Passion

วง CUT-TO
เป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว 30 Nov 2022
Views: 500

การประกวดหรือการแข่งขันทางด้านดนตรีนั้น นอกจากการที่ผู้เข้าแข่งขันจะมีฝีไม้ลายมือ ในการเล่นดนตรีไม่ธรรมดาแล้ว ความสามารถในการแสดงสดหรือการโชว์บนเวที เสน่ห์ดึงดูด และเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ทำให้ผู้ชมประทับใจและจดจำได้นั้นก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่คณะกรรมการจะนำมาพิจารณาร่วมด้วยเสมอ

และในการประกวด THE POWER BAND 2022 ซีซั่น 2 จัดโดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย สำหรับการแข่งรอบภูมิภาคสนามกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีผู้ประกวดอยู่วงหนึ่งที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวมา เพราะการแสดงที่โดดเด่น ความเป็นตัวของตัวเอง และมีเสน่ห์ดึงดูดบนเวที จนตลอดการแสดงบนเวทีของวง เราไม่สามารถละสายตาจากวงนี้ไปได้เลย และวงที่กำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ก็คือวง CUT-TO นั่นเอง (ชื่อวงของพวกเขาอ่านว่า “คัท-ทู”)

ความหมายของชื่อวงมาจาก คำว่า CUT ที่คือการตัดแปะ “เพราะเรา ‘CUT’ เอาสมาชิกจากหลายวงมารวมกัน ส่วน TO…ไปสู่อะไรนั้น วงเราเองก็ยังไม่รู้ว่าเป้าหมายสุดท้ายที่เราจะ TO ไปที่ไหน…อย่างไร เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนที่ได้ยินชื่อวงแล้วคิดตามด้วย เพราะ ‘TO’ สำหรับแต่ละคน ไม่เหมือนกัน” CUT-TO เริ่มเล่าถึงตัวเองให้เราฟังแบบนั้น

วง CUT-TO ที่มีสมาชิกทั้งหมด 5 คนนี้ ข้ามภาคมาจากภาคตะวันออกสนามชลบุรี มาผ่านเข้ารอบ ชิงชนะเลิศกันที่สนามภูมิภาคแห่งสุดท้ายคือ กรุงเทพฯ เพราะนักร้องนำมาเห็นประกาศรับสมัครก็ที่สนามสุดท้ายแล้ว และก่อนหมดเขตส่งคลิปประกวดเพียง 3 วันเท่านั้น! พวกเขาจึงไม่มีเวลามาคิดมาก ไม่มีเวลาลังเลใจ…ถ้าอยากทำก็ต้องลงมือเลย ว่าแล้วเพื่อนๆ นักดนตรีที่ไม่ได้เล่นดนตรีด้วยกันมาสักพักแล้ว เลยชักชวนกันเดินออกมาท้าทายตัวเอง และทำตามความฝันด้วยกันอีกครั้ง

แล้วพวกเขาก็ไม่ผิดหวังเพราะในที่สุด วง CUT-TO ก็สามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 มาได้ แถมวงยังควบ “Outstanding รางวัลนักดนตรียอดเยี่ยม” มาได้อีกรางวัลหนึ่ง ด้วยฝีมือของมือเบสของวง ซึ่งเป็นการการันตีว่า “วงนี้ไม่ธรรมดา” เราเลยอยากพาทุกคนไปทำความรู้จัก CUT-TO กันให้มากขึ้นอีกนิดดีกว่า

 

ความเป็นเพื่อนผ่านเสียงดนตรี 

สมาชิกวง CUT-TO เริ่มต้นจากคนรู้จัก…เพื่อนของเพื่อน หรือคนที่รักและสนใจทางด้านดนตรีเหมือนๆ กัน และชื่นชอบสไตล์ในการเล่นดนตรีของกันและกัน พวกเขาจึงมารวมวงกัน มี โอที – ธิติวัฒน์ คฑาวัฒน์วีระเกตุ (ร้องนำ) (ภาพต่อไป) เล่าให้เราฟังถึงที่มาของสมาชิกแต่ละคน “วง CUT-TO มาจากสมาชิกหลากหลายวง วงนี้ดั้งเดิมจะมี นนท์ – เมธานนท์ แดงสุธา (กลอง) นาย – เอกวุฒิ พรานพิทักษ์ (เบส) มีผมและ หนึ่ง – อภิสิทธิ์   ไชยศรี (กีตาร์) อยู่อีกวงหนึ่ง (ภาพด้านล่าง)

