Summary
เก็บตกบรรยากาศติวเข้ม พร้อมความรู้ “ฉบับพกพา” จากค่ายดนตรี THE POWER BAND MUSIC CAMP 2025 ส่วนสำคัญหนึ่งของโครงการประกวดวงดนตรีสากลระดับประเทศ ซีซัน 5 กิจกรรมต่อเนื่องที่จัดขึ้นเป็น “ปีที่ 3” กับกิจกรรมอัปสกิลดนตรีแบบโปรแกรมแน่นๆ เพื่อสร้างมิตรภาพและเน้นทักษะกับประสบการณ์ดนตรีสู่นักดนตรีรุ่นใหม่ ตลอด 3 วันเต็ม ในพื้นที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
Thaipower.co เก็บบรรยากาศ 3 วันเต็มของพลังดนตรีและการเรียนรู้ พร้อมเสียงของผู้ได้ “ตั๋ว” สู่รอบชิงชนะเลิศ จากการเข้าร่วมกิจกรรม “ติวเข้ม” ทางดนตรีครั้งนี้ กับกิจกรรม THE POWER BAND MUSIC CAMP 2025
ค่ายดนตรีที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ส่วนหนึ่งของโครงการประกวดวงดนตรีสากลระดับประเทศ THE POWER BAND SEASON 5 จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมพันธมิตรค่ายเพลงระดับแนวหน้าของประเทศจับมือกับเหล่าพันธมิตรในอุตสาหกรรมดนตรี และ Multiply by Eight ภายใต้คอนเซปต์ MUSIC CREATES MORE POSSIBILITIES พลังดนตรี เป็นไปได้ ไม่สิ้นสุด อ่านเรื่อง MUSIC CAMP เมื่อซีซันที่แล้ว คลิกที่นี่
นี่คือพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้น้องๆ วงดนตรีที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศจากรอบโซนนิ่งทั้ง 4 สนามทั่วประเทศ ได้มาเติมพลัง แบ่งปันแรงบันดาลใจ และเสริมทักษะทั้งในด้านการเล่นดนตรีจากวิทยากรผู้อยู่ในวงการดนตรีทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ไม่ว่าจะภาคทฤษฎีหรือภาคปฏิบัติ…เรียนรู้การเป็นศิลปินจาก “ศิลปิน” ที่มาเป็นวิทยากร ได้ร่วมทำงานกันไปจนถึงการสร้างตัวตนบนเส้นทางศิลปินมืออาชีพ และเตรียมความพร้อมไปสู่รอบชิงชนะเลิศอย่างเต็มที่ต่อไป จาก 11 เซ็กชัน ก่อนปิดท้ายด้วยโชว์สุดพิเศษมอบแรงบันดาลใจเต็มอิ่มจากวง ASIA7
และมากกว่าการแข่งขัน คือการสร้างสังคมดนตรี THE POWER BAND MUSIC CAMP ไม่ได้หยุดแค่การติวเข้มเพื่อแข่งขัน แต่เน้นเปิดโลกใหม่ให้ผู้เข้าประกวดที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศทั้งหมด 29 วงจากทั้งสองรุ่น ทั้งรุ่นมัธยมศึกษาและรุ่นบุคคลทั่วไป: เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ ได้จับมือทำความรู้จักจากการพบเจอเพื่อนต่างวง ต่างโรงเรียน…ต่างที่มา…ต่างไลฟ์สไตล์ แต่ต่างมี “ดนตรี” เป็นภาษาเดียวกัน ได้แลกเปลี่ยน ได้แชร์ ได้รับแรงบันดาลใจกลับไปพัฒนาวงของตัวเอง พร้อมสร้าง “เพื่อนใหม่” ใน Music Community ใบนี้
