื่นลมในทะเลดนตรี ค่อยๆ พิชิตทุ่นความสำเร็จกับหลากหลายเพลงฮิต มากมายการแสดงในเทศกาลดนตรี และเวทีคอนเสิร์ตน้อยใหญ่ รวมทั้งสร้างความปั่นป่วนให้ท้องทะเลด้วยปรากฏการณ์ขายบัตรคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองนับพันใบหมดภายใน 10 นาที
ล่าสุดทั้งคู่กลับมาติดสปีดสร้างแรงสั่นสะเทือนให้ท้องทะเลอีกครั้งพร้อมเพลง “ตลอดไป” ที่ยังคงเรียกหยาดน้ำตาของแฟนปลาให้กลั่นมารวมกันก่อนไหลลงสู่ทะเล
เมื่อ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ออกเรือมาพร้อมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อเฟ้นหาสุดยอดคนดนตรีจากวงนักเรียนและคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจมาพิชิตความฝันบนเวที THE POWER BAND 2022 SEASON 2 ในรอบออดิชันที่สนามสงขลา เลยชวนคู่ปลา Whal & Dolph ในฐานะมิวสิกกูรูจากค่ายเพลงชั้นนำของบ้านเรามาช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้เวทีประกวดครั้งนี้มากยิ่งขึ้น
Thaipower.co ที่ออกมาร่วมสนุกกับความครึกครื้นครั้งนี้ด้วย เลยมีโอกาสได้ชวนขวัญใจแฟนปลา เล่าถึงวันเวลาของพวกเขาที่ว่ายฝ่านาวาดนตรีตลอด 6 ปีที่ผ่านมาแบบที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน
“เราแค่ค่อยๆ ทำสิ่งที่เราชอบออกไป รู้สึกว่าค่อยเป็นอย่างนี้มันก็สนุกดีเหมือนกัน
พวกผมทำงานด้วยความคิดว่า ถ้าเราทำงานด้วยความสนุก งานจะออกมาดี”
ปอ – กฤษสรัญ จ้องสุวรรณ Whal & Dolph
TP : 6 ปีที่ว่ายมาในเส้นทางดนตรี คิดว่าคว้าความสำเร็จไว้อยู่หมัดหรือยัง
ปอ : ผมคิดว่าเราประสบความสำเร็จ ในมิติหนึ่ง…ในขั้นหนึ่ง เราไม่ได้คิดว่าฉันอยู่ตรงนี้โอเคแล้ว เราแฮปปีกับความสำเร็จ แต่ไม่ได้เอามาเป็นตัวที่บอกว่าพอแล้ว หยุดแล้ว แต่ความสำเร็จทำให้เราต้องไปต่อ อยากไปต่อจนกว่าเราจะหมดแพสชัน อาจจะไปจนเราแก่ ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะพาเราไปถึงจุดไหนเหมือนกัน
น้ำวน : จริงๆ แล้วมันยังมีขั้นต่อๆ ไปที่รออยู่ เรายังไปต่อได้อีก
TP : เป้าหมายอะไรที่คิดไว้ในใจ
ปอ : ตอนแรกๆ เลยนะ อยากแค่มีอัลบั้มเพลง มีแฟนเพลงที่ร้องเพลงเราได้ แล้วก็มีคอนเสิร์ตใหญ่สักครั้งหนึ่ง