ตอนนั้นเราได้ไปเล่นดนตรีที่จังหวัดระยองด้วยกัน ก็มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในเรื่องราวของดนตรี ว่าชอบวิธีการเล่นแบบนั้นแบบนี้ พวกเราเลยมาลองเล่นด้วยกัน แล้วรู้สึกว่าเคมีมันเข้ากันได้ เราเลยเล่นกันแบบ 4 คน 3 ชิ้นมาตลอด แล้วก็เล่นกับ มาร์ค – ธนทัต มณีนูญธวัฒน์ (คีย์บอร์ด-รูปแรกด้านล่างขวาคนขวา) กันประจำอยู่แล้ว พอเห็นว่ามีการประกวดครั้งนี้ เราก็เลยมารวมตัวกันเข้าประกวดดนตรีอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายการประกวดกันไปนาน”

เริ่มรู้จักและรักในดนตรี 

สมาชิกทุกคนของ CUT-TO ชื่นชอบดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ เหมือนกัน แต่ก็ต่างเวลาและต่างสถานการณ์กัน ทุกคนเลยระลึกเรื่องราวในอดีต และเล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นของการเล่นดนตรีของแต่ละคน

เริ่มต้นที่ โอที นักร้องนำ ผู้มีบุคลิกที่โดดเด่นบนเวที “ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าผมชอบเล่นดนตรีหรือเปล่า แต่ตอนมัธยมก็จะมีชมรมต่างๆ เช่น ชมรมศิลปะหรือด้านกีฬา ผมไปอยู่ชมรมกีฬาก็เล่นไม่ได้เรื่อง อาจจะไม่ใช่ทางของเรา ผมเล่นกีฬาไม่ค่อยดี วิชาการก็ไม่เก่ง พอไปอยู่ชมรมวาดรูปก็พอได้ ผมเลยคิดว่า หรือจริงๆ แล้วผมควรจะมาในทางศิลปะ แล้วผมมาเริ่มเล่นดนตรีก็เพราะว่า เพื่อนผมไปดูหนังเรื่อง Suck Seed ห่วยขั้นเทพ  แล้วชวนผมว่า ‘มาตั้งวงดนตรีกันไหม’ ผมก็เลยไป

ตอนแรกผมอยากเล่นเบสครับ แต่ทุกคนในวงที่มารวมกัน เขาเล่นดนตรีกันหมด วงไม่มีคนร้อง ผมเลยโดนไล่ให้มาร้องเพลง ผมร้องไปสักพักก็รู้สึกว่า ผมชอบทำอะไรที่ไม่คิดว่าจะทำมาก่อน พอลองดูแล้วก็ชอบ สนุก พอสนุกก็เลยทำมาเรื่อยๆ”

นักร้องนำของวงเล่าจบก็ถึงคิวของ นาย มือเบส เล่าบ้าง “ผมเริ่มเล่นดนตรีช่วง ม. 2 ตอนนั้นรู้จักกับเพื่อนที่เป็นมือกีตาร์ เพื่อนก็ชวนมาเล่นดนตรี ตอนแรกผมไม่รู้จักเลยว่าเบสคืออะไร แล้วพี่ที่บ้านเขาก็เล่นดนตรีด้วย ผมเห็นว่าเขาเล่นดนตรีกันสนุกดี ก็เลยอยากลองเล่นบ้าง ก็เริ่มจากเบสเลย แล้วก็เล่นมาตลอดครับ”

“วง CUT-TO เปรียบเสมือนคนคนหนึ่งที่มีกลองเป็นรากฐานเป็นขา
มีเบสเป็นตัว มีกีตาร์ มีคีย์บอร์ดเป็นแขน มีนักร้องเป็นหัว
ทุกครั้งที่เราเล่นดนตรี จะทำอย่างไรก็ได้ให้ตัวเองมีความสุข
เราคิดว่าคำว่าเล่นดนตรีมันต้องสนุก เพราะถ้าไม่สนุกก็ไม่น่าจะใช้คำว่า ‘เล่นดนตรี’”

วง CUT-TO

 