เปิดแคมป์ดนตรีกันแบบคึกคัก ด้วยแรงบันดาลใจจาก คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย และทีมบุคคลากร จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ด้วยการให้น้องๆ วงประกวดเขียนความฝันของตัวเองลงในกระดาษแล้วพับเป็นจรวดปล่อยไปในอากาศและมีการจับลำดับการแสดงในวันแข่งรอบตัดสิน…เป็นการจุดสตาร์ตกิจกรรมแคมป์ดนตรีครั้งนี้
DAY 1
ค่ายดนตรีกับ 4 คลาสเรียนแรก ทั้งในเรื่องการเตรียมความพร้อมในการเป็นศิลปิน โดยมีศิลปินตัวจริงมาเป็นวิทยากร การเรียบเรียงดนตรีที่ทุกวงประกวดต้องได้นำไปใช้อย่างแน่นอน เพิ่มเติมคลาสที่นำการแสดงมาพัฒนาการเพอร์ฟอร์มบนเวที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การ Coaching จากสามกรรมการรอบโซนนิ่งร่วมกับวิทยากรทางดนตรีให้กับวงประกวดแบบ “เดี่ยว” ไล่ไปทีละวงจนครบ
SECTION: Artist Development
เริ่มคลาสแรกจากจุดเริ่มต้น “อยากเป็นศิลปินต้องเรียนรู้อะไรบ้าง” พัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ สู่การเป็นศิลปิน แนวคิดการสร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์ การสร้างฐานแฟนเพลง และการทำงานในวงการดนตรี เซ็กชันนี้ได้ D Gerrard (คุณอุกฤษ วิลลีย์บรอด ดอนกาเบรียล) และ โพรดิวเซอร์คู่ใจอย่าง ขลุ่ย บริพัตร (คุณบริพัตร หวานคำเพราะ) มาช่วยเติมเต็มทุกมุมมองจากประสบการณ์ของศิลปินตัวจริง โดยมี อ.เช่ (อัคราวิชญ์ พิริโยดม) ชวนพูดคุยและช่วยซักถามเคล็ดลับดีๆ ให้วงผู้เข้าประกวดจากบนเวที ชวนอ่านความคิดเบื้องหลังกิจกรรม MUSIC CAMP คลิกที่นี่
“การจะเป็นศิลปินอาชีพมันอาจจะไม่ได้ทำเฉพาะสิ่งที่ชอบ…” D Gerrard มอบเคล็ดลับจากสิ่งที่เขาใช้ในการเป็น “ศิลปิน” ให้น้องๆ “เราต้องเป็นศิลปินในทุกที่ ไม่เฉพาะในห้องอัด… คิดอย่างศิลปิน ทำอย่างศิลปิน พูดอย่างศิลปิน เราต้องขยายมุมมองในการฟังเพื่อเปิดโลกใหม่ๆ เสมอ วิธีที่จะแตกต่างคือการร้องในแบบสื่อภาษา เพื่อสะท้อนทั้งทำนองและเนื้อเพลง และเพลงที่จริงใจที่สุดนั่นแหละ คือเพลงที่จะทำให้คุณชนะ” อ่านบทสัมภาษณ์สร้างแรงบันดาลใจจาก D Gerrard คลิกที่นี่
SECTION: Music Arranging
วงดนตรีจะน่าสนใจหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการเรียบเรียงเพลงให้โดดเด่นและเข้ากับเอกลักษณ์ของวง คลาสนี้ อ.ต้นตระกูล แก้วหย่อง จากวง ASIA7 จะพาน้องๆ ทดลองการเรียบเรียงดนตรีใหม่ๆ ฝึกการตีความ และเปิดมุมมองในการทำโชว์ที่แตกต่างสุดคูลแบบไม่ซ้ำใครจาก อ.ต้นตระกูล แก้วหย่อง ชวนทำความรู้จักอ.ต้น คลิกที่นี่
“ผมได้เห็นน้องๆ วงประกวดที่มาเล่นวันนี้แต่ละคนมีฝีมือมาก นี่คือเพชรเม็ดงามของเมืองไทยเลย เด็กรุ่นใหม่เก่งมากๆ ผมเชื่อว่าการทำ THE POWER BAND MUSIC CAMP เป็นการ shape น้องๆ ที่เก่งมากอยู่แล้ว ให้ลงตัวมากขึ้น” อ.ต้นตระกูลสรุป
