Summary
Super Natural เพิ่งมาเวที THE POWER BAND ปีนี้เป็นครั้งแรก แต่สะกดคนดูได้ตั้งแต่เริ่มซาวนด์เช็ก ผลงานสุดปังทางดนตรีที่มีแต่คำว่าเป็นไปได้ของ “อาจารย์อัศ” ผู้เป็นแรงหนุนให้เด็กๆ ‘นาฏศิลปสุโขทัย’ เล่นดนตรีด้วยความสุข จนวงเข้ารอบชิงชนะเลิศได้แล้ว หาที่มาของชื่อวงซึ่งแท้จริงมาจากเครื่องหมายทางดนตรีโดยพูดคุยกับครู…ศูนย์รวมหัวใจของพวกเขา
พักเหนื่อยแป๊บกับสนามที่ 2 รอบโซนนิ่ง เชียงใหม่เจ้า กับเวทีประกวดดนตรีคุณภาพ THE POWER BAND 2025 SEASON 5 จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมพันธมิตรค่ายเพลงระดับแนวหน้าของประเทศ และ Multiply by Eight ภายใต้คอนเซปต์ MUSIC CREATES MORE POSSIBILITIES พลังดนตรี เป็นไปได้ ไม่สิ้นสุด
ก่อนไปจะต่อสนามที่ 3 ขอพาไปทำความรู้จัก ‘ซัปพอร์เตอร์’ ของวง Super Natural อย่าง อาจารย์อัศ – อัศวิน โลหะการก จากวิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย คนที่กรรมการในวันประกวดออกปากชมการเรียบเรียงดนตรี และการดูแลภาพรวมวง Super Natural ซึ่งทำงานกันเป็นทีมใหญ่ มีครูฝึกซึ่งเป็นบรรดารุ่นพี่ๆ ที่เรียนจบไปแล้วด้วย เชื่อว่า ไม่ธรรมดา!… หลังบ้านจะสนุกแค่ไหน ไปดูกัน!!
ฝันมีไว้ให้พุ่งชน
“รู้ตัวว่าชอบดนตรีตั้งแต่เด็กครับ” อาจารย์อัศเริ่มเล่าถึงจุดเริ่มรักดนตรีว่าข้างบ้านของครูเป็นวงดนตรีซึ่งซ้อมกันทุกวัน ญาติๆ ก็เป็นนักดนตรี สิ่งเหล่านี้ค่อยๆ ซึมซับมาแบบไม่รู้ตัว จนวันหนึ่งเขาขอให้แม่ซื้อคีย์บอร์ด เครื่องดนตรีชิ้นแรกตอน ป.4 ฝึกฝนเองจนเพื่อนบ้านชวนเข้าวงและพาไปออกงานด้วย
✔ รักในการเล่นดนตรี
กระทั่งเข้าสู่ชั้นมัธยม แน่นอนว่าอาจารย์อัศได้เข้าวงโยธวาทิตของโรงเรียน แต่เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ “แม่เป็นครูครับ กลัวจะเสียการเรียน…ถ้ายังเล่นดนตรีอยู่ก็ไม่ต้องเรียน!” อาจารย์อัศเลือกวัดใจไม่ไปโรงเรียนจริงๆ ห้าวันแห่งความเงียบในบ้านกลายเป็นจุดเปลี่ยนหนึ่งในชีวิต แม่ถามเพื่อยืนยันอีกครั้ง อาจารย์อัศได้แต่ตอบว่า “ผมชอบดนตรี อยากเล่นดนตรีจริงๆ”
แพสชันทางดนตรียังดำเนินต่อไป นอกจากจะซ้อมทรัมเป็ตในวงโยธวาทิตแล้ว อาจารย์อัศยังหาเวลาไปซ้อมวงสตริงอีก เรียกว่า 7 วันไปโรงเรียนทุกวัน เป็นแบบนี้จนจบชั้นมัธยม
ในที่สุดอาจารย์อัศก็พบจุดสมดุลระหว่างความฝันของตัวเองกับความหวังของแม่ “แม่อยากให้เป็นข้าราชการ ผมเลยหาจุดกึ่งกลาง” คำตอบคือ เป็นข้าราชการครูสอนดนตรี
