Playground

สู้จนถึงฝัน! 5 วงฟันฝ่า คว้าที่นั่งรอบชิงชนะเลิศ
จาก สนามภูเก็ต THE POWER BAND 2025 SEASON 5

กฤษณา คชธรรมรัตน์ 5 Aug 2025
Views: 630

Summary

เข้าใกล้รอบโซนนิ่งก่อนสุดท้ายเข้าไปทุกที แต่ยังไม่ท้ายสุด…บนเวที THE POWER BAND 2025 SEASON 5 รอบโซนนิ่งแสดงสดของสนามภูเก็ต…แต่ละวงประกวดประชันกันอย่างหรอย! ของแท้! ในการคว้า “ตั๋ว”  ไปสู่การเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ เมื่อได้ผลผู้ผ่านเข้ารอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว Thaipower.co เก็บตกบรรยากาศแบบจัดเต็ม! มาให้แบบครบๆ ได้ที่นี่เลย

เวที THE POWER BAND 2025 SEASON 5 สนามภูเก็ต กลายเป็นสัญลักษณ์ของโอกาสและการไม่ยอมแพ้ เมื่อผู้เข้าประกวดมีทั้งใหม่แกะกล่องแบบยังไม่เคยลงแข่งเวทีสนามไหนมาก่อนเลย ในขณะที่อีกหลายวงซึ่งเคยพลาดในสนามก่อนหน้านี้ ยังไม่ยอมให้ความพ่ายแพ้หยุดพวกเขาไว้ ด้วยหัวใจที่สู้ไม่ถอย พวกเขากลับมาบนเวทีภูเก็ต และครั้งนี้…เสียงเพลงก็พาให้ความฝันไปถึงอีกขั้น สู่รอบชิงชนะเลิศอย่างสมศักดิ์ศรี ที่ยืนยันว่า เมื่อหัวใจยังสู้ ดนตรีก็จะพาไปต่อได้เสมอ

การประกวดวงดนตรีสากลระดับประเทศที่ทุกคนรอคอย THE POWER BAND 2025 SEASON 5 การประชันฝีมือทางดนตรีสุดเข้มข้นแห่งปี จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และเหล่าพันธมิตรค่ายเพลงชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Muzik Move, Smallroom, LOVEiS Entertainment, What The Duck, Warner Music Thailand, XOXO Entertainment, YUPP! Entertainment, Universal Music Thailand, Multiply by Eight และขุนพลวงการดนตรี อย่าง Singha Corporation, T-POP STAGE, The Guitar Mag, Yamaha Music Thailand ภายใต้คอนเซปต์ “MUSIC CREATES MORE POSSIBILITIES พลังดนตรี เป็นไปได้ ไม่สิ้นสุด” แลนดิ้งที่สนามภูเก็ตกับการแข่งขันรอบโซนนิ่ง ที่ต้องเรียกว่าสูสีและเฉือนกันยิ่งกว่าฉิวเฉียด ดำเนินรายการโดยสองพิธีกรคนเก่ง อย่าง แทค – ณัฐพล เหลืองกนกวนิช อ่านเรื่องพิธีกร คลิกที่นี่ และ โอปอล์ – ณัฐชา เสนาบุตร อ่านเรื่องพิธีกร คลิกที่นี่

มีวงจากภาคใต้ “เจ้าถิ่น” ผ่านเข้ามาสู่รอบสนามภูเก็ตนี้ได้ เป็นวงจากสงขลาและภูเก็ต และมีวงจากภาคอื่นๆ ที่ต้องเดินทางข้ามภาคมาไกล ไม่ว่าจะเป็นวงจากอุดรธานี สมุทรปราการ ราชบุรี นนทบุรี นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพฯ อยู่หลายวงด้วยกัน

ทุกวงที่เข้ารอบต่างโชว์พลังทางดนตรีแบบสู้สุดใจ สร้างความหนักใจให้คณะกรรมการทั้งสามอย่าง อาจารย์แป๊ป – วิโรจน์ สถาปนาวัตร จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล พี่ติ๊ก – กฤษติกร พรสาธิต นักร้องนำวง Playground และผู้บริหารค่าย Home Run Music และพี่เป้ – ไพสิฐ คำกลั่น โพรดิวเซอร์ค่าย Melodic Corner ต้องตัดสินแบบวัดกันแต้มต่อแต้ม จนในที่สุดก็ได้รายชื่อผู้ชนะแบบบีบหัวใจ ย้อนกลับไปเช็กผลผู้เข้ารอบจากสนามเชียงใหม่ คลิกเลยที่นี่

“ตัดสินยากมาก คะแนนใกล้กันมากๆ ทุกวงสร้างมาตรฐานใหม่ เมื่อมาตรฐานสูง วงก็สูงตาม น้ำตาของพวกคุณคือน้ำตาของพวกเรา…กรรมการ” อ.แป๊ปแสดงความหนักใจออกไมค์เลยทีเดียว

ในที่สุดการแข่งขันสุดเดือดก็ได้บทสรุป เสียงเพลงที่กระหึ่มก้องฮอลล์ได้นำเหล่าสุดยอดวงดนตรีผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ ดังนี้

 

รุ่นมัธยมศึกษา (High School Class)

4 วงพลังวัยรุ่นที่ฝีมือเกินอายุ

The Humble จากโรงเรียนมหาวชิราวุธ สงขลา ที่จุดประกายความสดใสให้ทั้งสนาม ด้วย 2 เพลงเมโลดีน่ารักสนุกสนาน ด้วยเพลง ข้อความรูปยิ้ม จาก POLYCAT และเพลง ขาหมู จาก TATTOO COLOUR และทั้งแมวและหมูก็จูงพวกเขาเข้ารอบชิงชนะเลิศอย่างเริงร่า ชอบสไตล์การเล่นและอะเรนจ์ ของวงนี้มาก เลือกเพลงโดนใจ ‘ข้อความรูปยิ้ม’ ผมชอบมากอยู่แล้ว พอมาเจอการประสานเสียงยิ่งดีมาก เป็นวงที่น่าจับตามอง” พี่เป้ให้คะแนนไปยิ้มไป

“วันนี้พวกเราเอเนอร์จีล้น ตื่นเต้นมาก เพราะนี่เป็นเวทีที่ใหญ่ที่สุดของพวกเรา มันสนุกมาก อยากให้ทุกคนมาลองดู”

วง Destiny จากสถาบันดนตรี JP Music นนทบุรี ครีเอตสองเพลงที่แตกต่างมาทำเป็นผลงานของได้อย่างลงตัว ด้วยเพลง เอาปากกามาวง จาก Bell Warisara และเพลง ซ่อน (ไม่) หา จาก Jeff Satur “เป็นวงแรกแต่เล่นเหมือนเป็นวงปิดการแข่งขัน แข็งแรงมาก เหมือนขึ้นเป็นวงสุดท้าย ใส่เต็มที่ Frontman มีเอกลักษณ์ นำเสนอได้ลงตัว ทั้งวงทำได้ดี” อ.แป๊ป เล่าถึงเหตุผลที่เลือกให้คะแนนกับวงนี้

ส่วนวง Destiny เองก็เรียกว่ากำลังใจมาเต็ม “รู้สึกตื่นเต้นนิดหนึ่งเพราะว่าขึ้นเป็นวงแรก แต่คณะกรรมการชมว่าวงเราทำได้ดี เล่นเหมือนเป็นวงปิดเลย  เอเนอร์จีดีมาก ก็เลยรู้สึกดีใจมาก”

วง OZONE โรงเรียนดนตรียามาฮ่านครภูเก็ต ภูเก็ต เด็กใต้เจ้าถิ่นกับโชว์สุดทรงพลัง กับเพลง จงเรียกเธอว่านางพญา จาก Silly Fools และเพลง บันไดสีแดง จาก Hugo คว้าตั๋วสู่รอบชิงชนะเลิศได้อย่างสมศักดิ์ศรีเจ้าถิ่น

“ไร้ที่ติในเรื่องของสกิล ทำออกมายอดเยี่ยม รู้เลยว่าซ้อมหนักแน่น เก่งมากๆ เป็นร็อกที่ถูกต้อง รอดูในรอบต่อไปนะครับ” พี่เป้ชูธงเชียร์ด้วยผลงานบนเวทีที่เห็น

“ตอนประกาศผล มั่นใจมากว่าวงเราจะต้องเป็นชื่อแรก แต่พอไม่ใช่ พวกเราก็หูดับไปเลยฟังไม่ชัดว่าเป็นวงอะไร แต่เห็นผู้ปกครองดีใจ ก็คิดว่าใช่แล้ว ก็เลยดีใจมาก กระโดดกันไม่ยั้ง”

สำหรับ วง Penmanship  จากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล กรุงเทพฯ ผู้เคยพลาดหวังจากสนามขอนแก่นกอบกู้พลังใจพลังกายเพื่อรอบชิงชนะเลิศที่รออยู่ พวกเขานำคำแนะนำจากกรรมการมาปรับโชว์ทั้ง 2 เพลง ทั้งเพลง รู้กันแค่นี้ (Mint) และเพลง หยดน้ำตา จาก 4EVE จนโดนใจกรรมการ “กลับมาหล่อขึ้น เพลงที่้เล่นละเอียดขึ้นมาก ทำการบ้านมาดี” พี่ติ๊กก็เอาใจช่วย

เมื่อได้ยินประกาศชื่อเข้ารอบเป็นวงที่ 4 Penmanship ถึงกับหลั่งน้ำตา แล้วบอกว่า “พวกเราทำสำเร็จแล้วครับ”

 

วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ

รุ่นมัธยมศึกษา (High School Class)

จากสนามภูเก็ต ได้แก่

• วง The Humble สงขลา
โรงเรียนมหาวชิราวุธ สงขลา

• วง Destiny
สถาบันดนตรี JP Music นนทบุรี

• วง OZONE
โรงเรียนดนตรียามาฮ่านครภูเก็ต ภูเก็ต

• วง Penmanship
โรงเรียนเซนต์คาเบรียล กรุงเทพฯ

 

รุ่นบุคคลทั่วไป เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ

(Professional Class: Road to Artist)

ผู้ชนะได้…มีหนึ่งเดียวเท่านั้น

สำหรับวงที่เข้าแข่งขันในรุ่นนี้จากสนามภูเก็ตที่คว้าตั๋วไปสู่รอบชิงชนะเลิศได้ มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น! ที่ได้โอกาสก้าวไปสู่เส้นทางศิลปินอาชีพอย่างเต็มตัว คือวง SANDY จากอุดรธานี ที่เรียกว่าคว้าชัยไปจากวงที่ข้ามภาคมาจากภาคกลาง และหลายวงภาคใต้ที่ผ่านเข้ารอบนี้มาด้วยกัน

วงที่รวมตัวจากความผิดหวังเมื่อครั้งมีสมาชิกเป็นวง CIPPER จากสนามขอนแก่น กลับมาสู้อีกครั้งด้วยเสียงและดนตรีที่สะกดทุกโสตประสาท แบบเตรียมแจ้งเกิดบนเวทีระดับประเทศได้เลย! เสียงปรบมือกึกก้อง! “ขอบคุณที่กลับมา ภาพลักษณ์ศิลปินชัดมาก นักร้องทำได้ดีและเป็นธรรมชาติมาก” พี่เป้ชมเต็มที่

วง SANDY มีลีลาไม่ซ้ำใครและใช้ความเป็นตัวของตัวเองคว้าคะแนนเป็นที่สุดจากกรรมการได้สำเร็จในที่สุด  “พยายามเป็นตัวเองให้ได้มากที่สุด พยายามคิดว่าเรามาจอยๆ กับสมาชิกในวงทุกคน มาสนุกกันบนเวทีกับคนดู รู้สึกว่าทำออกมาให้ดีที่สุด และพอเราทำผลงานออกมาได้ดี กรรมการชมในส่วนของทางนักดนตรีและในส่วนของการร้องเพลงด้วย ก็เลยรู้สึกดีใจมาก”

 

วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ

รุ่นบุคคลทั่วไป เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ Professional Class: Road to Artists

จากสนามภูเก็ต ได้แก่

วง SANDY อุดรธานี

ก่อนจะผ่านช่วงสุดท้ายของงานนี้ ไปกรี๊ดกันให้ดังกว่าเดิมเมื่อมินิคอนเสิร์ตปิดสนามแข่งและความบันเทิงแบบนอน-สต็อปจากทั้งศิลปินรุ่นพี่และรุ่นน้อง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงจากหนุ่มๆ วง KRYPTONYTE กับสองสาวเสียงใส PINGPING PANPAN สองศิลปินผลผลิตจากโครงการ THE POWER BAND ที่มอบความเพลิดเพลินให้กับผู้ชมในทุกบทเพลง

ศิลปินคู่หูสุดน่ารักอย่าง Serious Bacon ที่นำบทเพลงเพราะๆ ถูกใจแฟนเพลงที่รอคอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงโชว์จากศิลปินหนุ่มเจ้าของเพลงฮิตมากมาย อย่าง THE TOYS ก่อนจะปิดท้ายเวทีครั้งนี้กันด้วยเสียงกรี๊ดสนั่นดังต่อเนื่อง จากการแสดงแบบจัดเต็มจากพ่อหนุ่มเสียงละมุนที่ทุกคนต้องกรี๊ด เพลงของเขา อย่าง Jeff Satur

แฟนๆ ชาวภูเก็ตบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไลน์อัปศิลปินแน่นขนาดนี้…พลาดแล้วจะเสียใจ! เตรียมตัวให้พร้อม! THE POWER BAND 2025 SEASON 5 ยังไม่จบแค่นี้! สนามกรุงเทพฯ กำลังจะระเบิดความสนุกและความลุ้นกันอีกครั้ง! เพราะ “ตั๋ว” ในการเข้าชิงรอบชิงชนะเลิศเหลือจำนวนน้อยลงทุกที…ใครจะเป็นแชมป์? ใครจะคว้าโอกาสก้าวสู่เส้นทางศิลปินมืออาชีพ? ติดตามทุกความเคลื่อนไหวได้ทาง คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย อย่ากะพริบตา! เพราะทุกวินาทีคือความมัน!!

 

วงที่ผ่านเข้ารอบออดิชัน THE POWER BAND 2025 SEASON 5

มาแสดงสดที่สนามภูเก็ตทั้งหมด มีดังนี้ …

รุ่นมัธยมศึกษา สุดยอดวงดนตรีระดับมัธยม (High School Class) ได้แก่

• วง Destiny (สถาบันดนตรี JP Music) นนทบุรี ใช้เพลง เอาปากกามาวง (Bell Warisara) กับเพลง ซ่อน (ไม่) หา (Jeff Satur)

• วง Environment (สังกัดอิสระ) ราชบุรี ใช้เพลง Day One (PUN) กับเพลง จงเรียกเธอว่านางพญา (Silly Fools)

• วง OZONE (โรงเรียนดนตรียามาฮ่านครภูเก็ต) ภูเก็ต ใช้เพลง จงเรียกเธอว่านางพญา (Silly Fools) กับเพลง บันไดสีแดง (Hugo)

• วง Penmanship (โรงเรียนเซนต์คาเบรียล) กรุงเทพฯ ใช้เพลง รู้กันแค่นี้ (Mint – Bowkylion) กับเพลง หยดน้ำตา (4EVE)

• วง SOUL SYNC (สังกัดอิสระ) กรุงเทพฯ ใช้เพลง ชอบอยู่คนเดียว (INK WARUNTORN) กับเพลง ความทรงจำ (Musketeers)

• วง SoundSculpt (โรงเรียนเตรียมอุดมดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล) นครปฐม ใช้เพลง Dum Dum (Jeff Satur) กับเพลง ถ้าฉันเป็นเขา (INDIGO)

• วง The Humble (โรงเรียนมหาวชิราวุธ สงขลา) สงขลา ใช้เพลง ข้อความรูปยิ้ม (POLYCAT) กับเพลง ขาหมู (TATTOO COLOUR)

• วง Z1NITH (สังกัดอิสระ) กรุงเทพฯ ใช้เพลง ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง (Fade) (Jeff Satur) กับเพลง I Like Boys (4EVE)

รุ่นบุคคลทั่วไป เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ Professional Class: Road to Artists ได้แก่

• วง 22 Days ภูเก็ต ใช้เพลง รถไฟบนฟ้า (D Gerrard) กับเพลง เจ็บน้อยที่สุด (Zeal)

• วง MOUSOU DIVISION ภูเก็ต ใช้เพลง Day One (PUN) กับ ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง (Fade) (Jeff Satur)

• วง SANDY อุดรธานี ใช้เพลง บานปลาย (Bowkylion) กับเพลง พบรัก (INK WARUNTORN)

• วงอรชร สมุทรปราการ ใช้เพลง บันไดสีแดง (Hugo) กับเพลง จงเรียกเธอว่านางพญา (Silly Fools)

Author

กฤษณา คชธรรมรัตน์

Author

นักเขียนที่ให้ความสนใจกับทุกเรื่องบนโลก อย่างละนิดอย่างละหน่อย บ่อยครั้งจึงวาร์ปไปเขียนเรื่องโน้นเรื่องนี้อย่างสนุกสนาน

Web Editor

ปิ่นอนงค์ วัชรปาณ

Web Editor

บรรณาธิการเว็บ Thaipower.co อดีตบรรณาธิการบางสำนัก นักข่าวและคอลัมนิสต์จำเป็น โกสต์ไรเตอร์...ผู้รักการเดินทาง หลงใหลกลิ่นกาแฟ และเป็นมูฟวีเลิฟเวอร์

Author

อำพน จันทร์ศิริศรี

Photographer

ช่างภาพอิสระมากว่า 30 ปี...ที่คร่ำหวอดกับการถ่ายภาพรายการทีวีต่างๆ เช่น The Voice, The Rapper, The Stars Idol เป็นต้น และถ่ายภาพคอนเสิร์ตต่างๆ