ในขณะที่วงประกวดอย่างวง Woodstock รุ่นมัธยมศึกษา ได้รับเอเนอร์จีดีๆ จากการมาร่วมกิจกรรมแคมป์ดนตรีครั้งนี้อย่างเต็มอิ่ม “เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากครับ รู้สึกว่าได้เรียนรู้ทั้งเทคนิคใหม่ๆ มีมุมมองที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับดนตรี ได้เจอเพื่อนที่มีความฝันคล้ายกัน และมีโอกาสแลกเปลี่ยนไอเดียกัน ทำให้รู้สึกมีกำลังใจ
SECTION: Band Coaching
การแสดงสดบนเวทีของทุกวงที่เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมฟังคำแนะนำจากโค้ชทั้ง 6 ท่าน โดยในรุ่นมัธยมศึกษา (High School Class) มีคณะกรรมการทั้ง 3 ท่านที่อยู่กับน้องๆ มาตลอดทุกสนาม ได้แก่ พี่ติ๊ก (กฤษติกร พรสาธิต) พี่เป้ (ไพสิฐ คำกลั่น) และ อ.แป๊ป (วิโรจน์ สถาปนาวัตร) มาชี้จุดแข็งและแก้ไขจุดอ่อนให้แต่ละวงอย่างตรงไปตรงมา และมีประโยชน์อย่างยิ่ง อ่านมุมมองของกรรมการทั้ง 3 ท่านนี้ คลิกที่นี่
ส่วนรุ่นบุคคลทั่วไป: เส้นทางสู่ศิลปินอาชีพ (Professional Class : Road To Artist) ได้อีก 3 โค้ชแถวหน้าของวงการอย่าง “Billy Akin” (คุณอคิณกรณ์ พรจินดารักษ์) อ.ต้นตระกูล แก้วหย่อง และ เอี่ยว The Richman Toy (อ.ปุรวิชญ์ ขาวลออ) มาชี้แนะอย่างเข้มข้น “สนุกมากครับที่ได้มาเป็นโค้ชในปีนี้” พี่เอี่ยวทำนายได้เลย “จริงๆ อิจฉาน้องๆ ที่ได้มาเข้า THE POWER BAND MUSIC CAMP ถ้าผมได้ย้อนกลับไปเป็นเด็ก การได้อยู่ในแคมป์นี้จะมีประโยชน์มากเลย และผมว่ารอบไฟนอลน่าจะเดือดแน่ๆ”
“พวกหนูได้มีประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ
ได้เรียนรู้เกี่ยวกับดนตรีเพิ่ม และยังได้เรียนวิชากับนักดนตรีมืออาชีพระดับโลก!
รู้สึกมีความสุขมากค่ะ”
วง OZONE รุ่นมัธยมศึกษา
อ่านเรื่องของวง OZONE คลิกที่นี่
“ครั้งแรกของพวกเราที่แคมป์ ได้ทั้งเพื่อนใหม่
ได้ทั้งความรู้ดีๆ จากวิทยากรหลายท่าน
ได้คำแนะนำหลายอย่างที่จะได้นำไปปรับแก้ให้โชว์ของเราดีและเจ๋งขึ้น
อยากให้จัดแคมป์แบบนี้ทุกๆ ปีเลยนะครับผม”
วง SUNTOY รุ่นบุคคลทั่วไป: เส้นทางสู่ศิลปินอาชีพ
อ่านเรื่องของวง SUNTOY คลิกที่นี่
SECTION: Personality Development
บนเวที บุคลิกภาพและการสื่อสารสำคัญไม่แพ้ดนตรี คลาสนี้มี ครูหนิง (ผศ.ดร.พันพัสสา ธูปเทียน) อาจารย์ประจำสาขาวิชาสื่อและการสื่อสาร วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล / ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาบุคคลิกภาพ ผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ ละคร หลายเรื่อง รวมถึงล่าสุดซีรีส์ Shine จะมาไกด์ให้กับน้องๆ นักร้องนำจากทุกวงได้เข้าใจอินเนอร์ในการสื่อสารเพลง ทั้งจากการร้องและท่าทาง การแสดงออกบนเวที การเคลื่อนไหว และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดึงดูดใจผู้ชม นับเป็นการติดอาวุธสำคัญอีกอย่างหนึ่งให้กับผู้เข้าประกวด อ่านเรื่องครูหนิง คลิกที่นี่