อาจารย์อัศสอบติดมหาวิทยาลัยตามที่แม่ต้องการ แต่กลับเลือกไปเรียนเอกดนตรี ที่สถาบันราชภัฏกำแพงเพชร (ในขณะนั้น) “แม่ไม่โอเคครับ แม่ให้เงินมา 5,000 บาท บอกว่าให้ดูแลตัวเองนะ” อาจารย์อัศหอบเงินไปจ่ายค่าเทอมและค่าหอพักจนหมด แล้วเริ่มรับงานเล่นดนตรีกลางคืนที่โรงแรมเพื่อเลี้ยงตัวเอง ค่าตัวนักดนตรีตอนนั้นเริ่มที่ 9,000 บาท ถือว่าดีมากในยุคที่ข้าวจานละ 10 บาท แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นตามประสบการณ์และความสามารถ จนกระทั่ง 30,000 บาท เป็นค่าตัวสูงสุดที่อาจารย์เคยได้รับสมัยเรียน “เงิน 20,000 บาทแรก ผมเอาไปให้แม่ แม่ร้องไห้เลยครับ”
ซาบซึ้งจนเราเองยังแอบน้ำตาคลอตามไปด้วยเลย
ไอดอลในดวงใจ
ของอาจารย์อัศวิน
• วง Infinity ทั้งวง:
แฟนพันธุ์แท้ที่มี “คาสเซ็ต” ทุกชุด
• อ.บุญเกื้อ พุมานนท์:
อาจารย์คนแรกที่สอนดนตรีสมัยมัธยม
• รศ.กวี ครองแก้ว: อาจารย์ที่มหาวิทยาลัย
ผู้จุดประกายความคิดว่า นักดนตรีก็เป็นนักวิชาการได้
ชวนอ่านเรื่องของอาจารย์แป๊ป วิโรจน์
สมาชิกวง Infinity 1 ใน 3 คณะกรรมการ
THE POWER BAND รอบโซนนิ่ง
อาจารย์อัศสอบบรรจุครูได้ที่กรุงเทพฯ และเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในขณะเดียวกันตอนกลางคืนก็ยังคงไปเล่นดนตรีเหมือนเดิม จนกระทั่งโอกาสมาถึงจึงทำเรื่องโอนย้ายมารับตำแหน่งอาจารย์ ที่วิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย ที่นี่ไม่ต้องเล่นดนตรียามค่ำคืนอีกแล้ว แต่เปลี่ยนมาซ้อมดนตรีกับลูกศิษย์ในช่วงเย็นแทน และมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น
“ผมรู้ว่าการให้มันมีค่ามาก สำหรับการเป็นครู มันเป็นความสุขอีกแบบหนึ่ง
นอกจากอาชีพนักดนตรีแล้ว อีกอาชีพหนึ่งที่มีความสุขคืออาชีพครู”
อาจารย์อัศ – อัศวิน โลหะการก
ผู้คุมวง Super Natural วิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย สุโขทัย
THE POWER BAND 2025 SEASON 5 สนามเชียงใหม่
จากรุ่นสู่รุ่น…ส่งไม้ต่อทางดนตรี
อาจารย์อัศในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งวงมากับนักเรียนเล่าย้อนไปเมื่อ 16 ปีก่อนว่า เริ่มแรกวงชื่อ Natural ที่แปลว่า ความเป็นธรรมชาติหรือธรรมชาติของดนตรี โดยมีโลโก้วงเป็นรูป “เนเจอรัล” (♮) เครื่องหมายทางดนตรีที่ใช้ยกเลิกชาร์ปหรือแฟลตที่อยู่ก่อนหน้า เพื่อให้โน้ตนั้นกลับมาเป็นเสียงปกติ จนกระทั่งเจนที่ 13 เปลี่ยนมาใช้ชื่อวง “Super Natural” โดยได้ไอเดียจากพี่โอ วง Jetset’er ในเวทีการประกวดหนึ่งว่า “ฝีมือขนาดนี้ไม่น่าจะชื่อ Natural แล้วล่ะ มันต้องเป็น Super Natural มากกว่า” เด็กๆ จึงตัดสินใจเปลี่ยนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตอนนี้เป็น Super Natural เจนที่ 4 แล้ว
แอบบอกว่า ตอนนี้เด็กเจน 1 ที่เดินเส้นทางเดียวกับอาจารย์อัศ ได้กลับมาเป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยและช่วยดูแลน้องๆ ด้วย
ภาพจาก YouTube: King Power Thai Power พลังคนไทย
Suggestion
ไม่ใช่แค่ฝีมือ แต่หัวใจต้องเต้นจังหวะเดียวกัน
อยากเข้าวง Super Natural ต้องทำยังไง?
