Product

BIJA สกินแคร์ที่ทำให้เรากลับมาเชื่อ
ในผิวดีของตัวเองได้อีกครั้ง

ม.ล.จินดาภรณ์ ชยางกูร 9 Dec 2022
Views: 496

ข้าวและสมุนไพร คือ หัวใจหลักสำคัญของ BIJA หรือ ‘พีชะ’ สกินแคร์แบรนด์ไทยที่อยากจะใช้สรรพคุณของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างคุ้มค่า “ภูมิปัญญาของไทยนี่แหละที่เรานำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของเรา” คุณอ๋อย – อัจฉราวรรณ วงศ์สาธิตกุล ผู้อยู่เบื้องหลังของความสร้างสรรค์นี้ที่หยิบปัญหาและประสบการณ์ส่วนตัวมาแก้ด้วยการคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ใครๆ ก็ใช้ได้

ที่สำคัญแผ่นมาสก์หน้ายอดนิยมที่สาวๆ มักบอกต่อกันนี้ใช้ข้าวไทยมาทำ ไม่ใช่สกัดเอาข้าวมาใส่แผ่นมาสก์ แต่แผ่นมาสก์ทำด้วยข้าวเลย!! ด้วยสรรพคุณของข้าวที่ช่วยดูดซับความมันของผิว สร้างความนุ่มชุ่มชื้นให้กับผิว เสริมด้วยวัตถุดิบธรรมชาติที่มีคุณสมบัติสำคัญในการปรนนิบัติผิวอื่นๆ เช่นน้ำมันรำข้าวเกษตรอินทรีย์ ขมิ้นชัน ที่สำคัญคือไม่ได้แต่งกลิ่นด้วยน้ำหอม แต่ใช้เอสเซนเชียลออยล์จากธรรมชาติ…การเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติแท้นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง พีชะยังมีอีกหลายๆ โปรดักต์ นับตั้งแต่ผลิตภัณฑ์สำหรับใบหน้า…ผลิตภัณฑ์สำหรับผมแล้ว ยังมีผงสีฟันไปจนถึงลิปมันที่ทำจากขี้ผึ้งแท้ด้วย

ไม่แปลกใจเลยที่ผลิตภัณฑ์หลากหลายของพีชะ ทั้งผงล้างหน้าแป้งข้าว (Face Cleansing) มาสก์ข้าว (Rice Mask) รวมทั้ง Natural Skin Care Travel Kit โลชันกันแดด หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดไปยังผลิตภัณฑ์สำหรับผม รวมทั้ง “ผงสีฟัน” นั้น ทำจากตำรับอายุรเวทอินเดียที่มีสมุนไพรอยู่ด้วยกันถึง 10 ชนิด

และไม่ว่าอะไรก็ตามที่พีชะสร้างสรรค์ออกมาจากใจกับความบริสุทธิ์ของผลิตภัณฑ์ธรรมชาติล้วนๆ จึงให้การบำรุงและเหมาะกับทุกสภาพผิว ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นของพีชะล้วนขายดี ถ้าใครมีโอกาสได้ใช้แล้วไม่คิดอยากเปลี่ยนใจเลย

 

ก้าวแรกจากการแก้ปัญหาสู่การวิ่งระยะไกล

จากการเดินทางครั้งหนึ่งที่ทำให้คุณอ๋อยจดจำไปตลอดชีวิต เพราะมันได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางยาวไกลของแบรนด์ที่รัก คุณอ๋อยพบว่ากระเป๋าที่ควรจะถูกโหลดลงมาใต้ท้องเครื่องบินด้วยกันกับตัวเธอที่นั่งทางไกลอยู่ในเครื่องบินนั้นไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน กลับถูกแยกกันไปคนละประเทศ เลยทำให้ทั้งเสื้อผ้าและของใช้จำเป็น อย่างผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ใช้เป็นประจำนั้นเองไม่ได้ติดตามเธอมาด้วย

ในเมื่อมีปัญหาแม้ไม่ได้มาจากตัวเธอ แต่เธอก็มองเห็นทางออกในการแก้ไข ซึ่งก็คือค้นหาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบอื่นๆ ที่จะสามารถตอบโจทย์การตอบโจทย์การนำติดตัวไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการพกไปใช้บนเครื่องบิน นอกจากค้นหาข้อมูลแล้ว คุณอ๋อยก็ไม่ลืมที่จะสร้างสรรค์มันด้วยตัวเอง

