Playground

ดุเดือด! เข้มข้น! คูณสอง!!
THE POWER BAND 2025 SEASON 5 สนามกรุงเทพฯ
ปิดท้ายรอบโซนนิ่ง สุดมัน!

กฤษณา คชธรรมรัตน์ 9 Sep 2025
Views: 536

Summary

ปิดฉากรอบโซนนิ่งอย่างสมศักดิ์ศรี วงรุ่นเล็ก – รุ่นใหญ่ใส่เต็มไม่มียั้ง ตลอดการแข่งขันสองวันเต็ม! มีวงผ่านเข้ารอบมาแสดงสดมากมายแบบทำลายสถิติถึง 30 วง ทั้งรุ่นมัธยมศึกษาและรุ่นบุคคลทั่วไป จากคลิปประกวดรอบออดิชันมากถึงร้อยกว่าวง…ส่งต่อพลังสู่รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ เราเก็บตกบรรยากาศ DAY 1 และ DAY 2 พร้อมมินิคอนเสิร์ตศิลปินมาฝากกัน

THE POWER BAND 2025 SEASON 5 การประกวดวงดนตรีสากลประจำปี 2568 ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 โดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมพันธมิตรค่ายเพลงระดับแนวหน้าของประเทศ อย่าง Muzik Move, Smallroom, LOVEiS Entertainment, What The Duck, Warner Music Thailand, XOXO Entertainment และพันธมิตรอุตสาหกรรมดนตรี Singha Corporation, T-POP STAGE, The Guitar Mag, Yamaha Music Thailand รวมถึงพันธมิตรใหม่ YUPP! Entertainment, Universal Music Thailand และ Multiply by Eight ภายใต้คอนเซปต์ MUSIC CREATES MORE POSSIBILITIES พลังดนตรี เป็นไปได้ ไม่สิ้นสุด ดำเนินรายการโดยสองพิธีกรคนเก่ง อย่าง แทค – ณฐพล เหลืองกนกวนิช และ แพน ภัทรธรโภคิน อ่านเรื่องพิธีกรคนเก่งทั้งสองคน ทั้งเรื่อง แพน ภัทรธรโภคิน คลิกที่นี่ หรือ อ่านเรื่อง แทค ณัฐพล คลิกที่นี่

และในที่สุด การแข่งขันของรอบโซนนิ่งการแสดงสดก็เดินทางมาถึงสนามสุดท้ายที่กรุงเทพฯ อย่างสมศักดิ์ศรี เพราะเป็นสนามที่มีผู้ส่งคลิปเข้ามามากที่สุดในปีนี้นับร้อย กว่าจะคัดตามเกณฑ์มาตรฐานเหลือการแข่งขันเพียงรุ่นละ 15 วง ทำให้การแข่งขันต้องจัดขึ้นถึง 2 วันเต็ม แยกเป็นวันละรุ่น ได้แก่ รุ่นมัธยมศึกษา (High School Class) และรุ่นบุคคลทั่วไป เส้นทางสู่ศิลปินอาชีพ (Professional: Road to Artist) เพื่อให้ทุกวงได้โชว์ศักยภาพกันอย่างเต็มที่

เวทีนี้จึงอัดแน่นไปด้วยนักดนตรียอดฝีมือ ทั้งวงน้องใหม่รุ่นมัธยมศึกษาที่ใส่เต็มทุกโน้ตจนเรียกเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือดังสนั่นฮอลล์ ไปจนถึงวงรุ่นโปรที่ตบเท้าโชว์ฝีมือแบบมืออาชีพ สาดพลังดนตรีสุดขีดตั้งแต่ต้นจนจบ บอกเลยว่า วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศระดับประเทศจากสนามนี้… เด็ดทุกวง เดือดทุกโชว์ ไม่แพ้สนามไหนๆ แน่นอน!

การแข่งขันเข้มข้นจนคณะกรรมการทั้ง 3 ท่าน อาจารย์แป๊ป – วิโรจน์ สถาปนาวัตร จากวิทยาลัย ดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล พี่ติ๊ก – กฤษติกร พรสาธิต นักร้องนำ วง Playground และผู้บริหารค่าย Home Run Music และ พี่เป้ – ไพสิฐ คำกลั่น โพรดิวเซอร์ ค่าย Melodic Corner ต้องโฟกัสแบบไม่ละสายตาและไม่พลาดจังหวะไหนเลย ทุกโชว์คือความท้าทาย ทั้งเทคนิคการเล่นดนตรี ความคิดสร้างสรรค์ และการสื่อสารอารมณ์กับผู้ชม ชวนอ่านเรื่องของกรรมการทั้งสาม คลิกที่นี่