น้ำวน : ซึ่งมันก็ผ่านไปหมดแล้ว เอาจริงๆ มันก็ยากเหมือนกันนะ การที่เราทำวงมา มีอัลบั้มเต็มของตัวเอง มีคอนเสิร์ตใหญ่ที่มีคนดูเยอะประมาณหนึ่ง ผมว่ามันยากอยู่นะ แต่พอเราทำสำเร็จ เราก็ยังคงสนุกกับมันอยู่ เราก็เลยไปต่อ ตั้งเป้าหมายกันต่อ
ปอ : ทำอะไรก็ได้ ให้มีเพลงดีๆ มีโชว์เยอะๆ เรื่อยๆ อยากไปโชว์ให้คนดูทั่วประเทศเลย มีเพลงที่เราเล่นแล้วรู้สึกว่าเจ๋งวะ คนดูมาฟังก็รู้สึกว่าดี เราอยากเป็นวงดนตรีวงหนึ่งที่อยู่คู่กับประเทศไทยไปอีกนานๆ
TP : 6 ปีแห่งการเดินทาง จะเรียกว่านานก็น่าจะได้…อย่างนั้นมั้ย
น้ำวน : ไม่ได้รู้สึกว่ามันยาวนานนะ มันไปเรื่อยๆ ของมัน ความรู้สึกเรายังสดใหม่ตลอด เพราะถ้าคิดว่ามันนานแล้ว แสดงว่าเราคงเริ่มเบื่อกับสิ่งที่เราทำอยู่
ปอ : ผมรู้สึกว่าวัยซนเพิ่งผ่านมาเมื่อวาน มันเร็วมากครับ ผมยังไม่เชื่อเลยว่าวงเราอายุ 6 ปีแล้ว เวลามันไปเร็วมาก ผมยังคงอยากออกไปเล่นดนตรีทุกๆ วัน
น้ำวน : เรายังไม่ได้มีก้าวที่ใหญ่มากๆ เหมือนอย่างบางวงที่เขามีเพลง ที่สมมติแบบต้องเพลงนี้…คือเพลงของวงนี้แหละ แต่ Whal & Dolph ไม่ใช่แบบนั้น เราจะมีเพลงเฉลี่ยกันไป แฟนเพลงก็จะชอบพอๆ กัน
ปอ : เรายังไม่มีเพลงที่แบบโอ้โห เล่นปุ๊บคนรู้จักว่า เพลงนี้ไงที่ทำให้ทุกคนรู้จัก Whal & Dolph ซึ่งเราก็อยากมีแหละ แต่ก็ไม่ได้เร่งรัดขนาดนั้น ขนาดที่ต้องเร่งทำให้ได้เดี๋ยวนี้ เราก็แค่ค่อยๆ ทำสิ่งที่เราชอบออกไป รู้สึกว่าค่อยเป็นอย่างนี้มันก็สนุกดีเหมือนกัน
Suggestion
TP : อะไรคือความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
ปอ : เราสุขุมขึ้นครับ คิดอะไรรอบคอบขึ้น ทำงานเป็นระบบมากขึ้น เป็นมืออาชีพมากขึ้น คำนี้เลย เรามาตรงเวลา ไม่มาสาย รับผิดชอบต่องาน ผมว่าเราเป็นมืออาชีพมากขึ้นจริงๆ
น้ำวน : ผมว่าเราทำได้ดี เข้ากันมากขึ้น และใส่ใจในทุกรายละเอียดมากขึ้น จริงๆ เราก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่แรกแล้วครับ เป็นเพื่อนกันมาก่อน พอทำวงจนมาถึงวันนี้ เราก็ยังเป็นอย่างนี้อยู่
ปอ : เราสนุกครับ พวกผมทำงานด้วยความคิดว่า ถ้าเราทำงานด้วยความสนุก งานจะออกมาดี งานที่ไม่สนุกพวกผมก็จะลืมมันไป ก็ไม่เชิงลืมหมดหรอก แต่ไม่ได้ไปคิดถึงมัน งานนี้ไม่ดีเลยวะ เราก็แค่จำว่า เออทำไมถึงไม่ดีนะ แล้วก็แก้ไขมัน พอแก้ไขได้ เราก็จะเก่งขึ้น พัฒนามากขึ้น พอเราเจองานแบบนั้นอีก เราก็จะผ่านมันมาด้วยดีขึ้น