“ผงล้างหน้าแป้งข้าว เราพกติดตัวได้เพราะไม่ใช่ของเหลว นี่คือผลิตภัณฑ์แรกและยังคงขายดีอยู่จนถึงทุกวันนี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แต่เราใช้ essential oil เป็นส่วนผสมในการให้กลิ่นหอมแทน” เมื่อแก้ปัญหาที่ทำให้ตัวเธอและใครๆ ก็เบาใจเรื่องการพกพาผลิตภัณฑ์ล้างหน้าติดตัวอย่างไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะแล้ว เธอก็ลุยกับ ‘พีชะ’ ไปต่อเลย

 

คุณสมบัติมหัศจรรย์ของข้าวสู่โปรดักต์พีชะ

นอกจากข้าวจะอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารสูงและมีสารสำคัญที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งกรดอินทรีย์ กรดอะมิโน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้าวหมัก มี แกมมา-ออไรซานอล
กรดไฟติก กรดเฟอรูลิก โทโคฟีรอล โทโคไตรอีนอล และกรดไขมันไม่อิ่มตัวอีกหลายชนิด สารสำคัญเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เนื้อเยื่อผิวเสื่อมสภาพได้ ส่วนผสมของข้าวในผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นมาอย่างดี จะช่วยทำให้ใบหน้าดูกระจ่าง ขาวใสขึ้น และยังสามารถลดความมัน ลดริ้วรอย ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความชุ่มชื้นได้

ความสร้างสรรค์ของผลิตภัณฑ์พีชะ ยังนำเอาวัตถุดิบธรรมชาติที่มีคุณสมบัติสำคัญในการปรนนิบัติผิวอื่นๆ มาผนวกใช้แบบคัดมาแล้วอย่างดี เช่น สารสกัดแตงกวา ที่ช่วยกระชับรูขุมขน รักษาความชุ่มชื้นใต้ผิวหนังและทำให้ผิวหนังอ่อนนุ่ม ส่วน Sweet Almond Oil คืนความมีชีวิตชีวาให้ผิวด้วยความ
ชุ่มชื้น เป็นต้น

ค้นหาตัวตนของผลิตภัณฑ์ มาใส่ลงไปในสิ่งที่ทำ

ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในแบรนด์พีชะ ส่วนใหญ่ก็ตอบโจทย์ความเป็นตัวคุณอ๋อยในฐานะผู้ก่อตั้งและสร้างสรรค์แบรนด์ บนพื้นฐานของความเชื่อว่ามันจะตอบรับความต้องการของคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เมื่อหยิบความชอบและความไม่ชอบมาไล่ดูก็จะรู้ว่าทำอะไรได้บ้าง “ตัวเราชอบดูแลผิว แต่ไม่ใช่คนที่แต่งหน้าเท่าไร พยายามที่จะคงสภาพผิวให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในแต่ละวัย และเป็นคนชอบเดินทาง”

ความเป็นธรรมชาตินี้เองที่เธอเลยอยากจะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เพื่อให้ใช้แล้วได้ผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติ ‘ข้าวและสมุนไพร’ เลยกลายเป็นหัวใจที่ทำให้ พีชะ เติบโตมาอย่างดีในทุกวันนี้ “นอกจากข้าวจะใช้บริโภคแล้ว ภูมิปัญญาไทยเรายังนำน้ำซาวข้าวมาใช้กับผิวได้ด้วย ช่วยปลอบประโลมผิวและสระผมได้ด้วย กินแก้ลดไข้ก็ได้เช่นกัน น้ำมันรำข้าวเองก็มีวิตามินอีที่ช่วยดูแลผิว
ลดริ้วรอย”

และสมุนไพรไทยก็มีสรรพคุณมากมาย ดีงามแตกต่างกันไป “ทุกอย่างอยู่ในตำราอายุรเวช เราเลยเอาภูมิปัญญานี้มาต่อยอด เน้นใช้สารสกัดจากสมุนไพรมาเคี่ยวแบบภูมิปัญญาเดิมเลย เพื่อใช้บำรุงผิว เส้นผม และหนังศีรษะโดยเฉพาะ ทั้งบำรุงเพื่อให้ซึมซับหรือนวดผ่อนคลายก็ใช้ศาสตร์นี้”

 

ผลิดอกออกผลจากคำแนะนำของคนรอบตัว

เมื่อ พีชะ เริ่มเป็นที่รู้จัก จากผงล้างหน้าแป้งข้าวก็ต่อยอดไปสู่น้ำมันนวด และสกินแคร์ชนิดอื่นๆ ตามมา “ลูกค้าเริ่มถามหาสกินแคร์ตัวอื่นๆ เราก็เลือกสิ่งที่เราเองก็ใช้จริงด้วย อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ซิกเนเชอร์ของ พีชะ เลยก็คือมาสก์หน้าแผ่นข้าวที่ได้รางวัลนวัตกรรม NIA (National Innovation Award) ด้วย” แผ่นมาสก์ที่ว่านี้ไม่ได้ผลิตจากกระดาษ แต่ผลิตจากข้าวเลยโดยตรงซึ่งผ่านกระบวนการขึ้นแผ่นเป็นมาสก์ ข้อดีคือแนบติดกับผิวได้ดีไม่หลุดง่าย ด้วยเส้นใยที่เล็กยิ่งกว่าผ้าฝ้ายถึง 200 เท่า เกาะผิวและนำพาความชุ่มชื้นเข้าสู่ผิวได้ดีอีกด้วย

 

สร้างแบรนด์ดั่งสร้างคน เคล็ดลับความสำเร็จทางใจ

ความท้อนั้นจะโผล่มาตามระยะทางและอุปสรรคระหว่างทางอยู่แล้ว แต่สำหรับผู้สร้างแบรนด์แล้วสิ่งนี้ก็เหมือนเป็นลูกในอก “เขาก็คล้ายลูกเรา เราเห็นการเจริญเติบโตของเขามาตลอด ถ้า พีชะ เป็นเด็กก็เป็นเด็กหญิงที่สดใสร่าเริง ค่อนข้างเรียบร้อยหน่อยๆ ไม่มีพิษมีภัย และเขาก็ทำให้เราภูมิใจ”

สิ่งที่จำเป็นต้องมีคือความรัก “ถ้าเรามีความรัก เราก็น่าจะทำสิ่งนั้นได้ดี ฟังดูสวยหรูแต่มันคือความจริง พอเรารักในสิ่งที่เราทำ และคนอื่นๆ ก็รักเขาด้วย มันก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกมีความสุข เพราะเขาเติบโตขึ้นมาจากทั้งความเชื่อของเราและของลูกค้าที่เขาเชื่อในเรา”

ลูกค้าหลายคนก็กลายมาเป็นเพื่อนที่คอยให้การตอบรับ คำแนะนำผลิตภัณฑ์ของแบรนด์อยู่เสมอ รักกันมาอย่างยาวนานนับสิบปี คุณอ๋อยบอกเลยว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน จึงมีคุณค่าสำหรับเธอมากๆ

 

ส่งต่อกำลังใจ “ทำต่อไป ด้วยความเชื่อที่มากพอ”

ในยุคของการสร้างแบรนด์ หนึ่งคนในสมัยนี้มีอย่างน้อยหนึ่งไอเดียสำหรับแบรนด์ของพวกเขา จุดเริ่มต้นที่ไม่ง่ายและยังมองไม่เห็นความเป็นไปได้ สำหรับคุณอ๋อยที่สร้างแบรนด์มายาวนานเป็นสิบปีอาจจะเหมือนว่าเส้นทางของเธอดูง่าย แต่นั่นก็เพราะเธอไม่เคยเลิกล้มมันไปเสียก่อนที่จะเห็นว่าสิ่งที่เธอเชื่อมันเป็นไปได้จริงๆ

“ในแง่ของการตลาด มีแต่เราที่ชอบผลิตภัณฑ์ ชอบสำหรับเราอาจไม่ได้ต้องทำความเข้าใจความต้องการของตลาดด้วย ความโชคดีคือเราชอบแล้วคนอื่นๆ ก็ชอบ ซึ่งไม่แปลกที่บางคนอาจต้องใช้เวลากว่าจะเจอสิ่งนั้น ประสบการณ์จะสอนให้เรารู้จักปรับตัว มันคือส่วนหนึ่งของการเดินทาง”

ส่งต่อกำลังใจ “ทำต่อไป ด้วยความเชื่อที่มากพอ”

ในยุคของการสร้างแบรนด์ หนึ่งคนในสมัยนี้มีอย่างน้อยหนึ่งไอเดียสำหรับแบรนด์ของพวกเขา จุดเริ่มต้นที่ไม่ง่ายและยังมองไม่เห็นความเป็นไปได้ สำหรับคุณอ๋อยที่สร้างแบรนด์มายาวนานเป็นสิบปีอาจจะเหมือนว่าเส้นทางของเธอดูง่าย แต่นั่นก็เพราะเธอไม่เคยเลิกล้มมันไปเสียก่อนที่จะเห็นว่าสิ่งที่เธอเชื่อมันเป็นไปได้จริงๆ

