Play & Pride

ฝันใหม่ของ “กรับใหญ่”
Football Academy กลางไร่อ้อย
ต่อยอดสู่ระดับอินเตอร์

ศรัณย์ เสมาทอง 22 Apr 2024
Views: 1,053

Summary

“กรับใหญ่ อะคาเดมี” เขาเรียกตัวเองว่า “อะคาเดมีฟุตบอลกลางไร่อ้อย” แต่เป็นอีกที่หนึ่งที่ได้รับสนามหญ้าเทียมของ คิง เพาเวอร์ และเด็กที่เรียนรู้จากอะคาเดมีนี้ผ่านการคัดเลือกเข้าสโมสรใหญ่ๆ ของเมืองไทยมาแล้ว…ไม่พอยังต่อยอดไปได้ไกลถึงระดับต่างประเทศ เขาทำได้อย่างไรกันนะ

“ถ้าเราไม่มองให้ใหญ่ เราจะไม่มีความตั้งใจ”

วิธีคิดของผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลกรับใหญ่

 

กรับใหญ่!!! อยู่ที่ไหน?!?

เกิดคำถามแน่ๆ เพราะชื่อไม่คุ้นหูเท่าไร แต่ถ้าเป็นคนในแวดวงฟุตบอลอาจคุ้นชื่อบ้าง เพราะที่นี่มี    อะคาเดมีกีฬาชื่อว่า “กรับใหญ่ อะคาเดมี” (Krabyai Academy) ให้คำนิยามตัวเองไว้ว่า “อะคาเดมีฟุตบอลกลางไร่อ้อย ตั้งอยู่ตำบลกรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี”

เปิดอะคาเดมี ปี 2560 ตอนนั้นผ่านไปปีเดียว ปี 2561 เปิดรับสมัครทั่วประเทศ มีเด็กมาสมัครกัน 600 คน มีเด็กจากปาดังเบซาร์เมืองชายแดนไทย-มาเลเซียมาคัดตัวเรียนด้วย จนวันนี้พัฒนานักกีฬาจน “ส่งออก” เป็นพลังคนไทยที่ก้าวไกลไปในต่างแดนอยู่ไม่น้อย

เข้าใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงเป็นหนึ่งในโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย ได้รับสนามหญ้าเทียมมาตรฐานสีน้ำเงินสวยจาก คิง เพาเวอร์

 

Academy แห่งแรกของราชบุรี

“เราใช้หลักสูตร FA (สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์) ที่เราได้อบรมมา รวมกับประสบการณ์จากการพาเด็กไปแข่งขัน โค้ชต้องทำการบ้าน แล้วมาแก้ไขและพัฒนาเด็กตอนฝึกซ้อม เราสนใจตรงนั้นมากกว่าผลการแข่งขัน”

คุณวิริยะ น้อยมี ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้ก่อตั้ง กรับใหญ่ อะคาเดมี เล่าให้ฟังว่าเห็นเด็กในชุมชนชอบเล่นกีฬาซึ่งตรงใจท่านเลย ด้วยสมัยมัธยมท่านก็เป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนเหมือนกัน จึงพยายามก่อตั้ง “กรับใหญ่ อะคาเดมี” ขึ้น โดยสอนกีฬาฟุตบอล มวยไทย และเปตอง

“ที่นี่เป็นอะคาเดมีกีฬาแห่งแรกของราชบุรีที่เป็นโรงเรียนของรัฐ ตอนนี้มีเกิดขึ้นมาหลายอะคาเดมีนะครับ แต่จะเป็นของเอกชน เราไม่ได้สร้างเด็กมาในเชิงธุรกิจ พอมีเด็กที่มีแววที่อื่นก็จะมาดึงตัวไปต่อยอดเรื่อยๆ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร มองเป็นโอกาสของเด็กมากกว่า แต่บอกเลยจุดแข็งของเรา คือผู้ปกครองเสียตังน้อยกว่าเอกชนแน่นอน”

โดยในปีแรก 2560 เปิดให้เด็กๆ ในชุมชนสมัครเรียนก่อน พอพาตระเวนแข่งหาประสบการณ์จนเป็นที่รู้จักขึ้นมาบ้าง ปีถัดมาก็เปิดรับเด็กอายุ 9-18 ปีจากทั่วประเทศ ปรากฏว่ามีเด็กมาสมัครร่วม 600 คน แต่ก็รับได้เพียง 130 คนเท่านั้น “ชั้นประถมเรารับเด็กมาเรียนแบบ ไป-กลับ ด้วย แต่มัธยมเด็กต้องมาอยู่โรงเรียนตอนนี้ก็ราว 20-30 คน”

ในส่วนของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลกรับใหญ่จะดูแลเด็กอนุบาล – ป.6 มีเรียนสองแบบ คือ หลักสูตร MEP (Mini English Program) หลักสูตรที่สอนวิชาหลักๆ เป็นภาษาอังกฤษ ถ้าใครไม่ถนัดภาษาก็จะเป็นห้องเรียนธรรมดา เด็กที่สังกัดอะคาเดมีกีฬาก็เลือกเรียนได้ตามถนัด