เสียงสะท้อนจากกรรมการเองก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น อ.แป๊ปเปิดด้วยความเห็นสุดพีก “เหมือนไม่ได้มาเป็นกรรมการตัดสินที่ไม่ใช่วงประกวด แต่นี่คือศิลปิ” พี่ติ๊กเสริมไปอีกขั้น “สนามนี้เดือดปุดๆ เข้มข้นทั้งการแข่งขันและคอมเมนต์” ก่อนที่จะให้พี่เป้ทิ้งท้ายว่า “ดุเดือดกว่าที่คิด ทุกวงที่เข้ารอบมา เข้มข้นไปทุกวง สนามนี้เอาจริง ผมนึกว่ารอบนี้เป็นรอบชิงชนะเลิศ”

 

DAY 1

เวทีของวันแรกเป็นการรวมพลเหล่าวงดนตรีมัธยมศึกษา ที่บอกเลยว่า พลังสดใหม่ไม่มีใครยอมใคร แต่ละวงขนโชว์ที่ซ้อมมาอย่างหนักแน่นขึ้นเวที จัดเต็มด้วยความมั่นใจ เสียงกีตาร์ เบส กลอง และนักร้องนำประสานกันอย่างลงตัว สร้างบรรยากาศทั้งมัน ทั้งอิน จนเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือแทบไม่ขาดสาย

หลังจากการประชันอย่างเข้มข้น ตัดสินใจได้ยากทุกโชว์ ในที่สุดก็ได้สุดยอดวงดนตรีระดับมัธยมศึกษา ที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศในสนามกรุงเทพฯ ทั้งหมด 6 วงด้วยกัน

วง NOW and DEE จากโรงเรียนเตรียมอุดมดนตรี YAMP-Young Artists Music Program  วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล นครปฐม ที่มาพร้อมโชว์ที่ครบเครื่อง ทำเพลง ลืมไปแล้วว่าต้องลืมยังไง (Jeff Satur) และเพลง สุดปัง (Milli) ได้ปังสุดๆ จนเข้ารอบชิงชนะเลิศอย่างสวยงาม “ความตั้งใจของวงพวกเราคืออยากไปให้ถึงรอบไฟนอล แม้กติการายการนี้จะโหด แต่ก็ได้ท้าทายตัวเอง” อ่านบทสัมภาษณ์เจฟฟ์ คลิกที่นี่

วง Kids Do Band – วงคิดดู สังกัดอิสระ กรุงเทพฯ วงจิ๋วแต่แจ๋วที่เลือกเพลง Day One (PUN) และเพลง ร(W8) (Gene Kasidit) มาสร้างสรรค์ได้สดใสในแบบฉบับของตัวเองได้อย่างลงตัว “วันนี้วงของพวกเราเล่นไม่ผิดเลยค่ะ การแสดงบนเวทีวันนี้คือเวอร์ชันที่ดีที่สุดของพวกเราเลย”

วง Woodstock โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า กรุงเทพฯ ใช้เพลง ติดฝน (PiXXiE) และเพลง พบรัก (Ink Waruntorn) ในแบบซาวนด์ดิบๆ ตามสไตล์เทศกาลดนตรี Woodstock ที่มาของชื่อวง ส่งทีมนี้ได้เฮไปเข้าชิงชนะเลิศอีกทีม “ปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้วสำหรับ THE POWER BAND ของพวกเรา รู้สึกว่ามีวงที่เก่งๆ เข้ามามากกว่าปีก่อนๆ เยอะมาก รู้สึกว่าพวกเราสุดยอดมากที่ผ่านงานหินขนาดนี้มาได้“ ย้อนอ่านเรื่องของวงนี้ คลิกที่นี่

วง The Elemyst สังกัดอิสระ กรุงเทพฯ เสียงร้องทรงพลังและโชว์ที่สุดจอย ทำให้หนึ่งในลิสต์รายชื่อผู้เข้าชิงชนะเลิศ เพิ่มพวกเขาเข้าไปด้วย “พูดตรงๆ พวกหนูยังไม่คิดถึงการผ่านเข้ารอบด้วยซ้ำ คิดแค่ว่าอยากมาโชว์ความเป็นวงเรา สิ่งที่คิดแค่นี้เลย พอผ่านเข้ารอบ ก็เลยแบบ…ยังไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย ต้องไปลุ้นกันดูค่ะว่าจะเป็นแบบไหนรอบชิงชนะเลิศ”