อาจารย์อัศเล่าว่า ต้องผ่านการออดิชันโดยกรรมการ 3 ฝ่าย ได้แก่ รุ่นพี่ที่จะส่งต่อตำแหน่ง สมาชิกในวงปัจจุบัน และอาจารย์อัศเอง
“ข้อดีของวิทยาลัยนาฏศิลป์คือเด็กเรียนดนตรีอยู่แล้ว มีตัวให้เลือก เก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดีด้วย” นอกจากนี้ต้องมีความตั้งใจ และ “จริตเดียวกัน” เข้ากับวงได้ และสนามนี้นอกจากเราจะเห็นสมาชิกทั้ง 12 ชีวิตบนเวทีแล้ว ยังมีเจนต่อไปมาฝึกงาน ปีนี้มาช่วยยกของเพื่อปีหน้าจะได้ขึ้นเวที
เวทีนี้ มีไว้ปล่อยของ
“เด็กๆ เลือกเพลง แล้วช่วยกันตัดสินใจ แต่เพลงที่เลือกมาเยอะมาก ต้องไล่ฟังทุกเพลง แล้วช่วยกันตีความทั้งจากมิวสิกวิดีโอและเนื้อเพลง” เริ่มจากให้เด็กๆ เล่นเพลงต้นฉบับให้คล่องก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนคอร์ด เป็นการสอนอะเรนจ์เพลงไปด้วย
✔ มีความสุขกับสิ่งที่ทำ
เพลง เกินต้าน (PiXXiE) และเพลง สุดปัง (Milli) ถูกเลือกมาทำโชว์ทั้งรอบออดิชันและรอบโซนนิ่งสนามเชียงใหม่ สายตานับร้อยในวันนั้นจับจ้องบนเวทีไม่วางตาจนจบเพลง และคำชมจากกรรมการก็ทำให้ Super Natural ทุกคนใจฟู
จุดเด่นของวง Super Natural คือความหลากหลาย โดยเฉพาะเครื่องดนตรีจาก 2 วัฒนธรรม มือระนาดตีรัวๆ บนรางระนาดทุ้มและระนาดเอก แล้วสลับมาตีตะโพนจังหวะมันๆ แบ็ตเทิลกับมือกลองที่เดินมาบีตบ็อกซ์ใกล้ๆ สร้างสีสันในเพลงสุดปังให้ปังยิ่งขึ้น
![]() |
นักดนตรีต้องฟัง อยากเก่ง ต้องทำแบบนี้✔ รักในการเล่นดนตรี ✔ สม่ำเสมอกับการซ้อม: ✔ มีความสุขกับสิ่งที่ทำ |
หลากหลายแต่รวมกันได้เป็นหนึ่งเดียว
Super Natural ไม่มีปัญหาเรื่องแรงจูงใจ เพราะแต่ละคนมาเล่นดนตรีด้วยใจอยู่แล้ว แต่ในมุมของอาจารย์อัศ การเตรียมวงให้พร้อมแข่งขันก็ไม่ได้ราบรื่นเสียทีเดียว โดยเฉพาะการผสมผสานเครื่องดนตรีไทยและเครื่องดนตรีสากลเข้าไว้ด้วยกัน เกิดจากความเข้าใจและความร่วมมือกันของอาจารย์ต่างแขนง โดยอาจารย์อัศเน้นการสื่อสารเพื่อเปิดกว้างทางแนวคิดสมัยใหม่ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ดนตรีร่วมสมัยอย่างไม่ขัดแย้งกับจารีต โดยยังให้เกียรติความเป็นไทยเต็มที่ นักร้องที่เรียนเอกคีตศิลป์ไทย ร้องเพลงไทยมาก่อน ก็ต้องให้ฝึกร้องแบบสากลใหม่หมด ฝึกทั้งสเกล การเปล่งเสียง และร้องคอรัส