“ตอนแรกมีแพลนมาอย่างหนึ่ง แต่พอสอนจริงๆ เขาเป็นศิลปินกันอยู่แล้ว มีแพสชันในตัวเอง” ครูหนิง หมายถึงว่า ไม่ได้มาเริ่มต้นที่ศูนย์ แต่ได้มอบมุมมองให้น้องๆ ได้นำไปต่อยอดใช้งานในการประกวดจริง “เหมือนเราเจอเพชรหลายเม็ดเลย เราเลยปรับวิธีการสอน เหมือนสอนนักแสดงมืออาชีพจริงๆ”
Suggestion
DAY 2
เริ่มต้นแคมป์ของวันนี้ด้วยเซ็กชันสุดคูลยอดฮิตของบรรดาผู้เข้าประกวด อย่างหัวข้อ Rap ก่อนจะขยับไปเรียนรู้เรื่องสำคัญเกี่ยวกับการซาวนด์เช็กเพื่อเตรียม “พื้นที่” ในการแสดงให้พร้อม จากภาคทฤษฎีและการพูดคุย เริ่มเข้าสู่ภาคปฏิบัติแบบเต็มอิ่ม โดยมีเซ็กชันใหม่แกะกล่องของแคมป์ปีนี้ คือการสัมมนากับอาจารย์และผู้ควบคุมวงประกวดเพื่อให้มุมมองที่ครบมิติในการเตรียมวงประกวดต่อไป
SECTION: Rap Music
เมื่อ Rap ไม่ใช่แค่การพูดเร็ว แต่คือการเล่าเรื่อง ถ่ายทอดอารมณ์ และเชื่อมโยงกับผู้ฟังได้อย่างทรงพลัง THE POWER BAND MUSIC CAMP ปีนี้ ได้ AUTTA แร็ปเปอร์รุ่นใหม่ นำประสบการณ์ของเขามาพาน้องๆ รู้จักโครงสร้าง Rap การเขียนเนื้อและเทคนิคการแสดงสด …เป็นเซ็กชันที่วงประกวดได้มีโอกาสร่วมแต่งเพลงแร็ปด้วยกันกับศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบอย่างน่าประทับใจ
“ไม่อยากให้เขาคิดถึงแค่สกิลการเล่นอย่างเดียว แต่อยากให้เขาคิดถึงเรื่องการสื่อสารให้มากขึ้นด้วย” AUTTA สารภาพถึงความตั้งใจและการได้มาแบ่งปันเรื่องราวของเขาที่แคมป์แห่งนี้ “…ให้พวกเขาเอาความเก่งไปคุยกับคนยังไงได้บ้าง ซึ่งตอนเด็กผมไม่เก็ตเลย ซึ่งสุดท้ายผมพบว่าการสื่อสารมันสำคัญที่สุดเลย”
“พวกเราดีใจมากๆ ที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ และได้มาเข้าร่วม THE POWER BAND MUSIC CAMP ในปีนี้ เราได้ความรู้เพิ่มเติมมากมาย” วง SISWEET รุ่นมัธยมศึกษา บอกเล่า “ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแต่งเพลง Rap การเพิ่มทักษะความรู้ของเครื่องดนตรีแต่ละตำแหน่งในวงเรา ได้เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้น ได้ประโยชน์จากแคมป์นี้มาก และบรรยากาศในแคมป์ก็สนุกมากๆ” อ่านเรื่องของวง SISWEET คลิกที่นี่
SECTION: Sound Check and Stage Organization
ความเข้าใจการทำงานของ Sound System บนเวทีคอนเสิร์ตเบื้องต้นเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเบื้องหลังการแสดงสด คือระบบเสียงและการจัดการเวทีที่ดี คลาสนี้มี Booster Triangle Wave (อ.กฤตธรรม ขาวแจ้ง) อาจารย์พิเศษสาขาวิชาดนตรีสมัยนิยม วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล / Triangle Wave Studio / Sound Engineer / Arranger / Singer จะสอนให้น้องๆ เข้าใจการทำ Sound Check ที่มีประสิทธิภาพ การวาง Stage Plan การเขียน Technical Rider รวมถึงการทำงานร่วมกับทีม โพรดักชัน