…ถ้าคู่ปลาต้องสลับตัวกัน จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง…
ปอ : จะกินเยอะๆ ครับ เพราะเพื่อนผมมีระบบย่อยอาหารที่เก่งมาก
น้ำวน : (หัวเราะ) ใช่ แป๊บๆ หิว เพิ่งกินไป…หิวอีกละ ส่วนผมก็อยากไปเป็นคนเลี้ยงนกดูบ้างฮะ(แบบปอ)
เพื่อนผมทำหน้าที่เป็นพ่อลูกอ่อน รับนกมาเลี้ยง นกกระจอกชวา ก็คนไม่เคยเลี้ยงอะนะ
ปอ : แฟนผมอยากเลี้ยงฮะ แล้วผมเห็นเขาเปิดดูบ่อยๆ ผมก็เลยรู้สึกว่า เฮ้ยมันน่ารักเหมือนกัน
ตอนเอามาเลี้ยง เป็นช่วงของโควิดพอดี ผมมีเวลาเลี้ยง ก็ป้อนอาหารไปสี่เวลา
แล้วพบว่านกมันก็เลี้ยงยากนะฮะ แต่ตอนนี้มันโตแล้ว ไม่ต้องไปยุ่งกับมันตลอด
TP : ความยาก เมื่อคน 2 คนต้องทำเพลงหนึ่งเดียวเป็นอย่างไร
น้ำวน : ความโชคดีคือเราสองคนมีความชอบใกล้ๆ กัน สมมติอย่างกำลังทำเพลงกันอยู่ เอออันนี้ผมชอบละ ปอก็อาจจะชอบด้วย แต่อาจจะไม่เห็นด้วย 100% แต่พอเรามีความชอบที่ใกล้กัน ก็แปลว่าความคิดนี้ได้ไปต่อ ผมว่านี่เป็นสิ่งที่ทำให้เราทำงานได้ flow มาจนทุกวันนี้
ปอ : พอมันมีกันสองคน ทำงานด้วยกัน ผมว่าเราต้องเชื่อใจกัน เชื่อมั่น สมมติบางทีเพื่อนเราชอบมากเลย แต่เราอาจจะยังไม่ชอบมาก เราก็ตอบเอง เพื่อนชอบมาก เราก็น่าจะลองเชื่อใจดู พอเวลาผ่านไป เราอาจจะชอบสิ่งนั้นขึ้นมาก็ได้ เพราะเพื่อนเราอาจจะมองเห็นในสิ่งที่เราไม่เห็น
เราอย่าเอาตัวเองเป็นใหญ่ อย่าใช้ความคิดเราเป็นหลัก จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน แต่ถ้าเราไม่ชอบจริงๆ ก็บอกเหตุผลไปว่าอย่างนี้ อย่างนี้นะ ถ้าเพื่อนเราฟังแล้วเห็นด้วย ก็เออแปลว่าเรามองเห็นในจุดที่ตอนแรกเพื่อนเราอาจจะมองไม่เห็น สุดท้ายแล้ว เรามีกันสองคน ไม่มีการโหวตเสียงข้างมาก ที่เราทำคือคุยกัน คือเราเชื่อใจกัน
TP : Dream It, Do It ฝันให้ไกลที่อยากว่ายไปให้ถึง สำหรับทั้งคู่เป็นอย่างไร
