Playground

“เบื่อ…ส(ห)นาม
ขอสนามดีๆ บ้างได้ไหม”
เสียงจากใจเด็กเชียงแสน

ศรัณย์ เสมาทอง 14 Feb 2024
Views: 550

Summary

จากสนามฟุตบอลที่มีแต่หญ้ากับหนาม เด็กๆ เชียงแสน จังหวัดเชียงราย ก็เล่นกันเสียจน “หญ้าหาย-หนามหมด” แถมพื้นสนามเป็นหลุมเป็นบ่อ รักฟุตบอลกันขนาดนี้ ถ้ามีสนามฟุตบอลหญ้าเทียมมาตรฐานสากล พร้อมโค้ช – อดีตกองหลังทีมชาติไทยลงสนามสอนด้วยตัวเอง เด็กๆ จะพัฒนาฝีมือกันได้ขนาดไหนนะ

“เมื่อก่อนเด็กๆ เขาใช้สนามคุ้มมาก ต่อให้มีหนามและไม่มีรองเท้าใส่ก็ยังจะเล่น”

เดี๋ยวนะ…ไม่เจ็บกันเหรอ!!

“ก็เล่นให้ชินสนาม เอาชนะความลำบาก จนหนามแพ้…และโตไม่ทัน”

หืออออ…แบบนี้ก็ได้เหรอ!!!

ภาพจาก โรงเรียนบ้านแซววิทยาคม

ผอ.ปราโมทย์ ธิศร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแซววิทยาคม หัวเราะเบาๆ เหมือนให้เราตัดสินในใจเองว่าเด็กเชียงแสนเขาบ้าดีเดือดขนาดลงเตะฟุตบอลเท้าเปล่าใน ส(ห)นาม กันจริงหรือเปล่า
แต่พอเห็นภาพสนามดินของโรงเรียนแล้ว ก็น่าจะจริงนะ

 

88 ใน 80”

เชียงแสนเป็นอำเภอที่ติดชายแดน มีแม่น้ำโขงกั้นระหว่างเรากับแขวงบ่อแก้วของลาว “แต่โรงเรียนเราก็ห่างจากตัวเมืองเชียงแสน 40 กว่ากิโล อยู่ระหว่างเชียงของกับเชียงแสนด้วย” ผู้คนแถวนี้ก็มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ แต่เขาก็อยู่ร่วมกันได้เป็นปกติสุข สิ่งที่สังเกตได้ว่ามีส่วนเหมือนกัน คือชอบเตะฟุตบอล

“เรื่องพละกำลังหายห่วงครับ แต่ขาดเบสิกทักษะที่จำเป็นและพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย โรงเรียนเรามีพื้นที่ 80 กว่าไร่ อาคารเรียนจะอยู่ถัดเข้ามาด้านใน บริเวณด้านหน้าเป็นสนามที่เราดูแลไม่ไหวจริงๆ ฤดูฝนน้ำจะขัง หญ้าขึ้นก็สูง แต่เชื่อไหมว่าเด็กก็เข้าไปเตะบอล จนหญ้าหายเกลี้ยง แถมสนามกลายเป็นหลุมเป็นบ่อด้วย”

ท่านผู้อำนวยการของโรงเรียนคนก่อน ผู้นำชุมชน และผู้ที่สนใจกีฬาฟุตบอล ร่วมกันคิดว่า ถ้ามีสนามฟุตบอลดีๆ เด็กน่าจะสนุกและมีทักษะมากขึ้น ก็นำเสนอโครงการมาทาง คิง เพาเวอร์ จนได้รับสนามที่ 88 ในโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย เมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา

“สนามคิง เพาเวอร์ น่าจะเบนความสนใจในอบายมุขและสื่อออนไลน์ ให้เด็กหันมาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์จากสนามนี้ ผู้ปกครองก็จะอุ่นใจไปด้วย ตามหาลูกง่ายขึ้น”

หือ…สนามฟุตบอลแก้ปัญหาสังคมและครอบครัวได้ด้วยเหรอ!!

บอลบังเอิญ!?!

