People

ความฝัน ตะโพน และ บีตบ็อกซ์
อาจารย์อัศ – อัศวิน โลหะการก ผู้คุมวง Super Natural

ภิรญา นริศชาติ 21 Jul 2025
Views: 893

Summary

Super Natural เพิ่งมาเวที THE POWER BAND ปีนี้เป็นครั้งแรก แต่สะกดคนดูได้ตั้งแต่เริ่มซาวนด์เช็ก ผลงานสุดปังทางดนตรีที่มีแต่คำว่าเป็นไปได้ของ “อาจารย์อัศ” ผู้เป็นแรงหนุนให้เด็กๆ ‘นาฏศิลปสุโขทัย’ เล่นดนตรีด้วยความสุข จนวงเข้ารอบชิงชนะเลิศได้แล้ว หาที่มาของชื่อวงซึ่งแท้จริงมาจากเครื่องหมายทางดนตรีโดยพูดคุยกับครู…ศูนย์รวมหัวใจของพวกเขา

พักเหนื่อยแป๊บกับสนามที่ 2 รอบโซนนิ่ง เชียงใหม่เจ้า กับเวทีประกวดดนตรีคุณภาพ THE POWER BAND 2025 SEASON 5 จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมพันธมิตรค่ายเพลงระดับแนวหน้าของประเทศ และ Multiply by Eight ภายใต้คอนเซปต์ MUSIC CREATES MORE POSSIBILITIES พลังดนตรี เป็นไปได้ ไม่สิ้นสุด

ก่อนไปจะต่อสนามที่ 3 ขอพาไปทำความรู้จัก ‘ซัปพอร์เตอร์’ ของวง Super Natural อย่าง อาจารย์อัศ – อัศวิน โลหะการก จากวิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย คนที่กรรมการในวันประกวดออกปากชมการเรียบเรียงดนตรี และการดูแลภาพรวมวง Super Natural ซึ่งทำงานกันเป็นทีมใหญ่ มีครูฝึกซึ่งเป็นบรรดารุ่นพี่ๆ ที่เรียนจบไปแล้วด้วย เชื่อว่า ไม่ธรรมดา!… หลังบ้านจะสนุกแค่ไหน ไปดูกัน!!

 

ฝันมีไว้ให้พุ่งชน

“รู้ตัวว่าชอบดนตรีตั้งแต่เด็กครับ” อาจารย์อัศเริ่มเล่าถึงจุดเริ่มรักดนตรีว่าข้างบ้านของครูเป็นวงดนตรีซึ่งซ้อมกันทุกวัน ญาติๆ ก็เป็นนักดนตรี สิ่งเหล่านี้ค่อยๆ ซึมซับมาแบบไม่รู้ตัว จนวันหนึ่งเขาขอให้แม่ซื้อคีย์บอร์ด เครื่องดนตรีชิ้นแรกตอน ป.4 ฝึกฝนเองจนเพื่อนบ้านชวนเข้าวงและพาไปออกงานด้วย

 

รักในการเล่นดนตรี

 

กระทั่งเข้าสู่ชั้นมัธยม แน่นอนว่าอาจารย์อัศได้เข้าวงโยธวาทิตของโรงเรียน แต่เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ “แม่เป็นครูครับ กลัวจะเสียการเรียน…ถ้ายังเล่นดนตรีอยู่ก็ไม่ต้องเรียน!” อาจารย์อัศเลือกวัดใจไม่ไปโรงเรียนจริงๆ ห้าวันแห่งความเงียบในบ้านกลายเป็นจุดเปลี่ยนหนึ่งในชีวิต แม่ถามเพื่อยืนยันอีกครั้ง อาจารย์อัศได้แต่ตอบว่า “ผมชอบดนตรี อยากเล่นดนตรีจริงๆ”

แพสชันทางดนตรียังดำเนินต่อไป นอกจากจะซ้อมทรัมเป็ตในวงโยธวาทิตแล้ว อาจารย์อัศยังหาเวลาไปซ้อมวงสตริงอีก เรียกว่า 7 วันไปโรงเรียนทุกวัน เป็นแบบนี้จนจบชั้นมัธยม