วง SOUL SYNC สังกัดอิสระ กรุงเทพฯ เลือกเพลง 17 นาที (Milli) และเพลง มูเตลู (PiXXiE) ที่ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ ทำให้วงนักสู้ที่พลาดหวังจากสนามภูเก็ตทำสำเร็จที่นี่ “ดีใจมาก ที่ผ่านเข้ารอบ ขอบคุณพวกเราที่สู้ต่อไป แม้จะพลาดจากสนามภูเก็ต แต่มาได้ที่สนามกรุงเทพฯ มันมีความหมายกับพวกเรามากจริงๆ” อ่านเรื่องของสมาชิกวง SOUL SYNC ที่สนามภูเก็ต คลิกที่นี่

ในขณะที่ วง Z1nith สังกัดอิสระ กรุงเทพฯ คือวงที่พิสูจน์แล้วว่าความพยายามไม่เคยทำร้ายเรา เพราะโชว์นี้คือผลลัพธ์ของความตั้งใจและการทุ่มเทอย่างแท้จริง และมันได้พาพวกเขาคว้าตั๋วสู่รอบชิงชนะเลิศใบสุดท้าย “ในที่สุดความพยายาม การไม่ยอมแพ้ไปแข่งทุกสนาม และความมูของพวกเราก็ได้ผลเสียที น้ำตาจะไหล ตอนที่ประกาศว่าวงเราผ่านเข้ารอบ คือช็อกมาก เหวอไปเลย” อ่านเรื่องของสมาชิกวง Z1nith ที่สนามก่อนหน้านี้ คลิกที่นี่ หรือ คลิกที่นี่

 

วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ

รุ่นมัธยมศึกษา (High School Class)

จากสนามกรุงเทพฯ ได้แก่

• วง NOW and DEE
โรงเรียนเตรียมอุดมดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล นครปฐม

• วง Kids Do Band – วงคิดดู
สังกัดอิสระ กรุงเทพฯ

• วง Woodstock
โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า กรุงเทพฯ

• วง The Elemyst – ดิ เอลลิมิสท์
สังกัดอิสระ กรุงเทพฯ

• วง SOUL SYNC
สังกัดอิสระ กรุงเทพฯ

• วง Z1nith
สังกัดอิสระ กรุงเทพฯ

และยังมีมินิคอนเสิร์ตสุดสนุกปิดท้ายวันแรก ให้ผู้ชมได้สนุกกับคอนเสิร์ตจากศิลปินน้องใหม่ซึ่งเป็นศิษย์เก่าของเวที THE POWER BAND ทั้งสองสาวพี่น้อง PINGPING PANPAN และห้าหนุ่มจากวง KRYPTONYTE ตามด้วย Bonnadol กับเพลง แสนจะฟีลกู๊ด สองสาว MILLI และ Flower.far กับโชว์สุด SWAG ทั้งสไตล์และพลังบนเวที ก่อนปิดท้ายอย่างสนุกสุดๆ กับ “หนุ่มบิ๊ก D” D Gerrard ที่ไม่เพียงลงมาร้องเพลงท่ามกลางคนดูอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังเปิดโอกาสให้สองสาวจากวงผู้เข้าแข่งขัน ทั้ง หมิงหมิง วง Temple Heart และ บลายธ์ วง Woodstock ขึ้นมาแจมด้วย สร้างบรรยากาศสนุกสุดมันพร้อมมอบโมเมนต์พิเศษให้ ‘เด็ก POWER BAND’ มีประสบการณ์ดีๆ ก่อนปิดเวทีของวันแรกได้อย่างประทับใจ อ่านเรื่องของนักร้องนำวง Temple Heart คลิกที่นี่ 

DAY 2

วันสุดท้ายของสนามกรุงเทพฯ เป็นเวทีของเหล่าวงของรุ่น “มืออาชีพ” ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์และเทคนิคอย่างเหนือ ทุกวงขึ้นเวทีด้วยความมั่นใจ เต็มไปด้วยพลังและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่การเรียบเรียงเพลง การเล่นเครื่องดนตรีที่แม่นยำ ไปจนถึงการสื่อสารอารมณ์กับคนดู ทุกโชว์เรียกเสียงปรบมือและเสียงเชียร์ได้อย่างต่อเนื่อง

บรรยากาศการแข่งขันเป็นไปอย่างเข้มข้น จนคณะกรรมการทั้ง 3 ท่าน เครียดแล้วเครียดอีก และเครียดต่อ เพื่อคัดเลือกวงที่จะได้เป็น ตัวแทนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ ทั้งหมด 7 วงด้วยกัน

วง A Pocket Band กรุงเทพฯ เรียบเรียงเพลง รู้อยู่ (D GERRARD) และเพลง ยังคงคอย (Hers) ได้แบบครบทั้งเอกลักษณ์ สไตล์ และสกิลการเล่นดนตรี อ่านเรื่องเมื่อครั้งเป็นวง Savvy คลิกที่นี่ จนพี่ติ๊กยกนิ้วให้ว่า ”เป็นโชว์ที่ประทับใจ น่าสนใจ มีอินเนอร์ที่ดี ชอบการตะโกนแล้วกระซิบ เป็นการเล่าเรื่องอย่างมีประสิทธิภาพมาก“ อ่านบทสัมภาษณ์ D GERRARD คลิกที่นี่

วง Bob Off-White กรุงเทพฯ สมาชิกในวงที่เคยประกวด THE POWER BAND อย่าง มือเบสจากวง หน้าโรงเรียนแชมป์ของซีซัน 3 มือทรัมเป็ตจาก Jazz Passion วงแชมป์ของซีซัน 2 ใช้เพลง Tip Toe (HYBS) และเพลง แค่ฝันไป (Whale&Dolph) ชวนทั้งกรรมการและผู้ชมแทบหาทางกลับไปต้นฉบับไม่ถูกแล้ว ทำให้พวกเขาเข้ารอบชิงชนะเลิศแบบสวยงาม พี่เป้ ชมหมดใจว่า “การ arrange เพลงทุกอย่างทำได้ดีมาก อยากฟังเพลงออริจินัลจากวงแล้ว คุณมีอัตลักษณ์ที่แข็งแรงมากแบบ beyond เพลง cover ไปแล้ว“ อ่านเรื่องของวงหน้าโรงเรียน คลิกที่นี่ หรือ อ่านเรื่องของวง Jazz Passion คลิกที่นี่

วง The JAE’s กรุงเทพฯ  “สำหรับวงนี้ แค่ชื่อวงก็ออกเสียงน่ารักแล้ว โชว์สนุกมาก ผมชอบความเอกลักษณ์ของดนตรี ไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ ตอนที่ดูนี่ตบเข่าไปมากกว่า 3 ฉาด” พี่ติ๊กถูกใจมากจริงๆ กับวง “เดอะเจ๊ส์”

สำหรับ วง Satellite kiss กรุงเทพฯ อีกวงที่มาพร้อมความวิบวับและเพลงสุดนุ้งนิ้ง ”เขาเล่นดนตรีอย่างละมุน ตัวตนชัดเจน คอสตูมเหมือนวางแผนมาเพื่อเล่นคอนเสิร์ต ผมว่าเขาไปต่อได้“ อ.แป๊ปให้ความเห็นกับภาพรวมผลงานของวง

วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ

รุ่นบุคคลทั่วไป: เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ  (Professional Class: Road to Artists)

จากสนามกรุงเทพฯ ได้แก่

• วง A Pocket Band กรุงเทพฯ

• วง Bob Off – White กรุงเทพฯ

• วง The JAE’s กรุงเทพฯ

• วง Satellite kiss กรุงเทพฯ

• วง Someway นนทบุรี

• วง Jull นครปฐม

• วง COCAIN กรุงเทพฯ

วง Someway นนทบุรี นับเป็นหนึ่งในโชว์ที่ผู้ชมจอยที่สุด หันไปทางไหนก็มีแต่คนยิ้มไปกรี๊ดไป ชมโชว์วนไปแบบนั่งไม่ติดเก้าอี้ ด้วยเอเนอร์จีดนตรีของวงในแบบพังก์ร็อกที่มีสมาชิกเพียงแค่ 3 คน สมาชิกสองคนในวงเคยมาประกวดวง Small Light คลิกอ่านได้ที่นี่ แต่ส่งทั่วถึงทั้งฮอลล์ “วงนี้เป็นเด็กมัธยมศึกษาที่ข้ามขั้นมาแข่งระดับมืออาชีพ ผมชอบความสดใส จริงใจ เล่นดนตรีด้วยความรักและความสนุก คือเห็นได้จากสายตาและภาษาดนตรี และส่ง Positive Vibe ให้คนดู ทุกคนรักเขาหมด” พี่เป้ยิ้มไปชมไป

วง Dr.Jull นครปฐม มีสมาชิกจากผู้เคยเข้าประกวด THE POWER BAND ในซีซันก่อนๆ เช่น มือเบส จากวง Aliceman มือกีตาร์ จากวง Chada Band ที่มีดีกรีรางวัล Outstanding เป็นต้น เรียกว่าเพลง Not Romantic (NONT) และ Priority มีทั้งพลังเสียงและพลังดนตรีที่ให้ที่นั่งรอบชิงชนะเลิศอยู่ที่วงนี้ “โทนเสียงของนักร้องทำให้คิดถึงดิว่า โชว์ไหลลื่นมาก ค่อยๆ ขึ้นจนฟาดให้คนดูประทับใจ” พี่ติ๊กคอมเมนต์ให้อย่างเห็นภาพ อ่านเรื่องของวง Aliceman ครั้งนั้น คลิกที่นี่ และ อ่านเรื่องของเปรม มือกีตาร์ วง Chada Band คลิกที่นี่ หรือ อ่านเรื่องของข้าวหอม นักร้องนำตอนเป็นสมาชิกวง Chada Band คลิกที่นี่

ในขณะที่ วง COCAIN กรุงเทพฯ ที่ประกาศความเป็นตัวตนด้วยการขึ้นเวทีพร้อมเพลงของตัวเองทั้ง 2 เพลง ใจกระดาษ และเพลง พอแล้ว อีกทั้งพวกเขายังสร้างความจดจำให้กรรมการอย่างชัดเจน ”นี่คือโชว์ที่ถูกต้อง มีซาวนด์ที่ใช่ ใช้เพลงที่แต่งเอง มีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของดนตรีที่สื่อสารออกมาได้ดี“ อ.แป๊ปสรุปถึงพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา

ก่อนจะปิดฉากรอบโซนนิ่งด้วยมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินตัวจริง เริ่มจาก Rising Star ศิลปินศิษย์เก่าจากเวที THE POWER BAND อย่างสองสาวพี่น้อง PINGPINGPANPAN อ่านเรื่องของเธอทั้งคู่ คลิกที่นี่ และห้าหนุ่มจากวง KRYPTONYTE ต่อด้วย วง SEASON FIVE…ไม่พอยังสนุกต่ออีกกับ MEAN BAND ก่อนปิดท้ายอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการแสดงอย่างเต็มอิ่มของวง POLYCAT ที่ส่งพลังสุดพลังอย่างไม่มีพักแบบเต็มเวที แถมยังลงไปร้องเพลงกับคนดู และมอบลายเซ็นบนกีตาร์ตัวเก่งของแฟนเพลงในงาน พร้อมสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความตื่นเต้นของผู้ชมทุกคน ย้อนอ่านเรื่องของนะ POLYCAT ที่ THE POWER BAND MUSIC CAMP คลิกที่นี่

จบงานลงอย่างประทับใจ…อย่าลืมปักหมุดแล้วมาเจอกันใน “รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ” ในวันที่ 25 และ 26 กันยายน 2568 นี้ ที่โรงละคร อักษรา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ หรือติดตามเชียร์ผ่าน Live ทาง YouTube: King Power Thai Power พลังคนไทย อีกสองวันเต็มอิ่ม…บอกได้เลยว่าการแข่งขันต้องยิ่งเข้มข้น! ดุเดือด! สุดมัน! อย่างแน่นอน

 

วงที่ผ่านเข้ารอบออดิชัน THE POWER BAND 2025 SEASON 5 มาแสดงสดที่สนามกรุงเทพฯ ทั้งหมด มีดังนี้ …

รุ่นมัธยมศึกษา สุดยอดวงดนตรีระดับมัธยม (High School Class) มีใครบ้าง คลิกดูที่นี่

รุ่นบุคคลทั่วไป เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ PROFESSIONAL CLASS : ROAD TO ARTIST) มีใครบ้าง คลิกดูที่นี่

Author

กฤษณา คชธรรมรัตน์

Author

นักเขียนที่ให้ความสนใจกับทุกเรื่องบนโลก อย่างละนิดอย่างละหน่อย บ่อยครั้งจึงวาร์ปไปเขียนเรื่องโน้นเรื่องนี้อย่างสนุกสนาน

Web Editor

ปิ่นอนงค์ วัชรปาณ

Web Editor

บรรณาธิการเว็บ Thaipower.co อดีตบรรณาธิการบางสำนัก นักข่าวและคอลัมนิสต์จำเป็น โกสต์ไรเตอร์...ผู้รักการเดินทาง หลงใหลกลิ่นกาแฟ และเป็นมูฟวีเลิฟเวอร์

Author

อำพน จันทร์ศิริศรี

Photographer

ช่างภาพอิสระมากว่า 30 ปี...ที่คร่ำหวอดกับการถ่ายภาพรายการทีวีต่างๆ เช่น The Voice, The Rapper, The Stars Idol เป็นต้น และถ่ายภาพคอนเสิร์ตต่างๆ