“รู้ดีใจและตื่นเต้นมากครับที่ได้มา เพราะเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้เข้าร่วมงานอบรมเกี่ยวกับดนตรี ได้ความรู้เฉพาะทาง และได้รู้จักเพื่อนใหม่หลายๆ คนที่มีความสนใจเกี่ยวกับงานดนตรีเหมือนกัน ได้คำแนะนำดีๆ จากศิลปินรุ่นพี่ เกี่ยวกับการสร้างตัวตนให้วง” วง Revenge For Loseboy รุ่นบุคคลทั่วไป: เส้นทางสู่ศิลปินอาชีพ ให้ความเห็น “เราได้ความรู้หลายอย่างเลยครับ สร้างความหนักแน่นชัดเจนในแนวทางของวง สร้างระบบของการทำงานร่วมกัน ทำความรู้จักเกี่ยวกับอุปกรณ์ดนตรีของตัวเองให้มากขึ้น เรียนรู้การทำงานร่วมกันกับทีม backstage ให้มากขึ้นครับ” อ่านเรื่องของวง Revenge For loseboy ผ่านนักร้องนำ คลิกที่นี่
SECTION: Instrumental Clinic
เข้าสู่การเวิร์กช็อปเฉพาะเครื่องดนตรีกับผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้าน…“คลินิก” แยกสอนตามเครื่องดนตรี ให้น้องๆ ได้ฝึกเทคนิคเฉพาะตัว ที่จะมาให้คำแนะนำน้องๆ ในการฝึกฝนเฉพาะตัว พัฒนาตัวเองสู่นักดนตรีระดับมืออาชีพ และเทคนิคเคล็ดลับอีกมากมาย เรียกว่าติวเข้มให้เชี่ยวชาญกันทุกตำแหน่ง และพร้อมในการขึ้นแสดงกับเพื่อนสมาชิกในวงได้อย่างมืออาชีพ
”รู้สึกดีใจมากๆ ครับ ที่ได้ร่วม THE POWER BAND MUSIC CAMP อีกครั้ง ความรู้ที่ได้และชอบมากๆ คือ การได้เข้าคลาสเรียนกีตาร์กับ อาจารย์เเง้ว (อ.อาณัติ เอี่ยมวงษ์ศรีกุล) ผมได้รู้สิ่งที่ผมไม่ได้นึกถึงมันมาก่อนเลย เเต่ผมไม่บอกหรอกนะว่าคืออะไร เเล้วก็รู้สึกประทับใจมากๆ ที่ได้เจอศิลปินที่ต่างมาให้ความรู้กับพวกเรา มีประโยชน์กับผมและวงผมมากๆ พี่ๆ ทุกคนเก่งมากๆ เก่งจนทึ่ง การเข้าแคมป์ดนตรีในครั้งนี้ทำให้ผมมีไฟและมีกำลังใจในการพัฒนาตัวเองขึ้นเยอะมากๆ ขอบคุณทาง THE POWER BAND MUSIC CAMP มากๆ ครับ รอบชิงชนะเลิศ คงจะทำตามในสิ่งที่พวกเราคิดว่าถูกต้อง เล่นในเเบบของเรา ก็เอาความรู้จากที่แคมป์ไปพัฒนาต่อครับ” วง Dr.Jull รุ่นบุคคลทั่วไป: เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ วงที่รวมตัวกันจากสมาชิกที่เคยอยู่ต่างวง มาพบเป็นเพื่อนกันจาก THE POWER BAND MUSIC CAMP ครั้งก่อนเปิดเผยกับเรา
เซ็กชันนี้มีการแยกคลินิก เป็น Vocal Clinic โดย Nok Phrimaphaa (อ.พริมาภา กรโรจนชวิน) / Guitar Clinic โดย Ngaw Arnut (อ.อาณัติ เอี่ยมวงษ์ศรีกุล) / Bass Clinic โดย May Patcharapong (อ.พัชรพงศ์ เรืองหิรัญวงศ์) / Drum Set Clinic โดย Mong Kridsana (อ.กฤษณะ พุธพริ้ง) / Keyboard Clinic โดย Manyx Boy (อ.ฐิติวัจน์ จรพุทธานนท์) / Horns Clinic ดังนี้ Trumpet โดย Pohpeya (อ.ยุทธศักดิ์ พลายภู่) Saxophone โดย Katejasz (อ.รัฐเขตต์ ช่วยสมบูรณ์) Trombone โดย Dr.Zern (ดร.อนันท์พร เอี่ยมชาญบรรจง) อ่านเรื่องของ อ.นก พริมาภา คลิกที่นี่