ในที่สุดอาจารย์อัศก็พบจุดสมดุลระหว่างความฝันของตัวเองกับความหวังของแม่ “แม่อยากให้เป็นข้าราชการ  ผมเลยหาจุดกึ่งกลาง” คำตอบคือ เป็นข้าราชการครูสอนดนตรี

อาจารย์อัศสอบติดมหาวิทยาลัยตามที่แม่ต้องการ แต่กลับเลือกไปเรียนเอกดนตรี ที่สถาบันราชภัฏกำแพงเพชร (ในขณะนั้น) “แม่ไม่โอเคครับ แม่ให้เงินมา 5,000 บาท บอกว่าให้ดูแลตัวเองนะ” อาจารย์อัศหอบเงินไปจ่ายค่าเทอมและค่าหอพักจนหมด แล้วเริ่มรับงานเล่นดนตรีกลางคืนที่โรงแรมเพื่อเลี้ยงตัวเอง ค่าตัวนักดนตรีตอนนั้นเริ่มที่ 9,000 บาท ถือว่าดีมากในยุคที่ข้าวจานละ 10 บาท แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นตามประสบการณ์และความสามารถ จนกระทั่ง 30,000 บาท เป็นค่าตัวสูงสุดที่อาจารย์เคยได้รับสมัยเรียน “เงิน 20,000 บาทแรก ผมเอาไปให้แม่ แม่ร้องไห้เลยครับ”

ซาบซึ้งจนเราเองยังแอบน้ำตาคลอตามไปด้วยเลย

 

ไอดอลในดวงใจ

ของอาจารย์อัศวิน

• วง Infinity ทั้งวง:
แฟนพันธุ์แท้ที่มี “คาสเซ็ต” ทุกชุด

• อ.บุญเกื้อ พุมานนท์:
อาจารย์คนแรกที่สอนดนตรีสมัยมัธยม

• รศ.กวี ครองแก้ว: อาจารย์ที่มหาวิทยาลัย
ผู้จุดประกายความคิดว่า นักดนตรีก็เป็นนักวิชาการได้

ชวนอ่านเรื่องของอาจารย์แป๊ป วิโรจน์
สมาชิกวง Infinity 1 ใน 3 คณะกรรมการ
THE POWER BAND รอบโซนนิ่ง

อาจารย์อัศสอบบรรจุครูได้ที่กรุงเทพฯ และเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในขณะเดียวกันตอนกลางคืนก็ยังคงไปเล่นดนตรีเหมือนเดิม จนกระทั่งโอกาสมาถึงจึงทำเรื่องโอนย้ายมารับตำแหน่งอาจารย์ ที่วิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย ที่นี่ไม่ต้องเล่นดนตรียามค่ำคืนอีกแล้ว แต่เปลี่ยนมาซ้อมดนตรีกับลูกศิษย์ในช่วงเย็นแทน และมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น

“ผมรู้ว่าการให้มันมีค่ามาก สำหรับการเป็นครู มันเป็นความสุขอีกแบบหนึ่ง

นอกจากอาชีพนักดนตรีแล้ว อีกอาชีพหนึ่งที่มีความสุขคืออาชีพครู”

อาจารย์อัศ – อัศวิน โลหะการก
ผู้คุมวง Super Natural วิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย สุโขทัย
THE POWER BAND 2025 SEASON 5 สนามเชียงใหม่

 

จากรุ่นสู่รุ่น…ส่งไม้ต่อทางดนตรี

อาจารย์อัศในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งวงมากับนักเรียนเล่าย้อนไปเมื่อ 16 ปีก่อนว่า เริ่มแรกวงชื่อ Natural ที่แปลว่า ความเป็นธรรมชาติหรือธรรมชาติของดนตรี โดยมีโลโก้วงเป็นรูป “เนเจอรัล” () เครื่องหมายทางดนตรีที่ใช้ยกเลิกชาร์ปหรือแฟลตที่อยู่ก่อนหน้า เพื่อให้โน้ตนั้นกลับมาเป็นเสียงปกติ จนกระทั่งเจนที่ 13 เปลี่ยนมาใช้ชื่อวง “Super Natural” โดยได้ไอเดียจากพี่โอ วง Jetset’er ในเวทีการประกวดหนึ่งว่า “ฝีมือขนาดนี้ไม่น่าจะชื่อ Natural แล้วล่ะ มันต้องเป็น Super Natural มากกว่า” เด็กๆ จึงตัดสินใจเปลี่ยนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตอนนี้เป็น Super Natural เจนที่ 4 แล้ว