ปอ : เราฝันว่าวันหนึ่งจะมีคนยืนร้องเพลงของเรา จำได้ว่าเมื่อก่อนเคยไปเล่นคัฟเวอร์เพลงสากล แล้วมีวันหนึ่งเราเล่นเพลงโอเอซิส พอร้องปุ๊บทุกคนข้างล่าง เขาร้องตามแบบกระหึ่มเลย เราก็คิดว่า โหยถ้าวันหนึ่งเรามีเพลงของเรา ที่แบบแค่เล่นแค่ร้องคำแรกขึ้นมา แล้วทุกคนข้างล่าง เขาร้องตามเพลงเราได้ มันคงเป็นอะไรที่สุดยอดมากเลยฮะ แล้ววันหนึ่ง เราก็ทำได้
น้ำวน : นี่แหละ ดรีม อิท ดู อิท จริงๆ ครับ
TP : Whal & Dolph กับข้อดีของการค่อยๆ ประสบความสำเร็จมีบ้างไหม
ปอ : ผมว่ามันจะเรียนรู้ได้หลายๆ อย่าง ทำให้รู้ว่าความสำเร็จมันไม่ได้มาง่ายๆ นะ และเราจะได้เรียนรู้สิ่งที่อยู่รอบๆ ความสำเร็จ ว่าอะไรมันทำให้เราประสบความสำเร็จ ความขยันหรือเปล่า ความตั้งใจหรือเปล่า ความไม่ยอมแพ้หรือเปล่า คนที่คอยซัปพอร์ตเราหรือเปล่า ทุกอย่างมันซัปพอร์ตความสำเร็จนั้นขึ้นมารึเปล่า เรามองเห็นทุกอย่าง และเราจะไม่รู้สึกว่า เฮ้ยมันง่ายวะ มันรู้สึกว่าเออมันยากวะ กว่าจะสำเร็จอะไรสักอย่าง ทำให้เราต้องรักสิ่งเหล่านั้นไว้ เราจะไม่เหลิงไปกับมัน
น้ำวน : พอมันค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เราจะเก็บโมเมนต์อะไรได้ดี สังเกตสิ่งที่ค่อยๆ ผ่านเราไปได้มากขึ้น ถ้ามันเปรี้ยงปร้างขึ้นมา เราอาจจะไม่ทันรับมือ เหมือนบางคนที่ผมเคยเห็นรับมือไม่ไหวก็มี
“ความรู้สึกเรายังสดใหม่ตลอด
เพราะถ้าคิดว่ามันนานแล้ว แสดงว่าเราคงเริ่มเบื่อกับสิ่งที่เราทำอยู่”
น้ำวน – วนนท์ กุลวรรธไพสิฐ Whal & Dolph
TP : อะไรคือความทรงจำที่ชัดเจนที่สุดของพวกคุณ
น้ำวน : ความทรงจำของผมเป็นมวลก้อนใหญ่ๆ เหมือนผมเห็นการเติบโตของวง ในช่วงแรกที่เพลงเราเริ่มไปฮิตกับวัยรุ่น ก็จะมีคนมาแห่แหนเรา มีช่วงที่เราดร็อปลง ผมก็เห็นความเป็นไปของวง เออมันก็เหมือนชีวิตพวกผม ทุกโมเมนต์เป็นความทรงจำที่ผมชอบ…หกปี ในความทรงจำ
ปอ : แฟนเพลงครับ ผมเห็นแฟนเพลงบางคนที่อยู่กับวงตั้งแต่วันแรกๆ จนกระทั่งวันนี้ เขาก็ยังอยู่กับเรา ไปเล่นตั้งแต่คนดูไม่มีเลย มีแค่เพลงสองเพลง จนกระทั่งวันที่เรามีเพลงมากมาย มีคนดูมากมาย เขาก็ยังยินดีอยู่ ผมว่าแฟนเพลงเป็นส่วนสำคัญหลักที่ทำให้วงดนตรีอยู่ได้จริงๆ
TP : คนฟังควรตั้งความหวังอะไรกับเพลงของพวกคุณ
