Summary
ชวนไปลิ้มลองสแน็กแบรนด์ใหม่ “เอมโอษฐ์” เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบกรอบ ที่พัฒนารสชาติขึ้นจาก “สูตรในครอบครัว” สู่ของฝากเกรดพรีเมียมสำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากความอร่อยที่แตกต่าง ยังเป็นมิตรต่อสุขภาพ มีแพ็กเกจสวยงาม พกพาสะดวก โดดเด่นด้วยกลิ่นอายความเป็นไทยในทุกคำ

“เอมโอษฐ์” ชื่อที่สื่อความหมายถึง “ความสุขแห่งรสชาติ” แบรนด์ที่สะท้อนความรักอาหารไทยของผู้ก่อตั้ง โดยคุณอรุณี ปริศนานันทกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์อาหาร และจบการศึกษาจากสถาบัน Le Cordon Bleu ได้นำความรู้จากสายอาชีพเชฟ มาผสานกับสูตรผัดไทยต้นตำรับจากร้านอาหารของคุณน้าในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา – ร้านที่เคยคว้ารางวัล Best of Philly จาก Zagat Guide หลายปีซ้อน (คุณอรุณีอธิบายเพิ่มว่า รางวัลนี้เปรียบได้กับมิชลินสตาร์ในฝั่งยุโรป) มาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบกรอบเคลือบรสผัดไทย
ด้วยความตั้งใจที่จะยกระดับของว่างสไตล์ไทย ให้เป็นที่รู้จักในตลาดนักท่องเที่ยว “เอมโอษฐ์” จึงถือกำเนิดขึ้นจากการกลั่นรสชาติของครอบครัว ถ่ายทอดออกมาเป็นของขบเคี้ยว ในรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบกรอบปรุงรส ที่ทั้งอร่อย สะดวก และแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์…ไม่เหมือนใครก็ตรงรสไทยๆ นี่ละ

จากสูตรอร่อยในครอบครัว
สู่ของว่างระดับอินเตอร์
จุดเริ่มต้นความอร่อยของ “เอมโอษฐ์” คือรสชาติที่เจ้าของแบรนด์คุ้นลิ้นมาตั้งแต่เด็ก ความอร่อยจากรสมือของคุณยาย กลายมาเป็นแรงบันดาลใจยิ่งใหญ่ ที่นำมาต่อยอดเป็นสแน็กแสนอร่อย พร้อมส่งต่อรสชาติสุดพิเศษนี้ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลกในเวลาต่อมา “จริงๆ เรามองเป็นเบื้องต้นเลย เราอยากให้สินค้าที่เป็นของฝากการท่องเที่ยว เราอยากมีความแตกต่าง มีความเป็นไทยที่คนเข้าถึงได้ง่าย แล้วเราก็คำนึงถึงสุขภาพของคนรับประทานด้วยค่ะ เราจะใช้กรรมวิธีอบทั้งหมดไม่มีการทอด อย่างครองแครงเนี่ย จริงๆ เป็นขนมที่ชอบมากเลย แต่ว่ามันเป็นแป้งทอด เราก็เลยเอาเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งมีประโยชน์หลายอย่าง เอามาเคลือบให้อร่อยเหมือนสูตรเดิมที่เป็นแป้งทอดเลย แต่ว่าได้สุขภาพมากกว่า”
แล้วทำไมต้องเป็นเม็ดมะม่วงหิมพานต์คะ?
คุณอรุณีฟังแล้วยิ้มน้อยๆ ก่อนเฉลย “เม็ดมะม่วงเนี่ยค่ะ เทกซ์เจอร์มันจะมีความพิเศษนิดหนึ่ง มันจะมีความกรอบ ซึ่งความกรอบของมัน คือกรอบนุ่ม ไม่ใช่กรอบแข็ง เราเคยลองเป็นผลิตภัณฑ์อื่นอย่างพวก อัลมอนด์ หรือถั่วลิสงไทย แต่มันก็ไม่เข้ากับรสชาติของเราค่ะ”


สร้างความแตกต่างด้วย 3 สูตรในรสชาติไทยโบราณ
สำหรับ “เอมโอษฐ์” เป้าหมายของแบรนด์ ไม่ได้อยู่แค่การชูรสชาติต้นตำรับให้โพรดักส์ แต่มันยังเป็นการเชื่อมวัฒนธรรมอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักตลาดโลก เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนกินที่หลากหลาย ผ่าน 3 รสชาติ ซึ่งได้รับการออกแบบมาอย่างประณีต ไม่ว่าจะเป็น “รสผัดไทย” ซิกเนเจอร์สูตรครอบครัว ใช้วัตถุดิบไทยแท้ปรุงเข้ากับกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเก็บรักษาความสด กรอบ อร่อยอยู่เสมอ
และอีกสองรสที่พัฒนาควบคู่กันมาตั้งแต่เริ่มต้นผลิต คือ “รสครองแครงกรอบ” และ “รสมะพร้าวคั่ว” ก็ถูกปรุงออกมาแบบสูตรดั้งเดิมเป๊ะ ! ไร้สารแต่งรส แต่งกลิ่น เพื่อให้ได้รสชาติที่อัดแน่นความเป็นไทยในทุกอณู


