People

“ครูเพียว” ผู้คืนวง Belebt
ลงสังเวียนTHE POWER BAND อีกครั้ง

ณัฐวิมล เศารยะพงศ์ 31 Jul 2023
Views: 978

ในปีนี้ วง Belebt ที่เราเคยรู้จักจากการแข่งขันปี 2022 ไม่ได้กลับมาแข่งดนตรีด้วยเป้าหมายอยากทิ้งทวนความสนุกหลังเรียนจบเหมือนรุ่นพี่ แต่พวกเขา “Gen.2” อยากมาค้นหาประสบการณ์ทางดนตรีที่ “เป็นไปได้” ให้กับตัวเองมากกว่า

วงดนตรีจากจังหวัดเหนือสุดแดนสยาม มารวมตัวกันครั้งใหม่ภายใต้ชื่อเดิมวง “เบเลบท์” มี ครูเพียว – เจริญศักดิ์ กันสม ทำหน้าที่ครูผู้คุมวง

5 เรื่องไม่ลับ
ของครูเพียวกับชาวเบเลบท์

• ครูเพียว เรียนจบด้าน “ดนตรี” และเคยเป็นนักร้องนำวงดนตรีสมัยเป็นนักศึกษา
เข้าประกวดดนตรีหลายเวทีแต่ก็ไม่เคยชนะสักเวที เลยปฏิญาณตนว่า “จะไม่เล่นวงสตริงอีกต่อไป”

• แม้จะตั้งเป้าว่าไม่อยากข้องเกี่ยวกับวงสตริงอีก
แต่โชคชะตาก็ขีดเส้นให้ต้องมาบริหารวงสตริง โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ชื่อเบเลบท์ หลังเข้าทำงานได้แค่ 3 วัน

• ครูเพียว เคยตั้งชื่อวงว่า “กะเพราหมูกรอบ” และ “มาม่าหมูกรอบ”
แต่ดูทรงแล้วไม่น่าจะไปรอด เลยเปลี่ยนชื่อมาเป็นเบเลบท์ แล้วก็ได้ไปต่อจริงๆ

• ถ้าเป็นไปได้วงที่เบเลบท์ อยากไป featuring มากที่สุดตอนนี้
คือ 4EVE ก็อยากวัดไปเลย เพราะรู้ว่าสนุกแน่ๆ

เพราะสมาชิกเดิมรุ่นพี่เรียนจบกันไปเกือบหมด การกลับมาประกวดที่เวที THE POWER BAND 2023 SEASON 3 “IT’S POSSIBLE, MUSIC MAKES LIFE POSSIBLE …พลังแห่งดนตรี พลังแห่งทุกความเป็นไปได้” โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ครูเพียวนำวง Belebt ตั้งใจกลับมาสร้างปรากฏการณ์ความเป็นไปได้ครั้งใหม่

ปีนี้วงลงแข่งที่สนามขอนแก่นใน Class A และกลับมาลงสนามแข่งอีกครั้งที่เชียงใหม่ใน Class B ประกวด 2 รุ่นควบ…วิธีคิดแบบนี้ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เราชวนครูเพียวคุยถึงเรื่องที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อน

 

✔ ให้ปรับตัวอย่างไว โดยให้โดดลงสนามแข่งจริงเลย

ไม่ได้มาชิงแค่ถ้วยรางวัล!

เป็นไปได้ไหม ถ้าจะทำให้ความสำเร็จเกิดขึ้นอีกครั้ง?! อาจเป็นความหวังเล็กๆ ของคุณครูผู้คุมวง โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย หลังจากเคยได้รองแชมป์อันดับ 2 จาก THE POWER BAND ครั้งก่อน

ปีนี้ครูเพียวตัดสินใจพาเบเลบท์รุ่นฟอร์มวงใหม่ (แน่นอนว่าพวกเขายังไม่มีประสบการณ์) มาตัดริบบิ้นที่เวทีนี้ ซึ่งสมาชิกจำนวน 10 คน ออกเดินทางจากเชียงรายไปประกวดสนามภูมิภาคมา 2 แห่ง ไม่ได้หวังแค่มาชิงได้ถ้วยรางวัล “ผมอยากให้เด็กๆ ได้เปิดประสบการณ์เล่นดนตรีของตัวเองมากกว่า”

“โอกาสในการเล่นดนตรีของเด็กๆ วงเชียงรายอย่างเรา นานๆ จะมีเวทีใหญ่ๆ ให้แข่งสักที
ได้พาเด็กๆ ไปแข่งเวทีระดับประเทศ อย่าง THE POWER BAND 
ทำให้เราได้เห็นคู่แข่งจากโลกภายนอกบ้าง”

ครูเพียว ผู้คุมวง Belebt
โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

“พอประกวดซีซันที่แล้วเสร็จ ไม่กี่เดือนก็มีประกาศซีซันที่ 3 ต่อ ตอนนั้นเด็กรุ่นแรกเรียนจบไป เหลือแต่น้องบอม มือกลอง ผมเลยต้องเริ่มเฟ้นหานักดนตรีใหม่ ก็จับหลายคนที่เล่นวงดุริยางค์มาลองดู กลายเป็นมีนักดนตรีเยอะมาก (หัวเราะ) แต่ที่คัดมา 10 คนนี่ ต้องบอกเลยว่าฝีมือจ๋าๆ ทั้งนั้นครับ”

เตรียมความพร้อมกับเวลาซ้อมที่เหลือแค่ 3 เดือน ก็ต้องใช้พลังสู้กันหนักหน่อย ครูเพียวเลยพาสมาชิกทั้งหมดไปเข้าแคมป์ฝึกดนตรีที่โรงเรียน ให้เป้าหมายเป็นหนึ่งเดียว ถ้าทุกคนอยากสร้างผลงานให้ดี ก็จำเป็นต้องขยัน ฝึก! ฝึก! ฝึก! และ ฝึกอย่างหนัก!! เพื่อทำฝันให้เป็นจริง

 

✔ สร้างเอกลักษณ์ให้วงเป็นที่จดจำ

จับโน้ตมาปั้นเป็นวง…พิทักษ์ฝันให้ลูกศิษย์

ไม่ว่าจะเป็นเจนเก่าหรือใหม่ คาแรกเตอร์บนเวทีของวงเบเลบท์ มักเต็มไปด้วยความสว่างสดใส บวกความสนุกของเพลงที่เลือก ตรงนี้คือการวางแผนที่มาจากไอเดียของครูเพียว “รอบที่แล้ว เรามีนักร้อง 2 คน (พลอย กับ สตางค์) คลิกอ่านบทสัมภาษณ์วง Belebt รุ่นพี่ การใช้เสียงประสานก็จะเป็น 1 กับ 3”

 ภาพโดย Expert Kit

“ปีนี้มีนักร้องเพิ่มเพราะผมอยากให้มีมิติมากขึ้น เลยทำเสียงประสานคู่ 5 มาอีกตัว แล้วนักร้องใหม่ 3 คนนี่จะเป็นแบบเกิร์ลกรุ๊ปที่ร้องเพลงได้ เต้นได้ เป็นแนวทางใหม่ที่ผมอยากทดลองทำดู”
“ทำวงเบเลบท์ จะคล้ายๆ การทำวงประสานเสียง ผมก็ใช้หลักการเดียวกัน” ด้วยโครงสร้างที่วางมาแบบนี้ พอเครื่องดนตรีทุกชิ้นบรรเลงร่วมกัน ก็จะได้ซาวนด์กลมกลืนเป็นหนึ่ง แต่เราก็อดถามไม่ได้ว่า “หากขาดเครื่องดนตรีชิ้นใดชิ้นหนึ่งไป จะเป็นยังไง?”
~ “ก็ไปกันไม่เป็นเลยครับ เล่นเป๋กันไปหมด”
ครูเพียวหัวเราะกับคำตอบ

สดใสแบบ x 10
ใครเป็นใครใน Belebt Gen. 2

• ไอซ์ – อัญชิสา สมศรี (นักร้อง)
มาร้องกับเบเลบท์เพราะฝันเป็นนักร้องอาชีพ แต่ก่อนมาไอซ์เคยหนีไปทำใจอยู่เกือบเดือนเพราะกลัวครูเพียว พอได้มาร้องเพลงจริงๆ ไอซ์ตื่นเต้นมาก จนอุทานในใจว่า “โอ้ว…เป็นนักร้องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง !!”

• เบียร์ – นิตยา ยอดสิงห์ และ พัด – พัดชา มหาวงศ์ (นักร้องและแดนเซอร์)
ชอบร้อง ชอบเต้น ครูเลยจับมาร้องนำ ทั้งคู่มีสตางค์กับพลอย วงรุ่นพี่เป็นไอดอลที่อยากเจริญรอยตามเรื่องร้องเพลง

• บอม – ธนันชัย ใจเผิน (กลอง)
สมาชิกเก่าหนึ่งเดียวของเบเลบท์รุ่นพี่ เรียนดนตรีกับครูเพียวตั้งแต่ ม.2 บอมเคยท้อกับการเล่นดนตรีจนคิดอยากเลิก แต่ด้วยพลังรักดนตรีที่เรียกให้เขากลับมา บอมเลยจะปักหลักเล่นกลองให้วงจนจะแหลก เอ๊ย เรียนจบ! กันไปข้าง

• กำปุ้ง – ณรงศักดิ์ จาวันนะ (คีย์บอร์ด) 
น้องเล็กในวง ชื่อกำปุ้ง (ที่มาจากคำว่าหยากไย่ในภาษาเหนือ) กำปุ้งเรียนเปียโนมาตั้งแต่ประถม เมื่อ   ออดิชันเข้าวงเลยเล่นคีย์บอร์ด ความฝันเล็กๆ คือสักวันจะเก่งเท่าพี่โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ไอดอลของเขา

• ไมค์ – เฉลิมพล คำนวล และ หวิว – สุชาดา ศรีสุราช (เครื่องเป่า) 
นักดนตรีวงดุริยางค์ เคยเป็นสตาฟรุ่นแรก ครูเพียวเลยจับไมค์ที่เคยเป่าทูบามาเล่นทรอมโบน และจับหวิวที่เคยเล่นแคลริเน็ตมาเล่นอัลโต้แซกโซโฟน – ที่เคยแอบฝันอยู่ห่างๆ วันนี้ทั้งคู่สร้างความเป็นไปได้ให้ตัวเองด้วยการเป็นนักดนตรีตัวจริงในวงเบเลบท์แล้ว

• ไกด์ – พงษ์ศักดิ์ รอดสอน (กีตาร์)
มือเพอร์คัชชันของวงดุริยางค์ ที่อยากเปลี่ยนฟิลมาลองเล่นกีตาร์ดูบ้าง

• คอม – จันทร์สงกรานต์ สามนวล (กีตาร์)
โรงเรียนมีมือกีตาร์เก่งหลายคน ไกด์เลยฉีกไปเล่นเบสเท่ๆ เพื่อรอจะเป็นมือกีตาร์ตัวจริงในเบเลบท์เจน 2 นี่แหละ!

• เพชร – เพชรอรุณ แสงวาทย์ (เบส)
อยากเข้าวงเบเลบท์มาตั้งแต่ ม.4 ตอนนี้ฝันเป็นจริงแล้ว เลยขยันซ้อมเพื่อก้าวเป็นนักดนตรีอาชีพให้ได้

 

✔ หนึ่ง ให้ลงสนามวงจะได้มีประสบการณ์
สอง ให้ลอง “ชกข้ามรุ่น” จะได้เก่งไว

2 สนาม 2 คลาส วัดฝีมือไปเลย

ก่อนมาสนามขอนแก่นและเชียงใหม่ ครูเพียวเคยส่งคลิปออดิชันไปสนามกรุงเทพฯ ด้วย แต่ไม่ผ่าน เลยกลับมาฝึกกันใหม่ “จริงๆ ผมลง Class B ที่เชียงใหม่ไว้ก่อนไปขอนแก่น เพราะอยากให้เด็กๆ ลองแข่งกับรุ่นพี่ๆ ดู แต่ที่พาไปลง Class A ที่ขอนแก่นก่อน เพราะอยากให้เขาได้ประสบการณ์” ก็เพราะวงเพิ่งเริ่มตั้งและเพิ่งมีโอกาสเล่นดนตรีด้วยกัน “เลยให้ลองข้ามขีดจำกัดความสามารถของตัวเองดูก่อนว่าเป็นยังไง” ครูเพียวเฉลย

แม้วงจะตกรอบที่ขอนแก่น แต่เบเลบท์ก็ได้ “วัดความสามารถ” พอมาสนามเชียงใหม่ พวกเขายังใช้เพลง “วัดปะหล่ะ” ของวง 4EVE มาเล่น เพิ่มเติมคือนำคำแนะนำของกรรมการมาปรับใช้ เพราะได้รับคำชมว่า “นี่คือตัวตน”…ของวง อีกเพลงที่ใช้แข่ง ก็เลือกให้สอดคล้องกับคำติชมของกรรมการ คือ “คนหรือไมโครเวฟ” ของ เบล วริศรา

ทั้งสองเพลง  นอกจากบีทจะใกล้เคียงกัน ยังสื่อถึงความสดใส ร่าเริงตามคอนเซปต์วง แล้วเพลง “วัดปะหล่ะ” ยังเป็นเหมือนตัวแทนการ “วัดฝีมือดนตรี” ที่วงตั้งเป้ามาแข่งในซีซันนี้ด้วย

 

✔ ยังไม่เข้ารอบไม่เป็นไร ปีหน้าเจอกันอีกแน่

 

ดนตรี…กับเส้นทางของโอกาสที่ยังต้องก้าวต่อ !

ในโลกแข่งขัน มีเรื่องแพ้ – ชนะเป็นธรรมดา แม้ผลที่สนามเชียงใหม่จะยังไม่ทำให้เบเลบท์ได้ตั๋วไปรอบชิงฯ ที่กรุงเทพฯ แต่ประสบการณ์จากทั้ง 2 สนามสำหรับเด็กๆ ก็บรรลุเป้าหมายตามครูเพียวตั้งใจแล้ว

“ดีใจที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งของ THE POWER BAND SEASON 3 ได้พาวงเบเลบท์รุ่นใหม่ไปเเสดงดนตรีในเวทีระดับประเทศ ได้ไปเห็นบรรยากาศเเข่งขันดนตรีเข้มข้น ได้พาเขาไปเห็นอีกหลายวงว่าเล่นเก่งกันขนาดไหน” 

“ถึงจะฟอร์มวงกันมา 5 เดือน แต่เราซ้อมหนักเพื่อรายการนี้ ถึงไม่เข้ารอบ เเต่วงได้ไปลุย 2 สนาม ได้ลงทั้ง Class A รุ่นมัธยม และ Class B รุ่นทั่วไป ถือว่าเด็กๆ สำเร็จอย่างมากอีกขั้นหนึ่ง แม้จะแอบเสียใจนิดๆ ที่ไม่ได้ไปต่อ (หัวเราะ) แต่จากนี้พวกเราก็จะซ้อมกันต่อและซ้อมหนักกว่าเดิม เพื่อการแข่งขันในโอกาสหน้าครับ”

และตัว ครูเพียว เอง จะยังทำหน้าที่ “ลมใต้ปีก” ผลักดันเด็กๆ ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นวงเบเลบท์ในอนาคต ให้บินขึ้นฟ้าอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเช่นกัน เพราะดนตรีคือเส้นทางของคนมีฝัน ที่ทำให้เป็นไปจริงได้เสมอ…

 

เคล็ดลับในการสร้างวง Belebt ให้พร้อม

✔ ให้ปรับตัวอย่างไว โดยให้โดดลงสนามแข่งจริงเลย

✔ สร้างเอกลักษณ์ให้วงเป็นที่จดจำ

✔ หนึ่ง ให้ลงสนามวงจะได้มีประสบการณ์
สอง ให้ลอง “ชกข้ามรุ่น” จะได้เก่งไว

✔ ยังไม่เข้ารอบไม่เป็นไร ปีหน้าเจอกันอีกแน่

Author

ณัฐวิมล เศารยะพงศ์

Author

นักเขียนที่นอกจากจะทำตัวเป็นทาสแมวตัวยง ยังชอบเอาเวลาว่างจากการเขียนงานไปเสาะหาเรื่องกิน เรื่องเที่ยว แล้วทำให้เป็นเรื่องเดียวกัน

Author

อำพน จันทร์ศิริศรี

Photographer

ช่างภาพอิสระมากว่า 30 ปี...ที่คร่ำหวอดกับการถ่ายภาพรายการทีวีต่างๆ เช่น The Voice, The Rapper, The Stars Idol เป็นต้น และถ่ายภาพคอนเสิร์ตต่างๆ