“รู้สึกว่าการถ่ายทอดสกิลดนตรีที่แคมป์น่าสนใจยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี
สำหรับปีนี้วงเราจะนำสิ่งที่ได้ทำให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนของพวกเราจริงๆ”
วง FUSION ISLAND รุ่นมัธยมศึกษา
อ่านเรื่องของวง FUSION ISLAND คลิกที่นี่
SECTION: Seminar: Band Directors Connect
กิจกรรมสัมมนาแลกเปลี่ยนมุมมองการพัฒนาศักยภาพวงดนตรีในระดับเยาวชน สำหรับอาจารย์และผู้ควบคุมวงดนตรีที่เข้าร่วมประกวดโครงการ THE POWER BAND โดย อ.ดิว (ภูวิช ทวาสินชนเดช) อาจารย์ประจำสาขาดนตรีสมัยนิยม มหาวิทยาลัยมหิดล / ศิลปินวง ASIA7 (มือเบสสนับสนุน อะตอม ชนะกันต์) สังกัดค่าย Genelab มาร่วมแชร์ประสบการณ์จริงจากทั้งเวทีและการทำงานวงมืออาชีพ
“ส่วนตัวผม ผมว่ามีประโยชน์มากๆ ครับ คุณครูและผู้คุมวงทุกคนได้มีโอกาสพูดคุย ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้กัน” ครูจุ้ย ผู้คุมวง SISWEET แบ่งปันความคิดเห็น “ผมได้เห็นมุมมองหลายๆ ด้านจากคุณครูผู้คุมวงจากท่านอื่นด้วย ดีมากๆ ครับ ปีหน้าถ้าผมได้มีโอกาสมาเข้าแคมป์อีก ก็อยากให้มีเซ็กชันของผู้คุมวงอีกครับ”
Suggestion
DAY 3
นับเป็นอีกวันดีๆ สำหรับการเตรียมความพร้อมให้กับ “พื้นที่บนเวที” แบบเน้นๆ เพื่อให้วงประกวดนำไปใช้งานจริงได้ การสาธิตในแต่ละขั้นตอนของการ “ซาวนด์เช็ก” ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญและมีรายละเอียดปลีกย่อย ที่ส่งผลต่อการแสดงบนเวที นอกจากการสาธิตแล้ว ศิลปินยังขึ้นแสดงเป็นตัวอย่างและส่งแรงบันดาลใจต่อให้กับวงประกวดซึ่งเป็นคนดนตรีรุ่นใหม่ด้วยมินิคอนเสิร์ตอย่างใกล้ชิด จากศิลปิน ASIA7
SECTION: Sound Check Demonstration
การสาธิตการทำงานของทีมงานวง ASIA7 ในขั้นตอนการ Set up และการ Sound Check มาดูกันว่าการทำงานในแบบมืออาชีพต้องทำอะไรบ้าง ทำยังไงถึงจะใช้เวลาในการ Sound Check ให้คุ้มค่าที่สุด โดยมี Art Chakkrabong (อ.จักรพงษ์ บุญเชิด) อาจารย์พิเศษสาขาวิชาดนตรีสมัยนิยม วิทยาลัย ดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ลงมาดูแลทุกขั้นตอน
“หนูรู้สึกประทับใจคุณครูทุกท่านที่ให้ความรู้ หนูรู้สึกว่าทุกวินาทีมันมีค่ามากๆ เลยค่ะ คุณครูสอนให้หนูเข้าใจและนำไปใช้ได้จริงๆ ค่ะ รวมถึงเทคนิคอื่นๆ ที่หนูไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะ 3 วันที่ผ่านมาเวลามันผ่านไปไวมากๆ เลยค่ะ และใน 3 วันนี้หนูมิตรภาพดีๆ และก็ได้เพื่อนเยอะมากๆ เลยค่ะ”