3 รส 3 สไตล์ สแน็กที่กินแล้วไม่รู้สึกผิดต่อสุขภาพ
ให้พลังงานแค่ 170 กิโลแคลอรี: 1 ซอง (30 กรัม)
• ผัดไทย
• ครองแครงกรอบ
• มะพร้าวคั่ว


Suggestion
ใช้เทคนิคเชฟดึงรสชาติอาหาร
ผ่านกรรมวิธีผลิตที่ได้มาตรฐาน
หัวใจของการสร้างแบรนด์ “เอมโอษฐ์” ไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องการชูรสชาติ แต่ยังให้ความลึกซึ้งในโครงสร้างของอาหาร ด้วยความที่คุณอรุณีผู้ก่อตั้งแบรนด์ มีพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเป็นเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร เธอจึงนำเทคนิคการผลิตแบบสากล มาดึงรสชาติอาหารให้ “ตรงปก” ที่สุด ให้ความพิถีพิถันตั้งแต่กรรมวิธีการอบกรอบ ปรุงรสให้ถูกลิ้นทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอย่างเข้าถึง “อย่างที่เรียนให้ทราบนะคะ เพราะเรียนที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ด้วยก็จะรู้เทคนิคการผลิตของฝรั่ง แต่ว่าเราเองก็มีรสชาติอาหารของที่บ้านในแบบที่เราชอบ รสชาติก็เป็นสูตรของคุณยาย ของญาติๆ กรรมวิธีการผลิตก็เป็นวิทยาศาสตร์ด้วย มันก็จะเป๊ะตามสูตรเลยค่ะ”


ปรุงวัตถุดิบให้เหมือนทำกินเองที่บ้าน
นี่แหละความอร่อยล้ำของ เอมโอษฐ์!
ในรสชาติที่มาพร้อมคุณภาพ ต้องเริ่มต้นมาจากการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุด! คือความตั้งใจที่คุณอรุณีบอกไว้หนักแน่น “ถือเป็นจุดแข็งของเราบ้านเรานะคะ ที่เป็นประเทศแบบ Tropical เรามี ingredient เยอะมาก แล้วก็หลากหลายมาก เราก็อยากใส่ให้เต็มที่ในผลิตภัณฑ์ของเรา”
ทุกส่วนประกอบ จึงคัดสรรมาจากเครื่องปรุงจากครัวไทย ไม่ว่าจะเป็นข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกแห้ง น้ำปลาดี จะไม่มีการใช้ผงปรุงรส แต่งกลิ่น แต่งสี เพื่อลดต้นทุนการผลิต ทุกคำที่กินจึงเหมือน “รสที่ทำกินเองที่บ้านเป๊ะ!” เพราะคุณอรุณีต้องการส่งต่ออัตลักษณ์ที่ชัดเจนของอาหารไทย ผ่านวัตถุดิบที่เชื่อถือได้ในทุกคำ

สร้างภาพ “ของฝาก”
ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่
เรียกว่าเป็นแบรนด์ไทยน้องใหม่ในตลาดของว่าง ที่กล้าท้าทายภาพจำเดิมๆ ของ “ของฝาก” ด้วยการเปิดแนวคิดที่ผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับดีไซน์ร่วมสมัย ไม่ว่าจะด้วย รสชาติที่มีเอกลักษณ์ บรรจุภัณฑ์ที่พกพาง่าย “เอมโอษฐ์” สามารถเติมเต็มทั้งความอร่อย และความสะดวกให้กับชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
ที่สำคัญ โพรดักส์ยังตอบโจทย์กลุ่มคนที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพด้วย ทั้งหมดนี้ ทำให้ “เอมโอษฐ์” ไม่ได้ถูกสร้างให้เป็นแค่ของขบเคี้ยวกินเล่น แต่เป็น “ไอเทมของคนรุ่นใหม่” มาพร้อม “เรื่องเล่าของรสชาติ” ที่ล้นไปด้วยเสน่ห์ไม่เหมือนใคร