นนท์ มือกลอง เล่าเรื่องราวของเขาสั้นๆ ว่า “ผมเริ่มตีกลองมาตั้งแต่ ป.4 -ป.5 ได้ เริ่มจากการเคาะถังเคาะกะละมังอยู่หลังบ้าน พอขึ้นมัธยมก็ย้ายมาอยู่โรงเรียนเดียวกับมือเบส เขาฟอร์มวงกันก็เลยมาชวนผมไปเล่นด้วย ผมกับพวกเขาเลยเล่นดนตรีด้วยกันมาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบัน”

หนึ่ง มือกีตาร์ เล่าว่า “ตั้งแต่สมัยประถมผมเห็นพวกพี่ๆ เล่นกีตาร์กัน ผมก็อยากลองฝึกบ้าง จนมาถึงมัธยมทางโรงเรียนให้เลือกชมรม ผมไม่รู้จะไปชมรมไหน เลยเลือกชมรมดนตรี ก็เลยเล่นดนตรีตั้งแต่นั้นมาจนถึงทุกวันนี้”

มาถึงเรื่องราวของคนสุดท้ายของวงอย่าง มาร์ค คีย์บอร์ด ที่ดูเหมือนชีวิตจะจับพลัดจับผลูมาสู่ตำแหน่งคีย์บอร์ดพอสมควร  “ตั้งแต่จำความได้ก็คือ ที่บ้านผมพ่อจะเล่นดนตรีอยู่แล้ว แต่เขาไม่อยากให้ลูกเล่นดนตรี เลยขายเครื่องดนตรีไปหมด

จนผมอยู่ ม.ต้น มีหนังเรื่อง Suck Seed ห่วยขั้นเทพ ผมก็ไปดูเหมือนกัน แล้วอยากเล่นดนตรีมาก ตอนนั้นที่โรงเรียนให้เลือกชมรม ผมเลยไปเข้าชมรมดนตรีสากล แต่มันไม่มีเครื่องที่ผมอยากเล่น เพราะชมรมนั้นเป็นวงโยธวาทิต ผมเลยเล่นแซกโซโฟนมาจนถึง ม. 3 แล้วก็ไปสอบเข้าโรงเรียนที่มีการประกวดดนตรี เป็นโรงเรียนที่จะปั้นเด็กไปประกวดดนตรี แต่สมาชิกเครื่องเป่าเต็ม เขาเลยให้ผมไปเล่นคีย์บอร์ด ผมก็เล่นมาตั้งแต่ตอนนั้น”

“คนที่ชอบและอยากเล่นดนตรีแต่ยังไม่มีโอกาส ควรเริ่มมองหาโอกาสให้กับตัวเอง
เพราะบางครั้งโอกาสไม่ได้เดินทางมาหาเรา เราอาจจะต้องเดินทางไปหามัน
ถ้าอยากลอง อยากทำ ควรเริ่มเลย มัวรอพรุ่งนี้ไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เราจะมีชีวิตอยู่หรือเปล่า”

วง CUT-TO

ตัวตนบนถนนสายดนตรี 

ถ้าผู้ชมมีโอกาสได้ฟังเพลงและชมการแสดงบนเวทีของ CUT-TO จะสัมผัสได้ถึงสไตล์และตัวตนของวงที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นตัวตนและบุคลิกของสมาชิกทุกคนจริงๆ

“การค้นพบบุคลิกภาพของวงเรานั้นใช้เวลาไม่นาน พวกเราเป็นแบบนี้กันตั้งแต่แรกเลย ทุกคนจะมีความเป็นฟังก์ เป็นดิสโกกันอยู่แล้ว ช่วงแรกพวกเราก็พยายามจะเล่นเพลงร็อก แต่แล้วก็รู้สึกว่าเพลง
ร็อกของพวกเรามันไม่ร็อกเลย เราเลยลองดูว่าตอนนี้เราตรงกับแนวเพลงไหนอยู่ พวกเราลองเล่นหลายๆ แนว และพบว่าเข้ากับการเล่นดนตรีแนวฟังก์และดิสโกมากที่สุด

ผมว่าบางทีไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบอะไร แต่ว่าอะไรที่มันใช่ที่สุดสำหรับเรา การที่เราเป็นอะไรในรูปแบบไหน จะทำให้เราเป็นตัวเราได้มากที่สุด ผมว่าพวกเราเจอคุณสมบัตินั้นแล้ว แต่ในการแข่งคือเราต้องแข่งกับวงอื่น อันนี้คือกติกา แต่ที่สำคัญที่สุดคือการที่เราต้องแข่งกับตัวเอง เราจะทำอย่างไรให้เราเป็นตัวเองได้มากที่สุด ในแบบที่ดีที่สุด”