ปอ : ผมว่าคนฟังที่เคยฟังเพลงเรานะ เขาก็คงไม่ตั้งความหวังอะไร เพราะเขารู้ว่าเราทำเพลงที่ดีที่สุด ออกมาให้คนฟังเสมอ ผมไม่รู้ว่ามันจะดีที่สุดสำหรับคนฟังหรือเปล่านะ แต่คนฟังจะรู้ว่าเวลาเราทำเพลงออกมาสักเพลง เราต้องคิดมาแล้วว่านี่แหละเจ๋งที่สุด ในตอนนั้นเพราะพวกผมทำแบบนี้ จริงๆ ทำเพลงแต่ละเพลงที่ทำออกมา พวกผมไม่รู้สึกติดค้างอะไรกับเพลงนั้น
น้ำวน: เพลงของเรามีความหมาย ให้ดำดิ่งไปกับเนื้อ ไม่ใช่เพลงที่ฟังผ่าน แล้วฮิตเลย แต่ต้องตั้งใจฟัง
TP : ว่ากันว่า Whal & Dolph ต้องว่ายมาพร้อมเพลงเศร้าเคล้าน้ำตา เป็นอย่างนั้นหรือเปล่า
ปอ : เราเป็นกีตาร์ที่เล่าเรื่องเศร้า ผมว่าเรื่องเศร้ามันมีสิ่งที่สวยงามซ่อนอยู่ จริงๆ แล้วความเศร้าอยู่คู่กับชีวิตทุกคน ผมอยากทำให้คนที่กำลังเศร้าอยู่รู้สึกว่า “ฉันไม่เศร้าคนเดียวนะ แต่ยังมีคนที่เศร้าในเรื่องเดียวกัน หรือคล้ายๆ กันอีกมากมาย เวลามาดูคอนเสิร์ตเขาจะได้มายืนร้องไห้ด้วยกัน แต่เราก็มีเพลงที่มีความสุขด้วย มีหลายแบบ มีตั้งแต่จีบกันยันร้องไห้ แล้วกลับมายิ้ม
น้ำวน : เหมือนมีเพื่อนร่วมกันเศร้า แต่สุดท้ายจะมีความสุขกลับบ้านไป
ปอ : เราเพิ่งมีเพลงใหม่ ชื่อเพลงว่า “ตลอดไป” เป็นเพลงที่เกี่ยวกับความทรงจำ ใครที่มีความทรงจำต่ออะไรบางอย่างมากๆ ผมว่าฟังเพลงนี้ แล้วคุณจะรู้สึกกับมันมากๆ เช่นกันครับ
น้ำวน: ในส่วนของดนตรี ทุกคนน่าจะได้สัมผัสถึงความต่างออกไป จาก Whal & Dolph แบบเดิม ลองดูนะครับว่าชอบการเปลี่ยนแปลงนี้ไหม ซึ่งพวกผมชอบมาก ผมฝากเพลง “ตลอดไป” ด้วยฮะ
TP : ความทรงจำกับลายเซ็นแรกของ Whal & Dolph
ปอ : จำได้ ตอนนั้นเราปล่อยเพลงมาเพลงหนึ่ง เราไปขายแผ่นซีดี แต่ไม่ได้ขายของเรานะ ไปช่วยเขาเฝ้าบูทของวงอื่น ซึ่งก็คือเป็นวงของมือเบสของเรา เขาทำวงมหัศจรรย์มาก…ธรรมดาเขาไปขายซีดีที่งานแคท (Cat Festival) แล้วเขาไม่อยู่ ฝากพวกผมเฝ้าร้าน แล้วพอเราไปเฝ้า เราก็ลงโซเชียลมีเดียว่าไปเฝ้าบูทนะ ตอนนั้นแฟนเพลงเรามีไม่เกินยี่สิบคนมั้ง แล้วตอนนั้นมีน้องคนหนึ่ง เดินมาขอลายเซ็น ขอถ่ายรูปและซื้อน้ำมาให้ ตอนนี้เขาก็ยังคงเป็นแฟนคลับ กลับมาดูเราบ้าง แฟนคลับยุคแรกเราโตไปทำงานกันหมดแล้ว
ดูโอและแฟนปลากำลังจะสร้างความทรงจำร่วมกันอีกครั้ง
ในคอนเสิร์ตเดี่ยว ที่มาในคอนเซปต์ตามหาความสุขไปกับ Whal & Dolph ที่งาน “Whal & Dolph Fish Paradise Concert 🐳” 12 ธันวาคม 2565 นี้