Passion

JELLY DRY AGED
“เชื่อมั่น ตั้งใจ ฝันใหญ่ ไปให้ถึง”

ภัทราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์ 13 Sep 2024
Views: 814

Summary

เจลลี่เป็นขนมที่ทุกคนคุ้นเคยมาแต่เด็ก มีสีสันหลากหลาย และรสชาติอันหอมหวานชวนเคี้ยวเพลินเกินห้ามใจ ด้วยคอนเซปต์นี้เอง ทำให้วง JELLY DRY AGED ถือกำเนิดขึ้น เพราะวงอยากให้ทุกคนได้ฟังฝีมือทางด้านดนตรีของพวกเขาแล้วติดใจเหมือนเจลลี่…ที่ยิ่งฟัง ยิ่งเพิ่มอรรถรส ยิ่งอร่อยมากขึ้น

“มาแข่งที่สนามนครปฐม ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว แต่หนูยังตื่นเต้นอยู่เลยค่ะ”

“ความตื่นเต้นยังคงเดิม เพิ่มเติมคือรู้สึกว่าพวกเราทำได้ดีขึ้นครับ”

วง JELLY DRY AGED จาก โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม จังหวัดปทุมธานี มีสมาชิกทั้ง 6 คน ประกอบด้วย น้ำขิง – โชติกา โคตรธรรม (นักร้องนำ) พลู – นครินทร์ อิศวภส (เบส) บาส – ธันวา มรพงษ์ (กีตาร์) ภูมิ – เทพทิวากร สิงห์นอก (คีย์บอร์ด) เติ้ล – ณัฐพงค์ อุตสาหะ (กีตาร์) และ เฟรนด์ – อนาวิน แสงจันทร์ (กลอง) โดยมีอาจารย์ปูม – นนทชัย เฉลิมโฉม เป็นผู้คุมวง

สมาชิกทั้ง 6 คน แสดงให้เห็นถึงความตื่นเต้นที่ยังคงหลงเหลืออยู่ แม้จะผ่านการแข่งขันรอบแสดงสดไปพักใหญ่แล้วก็ตาม โดยวง JELLY DRY AGED กลับมาเยือนเวทีนี้อีกครั้ง หลังจากผ่านมารอบออดิชันที่สนามกรุงเทพฯ ของเวที THE POWER BAND 2024 SEASON 4 “เป็นได้สุด เป็นไปได้ ด้วยพลังแห่งดนตรี” เวทีประกวดวงดนตรีสากลคุณภาพระดับประเทศ จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในธีม Let The Music Power Your World: เป็นได้สุด เป็นไปได้ ด้วยพลังแห่งดนตรี

เราเชื่อว่าครั้งต่อไปยังไงมันก็ต้องดีขึ้นกว่าครั้งแรกเสมอ

วง JELLY DRY AGED
โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม (ปทุมธานี)
รุ่นมัธยมศึกษา สุดยอดวงดนตรีระดับมัธยมศึกษา (High School Class)
THE POWER BAND 2024 SEASON 4 สนามนครปฐม

 

วางแผน ลงมือ…เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

“พวกผมต้องกลับมาแน่นอนครับ” บาส มือกีตาร์ของวงเริ่มต้นพูดคุยแบบสบายๆ “ตอนที่มาประกวดสนามกรุงเทพฯ แล้วไม่ผ่านเข้ารอบ ผมบอกกับทุกคนอย่างนั้น ผมเชื่อว่าครั้งต่อไปต้องดีขึ้นกว่าครั้งแรกเสมอ สนามนครปฐมจึงเป็นสนามที่พวกเราเชื่อมั่นและทำออกมาเต็มที่ เราได้แก้ไขจุดผิดพลาดใหญ่จากครั้งก่อนเรียบร้อยแล้ว”

พลู มือเบส เสริมว่า “ตอนที่ผลประกาศออกมาไม่ผ่านเข้ารอบที่สนามกรุงเทพฯ พวกผมก็ยอมรับแต่โดยดี (หัวเราะ) ไม่ได้มีความรู้สึกต่อต้านหรือไม่ได้มีความรู้สึกว่า เฮ้ย..ทำไมไม่เป็นวงเรา”

