Passion

บุกใต้…ไปเวที THE POWER BAND 2025 SEASON 5
ทำความรู้จัก “ทีเด็ด” 12 นักดนตรี จาก 8 วง

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว 12 Sep 2025
Views: 588

Summary

พาบุกใต้ ตามหานักดนตรี “ไข่มุกอันดามัน” เรื่องราวที่ทุกคนลอยคอ รอคอย (เหรอ) เราจะพาทุกคนไปพับกบ เอ๊ย พบกับนักดนตรีรุ่นมัธยมศึกษาที่มัดใจผู้ชมได้ จากเวที THE POWER BAND 2025 SEASON 5 รอบโซนนิ่งสนามภูเก็ต ทุกวงมีของเด็ดของดี มีแรงบันดาลใจ และความรักในดนตรีไม่แพ้เวทีไหนๆ เลย

ไม่ว่าจะเป็นเวทีไหนๆ ของ THE POWER BAND 2025 SEASON 5 จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และเหล่าพันธมิตรค่ายเพลงชั้นนำ ภายใต้คอนเซปต์ “MUSIC CREATES MORE POSSIBILITIES พลังดนตรี เป็นไปได้ ไม่สิ้นสุด” เราก็จะมีนักร้อง นักดนตรีขวัญใจผู้ชมหรือผู้ที่แสดงฝีมือได้โดดเด่น จนกรรมการต้องชมมาฝากผู้อ่านกัน

ในรอบโซนนิ่งสนามภูเก็ตก็เช่นกัน Thaipower.co ไม่พลาดที่จะมองหานักดนตรีจากรุ่นมัธยมศึกษาที่ทั้งน่ารักและเก่งจนน่าทึ่ง! บทความนี้จะมีเรื่องราวของนักดนตรีมาฝากกันอย่างเต็มอิ่ม เพราะเราถูกใจไปซะหมด เลยเก็บเรื่องราวของความรักดนตรีจากพวกเขามาฝากอย่างมั่นใจว่า คุณจะหลงรักพวกเขาเช่นกัน…เช็กผลพร้อมอ่านบรรยากาศที่สนามภูเก็ต คลิกที่นี่

ไม่ว่าจะเป็น ชมจันทร์ (คีย์บอร์ด) กับ สมาย (เบส) วง Destiny จากสถาบันดนตรี JP Music นนทบุรี น้อยหน่า (กีตาร์) กับ จี๊ด (คีย์บอร์ด) วง Environment จากโรงเรียนดรุณาราชบุรีวิเทศศึกษา ราชบุรี บุ๋น (กลอง) กับ เจซี (เบส) วง OZONE สังกัดอิสระจากภูเก็ต ประวีร์ (กลอง) วง Penmanship จากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล กรุงเทพฯ มามู (กีตาร์) วง SOUL SYNC สังกัดอิสระจากกรุงเทพฯ โมโน (พิณ) กับ เจโน่ (เบส) วง SoundSculpt จากโรงเรียนเตรียมอุดมดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล นครปฐม เจอาร์ (กีตาร์) วง Z1NITH และ มังกร (คีย์บอร์ด) วง The Humble จากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา สงขลา

ทำความรู้จักนักร้องนำวงรุ่นมัธยมฯ เหล่านี้ ที่สนามภูเก็ต คลิกที่นี่

 

• ชมจันทร์ – พิชนก รุจิเทศ

มือคีย์บอร์ด วง Destiny

“เสน่ห์ของหนูคือการโยก”

วง Destiny เริ่มต้นจากพี่น้อง 3 คนที่เล่นดนตรีด้วยกัน จากนั้นก็ชักชวนเพื่อนๆ มารวมวงและก้าวขึ้นสู่เวทีประกวด ชมจันทร์เป็นน้องคนเล็ก ตอนเด็กๆ พ่อแม่ให้โอกาสเลือก…เธอลองมาแล้วทั้งเรียนเต้น เล่นกีฬา จนสุดท้ายมาถูกใจที่การเล่นดนตรี “เรียนดนตรีแล้วผ่อนคลายเลยติดใจ ถ้าอยู่เฉยๆ เราก็จะติดโทรศัพท์”

และมันคงสนุกดีถ้ามีพี่ๆ เพื่อนๆ มาเล่นด้วยกัน ตอนแรกชมจันทร์เล่นเบส แต่พอมีมือเบสเข้ามาเรียนที่โรงเรียนดนตรี ชมจันทร์เลยเปลี่ยนมาเล่นคีย์บอร์ด ความแตกต่างระหว่าง 2 เครื่องดนตรีสำหรับเธอคือเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกัน “เบสจะเล่นยากกว่า คีย์บอร์ดมันอาจจะเล่นนิ่งๆ แต่ถ้าเราสนุก เราโยก มันก็จะมีเสน่ห์ขึ้นมา”