ส่งพลังจากของว่างซองเล็กๆ
สู่พลังคนไทยที่ยิ่งใหญ่ไปทั่วโลก
แม้จะเพิ่งเปิดตัวแบรนด์ได้ไม่ถึงสองปี แต่ “เอมโอษฐ์” ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่น ในตลาดของขบเคี้ยวได้อย่างน่าจับตา ด้วยแนวคิดที่ไม่เพียงยกระดับ “ของกินเล่น” ให้ร่วมสมัย ยังเปลี่ยนภาพจำ “ของฝาก” ให้ดูหรูหรา มีรสนิยม เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่
ด้วยกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์คือ “นักท่องเที่ยว” โดยเฉพาะกลุ่มที่มองหาของฝากที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ มีคุณภาพและพกพาง่าย “เอมโอษฐ์” จึงวางกลยุทธ์ช่องทางจำหน่ายออกเป็น 2 กลุ่มเพื่อให้ตอบโจทย์ได้หลากหลายยิ่งขึ้น

ตามไปชิมผลิตภัณฑ์ได้ที่
• ไลน์พรีเมียม วางจำหน่ายที่ King Power ทุกสาขา ในบรรจุภัณฑ์ที่สวยหรู มีดีไซน์ที่สะท้อนความเป็นไทยแต่ร่วมสมัย เหมาะสำหรับเป็นของขวัญ ของฝากนักเดินทาง
นอกจากความสำเร็จด้านภาพลักษณ์และกลยุทธ์การวางตลาด “เอมโอษฐ์” ยังไม่หยุดนิ่งในการพัฒนารสชาติใหม่ๆ เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับผู้บริโภค โดยในอนาคตอันใกล้ แบรนด์เตรียมเปิดตัวโพรดักส์รสชาติใหม่ ได้แก่ รสต้มยำ (และกำลังพัฒนา รสข้าวซอย ตามมา)
ถือเป็นการต่อยอดจากอาหารไทยยอดนิยม ให้กลายเป็นของว่างที่เข้าถึงง่าย อร่อยง่าย และยังคงกลิ่นอายไทยแท้ตามคอนเซปต์อย่างชัดเจน
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า “เอมโอษฐ์” ไม่ได้เป็นแค่ของว่าง แต่คือแบรนด์ที่หลอมรวมความภาคภูมิใจในอาหารไทยเข้ากับองค์ความรู้ระดับสากล จนสามารถเปลี่ยนของว่างในซองเล็กๆ ให้กลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ที่ส่งต่อความอร่อยในรสชาติไทยแท้ไปสู่ผู้คนทั่วโลกอย่างเต็มภาคภูมิ


ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย
คลิก: AIM-OATH
สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถสนับสนุนได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา
ปักหมุดเช็กอิน-แชะรูป-ท่องเที่ยวใกล้เคียง
• พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ แลนด์มาร์กสายอากาศยานที่ห้ามพลาด! ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน กม.24 ภายในฐานทัพอากาศดอนเมือง ที่นี่รวมไฮไลต์แน่นๆ ทั้งเครื่องบินรบรุ่นตำนาน เครื่องบินพระราชพานิช เครื่องบินต้นแบบฝีมือคนไทย ไปจนถึงเฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่ พร้อมนิทรรศการประวัติศาสตร์การบิน เสื้อผ้าทหาร อุปกรณ์สื่อสาร และจำลองฉากสงครามสุดเท่ เข้าชมฟรี! ทุกวันอังคาร–อาทิตย์ เวลา 09.00–15.30 น.(หยุดทุกวันจันทร์)
• สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน โอเอซิสเล็กๆ กลางดอนเมือง พื้นที่สีเขียวราว 15 ไร่ ที่เหมาะสุดๆ สำหรับคนอยากพักใจในบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เส้นทางเดิน – วิ่งรอบสวน สะพานไม้เลียบสระบัว หอนาฬิกาเก๋ๆ และลานออกกำลังกายกลางแจ้งครบครัน เปิดทุกวัน 05.00 – 21.00 น. เข้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เหมาะทั้งสายเฮลท์ตี้ ครอบครัว หรือใครที่อยากชาร์จแบตชีวิตแบบไม่ต้องออกนอกเมือง!
• เรือนรัตนโกสินทร์ แลนด์มาร์กเรือนไทยไม้สักสุดคลาสสิก ที่ซ่อนตัวอยู่ริมถนนสรงประภา แต่อัดแน่นด้วยเสน่ห์วัฒนธรรมไทยแท้แบบจัดเต็ม ที่นี่เป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ดนตรีไทย พื้นที่สืบสานขนบธรรมเนียม และคลาสอบรมขนมไทยโบราณ เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากอินกับความละมุนละไมของความเป็นไทยในบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง