Passion

Yosy & Co.
บริษัทไม่จำกัดเพื่อน (ร่วมฝัน)

ณัฐวิมล เศารยะพงศ์ 13 Dec 2021
Views: 499

เรียกว่าวง Yosy & Co. เป็นการรวมตัวของเพื่อนรักนักเพลง ก็ไม่น่าจะผิดนัก ทุกคน (ถูกเรียกตัว) มารวมวงกันอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวของแต่ละคนอาจพร้อมหรือไม่พร้อม แต่พอรวมกันแล้วก็พร้อม! แบบพลังเพื่อนและมิตรภาพทางดนตรี…พาไป

สมศักดิ์ศรีแห่งการเป็นเจ้าของรางวัลรองแชมป์อันดับ 2 ร่วมกับรางวัลเรียบเรียงดนตรียอดเยี่ยม สำหรับ Yosy & Co. วงดนตรีที่คว้าความสำเร็จมาจากเวที THE POWER BAND การประกวดดนตรีสากลนิยมผสมเครื่องเป่า ประจำปี 2564 จัดขึ้นโดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย

ในรอบการแข่งขันของ Class E (รุ่นบุคคลธรรมดา) สองบทเพลงที่วง Yosy & Co. บรรเลงออกมา เต็มไปด้วยการสื่อพลังแห่งความหวังและการตามหาความหมายแห่งชีวิต สอดผสานเข้ากับดนตรีละเมียด-ละไมอย่างลงตัว จนเราอดคิดไม่ได้ว่า นี่คือผลงานที่น่าจะมาจากมืออาชีพแน่ๆ – ไม่ผิดไปจากที่คิด Yosy & Co. คือการร่วมทัพของเหล่าขุนพลดนตรีสายคลาสสิก มาทำวงประกวดในเวที THE POWER BAND ภายใต้การชักชวนของ ไนซ์-ยศสรัล ทรงเกียรติกุล มือเปียโนที่รั้งการเป็นแกนนำวง และยังเป็นเจ้าของที่มาแห่งการตั้งชื่อวงว่า Yosy & Co. หรือ..วงของยศสรัลและเพื่อนๆ นั่นเอง

“ทุกคนรู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก

ผมรู้สึกว่าเหมือนเป้าหมายในใจของผม

มัน ‘ถูกทำ’ ไปแล้ว

ผมว่าผมประสบความสำเร็จ

ในความฝันของผมแล้วครับ”

ไนซ์-ยศสรัล ทรงเกียรติกุล
วง Yosy & Co. (เปียโน / แกนนำวง)

 

ความหลงใหลในเครื่องดนตรีจำพวกเครื่องสาย ที่มีมาตั้งแต่สมัยเรียนที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ทำให้ไนซ์มีฝันอยากสร้างวงดนตรีที่ผสมผสานดนตรีหลากแนวเข้าไว้ด้วยกัน

หลังสบโอกาสที่เวทีประกวด THE POWER BAND เปิดขึ้น ไนซ์จึงชวนเพื่อนๆ มาร่วมก่อการฝันชิ้นนี้ไปด้วยกัน แต่การทำแค่วงผสมเครื่องเป่าก็ดูจะธรรมดาไป วงดนตรีสมัยนิยมผสมเครื่องเป่าและเครื่องสายในรูปแบบ “ออร์เคสตรา-ฟิวชัน” น่าจะเป็นคำตอบที่ใช่กว่า

“กฎในการประกวด เขาไม่ได้บังคับหรอกครับว่าจะต้องมีเครื่องสาย แต่เป็นสิ่งผมอยากใส่ไว้เอง เพราะน่าจะทำให้วงของเรามีความแตกต่าง” นักเปียโนหนุ่มเผยแนวคิดตั้งต้นของการสร้างวง

เราชวนตัวแทนสมาชิกวง 3 คน คุยถึงการ “ทำเพลง” เยอะหน่อย ทั้งมุมมองและวิธีคิดต่องานที่ทำออกมานำเสนอ ความที่พวกเขาคือวงที่ได้รับรางวัลเรียบเรียงดนตรีและผลงานของพวกเขาในส่วนนี้บนเวทีดังกล่าวก็โดดเด่นเหลือเกิน

เมื่อบทเพลงสร้างคน

ด้วยรูปแบบวงที่มีตำแหน่งผู้เล่นมากถึง 14 ชีวิต และมือเรียบเรียงเพลงก็คือนักเปียโนที่มีผลงานโดดเด่นในวงการเพลงไทย ดนตรีของ Yosy & Co. จึงมีรายละเอียดของการเรียบเรียงในเชิงลึก ฉะนั้นการเลือกสมาชิกเข้ามาร่วมทีม จำเป็นต้องอาศัยคนที่มีต้นทุนทางดนตรีขั้นสูงมาเล่น

กลุ่มเครื่องดนตรีชิ้นหลักที่ตั้งขึ้นก่อนจึงเป็นทีมริธึม โดยผู้เล่นในพาร์ตนี้ ประกอบด้วย กีตาร์ (ยู) คีย์บอร์ด (แพ) เบส (เต้ย) และกลอง (เป๊ะ) อันดับถัดมาเป็นทีมหนุน กับหน้าที่เสริมมิติดนตรีให้น่าฟังยิ่งขึ้น คือทีมเครื่องเป่าและเครื่องสาย ได้แก่ ทรัมเป็ต (กายและพีพี) แซกโซโฟน (ปัน) ทรอมโบน (หยี) ไวโอลิน (โวล์ท) วิโอลา (โพส์ท) และเชลโล (มิวส์) นักดนตรีส่วนใหญ่ล้วนทำงานให้กับเบื้องหลังวงการดนตรีคลาสสิกมาทั้งสิ้น

และพาร์ตสุดท้ายคือส่วนของนักร้องนำที่จะมาถ่ายทอดอารมณ์เพลง ไนซ์ชวนรุ่นน้องมาทำหน้าที่ คือ นิว-กฤติน สุชาโต แชมป์จาก 5th Bangkok Opera International Competition และเป็นนักร้องตัวท็อปในแวดวงเพลงโอเปร่า วง Alexia  ส่วนอีกคนคือ ออย-ธัญญลักษณ์ บุญเรือง นักร้องนำวง Fascinating Four มีผลงานเป็นที่รู้จักจากการแสดงจากละครเพลงเรื่อง 21 ¾ A Brand-New Musical โดยเรื่องนี้ไนซ์รับหน้าที่เป็น Music Director, Conductor, ประพันธ์เพลงและเล่นเปียโนให้ (ผลงานได้รับรางวัล Beat New Musical IATC Thailand Dance and Theater Award เมื่อปี 2017)

จุดเด่นในทางการร้องของออยที่ไนซ์เลือก คือการร้องแบบเสียงประสานในสไตล์มิวสิคัล “ส่วนใหญ่แล้วออยจะร้องในแนวมิวสิคัลและป็อปมาค่ะ พอมาร้องกับ Yosy & Co. ออยได้เอาวิธีการเล่าเรื่องแบบละครเพลงมาใช้ แล้วเพิ่มการตีความเข้าไปในบทเพลง เพิ่มการเล่าเรื่อง สื่อสารกับคนฟังให้เยอะขึ้น รวมไปถึงการใช้เสียงประสานเพื่อส่งเสริม เพื่อเติมบทเพลงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น”

ส่วนนิวผู้ที่ผ่านการร้องเพลงมามากมายทั้ง ไลต์ โอเปร่า ป็อป คลาสสิก หรือมิวสิคัล ก็มีวิธีตีโจทย์การร้องในแบบของตัวเอง “จริงๆ ผมเน้นการอ่านเนื้อร้องและฟังดนตรีเป็นหลัก เพื่อตีความออกมาว่า ตรงท่อนต่างๆ ผู้เขียนเนื้อเพลงกำลังรู้สึกยังไงอยู่ และฟังดนตรีว่าคนเรียบเรียงดนตรีอยากให้เราสื่อออกมาในรูปแบบไหน ผสานกับการร้องในแบบของเรา ก็จะนำทุกอย่างมารวมกันครับ”

เมื่อคนสร้างเพลงบรรเลงดนตรี

ความละเมียดละไมจากสกอร์ดนตรีสุดอลังการที่ใช้โชว์บนเวทีประกวด ไม่ว่าจะมาจากเพลง “รางวัลแด่คนช่างฝัน” ในโจทย์บังคับ หรือ “Aurora” เพลงที่ผู้แข่งขันใน Class E ต้องแต่งขึ้นใหม่ เบื้องหลังการทำงานของสองเพลงนี้ คือโจทย์ยากสำหรับไนซ์ ที่ต้องเรียบเรียงเพลงให้สื่อสารออกมาแล้วตรึงใจคนฟังมากที่สุด

“ตอนแรกผมแพลนให้ รางวัลแด่คนช่างฝัน ออกมาในแบบสนุกครึกครื้นแรงๆ แบบร็อกเลย ซึ่งมันก็น่าจะโชว์ศักยภาพดนตรี โชว์ความสร้างสรรค์ดี แต่ก่อนวันที่จะต้องส่งโน้ตผมก็กลับมานั่งคิดดูใหม่ ผมมีความรู้สึกว่าแนวทางที่เลือกยังสื่อสารเนื้อเพลงออกมาได้ไม่ดีพอ มันขาดความจริงใจ ขาดความนอบน้อม หรือความใจดีบางอย่างที่มันควรจะต้องทัชจิตใจคนฟังมากกว่านี้

ผมก็ลองมาคิดดูใหม่ว่า พวกเรานักดนตรีก็ผ่านอุปสรรคมาเยอะในช่วงโรคระบาด แล้วเพลงรางวัลแด่คนช่างฝัน มันควรจะทำหน้าที่อะไรให้กับคนฟังดี งั้นเราลองตีความให้รางวัลแด่คนช่างฝัน คือรางวัลแห่งความอดทนไหม เป็นรางวัลของคนที่ไม่ว่าจะเจอปัญหาแค่ไหนก็ยังกัดฟันสู้อยู่ ผมรู้สึกว่าคนที่ผ่านสถานการณ์เหล่านั้นมา เขาต้องการกำลังใจ เขาต้องการอะไรปลอบโยน เขาต้องการฮีลจิตใจขึ้นมา ก็เลยตีโจทย์ว่า โอเค รางวัลแด่คนช่างฝันของเราต้องฮีลใจ ต้องฟังแล้วรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ ให้มันอัปจิตวิญญาณขึ้นมา”

“พอทำนองดนตรีทุกอย่างมันช้าลง ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ทำให้ออยรู้สึกว่าเนื้อเพลงนี้มันทำงานกับเรามากๆ เราได้ยินมันชัดทุกคำ เราฟังแล้วเรารู้สึกถึงกำลังใจที่ได้รับ รวมไปถึงทำนองที่เครื่องดนตรีอื่นๆ ที่บรรเลงไปกับเรา มันช่วยขับเคลื่อนแมสเซสของเพลงออกมาได้อย่างดีมากๆ ซึ่งหน้าที่ของออยคือรับอารมณ์ความรู้สึกของทุกเครื่องดนตรีที่เข้ามา และถ่ายทอดทุกอย่างที่เรารับมาผ่านเนื้อเพลงค่ะ” นักร้องสาวเล่ามุมมองการตีความ กับท่วงทำนองที่ถูกปรับใหม่

และเมื่อถามไปถึงแนวทางดนตรีในเวอร์ชันที่แตกต่างของรางวัลแด่คนช่างฝัน นักเปียโนหนุ่มรีบไขข้อข้องใจทันที

“จะเรียกว่าเป็นคันทรี-มิวสิคัล ฟิวชัน-ป็อป ก็ได้ครับ (หัวเราะ) คือพวกมิวสิคัลเนี่ยเขาจะยึดเนื้อเพลงเป็นหลัก แล้วให้ดนตรีทำหน้าที่เสริมเนื้อเพลงให้ดีที่สุด ฉะนั้นดนตรีของเราเลยต้องทำหน้าที่ไปพร้อมกับเนื้อร้อง ก็คือตรงท่อนที่เราพูดว่าแสงสีทอง เราต้องทำอะไรบางอย่าง ให้เสียงเราสร้างแสงสีทองในหัวคนฟังขึ้นมาให้ได้ เราต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ความรู้สึกของเนื้อเพลงมันออกมาให้ได้มากที่สุด แต่ว่าออกมาในความลึกซึ้ง ความดีฟ ความกินใจได้มากกว่าออริจินัล เหมือนเราเอาแว่นขยายส่องเพลงรางวัลแด่คนช่างฝัน แล้วขยายความกินใจของมันออกมาให้มากขึ้นครับ”

“อยากให้คนฟังได้เปิดใจกับดนตรีและวง

ในรูปแบบของเรา

เพราะยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก

แต่ผมเชื่อว่า…ไม่ได้เป็นเรื่องยาก

ที่คนฟังเพลงของเรา

เอนจอยไปกับมันครับ”

นิว-กฤติน สุชาโต
วง Yosy & Co. (ร้องนำ)

เพลงพิเศษ…สำหรับ THE POWER BAND

ส่วน Aurora ที่ร่างเดิมของเพลงเคยเป็นแนวอิเล็กทรอนิกส์-ป็อป ด้วยเวลาทำงานที่มีจำกัด ไนซ์หยิบเพลงนี้ขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่เพราะยังไม่เคยถูกใช้ที่ไหน นอกจากการปรับโครงสร้างให้กลายเป็นดนตรี     ป็อปสมัยนิยม เนื้อร้องบางส่วนก็ถูกแต่งเพิ่มเพื่อให้เหมาะกับการเล่นสดในสไตล์บราสแบนด์ตามโจทย์ของการประกวด

“โดยปกติในการทำเพลงขึ้นประกวด มันจะต้องมีความไม่เหมือนกันในทั้งสองเพลง ถ้าเราทำเพลงรางวัลแด่คนช่างฝันไปในทางซอฟต์ๆ แล้ว Aurora ควรจะต้องมีความสนุกขึ้นมา เป็นแบบอัปบีทขึ้นหน่อยจะได้ไม่ซ้ำ จะได้ไม่จำเจครับ

ตอนแต่งเพลงนี้ มันจะเป็นเสียงผู้ชายอยู่ในหัวผมตั้งแต่แรกแล้ว ก็เลยอยากให้ผู้ชายเป็นคนร้องนำ แล้วให้นักร้องผู้หญิงคอยเสริมฮาร์โมนี  แต่ก็เพิ่มท่อนที่เป็นผู้หญิงร้องขึ้นมานิดหนึ่ง เหมือนให้เสียงผู้หญิงเป็นตัวแทนของ Aurora เรียกให้ตัวละครเอกก็คือผู้ชายให้ออกไปตามล่าความฝันของตัวเอง พอเราเอามาเล่นสด บทบาทของเครื่องเป่ามันมีมากขึ้น เราก็ต้องบาลานซ์พวกเครื่องสาย ลดเครื่องกีตาร์กับคีย์บอร์ดลงเพื่อให้เครื่องบราสเข้ามาเสริมแทนครับ”

 

เมื่อบทเพลงทำหน้าที่บรรเลงความฝัน

หลังจากความสำเร็จผลิดอกออกผล ที่ไม่ได้มีแค่ความภาคภูมิใจให้กับชาววง รางวัลแห่งชัยชนะยังเป็นบทพิสูจน์เป้าหมายของ Yosy & Co.ให้มีภาพที่ชัดเจนขึ้นด้วย

ไนซ์ในฐานะผู้ผลักดันบอกความรู้สึกกับเรา “ก็รู้สึกดีใจและภูมิใจนะครับ ที่เราดันมันจน..อย่างน้อยก็ประกวดเสร็จ แล้วคนในวงก็แฮปปี้มาก ทุกคนรู้สึกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเล่นดนตรีอีก ผมก็รู้สึกว่า เออ..ตรงนี้เหมือนเป้าหมายในใจของผมมัน ‘ถูกทำ’ ไปแล้ว คือไม่ว่าการแข่งจะเกิดอะไรขึ้น แล้วคนในวงเขาอยากจะไปกับผมต่อ ผมรู้สึกว่าผมประสบความสำเร็จในความฝันของผมแล้วครับ”

“ออยรู้สึกว่าเรามาสนุก เรามาถ่ายทอดเรื่องราวมากกว่าเรามาแข่งดนตรี อีกอย่างคือ ออยชอบเล่นดนตรีกับเพื่อนๆ ของออยมาก เราไว้ใจและเชื่อใจซึ่งกันและกัน แล้วพอเราทุกคนอยู่บนเวที เราก็แค่บรรเลงด้วยกันเท่านั้นเอง” ออยบอกความในใจ

“ถึงแม้จะมีเวลาซ้อมที่น้อยมาก แต่เราก็มั่นใจว่าเราทำการบ้านมาดี และด้วยความที่พวกเราเป็นคนที่จริงจังมากในเรื่องการทำงาน บวกกับการที่เราทุกคนในวงเชื่อใจซึ่งกันและกัน ก็เลยรู้สึกแค่ว่าอยากสนุกกับมันให้ได้มากที่สุดครับ” ความรู้สึกของนิวรวมถึงไนซ์และออยที่มี คงไม่ต่างจากเพื่อนๆ ร่วมวง ที่ไม่ได้มาเล่าเรื่องราวของพวกเขาให้ชาว Thaipower.co สู่กันฟังในครั้งนี้

นอกจากความสนุกสนานที่ได้เล่นดนตรีกับผองเพื่อน พร้อมสร้างสรรค์แนวทางดนตรีใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นสมใจ ทั้ง 3 สมาชิก Yosy & Co. รู้สึกขอบคุณในคำติชมของคณะกรรมการที่ให้มา เพราะนั่นจะเป็นประโยชน์ต่อก้าวเดินข้างหน้าของพวกเขา โดยเฉพาะคนที่เป็นเสาหลักของวงอย่างไนซ์

“เพลงรางวัลแด่คนช่างฝัน เป็นเพลงที่ผมทุ่มเทความคิดสร้างสรรค์ทุกอย่างที่เรียนมา 20 กว่าปีในชีวิต ก็เอามาใส่ตรงนี้หมดเลยนะครับ (หัวเราะ) มันเป็นสไตล์ดนตรีที่อาจจะไม่ค่อยได้เห็นในวงการเพลงทั่วไป มันค่อนข้างจะเฉพาะทางนิดหนึ่ง

ผมดีใจที่กรรมการเขาเล็งเห็น เขาฟังแล้วเขาเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการสื่อสาร เขาเห็นคุณค่าของความคิดตรงนี้ ก็รู้สึกดีใจมากที่เขาชอบ อย่างเพลง Aurora  ที่เขาคอมเมนต์ว่าวงเราเล่นแล้วดูไม่ค่อยสื่อสาร คือดูโน้ตกันเยอะแล้วไม่ค่อยได้ออกท่าทางเท่าไร ตรงจุดนี้ผมก็เห็นด้วยนะ ด้วยความที่ผมเองก็เล่นคลาสสิกมาทั้งชีวิต แล้วตอนที่ทำละครเพลงก็เล่นอยู่ข้างหลังฉากมาตลอด เลยไม่ได้ไปโฟกัสเรื่องการเพอร์ฟอร์มท่าทางให้ออกมาน่าดู หรือว่าซื้อใจคนดูนะครับ พอมาได้ฟังคอมเมนต์แบบนี้ก็รู้สึกว่ามันจริง ผมเองก็ไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้มาก่อน ก็คิดว่ามันเป็นบทเรียนที่ดีที่จะเอามาใช้พัฒนาวงต่อไปในอนาคต”

“ไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตจะเป็นยังไง

แต่ที่ทำได้แน่ๆ คือ

ทำทุกโอกาสที่เข้ามาให้ดีที่สุด

ออยจะยังรักการร้องเพลงอยู่แน่นอน”

ออย-ธัญญลักษณ์ บุญเรือง
วง Yosy & Co. (นักร้องนำ)

 

ส่วนแพลนที่ Yosy & Co. วางไว้หลังจากนี้ เรียกว่าเกิดขึ้นด้วยความมั่นใจจากเวที THE POWER BAND มีส่วนไม่มากก็น้อย

“เราคงจะทำเพลงแล้วก็เอาลงในสื่อโซเชียลนะครับ เพื่อให้คนได้เห็นว่า จริงๆ แล้ววงเราคืออะไรกันแน่ สไตล์ที่เราอยากทำคืออะไรบ้าง คือลักษณะวงของผม ผมอยากทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้วงเชื่อมดนตรีหลายๆ แนวเข้าด้วยกัน

วงที่เป็นต้นแบบของผมชื่อ Snarky Puppy (วงดนตรีป็อปสัญชาติอเมริกันที่ผสมสำนวนดนตรีหลากแนว อาทิ แจ๊ส ร็อก เวิลด์มิวสิก และฟังก์เข้ามาเล่นรวมกัน) เขาเป็นวงแนวฟิวชันที่มีความซับซ้อนทางดนตรีแต่ก็ฟังสนุก ที่สำคัญวงเขาสามารถไปฟีเจอริงกับใครก็ได้

จริงๆ แล้ววงเขาไม่ได้มีนักร้องนำเฉพาะตัวครับ เวลาเขาได้นักร้องนำมา เขาก็จะได้นักร้องมาจากหลายประเภทเพลง เช่น คันทรี ร็อก หรือ แจ๊ส เขาสามารถปรับสไตล์ และช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับดนตรีฉบับออริจินัล ของศิลปินที่เชิญมาเล่นด้วยกันได้ ทีนี้ผมอยากให้วงเราทำหน้าที่ตรงนั้นในอนาคต

สมมติว่ามีศิลปินดังๆ สักคนจะทำคอนเสิร์ต แล้วอยากจะได้รสชาติดนตรีใหม่ๆ เติมเข้าไป เขาก็อาจจะชวนวงผมไปเล่นแบ็กอัปให้ แล้วผมก็จะได้เรียบเรียงดนตรี เพื่อจะได้ดึงเอาเสียงแปลกใหม่ ที่มันอยู่ในดนตรีของเขา ซึ่งเขาอาจจะคิดไม่ถึง เราจะดึงรสชาติตรงนั้นออกมา แล้วให้คนฟังได้รับประสบการณ์ใหม่จากเพลงเดิมที่เขาเคยฟัง ผมคิดว่ามันน่าจะเพิ่มสีสันให้กับวงการเพลงไทยได้มากเลยครับ” นั่นเป็นความฝันในส่วนของไนซ์

แต่สำหรับออย เธอมีเป้าหมายในใจไว้เช่นกัน “ออยก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตจะเป็นยังไงนะคะ แต่เป้าหมายที่ทำได้แน่ๆ คือ ทำทุกโอกาสที่เข้ามาให้ดีที่สุด ออยจะยังรักการร้องเพลงอยู่แน่นอน มันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราไปแล้ว ออยอยากให้คนฟังได้รับความสุขจากเสียงดนตรีที่พวกเรามอบให้ค่ะ”

“ผมอยากให้คนฟังได้เปิดใจกับดนตรีและวงดนตรีในรูปแบบของเรา เพราะยังไม่ค่อยมีคนรู้จักดนตรีในรูปแบบนี้ การเรียบเรียงดนตรีในรูปแบบนี้มันอาจจะฟังยากนิดหน่อย แต่ผมเชื่อว่าถ้านักร้องและนักดนตรีรู้ว่าต้องการจะสื่ออะไรให้คนฟัง หรืออยากให้คนฟังรู้สึกแบบที่เรารู้สึก ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากที่จะให้คนที่ได้ฟังเพลงของเราเอนจอยไปกับมันครับ” นิวบอกความรู้สึกพร้อมภาพรวมในเส้นทางที่ Yosy & Co.กำลังจะออกเดินทางร่วมกันอีกครั้งในไม่ช้า

และถ้าถึงวันนั้นเมื่อไร เราคงได้เสพดนตรีที่เป็นทางเลือกใหม่ๆ ในสไตล์ออร์เคสตราฟิวชันฉบับลูกผสมจากวงดนตรีสัญชาติไทยนาม Yosy & Co.แน่นอน

ขั้นบันไดสู่การเป็นคนดนตรี

แบบมืออาชีพ จาก Yosy & Co.

• เปิดใจให้กว้างในการรับฟังดนตรีหลากรูปแบบ เพื่อจะได้ปรับใช้และรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะต้องเจอบนเวที

• ต้องทำตัวเหมือนน้ำที่ไม่เต็มแก้วเพื่อรับสิ่งใหม่ๆ เติมเข้ามาตลอดเวลา

• พยายามหาสไตล์ของตัวเองให้เจอ

• มีวินัยการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ เพราะไม่ใช่แค่ทักษะทางดนตรีที่ต้องใช้ความแม่นยำ กล้ามเนื้อในร่างกายก็ต้องการประสิทธิภาพที่ดีที่การเล่นดนตรีเช่นกัน

• ต้องรู้จักพักในวันที่ร่างกายอ่อนล้า เพื่อเติมพลังให้กลับมาได้มีประสิทธิภาพได้เหมือนเดิม

• รักที่จะฟังและเล่นดนตรีด้วยความสุข

• ให้เกียรติตัวเองและผู้ฟังเสมอ

 

ติดตาม Aurora ผลงานเพลงพิเศษ ของ Yosy & Co. ที่แต่งขึ้นเฉพาะสำหรับงานนี้

จากขอบเวที THE POWER BAND ได้แล้วที่ Youtube : Kingpower Thaipower พลังคนไทย

 

Author

ณัฐวิมล เศารยะพงศ์

Author

นักเขียนที่นอกจากจะทำตัวเป็นทาสแมวตัวยง ยังชอบเอาเวลาว่างจากการเขียนงานไปเสาะหาเรื่องกิน เรื่องเที่ยว แล้วทำให้เป็นเรื่องเดียวกัน

Author

บริษัท เอ็กเปิร์ดคิด จำกัด

Photographer

การรวมตัวของคนโปรดักชั่น ที่ยังเชื่อในพลังสร้างสรรค์ เราจึงคิดและผลิตงานศิลปะทุกรูปแบบ