“แต่พอพวกเราตั้งปณิธานว่าจะกลับมาใหม่อีกครั้ง เลยมาแบบมีการวางแผนมากขึ้นปรับแก้ไขจุดที่เรายังทำได้ไม่ดีตามที่กรรมการเคยบอกไว้ พร้อมกับวงเล่นได้แข็งแรงขึ้น และเพิ่มการเรียบเรียงเพลงที่แบ่งออกเป็นแนวมันๆ อย่างหนึ่งในสองเพลงที่เลือกมาเป็น ‘วัดปะหล่ะ?’ ของ 4EVE ที่อยากจะส่งคำท้าไปถึงทุกวงเลยว่า มาวัดกันปะหล่ะ?” แม้คำตอบจะดูท้าทายมาก แต่ท่าทางของน้องภูมิ มือคีย์บอร์ด ตอนตอบคือยิ้มเขินๆ”

น้ำขิง (ร้องนำ)

บาส (กีตาร์) – เติ้ล (กีตาร์)

 

สร้างความเชื่อมั่น ชัตดาวน์ความกลัว

ดูเหมือนทุกวงจะมีความกลัวลึกๆ ที่อยู่ภายในใจเหมือนๆ กัน…กลัวว่ากรรมการจะเจอจุดอ่อนจุดเดิม…ไม่ได้พัฒนาขึ้น… และอีกหลายอย่าง

น้ำขิง นักร้องนำของวงก็ประสบกับความกลัวแบบนี้เช่นกัน “กรรมการเคยบอกให้หนูไปเรียนร้องเพลงเพิ่มเติมค่ะ  ส่วนตัวหนูเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจอยู่แล้วด้วย เวลาฝึกซ้อมจะชอบคิดไปว่าตัวเองร้องเพลงไม่ดี ยังทำไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากทำให้คนดูรู้สึกว่าวงเราทำไมแสดงไม่ดีเลยผ่านเข้ารอบมาได้ยังไง หลังจากได้พูดคุยกับอาจารย์ผู้คุมวง และเพื่อนๆ ในวงแล้ว ก็เหมือนปลดล็อก ตัวเรามีความมั่นใจในการร้องเพลงมากขึ้น บนเวทีครั้งนี้คณะกรรมการไม่ได้ติเรื่องการร้องอีกแล้ว ไม่ได้พูดถึงจุดที่เราเคยพลาด แค่นี้หนูก็ดีใจมากๆ รู้สึกว่าเราพัฒนาขึ้นและก้าวข้ามความกลัวไปได้แล้วจริงๆ รู้สึกโล่งใจมากๆ เลยค่ะตอนที่แข่งเสร็จแล้ว”

พลู (เบส)

เฟรนด์ (กลอง) – ภูมิ (คีย์บอร์ด)

เพราะ(เพลงของ)ใคร

ทำให้เรามาถึงวันนี้?

น้ำขิง: พี่อิ้งค์ วรันธร พี่เขามีเนื้อเสียงที่กังวานใส ชอบสไตล์การร้องด้วย
รู้สึกว่าพี่อิ้งค์น่ารักมากเวลาที่อยู่กับคีย์บอร์ดตัวเล็กๆ สีแดงของเขา

พลู: พี่บอม Retrospect กับ พี่ปิ๊ด Bodyslam พี่ทั้งสองคนมีซาวนด์เอกลักษณ์
ผมชอบดูแล้วศึกษาเทคนิคการเล่นเบสจากพี่ๆ เขาครับ

บาส: Joe Pass นักกีตาร์แจ๊ส ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในด้านดนตรีมากๆ
เวลาที่ฟังเขาดีดกีตาร์จะรู้เลยว่าเขาซ้อมมาหนักมาก
เล่นเหมือนง่ายแต่ความจริงคือเทคนิคล้วนๆ ครับ

ภาพโดย Expert Kit

 