แอบบอกว่า ตอนนี้เด็กเจน 1 ที่เดินเส้นทางเดียวกับอาจารย์อัศ ได้กลับมาเป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยและช่วยดูแลน้องๆ ด้วย

ภาพจาก YouTube: King Power Thai Power พลังคนไทย

ไม่ใช่แค่ฝีมือ แต่หัวใจต้องเต้นจังหวะเดียวกัน

อยากเข้าวง Super Natural ต้องทำยังไง?

อาจารย์อัศเล่าว่า ต้องผ่านการออดิชันโดยกรรมการ 3 ฝ่าย ได้แก่ รุ่นพี่ที่จะส่งต่อตำแหน่ง สมาชิกในวงปัจจุบัน และอาจารย์อัศเอง

“ข้อดีของวิทยาลัยนาฏศิลป์คือเด็กเรียนดนตรีอยู่แล้ว มีตัวให้เลือก เก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดีด้วย” นอกจากนี้ต้องมีความตั้งใจ และ “จริตเดียวกัน” เข้ากับวงได้ และสนามนี้นอกจากเราจะเห็นสมาชิกทั้ง 12 ชีวิตบนเวทีแล้ว ยังมีเจนต่อไปมาฝึกงาน ปีนี้มาช่วยยกของเพื่อปีหน้าจะได้ขึ้นเวที

 

เวทีนี้ มีไว้ปล่อยของ

“เด็กๆ เลือกเพลง แล้วช่วยกันตัดสินใจ แต่เพลงที่เลือกมาเยอะมาก ต้องไล่ฟังทุกเพลง แล้วช่วยกันตีความทั้งจากมิวสิกวิดีโอและเนื้อเพลง” เริ่มจากให้เด็กๆ เล่นเพลงต้นฉบับให้คล่องก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนคอร์ด เป็นการสอนอะเรนจ์เพลงไปด้วย

 

 มีความสุขกับสิ่งที่ทำ

 

เพลง เกินต้าน (PiXXiE) และเพลง สุดปัง (Milli) ถูกเลือกมาทำโชว์ทั้งรอบออดิชันและรอบโซนนิ่งสนามเชียงใหม่ สายตานับร้อยในวันนั้นจับจ้องบนเวทีไม่วางตาจนจบเพลง และคำชมจากกรรมการก็ทำให้ Super Natural ทุกคนใจฟู

จุดเด่นของวง Super Natural คือความหลากหลาย โดยเฉพาะเครื่องดนตรีจาก 2 วัฒนธรรม มือระนาดตีรัวๆ บนรางระนาดทุ้มและระนาดเอก แล้วสลับมาตีตะโพนจังหวะมันๆ แบ็ตเทิลกับมือกลองที่เดินมาบีตบ็อกซ์ใกล้ๆ สร้างสีสันในเพลงสุดปังให้ปังยิ่งขึ้น

 

นักดนตรีต้องฟัง อยากเก่ง ต้องทำแบบนี้

รักในการเล่นดนตรี

สม่ำเสมอกับการซ้อม:
3 วันว่างเว้นซ้อมดนตรี 7 วันจากนารีเป็นอื่น
(ดนตรียิ่งกว่าผู้หญิง หยุดซ้อมไม่ได้)

มีความสุขกับสิ่งที่ทำ
ทุกอย่างในชีวิตสามารถใช้คอนเซปต์นี้
ได้ “รัก (ในสิ่งที่ทำ) ทำอย่างสม่ำเสมอ และต้องมีความสุข”

 