“เป้าหมายเรา คือ พัฒนาเด็ก พัฒนาทักษะทางด้านกีฬา” ยืนยันเจตนา พร้อมรับโค้ชทั้งไทยและต่างชาติมาคอยปั้นเด็กๆ ถึง 5 คน

สนามบอลกลางไร่อ้อย

เปิดอะคาเดมีไปได้เกือบ 4 ปี ทางโรงเรียนก็ได้รับสนามหญ้าเทียมมาตรฐานจาก คิง เพาเวอร์ บรรยากาศเริ่มคึกคัก เมื่อก่อนตอนเย็นจะมีเพียงเด็กอะคาเดมีอยู่ซ้อมฟุตบอล พอมีสนามคิง เพาเวอร์ ทั้งเด็กในโรงเรียน ทั้งเด็กจากชุมชนรอบๆ มาใช้กันวันละ 40-50 คน

ตี 5 ทุกวัน เด็กๆ กรับใหญ่ อะคาเดมี ต้องลุกมาวิ่งและซ้อมเพื่อสร้างกำลัง พอ 7 โมงเช้าทุกคนต้องไปโรงเรียน อันนี้ก็แล้วแต่ว่าใครเรียนชั้นไหน เพราะในรั้วเดียวกันนี้มี 3 โรงเรียน น้องประถมของอะคาเดมีจะไปที่โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลกรับใหญ่ ส่วนพี่มัธยมเข้าเรียนที่โรงเรียนกรับใหญ่ว่องกุศลกิจพิทยาคม ส่วนอีกที่คือโรงเรียนวันมหาราช (ผาณิตพิเชฐวงศ์) สอนชั้นอนุบาลและประถม แต่ไม่ได้เข้าร่วมในสายกีฬา

หลังเลิกเรียนประมาณ 4 โมงเย็น ก็จะมีซ้อมเน้นทักษะที่สนาม คิง เพาเวอร์ ไปถึง 6 โมงเย็น แต่ถ้ามีซ้อมลงทีมชุดใหญ่เพื่อเตรียมลงแข่งก็จะไปซ้อมที่สนามของโรงเรียนมัธยมแทน

“ในช่วงที่ไม่มีการตัดอ้อย เราถึงพาเด็กออกไปวิ่งข้างนอกตอนเช้า แต่ต้องมีทีมงานคอยประกบเยอะ” เราก็จินตนาการเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่น ที่น้องนักกีฬาออกไปวิ่งตามพื้นที่ในชุมชน

“ไม่ได้หรอก โรงเรียนเรามีไร่อ้อยล้อมรอบ บางฤดูรถบรรทุกอ้อยวิ่งตลอดเลยครับ”

 

 “กรับใหญ่” คือใครกัน?

ยุคแรกๆ เวลาทีมกรับใหญ่เดินทางไปแข่งที่อื่น ใช้รถกระบะบ้าง รถตู้บ้าง บางทีรถของโรงเรียนก็ไม่พอ ผู้ปกครองต้องพาเด็กเดินทางไปแข่งด้วยกันกับโรงเรียน

ทุกวันนี้อะคาเดมีมีรถมินิบัสตีตรา “กรับใหญ่ อะคาเดมี” มีความปลอดภัยสูงขึ้น แต่มิตรภาพระหว่างบ้านและโรงเรียนยังคงแน่นแฟ้น ตามไปเป็นกองเชียร์กันตลอด หากเป็นช่วงเข้าแคมป์ฟุตบอลก็มีอาหารจากทางบ้านมาเสริมพลังให้เด็กๆ อยู่เสมอ

“คนเห็นชื่อข้างรถเขาจะมาถามเราว่า…กรับใหญ่อยู่ที่ไหนตลอดเลย ล่าสุดเพิ่งไปแข่งที่บุรีรัมย์ เป็นฟุตบอลเด็กรุ่นอายุ 12 ปี ในรอบคัดเลือกทีมกรับใหญ่เราเฉือนชนะทีมบุรีรัมย์ได้เข้าไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย มีคนลงในเพจว่าทีมที่คนไม่ค่อยรู้จักชื่อเข้ามาได้ไกลมาก”

เชื่อสิ ตอนนี้เขาจำชื่อ “กรับใหญ่” ได้แล้ว!!