อุปสรรค และ ความฮา มักจะมาเป็นเซ็ตเดียวกัน

ทุกวงจะซ้อมกันมาอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้โชว์ที่ออกมาดีที่สุด เพราะต่างก็มีโอกาสแค่ครั้งเดียว…ไม่มีเทคสองเทคสามให้ปรับแก้ไข และในช่วงซ้อมนี่เองซึ่งสมาชิกทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกันมากที่สุด ต้องเผชิญปัญหาและฝ่าฟันไปพร้อมๆ กัน แต่วง JELLY DRY AGED ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง เพราะทุกครั้งที่เกิดปัญหา…ความฮามักจะตามมาติดๆ

“ช่วงตกรอบจากสนามกรุงเทพฯ หนูท้อแท้มากอยากออกจากวง ตอนนั้นคิดวนๆ ว่าอยากให้พวกพี่ๆ เขาเจอนักร้องที่ดีกว่าหนู ร้องเพลงเพราะกว่าหนู อารมณ์เหมือนนางเอกที่รู้ตัวว่ายังไม่ดีพอ เลยตั้งใจจะปล่อยมือพระเอกให้เขาไปเจอคนที่ดีกว่า อะไรแบบนั้นเลยค่ะ แต่พอคิดดีๆ แล้ว ก็รู้สึกว่า…ไม่มีใครร้องได้ดีกว่าหนูแล้วละ (หัวเราะเขินๆ) เพราะชีวิตหนูก็มีแค่ดนตรีมาโดยตลอด ถ้าไม่ร้องเพลงก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี ก็เลยกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง สู้ต่อทำต่อให้มันดีที่สุด” น้ำขิง นักร้องนำ เล่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ภาพโดย Expert Kit

เฟรนด์ มือกลอง เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องเจอกับภาวะกดดันและความเครียด จนออกจากวงไปแล้วรอบหนึ่ง “ช่วงนั้นผมซ้อมหนักมาก แต่ก็ทำได้ไม่ดีพอ พอเจอกับคอมเมนต์เยอะๆ รู้สึกกดดันตัวเอง ช่วงนั้นป่วยด้วย เหนื่อยด้วย หลายอย่างรุมเร้า เลยตัดสินใจออกจากวงไป แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจกลับมาอีกครั้ง รู้สึกขอบคุณทุกคนในวงที่ให้โอกาส ตอนนั้นที่กลับมาก็เพราะรู้สึกเสียดายเพราะผมก็ตีกลองมาตั้งแต่ตอนอนุบาล อยากกลับมาลองดูให้เต็มที่ที่สุด เพื่ออนาคตของเราเอง และเพื่อวงด้วยครับ”

“หลังจากวงเราผ่านเรื่องเครียดๆ กันไปแล้ว ที่เหลือก็มีแต่เรื่องฮาๆ แล้วครับ” พลู มือเบส เปลี่ยนบรรยากาศพร้อมยกตัวอย่าง “ผมจะพูดเองมันก็จะเขินหน่อยๆ เพราะเป็นเรื่องของผมเอง (หัวเราะ)” เติ้ล มือกีตาร์สุขุมนุ่มลึกของวงเลยอาสาเป็นตัวแทนเล่าเรื่อง “คือหลังจากที่วงพวกเรากลับมาโอเคแล้ว มีอยู่วันหนึ่งคือเราก็ซ้อมกันเป็นปกติ แล้ววันนั้นพลูคือปวดท้องมากๆ แต่เขาไม่ได้บอกใคร ซึ่งวันนั้นภูมิก็ไม่รู้เป็นอะไร คืออยากซ้อมมาก เลยขอให้ทุกคนอยู่ซ้อมต่อ อีกรอบหนึ่ง อีกรอบเดียวเอง ยังไม่ดีพอขออีกหนึ่ง คือไม่ยอมปล่อยพวกเรากลับสักที” ภูมิ ตัวต้นเรื่องเลยต้องรีบแก้ตัวขึ้นมาบ้าง “วันนั้นผมไม่รู้จริงๆ ครับว่าพลูปวดท้อง เขาไม่ยอมบอก จนพวกเรามารู้ทีหลังว่าวันนั้นเขาอั้นไม่อยู่ ปล่อยของไปเรียบร้อยตอนที่ซ้อมนั่นแหละ (หัวเราะ)”