หลากหลายแต่รวมกันได้เป็นหนึ่งเดียว

Super Natural ไม่มีปัญหาเรื่องแรงจูงใจ เพราะแต่ละคนมาเล่นดนตรีด้วยใจอยู่แล้ว แต่ในมุมของอาจารย์อัศ การเตรียมวงให้พร้อมแข่งขันก็ไม่ได้ราบรื่นเสียทีเดียว โดยเฉพาะการผสมผสานเครื่องดนตรีไทยและเครื่องดนตรีสากลเข้าไว้ด้วยกัน เกิดจากความเข้าใจและความร่วมมือกันของอาจารย์ต่างแขนง โดยอาจารย์อัศเน้นการสื่อสารเพื่อเปิดกว้างทางแนวคิดสมัยใหม่ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ดนตรีร่วมสมัยอย่างไม่ขัดแย้งกับจารีต โดยยังให้เกียรติความเป็นไทยเต็มที่ นักร้องที่เรียนเอกคีตศิลป์ไทย ร้องเพลงไทยมาก่อน ก็ต้องให้ฝึกร้องแบบสากลใหม่หมด ฝึกทั้งสเกล การเปล่งเสียง และร้องคอรัส

การจัดสรรเวลาสำหรับสมาชิก 12 คนก็ไม่ง่าย สมาชิกในวงเจนล่าสุด ก่อนจะมาแข่งคนที่มีภารกิจฝั่งดนตรีไทยมีงานต้องไปแสดง ทำให้ต้องวางแผนลงตารางซ้อมอย่างจริงจัง “ทุกวิกฤตมีโอกาสเสมอ” ตำแหน่งไหนขาด ถือเป็นโอกาสซ้อมเจาะในตำแหน่งที่อยู่แทน เมื่อวงมาซ้อมกันไม่ครบ ก็ต้องแยกส่วนกันไปซ้อมแล้วมารวมวงเมื่อมีโอกาส สำหรับวงนี้การซ้อมรวม แทบจะนับครั้งได้

• กุญแจสำคัญที่ทำให้วงเข้ารอบชิงชนะเลิศ คือ

ความคิดสร้างสรรค์ที่ทุกคนช่วยกันเติมเต็มให้บทเพลงมีชีวิต

ผ่านการเข้าใจภาพรวมของเนื้อร้อง อัตลักษณ์เฉพาะตัว

แผนการซ้อมที่มีประสิทธิภาพ และได้รับแรงสนับสนุนจากทั้งครอบครัวและวิทยาลัย

ไม่ใช่แค่ดนตรี แต่เป็นการเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุด


 

ความสร้างสรรค์ทางดนตรีในยุคเปลี่ยนผ่าน

ยุคก่อนถือว่าความสร้างสรรค์ทางดนตรีถูกตีกรอบด้วยกฎระเบียบมากมาย มาในยุคนี้ความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและมีความแตกต่างในแนวคิด จุดสำคัญในการเติบโตคือต้องมีอัตลักษณ์ที่ชัดเจน อัตลักษณ์ของวง Super Natural คือความหลากหลาย หนึ่งคนจะต้องเล่นได้หลายเครื่องดนตรี

 

ต้องสม่ำเสมอกับการซ้อม

 

เวที THE POWER BAND เป็นเวทีที่อาจารย์อัศยกให้เป็นเวทีคุณภาพ เปิดกว้างทางความคิดและการแสดงออก  อาจารย์อัศบอกว่า พลาดส่งประกวดมาสองซีซันแล้ว ปีนี้เด็กๆ กระตือรือร้นกัน อยากมาแข่งรายการนี้ ก็เริ่มเตรียมตัวตั้งแต่เปิดเทอมกันเลย

“เป้าหมายคือให้เด็กๆ ได้พิสูจน์ตัวเอง” ส่วนอาจารย์อัศนั้นบอกว่า ได้ความลึกซึ้งทางดนตรีและคอมเมนต์จากกรรมการระดับตำนานผู้เป็นไอดอลของเขา อย่างอาจารย์แป๊ป วง Infinity ที่เจาะลึกไปถึงโทนเสียง เทคนิค และทิศทางในการพัฒนา “คอมเมนต์จากกรรมการเป็นประโยชน์กับวงมาก เพราะมันคือประสบการณ์ของอาจารย์ที่สั่งสมมานาน ฟังแล้วเอาไปแก้ไข พัฒนาได้แน่นอน”

ทุกเวทีประกวดมีประโยชน์ มันคือประสบการณ์ที่ไม่มีในห้องเรียน และทุกการเดินทางคือโอกาสทำให้วงแข็งแรง  ทั้งเรื่องดนตรีและความสัมพันธ์ นอกจากเด็กๆ จะได้ประสบการณ์ทางดนตรีแล้ว ยังได้ใช้ชีวิตร่วมกัน กินนอนด้วยกัน รักกันเหมือนเป็นครอบครัวที่ 2 “ความสุขของผม คือเด็กๆ ได้อยู่บนเวทีแล้วเล่นดนตรีอย่างมีความสุข”

 

รู้หรือไม่? เกี่ยวกับอาจารย์อัศวิน

• คว้ารางวัลใหญ่ๆ จากเวทีประกวดดนตรีระดับประเทศมาก่อน

• ฟังเพลงทุกแนวเพื่อไม่ปิดกั้นจินตนาการเด็ก
และเพื่อ “ล้างหู” เพราะฟังเด็กๆ ซ้อมจนบางครั้งเผลอจำสัดส่วนที่ผิดไป

• หนึ่งในมือกีตาร์ของวง Super Natural
คือทายาท 1 ใน 3 คนของอาจารย์อัศ

 

จากเด็กที่เคยถูกห้าม สู่พ่อที่ให้อิสระลูก

ลูกๆ ของอาจารย์อัศทั้ง 3 คนเติบโตมาท่ามกลางเสียงดนตรีของพ่อ โดยเฉพาะ ทรัมพ์ – ชโยทิต โลหะการก พี่ชายคนโตที่เดินตามเส้นทางของพ่อและเป็นสมาชิกในวง Super Natural ที่ผ่านการออดิชันเข้าวงมา การได้ติดตามพ่อไปตามห้องซ้อมและเวทีประกวดต่างๆ ทำให้เขาชอบดนตรี ทรัมพ์ตีกลองเป็นเองตั้งแต่ 3 ขวบ “ผมยังไม่สอนดนตรีให้เขาเพราะไม่อยากบังคับเส้นทางของลูก” จน ม.1 เขาขอเองให้ซื้อกีตาร์ และถัดมาขอซื้อเอฟเฟกต์กีตาร์ มีโอกาสแจมวงกับพี่ๆ ที่วิทยาลัยบ้าง จบ ม.3 ทรัมพ์ตัดสินใจเลือกเรียนดนตรี ที่วิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัยกับพ่ออย่างเต็มใจ

อาจารย์อัศในบทบาทคุณพ่อและอาจารย์สอนดนตรี อยากฝากถึงผู้ปกครองว่า เด็กๆ แต่ละคนมีความถนัด มีความรักและความชอบไม่เหมือนกัน อยากใหัฟังเสียงหัวใจของเขาด้วย ไม่ว่าลูกจะอยากเล่นดนตรีเพราะฝันอยากเป็นนักดนตรี หรืออยากมีเพื่อน หรือเพียงเพื่อพัฒนาสมองซีกซ้าย “อย่างน้อยที่สุด ดนตรีก็เป็นกิจกรรมยามว่างที่เขาได้ฝึกเพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และสุดท้าย ดนตรีจะพาเขาไปในที่ที่เขาไม่เคยไป.. ได้ทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำ”

 

THE POWER BAND 2025 SEASON 5 THE SERIES EP.3 ‘Super Natural – Revenge For Loseboy’ 2 วงดนตรีแห่งความมุ่งมั่น

Author

ภิรญา นริศชาติ

Author

นักเขียนอิสระที่โตมากับนวนิยายของแก้วเก้า ยังคงจดบันทึกลงสมุด และทำงานกล่องดนตรีที่รัก เพราะเชื่อว่าแรงบันดาลใจสำคัญพอๆ กับจินตนาการ

Web Editor

ปิ่นอนงค์ วัชรปาณ

Web Editor

บรรณาธิการเว็บ Thaipower.co อดีตบรรณาธิการบางสำนัก นักข่าวและคอลัมนิสต์จำเป็น โกสต์ไรเตอร์...ผู้รักการเดินทาง หลงใหลกลิ่นกาแฟ และเป็นมูฟวีเลิฟเวอร์

Author

อำพน จันทร์ศิริศรี

Photographer

ช่างภาพอิสระมากว่า 30 ปี...ที่คร่ำหวอดกับการถ่ายภาพรายการทีวีต่างๆ เช่น The Voice, The Rapper, The Stars Idol เป็นต้น และถ่ายภาพคอนเสิร์ตต่างๆ