เชียงราย เป็นจังหวัดที่มีสโมสรฟุตบอลและ Football Academy หลายแห่ง แต่ไปอยู่ในอำเภอใหญ่ๆ เสียมากกว่า เด็กบ้านแซวจะไปเรียนหรือไปซ้อมไกลๆ ก็ไม่ไหว พอรู้ว่าจะมีสนามฟุตบอลหญ้าเทียมเด็กดีใจออกนอกหน้ากันเลย

ภาพจาก โรงเรียนบ้านแซววิทยาคม

บางสิ่งเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญ แต่เหมือนว่ามีใครจัดสรรไว้แล้ว

หนึ่ง…เด็กสนใจเล่นฟุตบอล

สอง…อานนท์ นานอก อดีตกองหลังทีมชาติไทยผันตัวมาเป็นโค้ช พร้อมลงหลักปักฐานที่เชียงแสน

สาม…มีสนามฟุตบอลหญ้าเทียมมาตรฐานสากล

“เรามีครูจบเอกพลศึกษาคนเดียว มีเอกภาษาจีนบ้าง เอกอื่นบ้าง แต่ใจรัก และต้องสอนทั้งเปตอง     เทเบิลเทนนิส วอลเลย์บอล ไม่ใช่แค่ฟุตบอลอย่างเดียว ตอนนี้มีโค้ชอานนท์มาร่วมเป็นผู้ฝึกสอน ทุกวันจันทร์ อังคาร ศุกร์ เด็กที่สนใจเรื่องฟุตบอลจะต้องสลับวิชาหลักให้ไปเรียนช่วงเข้า แล้วสองคาบสุดท้ายก็มาเรียนฟุตบอลกับทีมโค้ชอานนท์  เราเน้นนักเรียน ม.ต้น มีราวๆ 40 คน ทั้งหญิงและชาย”

ภาพจาก โรงเรียนบ้านแซววิทยาคม (ยกเว้นภาพคุณอานนท์)

และหลังจากคาบเรียนของนักเรียนแล้ว โค้ชอานนท์จะใช้สนามหญ้าเทียมสอนเด็กๆ และเยาวชนที่สนใจ เป็น Academy ที่โค้ชตั้งขึ้นเพื่อเตรียมสร้างนักฟุตบอลรุ่นใหม่ที่เป็นสายเลือดเชียงแสน

พอค่ำลงสนามสีน้ำเงินเริ่มเปิดไฟสว่างไสว ก็เป็นช่วงเวลาของเยาวชนและบุคคลทั่วไปที่จะมาขอใช้สนามได้ แต่อาจต้องรวบรวมค่าไฟกันในทีม เพราะสนามจะอำนวยความสะดวกแค่ประมาณ 2-3 ทุ่ม

“เฉลี่ยแล้วก็น่าจะเก็บคนละ 20 บาทครับ”

 

บ้านแซวคัพ

ปลายเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนเคยจัดแข่งฟุตบอล 7 คน “บ้านแซววิทยาคมคัพ ครั้งที่ 1” ชิงถ้วยรางวัลผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มีทีมนักเรียน เยาวชน และประชาชนทั้งในเชียงรายและจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ทั้งหมด 76 ทีม

“เต็มศักยภาพ ลากยาวถึง 4 ทุ่ม ทั้ง 2 วันเลย โค้ชก็จัดทีมตัดสินมาช่วยด้วย เสียงตอบรับดีมาก คนเข้าร่วมแข่งเยอะเสียจนสนามคิง เพาเวอร์ สนามเดียวแทบจะไม่เพียงพอ เราต้องใช้สนามดินแข่งควบคู่กันไปด้วย แต่เราเคลียร์หนามออกหมดแล้วครับ”

ภาพจาก โรงเรียนบ้านแซววิทยาคม

จุดมุ่งหมายหลักของบ้านแซววิทยาคมคัพ เป็นการหารายได้มาไว้ดูแลสนามหญ้าเทียม แต่เป้าหมายคือต้องการเพิ่มทักษะฟุตบอลให้กับเด็ก สร้างประสบการณ์ให้กับนักเรียน ยังไม่ต้องหวังมุ่งชิงอันดับกับใคร แต่ต้องได้ลงแข่งขัน

“ตั้งแต่เราได้เปิดคาบเรียนกับโค้ชอานนท์อดีตทีมชาติ ให้ปรับพื้นฐานฟุตบอลให้กับเด็กของเรา เห็นผลจากการแข่งขันที่ผ่านมา เราเสียประตูให้กับทีมที่เก่งที่สุดน้อยประตู ในขณะที่ทีมโรงเรียนอื่นๆ เสียประตูเยอะกว่าเรา” แม้ไม่ชนะแต่เสียประตูน้อย…อย่างนั้นสินะ “ถือเป็นกำลังใจให้ครูที่ดูแลเด็กนะครับ เพราะคิดว่าเราน่าจะมาถูกทางละ หวังไว้ว่าอีกไม่นานทีมโรงเรียนเราน่าจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ”

จากสีหน้ามีความสุขและสนุกของบรรดานักฟุตบอลรุ่นเยาว์ในชุดสีชมพูของบ้านแซววิทยาคม ก็เป็นความสำเร็จขั้นแรกของการเล่นกีฬาแล้วล่ะ

ภาพจาก โรงเรียนบ้านแซววิทยาคม

เหนื่อย-ยาก-ลาก-เข็น

เวลาประมาณ 14:20 น. เป็นสองคาบสุดท้ายก่อนจบวันเรียน เด็กๆ วิชาฟุตบอลผลัดเปลี่ยนกันนำรถเข็นไปบรรทุกลูกฟุตบอลและอุปกรณ์การเรียน จากห้องเก็บอุปกรณ์บนอาคารเรียนด้านในสุดของพื้นที่โรงเรียน ช่วยกันทั้งลากทั้งเข็นมาที่สนามหญ้าเทียมสีน้ำเงินที่อยู่ด้านหน้าโรงเรียน

เดี๋ยวนะ…พื้นที่โรงเรียน 80 ไร่ใช่ไหม!!

“เรายังไม่สร้างที่เก็บใกล้ๆ ให้ครับ อยากให้เด็กมาขนไปแบบนี้ เพื่อเป็นการฝึกความรับผิดชอบ ใครที่เป็นเวรก็ต้องมาขนไป ต้องเช็กจำนวน ลากกลับมาเก็บให้เท่าเดิมด้วย”

เด็กๆ ยังคงมีรอยยิ้มร่าเริงเช่นเคย นึกถึงคำของผู้อำนวยการที่ว่า “เมื่อก่อน ต่อให้มีหนามและไม่มีรองเท้าจะเล่น เล่นจนหนามโตไม่ทัน”

เหนื่อยลากแค่นี้…สบายมากน้อง^^

 

ปักหมุดจุดเช็กอิน-แชะรูป-ท่องเที่ยวใกล้เคียง

• ดอยสะโง้ ไม่ควรพลาดถ้ามาถึง อ.เชียงแสน เป็นเป็นจุดที่จะมองเห็น 3 แผ่นดิน ไทย-ลาว-เมียนมาร์ มีแม่น้ำโขงไหลผ่านเต็มตา ช่วงหนาวๆ ยามเช้าจะมีทะเลหมอกครอบคลุมทั้ง 3 ดินแดน และยามค่ำคืนรอสบตากับหมู่ดาวเกลื่อนฟ้าได้เลย

• ทะเลสาบเชียงแสน หรือถ้าได้ยินชื่อ “เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคาย” คือ ที่เดียวกัน เราสามารถมาลอบมองสัตว์ป่าคุ้มครองหลายชนิด โดยเฉพาะเหล่านกน้ำ เช่น นกเป็ดแดง นกอีโก้ง นกอีล้ำ พอเข้าฤดูหนาวก็จะมีฝูงนกบินหนีหนาวมาอยู่ที่นี่ อย่างพวก นกโปชาดหลังขาว เป็ดดำหัวสีน้ำตาล เป็ดไบคาล เป็ดผีใหญ่ เหล่านักดูนกมาที่นี่คงยิ้มแก้มปริ

• วัดป่าสัก เชียงแสน จุดที่ต้องไปชมให้ได้ คือ เจดีย์ประธานทรงปราสาท อายุกว่า 700 ปี เป็นศิลปะหริภุญชัย ผสมผสานศิลปะสุโขทัยและพุกามจนมีเอกลักษณ์ ยังมีร่องรอยปูนปั้นดั้งเดิมให้ได้เห็นกันอยู่

Author

ศรัณย์ เสมาทอง

Author

นักเขียนและผู้ผลิตรายการเชิงสารคดีอิสระ ชอบตะลอนเวิร์กตามที่ต่าง ๆ พร้อมเล่าเรื่องระหว่างการเดินทาง และบ่อยครั้งก็บันทึกประสบการณ์เป็นบทกวี

Author

บริษัท เอ็กเปิร์ดคิด จำกัด

Photographer

การรวมตัวของคนโปรดักชั่น ที่ยังเชื่อในพลังสร้างสรรค์ เราจึงคิดและผลิตงานศิลปะทุกรูปแบบ