“โล่งเลยครับตอนซ้อมเสร็จ” พลูปิดท้ายสั้นๆ แต่เรียกเสียงฮาครืนให้ทั้งวงสัมภาษณ์ เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าพลูเป็นคนจริงจังและตั้งใจกับการเล่นดนตรีมากๆ แม้จะมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นระหว่างที่ซ้อม แต่ The Show Must Go On เป็นคนที่มีความเป็นมืออาชีพสูงมากๆ ต้องขอคารวะหนึ่งที (หัวเราะ)

 “หาประโยชน์จากสิ่งที่ทำ เพราะทุกสิ่งที่ทำมีประโยชน์

วง JELLY DRY AGED

 

 

ตั้ง “ฝัน” ให้ใหญ่เข้าไว้

“แน่นอนว่าความฝันของวงเรา คือเข้ารอบให้ลึกที่สุดและได้รางวัลกลับไป ง่ายๆ คือ ต้องเป็น 1 ใน 3 เท่านั้น” ภูมิ มือคีย์บอร์ด ประกาศเป้าหมายหลักของวง JELLY DRY AGED อย่างมั่นใจ ซึ่งเมื่อลองเจาะลึกต่อไปอีกนิด พบว่าสมาชิกแต่ละคนมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น เติ้ล มือกีตาร์ ก็บอกว่า “ผมดีใจมากครับที่วงเราผ่านเข้ารอบที่สนามนครปฐม เพราะผมอยากไป The Power Band Music Camp มาก อยากไปเรียนรู้จากพี่ๆ ในวงการตัวจริง ได้ถามอย่างตรงจุด ผมว่ามีประโยชน์มากๆ และน่าจะทำให้ผมพัฒนาตัวเองได้ดีขึ้นแบบก้าวกระโดดแน่ๆ”

สำหรับบาส มือกีตาร์ อีกคนหนึ่งบอกกับเราว่า  “ผมอยากเป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่านี้ครับ อยากได้     คอนเนกชันที่สามารถนำไปต่อยอดในอนาคตของเราได้” เช่นเดียวกับน้ำขิง นักร้องนำ “หนูอยากเป็นนักร้องค่ะ เลยอยากมีโอกาสแสดงและโชว์ความเป็นตัวเราให้ทุกคนได้เห็นให้ได้มากที่สุด มาประกวดก็ถือเป็นการฝึกฝนตัวเองของหนูด้วยทางหนึ่ง”

ได้ฟังจากวง JELLY DRY AGED แต่ละคนมีความฝันยิ่งใหญ่และมีเป้าหมายชัดเจนมากๆ นึกถึงคำกล่าวหนึ่งที่เชื่อว่าหลายๆ คนรู้จัก จงตั้งเป้าหมายไว้ที่ดวงจันทร์ เพราะถึงแม้ว่าคุณจะไปไม่ถึง คุณก็ยังได้อยู่ท่ามกลางหมู่ดาว” และเราขอเอาใจช่วยน้องๆ ให้เดินทางไปสู่ดวงจันทร์ได้สำเร็จ

Author

ภัทราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์

Author

เด็กวิทย์หัวใจศิลป์ | คิดนอกกรอบแต่ตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่ในกรอบ | ทาสแมวที่ไม่เลี้ยงแมว | เมื่อทุนนิยมเอาความจริงฟาดหน้า เลยชอบหาเวลาอยู่กับตัวเอง | เป็น Introvert ที่ชอบ Extrovert | มนุษย์ดองหนังสือ ชอบซื้อแต่ไม่มีเวลาอ่าน | ยกคาเฟ่มาไว้ที่บ้าน เปิด Slow Bar จิบกาแฟยามเช้าทุกวัน

Author

อำพน จันทร์ศิริศรี

Photographer

ช่างภาพอิสระมากว่า 30 ปี...ที่คร่ำหวอดกับการถ่ายภาพรายการทีวีต่างๆ เช่น The Voice, The Rapper, The Stars Idol เป็นต้น และถ่ายภาพคอนเสิร์ตต่างๆ