 

กลับมาเดินทางตามฝันกันอีกครั้ง 

ช่วงเวลาที่ผ่านมาด้วยสถานการณ์โควิดและด้วยความที่สมาชิกทุกคนเรียนจบกันแล้ว และมีภาระส่วนตัว CUT-TO จึงไม่ได้รวมตัวกันเล่นดนตรีมาพักใหญ่แล้ว แต่เมื่อมีโอกาสที่จะได้ทำตามความฝัน จึงมารวมตัวกันเพื่อเล่นดนตรีด้วยกันอีกครั้งในการประกวดนี้ ทางวงจึงไม่ยอมพลาดโอกาสสำคัญนี้ไป

“เราคุยกันว่าไม่ได้เล่นดนตรีด้วยกันมาสักพักแล้ว อยากเล่นดนตรีด้วยกันอีก พูดคำนี้กันอยู่บ่อยๆ แต่ไม่มีเวทีให้เราเล่นเลย พอมีการประกวดงานนี้ก็เลยชวนกัน พอทุกคนตกลง เราก็นัดซ้อมกันวันหนึ่ง วันเดียว 6-7 ชั่วโมง พอประกาศผลมาว่าวงเราติดก็ดีใจมาก หลังจากนั้นเรามีเวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ แต่ละคนก็อยู่ไกลกัน เวลาก็ไม่ตรงกัน เราหาเวลาตรงกันยากมาก แต่ทุกคนก็พยายามหาเวลาเพื่อที่จะมาซ้อมกันเพื่องานนี้” โอทีเล่าถึงช่วงเวลาที่พวกเขาเตรียมตัวกัน

และพอได้มารวมตัวกันเล่นดนตรีและก้าวขึ้นเวทีอีกครั้ง จึงเป็นช่วงเวลาที่สมาชิกทุกคนมีความสุข สนุก และประทับใจมากๆ

“ผมรู้สึกภูมิใจที่มองไปบนเวทีแล้วเห็นเพื่อนเราที่เคยเล่นดนตรีมาด้วยกันมา แล้วหลังจากที่เราหยุดเล่นกันไปนาน พอได้กลับมาขึ้นเวทีอีกครั้งก็ดีใจ” นั่นคือความรู้สึกจากใจของนนท์ ส่วนความรู้สึกของโอทีคือ “ก่อนขึ้นเวทีพวกเรารู้สึกว่าจะต้องเต็มที่มากๆ การที่ห่างหายจากเวทีไปนาน มันทำให้เราตื่นเต้นมากขึ้น มีบางช่วงที่ผมรู้สึกสนุกก็คือตอนใกล้จะจบเพลง เพราะผมหันไปเห็นเพื่อนๆ สนุก ผมว่านี่คือโมเมนต์ที่ดี การที่เราได้ทำอะไรสนุกๆ ด้วยกัน”

เมื่อเราถามถึงเส้นทางในอนาคตขอวง CUT-TO มาร์คตอบอย่างรวดเร็วด้วยดวงตาที่เป็นประกายว่าเป้าหมายที่พวกเขาฝันคือการเล่นดนตรีเป็นอาชีพ “เราจะไปเป็นศิลปินตามที่กรรมการคอมเมนต์ครับ เพราะว่าตอนนี้เราทำอย่างอื่นกันไม่เป็นแล้ว ทำได้อย่างเดียวคือเล่นดนตรีครับ”

ตามไปดูภาพบรรยากาศแบบจุใจ ของเวที The POWER BAND 2022 รอบ Final และการแสดงของแต่ละวงผู้เข้ารอบได้

Author

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว

Author

นักเล่าเรื่อง ผู้มีหนังสือและการเดินทางเป็นดั่งลมหายใจ นิยมชมชอบท้องฟ้า กาแฟ และแมว

Author

บริษัท เอ็กเปิร์ดคิด จำกัด

Photographer

การรวมตัวของคนโปรดักชั่น ที่ยังเชื่อในพลังสร้างสรรค์ เราจึงคิดและผลิตงานศิลปะทุกรูปแบบ