“ในแง่ของการตลาด มีแต่เราที่ชอบผลิตภัณฑ์ ชอบสำหรับเราอาจไม่ได้ต้องทำความเข้าใจความต้องการของตลาดด้วย ความโชคดีคือเราชอบแล้วคนอื่นๆ ก็ชอบ ซึ่งไม่แปลกที่บางคนอาจต้องใช้เวลากว่าจะเจอสิ่งนั้น ประสบการณ์จะสอนให้เรารู้จักปรับตัว มันคือส่วนหนึ่งของการเดินทาง”

การทำธุรกิจทำให้คุณอ๋อยได้สัมผัสประสบการณ์หลายๆ ด้านกว่าที่คิดเอาไว้ในตอนแรก นอกจากการคิดค้นผลิตภัณฑ์แต่ระหว่างทางเธอก็ได้มิตรภาพมากมาย ได้ความรู้ใหม่ๆ และได้พบคนที่มองไปในทิศทางเดียวกัน “และก็ได้โอกาสแม้จะเป็นแบรนด์เล็กๆ อย่างการได้เข้าไปขายใน คิง เพาเวอร์ เองก็เช่นกัน” นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พีชะเป็นที่รู้จักจากลูกค้านานาชาติที่รักและสนใจในผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอย่างมาก

และ ‘พีชะ’ เมล็ดพันธุ์ที่เติบโตงอกเงยขึ้นมาอย่างงดงามเมล็ดนี้ แม้ในวันแรกๆ จะยังมองไม่เห็นวี่แววเลยว่าจะโผล่ขึ้นมาพ้นหน้าดินได้อย่างไร แต่การใส่ใจและให้เวลาของคุณอ๋อยผู้เพาะเมล็ดพันธุ์นี้ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนึ่งในแบรนด์ไทยอย่าง พีชะ ฝังรากลึกลงไปและแผ่กิ่งก้านในวันที่พร้อม

การสร้างอะไรบางอย่างอาจต้องการปัจจัยหลากหลาย แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือความรัก ใส่ใจ และให้เวลา ซึ่งพีชะก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าวันหนึ่งความตั้งใจจะงอกเงย

 

พีชะ (BIJA)

ที่ตั้ง: 65 หมู่บ้านบุญโตปาร์ควิลล์ ถนนรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี

 

Website:  BIJA 

Facebook: BIJA

Instagram: BIJA

 

ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย

คลิก: BIJA

 

สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถสนับสนุนได้ที่คิง เพาเวอร์ทุกสาขา

 

ปักหมุดจุดเช็กอิน-แชะรูป-ท่องเที่ยวใกล้เคียง

● สวนมาลัยบัววิคทอเรีย สถานที่ถ่ายรูปสุดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยวนี้ เป็นที่จำหน่ายบัวพันธุ์กระด้งยักษ์ หรือเรียกอีกชื่อว่า ‘วิคทอเรีย’ อีกด้วย ใครไม่ซื้อก็เข้าชมสวนบัวและลงไปนั่งถ่ายรูปบนใบบัวได้ (แต่น้ำหนักจำกัดเอาไว้ที่ 60 กิโลกรัม)

● ศาลากลางนนทบุรีหลังเก่า อาคารไม้สักที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 สถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่ถูกปรับให้เข้ากันกับอากาศภูมิภาคเขตร้อนชื้น ในปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์

● เกาะเกร็ด ชุมชนคนมอญที่ขึ้นเชื่อในเรื่องของเครื่องปั้นดินเผาและความดั้งเดิมของประเพณีที่ยังถูกอนุรักษ์เอาไว้ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยว เดินเล่น ชอปปิง และชิมความอร่อย หรือแม้แต่นั่งเรือชมรอบเกาะก็น่าสนใจ

Author

ม.ล.จินดาภรณ์ ชยางกูร

Author

นักเขียนที่ชอบออกไปข้างนอกเพื่อได้กลับบ้าน สนุกกับการฟังมากกว่าพูด และอ่านบันทึกการเดินทางเพื่อทำความเข้าใจโลกและผู้คนจากมุมมองของคนที่หลากหลาย

Author

บริษัท เอ็กเปิร์ดคิด จำกัด

Photographer

การรวมตัวของคนโปรดักชั่น ที่ยังเชื่อในพลังสร้างสรรค์ เราจึงคิดและผลิตงานศิลปะทุกรูปแบบ