การจัดสรรเวลาสำหรับสมาชิก 12 คนก็ไม่ง่าย สมาชิกในวงเจนล่าสุด ก่อนจะมาแข่งคนที่มีภารกิจฝั่งดนตรีไทยมีงานต้องไปแสดง ทำให้ต้องวางแผนลงตารางซ้อมอย่างจริงจัง “ทุกวิกฤตมีโอกาสเสมอ” ตำแหน่งไหนขาด ถือเป็นโอกาสซ้อมเจาะในตำแหน่งที่อยู่แทน เมื่อวงมาซ้อมกันไม่ครบ ก็ต้องแยกส่วนกันไปซ้อมแล้วมารวมวงเมื่อมีโอกาส สำหรับวงนี้การซ้อมรวม แทบจะนับครั้งได้
• กุญแจสำคัญที่ทำให้วงเข้ารอบชิงชนะเลิศ คือ ความคิดสร้างสรรค์ที่ทุกคนช่วยกันเติมเต็มให้บทเพลงมีชีวิต ผ่านการเข้าใจภาพรวมของเนื้อร้อง อัตลักษณ์เฉพาะตัว แผนการซ้อมที่มีประสิทธิภาพ และได้รับแรงสนับสนุนจากทั้งครอบครัวและวิทยาลัย ไม่ใช่แค่ดนตรี แต่เป็นการเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุด |
|
ความสร้างสรรค์ทางดนตรีในยุคเปลี่ยนผ่าน
ยุคก่อนถือว่าความสร้างสรรค์ทางดนตรีถูกตีกรอบด้วยกฎระเบียบมากมาย มาในยุคนี้ความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและมีความแตกต่างในแนวคิด จุดสำคัญในการเติบโตคือต้องมีอัตลักษณ์ที่ชัดเจน อัตลักษณ์ของวง Super Natural คือความหลากหลาย หนึ่งคนจะต้องเล่นได้หลายเครื่องดนตรี
✔ ต้องสม่ำเสมอกับการซ้อม
เวที THE POWER BAND เป็นเวทีที่อาจารย์อัศยกให้เป็นเวทีคุณภาพ เปิดกว้างทางความคิดและการแสดงออก อาจารย์อัศบอกว่า พลาดส่งประกวดมาสองซีซันแล้ว ปีนี้เด็กๆ กระตือรือร้นกัน อยากมาแข่งรายการนี้ ก็เริ่มเตรียมตัวตั้งแต่เปิดเทอมกันเลย
“เป้าหมายคือให้เด็กๆ ได้พิสูจน์ตัวเอง” ส่วนอาจารย์อัศนั้นบอกว่า ได้ความลึกซึ้งทางดนตรีและคอมเมนต์จากกรรมการระดับตำนานผู้เป็นไอดอลของเขา อย่างอาจารย์แป๊ป วง Infinity ที่เจาะลึกไปถึงโทนเสียง เทคนิค และทิศทางในการพัฒนา “คอมเมนต์จากกรรมการเป็นประโยชน์กับวงมาก เพราะมันคือประสบการณ์ของอาจารย์ที่สั่งสมมานาน ฟังแล้วเอาไปแก้ไข พัฒนาได้แน่นอน”