“หนูคิดว่า หนูจะเอาคำแนะนำของคุณครูและท่านคณะกรรมการไปปรับใช้ทางด้านดนตรีในวงให้มีความหนักแน่นมากขึ้น แล้วก็นำการสอนเรื่องการแสดงบนเวที มาปรับใช้กับการแสดงของหนูเอง ให้แสดงออกมาเป็นธรรมชาติ แสดงตัวตนของวงเราที่ออกมาจากใจและจริงใจกับคนฟัง สื่อสารผ่านบทเพลงที่หนูจะแสดงให้ทุกคนได้ดูในรอบชิงชนะเลิศนี้ค่ะ” วง Destiny รุ่นมัธยมศึกษา บอกกับเราอย่างนั้น
“รู้สึกว่าได้รับความรู้มากมายหลายอย่าง
ทำให้เราต่อยอดในเส้นทางของเราได้
รู้สึกดีใจที่ได้มามิวสิกแคมป์ ได้มาเจอเพื่อนๆ วงอื่นๆ
พอได้มาคุยก็รู้จักกันมากขึ้น เปิดใจให้กันและกัน”
วง SOUL SYNC รุ่นมัธยมศึกษา
อ่านเรื่องของนักร้องนำวง SOUL SYNC คลิกที่นี่
SECTION: Ensemble Workshop
ศิลปิน ASIA7 วงที่มีเอกลักษณ์จากการผสมดนตรีไทยเข้ากับแจ๊สและป็อปสมัยใหม่ มาเป็นตัวอย่างในการนำการสาธิต Sound Check Demonstration มาใช้งานจริงแบบถ่ายทอดประสบการณ์อย่างใกล้ชิดให้น้องๆ ได้เห็นว่าการทำงานเป็นทีมนั้นสำคัญแค่ไหน ตั้งแต่การบาลานซ์เสียงเครื่องดนตรีไทยกับสากลให้ลงตัว การตีความเพลงในสไตล์ต่างๆ จนออกมาเป็นตัวเอง ไปจนถึงการจัดโชว์ให้ดึงดูดผู้ชม ที่ถือว่าเป็นหัวใจของการอยู่บนเวที
“ดีใจกับทุกคนมากๆ มาถึงรอบนี้คือเก่งมากๆ แล้ว” วง ASIA7 ขอมอบกำลังใจ “ต่อให้รอบต่อไปจะได้ที่เท่าไรก็ตาม ขอให้ทุกคนภูมิใจว่า ทุกคนมาตรงนี้ได้รับประสบการณ์ที่ดีมากๆ ที่คนอื่นๆ อาจจะไม่ได้รับโอกาสแบบนี้ ขอให้ภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำ และสนุกกับสิ่งที่ได้เล่นออกไป เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับน้องๆ และสำหรับพวกเราด้วยเช่นกัน ก็คือดนตรี”
ตลอดสามวันของการเรียนรู้และการสร้างมิตรภาพทางดนตรี ถูกปิดฉากอย่างงดงามด้วย Mini Concert จากวง ASIA7 ศิลปินอาชีพ ที่มอบแรงบันดาลใจผ่านเสียงดนตรีในแบบฉบับของพวกเขา ก่อนจะแยกย้ายกันไปซ้อม พวกเขายังได้รับประกาศนียบัตร มอบโดย อ.หลง (นพดล ถิรธราดล) รองคณะบดีฝ่ายบริการวิชาชีพ และอาจารย์ประจำสาขาวิชาดนตรีแจ๊ส วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล คลิกอ่านบทสัมภาษณ์อาจารย์หลง คลิกที่นี่
THE POWER BAND MUSIC CAMP 2025 คืออีกก้าวสำคัญที่เชื่อมความฝันของเยาวชน นักดนตรีไทยสู่เส้นทางมืออาชีพ เพราะพลังดนตรี…สร้างความเป็นไปได้เสมอ
วงประกวดทั้งหมด 29 วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ THE POWER BAND 2025 SEASON 5 จากทั้ง รุ่นมัธยมศึกษา และ รุ่นบุคคลทั่วไป: เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ เช็กชื่อวงที่ผ่านเข้ารอบทั้งหมด คลิกที่นี่