 

Ratchaburi Pride

“อดีตนักบอลชาวราชบุรีที่เป็นไอดอลของเด็กๆ มีหลายคนอยู่นะ อย่าง นิรุจน์ สุระเสียง อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง นี่เล่นฟุตซอล และช้าง – กฤษดา วงษ์แก้ว นักกีฬาฟุตซอลคนนี้เป็นคนบ้านโป่งเลย อ่านเรื่องของ “กัปตันช้าง” รวมถึง โค้ชสมชาย ไม้วิลัย ที่เป็นโค้ชของสโมสรฟุตบอลราชบุรี ท่านเป็นคนราชบุรี ก็เป็นแบบอย่างให้เด็กๆ อีกคนหนึ่ง”

เด็กๆ ของกรับใหญ่ อะคาเดมี เองก็ไม่ธรรมดา ติดเยาวชนทีมชาติไปบ้างก็มี ได้ไปเล่นให้สโมสรใหญ่ๆ ก็มี บางคนได้ไปเล่นที่ต่างประเทศมาแล้ว แม้จะยังอยู่ระดับประถมก็ตาม “สอนแบบเริ่มนับจากศูนย์แล้วพัฒนาขับเคลื่อนเขาให้ขึ้นสู่เกรด B+ หรือ A ให้ได้ แล้วสโมสรอื่นก็มาจะคัดเด็กเกรด A ไป”

น้องๆ กรับใหญ่ อะคาเดมี ที่มีโอกาสไปโลดแล่นในแวดวงฟุตบอลมาแล้ว มีดังนี้

ธีรภัทร อยู่เย็น อยู่มาตั้งแต่เปิดอะคาเดมี ตอนนั้นอยู่ ม.1 อายุ 12 ปี สโมสรฟุตบอลราชบุรีเห็นแวว มาจีบน้องไปเล่นให้สโมสรเรียบร้อย ในรุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี

กีรติ เกตุสารธรรม อยู่กับกรับใหญ่จนจบ ป.6 แล้วได้ไปเรียนที่โรงเรียนวัดสุทธิวราราม พร้อมเป็นนักเตะทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 14 ตอนนี้อยู่ในชั้น ม.5

ชัย ตะพัง และ ภูตะวัน ศรีเจียม เป็นตัวแทนเยาวชนไทย (FUTBOYs Thailand) เข้าร่วมการฝึกซ้อมและแข่งขันในรายการ JC CUP U11 Boys and Girls Soccer Asia Pacific Cup ที่นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น

วรชัย ตะพัง ผ่านการคัดเลือกให้เข้าไปเรียนและเล่นฟุตบอลให้สโมสรฟุตบอลการท่าเรือ โดยจะไปหลังจากที่จบ ป. 6 จากที่นี่

ศักดิ์สิทธิ์ ปลูกฝัง นักเรียน ป.5 แต่ความสามารถระดับเกรด A ได้โอกาสไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านฟุตบอลที่ประเทศฟิลิปปินส์และเดนมาร์กมาแล้ว

ธนเดช  อุดมวราภรณ์ และ พงศกร  สีหาจันทร์ ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมเก็บตัวฝึกซ้อมระดับภูมิภาคของ FA Thailand รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี

เทวฤทธิ์ แซ่ล้อ และ ฐนกร พงษ์เกษ ได้รับคัดเลือกเก็บตัวฝึกซ้อมระดับภูมิภาคของ FA Thailand รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และผ่านเข้าทีมของ FA Thailand U17 ไปเรียบร้อยแล้ว

แค่ภูมิใจ…ยังไม่พอ!!

ปี 2568 โรงเรียนจะเปิดหลักสูตรห้องเรียนพิเศษความเป็นเลิศในด้านกีฬาฟุตบอล ในชั้นมัธยม ม.1-2-3  “เราขยายโรงเรียนไปถึงมัธยม ทำเป็น Mini English Football เด็กได้เรียนภาษาอังกฤษไปด้วย”

ชั้นมัธยมที่ขยายไปนั้นนอกจากหลักสูตรพื้นฐาน เขาต้องเรียนวิชาภาษาอังกฤษ วิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษ นอกนั้นเป็นวิชาที่มุ่งไปเรื่องฟุตบอลเต็มๆ วิทยาศาสตร์การกีฬา โภชนาการ และจะพยายามให้เด็กได้ไปทัวร์แข่งฟุตบอลในต่างประเทศด้วย

“เป้าหมายที่อาจดูใหญ่มาก แต่ผมมองแล้วน่าจะเป็นไปได้  เมื่อเรามีแรงบันดาลใจที่จะสร้างให้เด็กๆ แล้ว ก็ต้องทำให้มันได้จริงๆ”

อีกไม่กี่ปี เด็กกรับใหญ่จะมีความรู้และฝีเท้าน่ากลัวขนาดไหน…ไม่กล้าคิดเลย

 

ติดตามเรื่องราวของกรับใหญ่ อะคาเดมี:

Facebook: Krabyai Academy-กรับใหญ่อะคาเดมี

Author

ศรัณย์ เสมาทอง

Author

นักเขียนและผู้ผลิตรายการเชิงสารคดีอิสระ ชอบตะลอนเวิร์กตามที่ต่าง ๆ พร้อมเล่าเรื่องระหว่างการเดินทาง และบ่อยครั้งก็บันทึกประสบการณ์เป็นบทกวี

3KoK

Illustrator