ทุกเวทีประกวดมีประโยชน์ มันคือประสบการณ์ที่ไม่มีในห้องเรียน และทุกการเดินทางคือโอกาสทำให้วงแข็งแรง ทั้งเรื่องดนตรีและความสัมพันธ์ นอกจากเด็กๆ จะได้ประสบการณ์ทางดนตรีแล้ว ยังได้ใช้ชีวิตร่วมกัน กินนอนด้วยกัน รักกันเหมือนเป็นครอบครัวที่ 2 “ความสุขของผม คือเด็กๆ ได้อยู่บนเวทีแล้วเล่นดนตรีอย่างมีความสุข”
รู้หรือไม่? เกี่ยวกับอาจารย์อัศวิน
• คว้ารางวัลใหญ่ๆ จากเวทีประกวดดนตรีระดับประเทศมาก่อน
• ฟังเพลงทุกแนวเพื่อไม่ปิดกั้นจินตนาการเด็ก
และเพื่อ “ล้างหู” เพราะฟังเด็กๆ ซ้อมจนบางครั้งเผลอจำสัดส่วนที่ผิดไป
• หนึ่งในมือกีตาร์ของวง Super Natural
คือทายาท 1 ใน 3 คนของอาจารย์อัศ
จากเด็กที่เคยถูกห้าม สู่พ่อที่ให้อิสระลูก
ลูกๆ ของอาจารย์อัศทั้ง 3 คนเติบโตมาท่ามกลางเสียงดนตรีของพ่อ โดยเฉพาะ ทรัมพ์ – ชโยทิต โลหะการก พี่ชายคนโตที่เดินตามเส้นทางของพ่อและเป็นสมาชิกในวง Super Natural ที่ผ่านการออดิชันเข้าวงมา การได้ติดตามพ่อไปตามห้องซ้อมและเวทีประกวดต่างๆ ทำให้เขาชอบดนตรี ทรัมพ์ตีกลองเป็นเองตั้งแต่ 3 ขวบ “ผมยังไม่สอนดนตรีให้เขาเพราะไม่อยากบังคับเส้นทางของลูก” จน ม.1 เขาขอเองให้ซื้อกีตาร์ และถัดมาขอซื้อเอฟเฟกต์กีตาร์ มีโอกาสแจมวงกับพี่ๆ ที่วิทยาลัยบ้าง จบ ม.3 ทรัมพ์ตัดสินใจเลือกเรียนดนตรี ที่วิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัยกับพ่ออย่างเต็มใจ
อาจารย์อัศในบทบาทคุณพ่อและอาจารย์สอนดนตรี อยากฝากถึงผู้ปกครองว่า เด็กๆ แต่ละคนมีความถนัด มีความรักและความชอบไม่เหมือนกัน อยากใหัฟังเสียงหัวใจของเขาด้วย ไม่ว่าลูกจะอยากเล่นดนตรีเพราะฝันอยากเป็นนักดนตรี หรืออยากมีเพื่อน หรือเพียงเพื่อพัฒนาสมองซีกซ้าย “อย่างน้อยที่สุด ดนตรีก็เป็นกิจกรรมยามว่างที่เขาได้ฝึกเพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และสุดท้าย ดนตรีจะพาเขาไปในที่ที่เขาไม่เคยไป.. ได้ทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำ”
THE POWER BAND 2025 SEASON 5 THE SERIES EP.3 ‘Super Natural – Revenge For Loseboy’ 2 วงดนตรีแห่งความมุ่งมั่น