ผู้ชมมักบอกว่าชมจันทร์นั้นเล่นและเต้นไปด้วยพร้อมกันได้ดี เพราะเธอมีเทคนิคการฝึกซ้อมเฉพาะตัว “หนูจะแบ่งเพลงเป็นท่อนๆ แล้วซ้อมท่อนที่เล่นไม่ได้ให้คล่องก่อน ค่อยเอามารวมกัน” การได้มาประกวด THE POWER BAND ครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี “ดีใจมากที่ได้มาเล่นเวทีนี้ และการประกวดจะมีกรรมการมาคอมเมนต์จะได้รู้ว่าเรามีข้อผิดพลาดตรงไหน หรือตรงไหนที่เราทำได้ดีแล้ว”

ในการแสดงวันนั้นชมจันทร์มีความสุขกับการเล่นดนตรี ในอนาคตเธอก็อยากส่งต่อความสุขแบบนี้ต่อไป “หนูอยากเป็นศิลปินและอยากเป็นครูสอนดนตรีด้วย”

 

• สมาย – กมลชนก ตันกลาง

มือเบส วง Destiny

“สมายลี่ลีลาเทพ”

คือฉายาเท่ๆ ของสมาย “เพราะหนูเล่นเบสลีลาดี มีฟีลลิงตามเพลง” ครอบครัวของสมายเป็นนักดนตรีเธอจึงเริ่มต้นที่กีตาร์ พอมารวมวงกับเพื่อนๆ จึงเปลี่ยนไปเล่นเบส

“พอเปลี่ยนมาเล่นเบสรู้สึกว่าง่ายกว่าเยอะ” และเหตุผลที่สมายชอบเบสก็คือ “เบสเป็นเครื่องดนตรีหลักที่ทำให้เพลงดูมีอะไรมากขึ้น เป็นเสียงเป็นจังหวะที่ดี” และการได้มาเล่นดนตรีทำให้สมายได้เจอคนมากขึ้น “ได้เจอเพื่อน เจอวงเก่งๆ ได้เห็นทักษะการเล่นของคนอื่นที่จะเอามาพัฒนาตัวเองได้”

สมายอยากเป็นศิลปิน “หนูอยากขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ๆ แบบแสดงที่อิมแพคอารีน่าไปเลย” และตอนนี้เธอก็กำลังมุ่งมั่นฝึกฝนเพื่อให้ไปถึงความฝันที่หวังไว้ “เวลาเจอเพลงอะไรที่ชอบก็แกะแล้วเล่นตาม เพราะแต่ละเพลงก็มีเทคนิคที่ต่างกันไป” แนวเพลงที่สมายกำลังอินคือ ร็อกเมทัล แต่ไอดอลของเธอคือ 4EVE (ยังไงนะ ร็อก vs 4EVE – ฮ่าๆ)

 

• น้อยหน่า ณฐอร ปกจั่น

มือกีตาร์ วง Environment

“หนูอยากเก่งรอบด้าน”

น้อยหน่าจึงทำลองทุกอย่าง แรกเริ่มเธอเรียนไวโอลินแล้วเข้าวงออร์เคสตรา “ที่โรงเรียนมีวงดนตรี 3 วง ออร์เคสตรา โยธวาทิต และสตริง หนูอยู่ทุกวง” เล่นกีตาร์โปร่ง กีตาร์ไฟฟ้า เรียนเปียโน แถมยังเล่นกีฬา การเรียนก็ไม่ทิ้ง แต่น้อยหน่าบอกว่ากีตาร์นั้นยากที่สุดแล้ว “มันยากหมดเลย ทั้งจังหวะ ทั้งการวางนิ้ว”

แม้จะยากแต่น้อยหน่าก็ชอบกีตาร์มากเช่นกัน “กีตาร์ไฟฟ้ามันเล่นได้หลายแนว หลายเสียง มันเลยสนุก ยิ่งมาเล่นแนวร็อกก็ยิ่งสะใจ” ดังนั้น เมื่อครูชวนมาเข้าวงเธอจึงดีใจมาก

ตอนอยู่บนเวที THE POWER BAND นอกจากลีลาการเล่นกีตาร์แล้ว การเต้นก็ดึงดูดให้คนสนใจและสนุกไปกับเธอ “ตอนซ้อมหนูไม่โยกเลย เก็บแรงมาโยกบนเวที ตอนอยู่บนเวทีหนูอยากทำให้กรรมการไม่ละสายตาลงไปเขียนอะไรเลย กรรมการต้องดูหนูทุกช็อต หนูเต้นขนาดนี้ มองหนูหน่อยเถอะ”

ในอนาคตน้อยหน่าอยากเป็นแอร์โฮสเตสหรือนักธุรกิจที่เล่นดนตรีไปด้วย เพราะยังรักดนตรีอยู่ และอยากให้คนจดจำเธอว่า “หนูคือมือกีตาร์สายแดนซ์”

• จี๊ดรัฐรดา รักภักดี

มือคีย์บอร์ด วง Environment

“ขึ้นเวทีครั้งแรกต้องทำให้สุด

ฟีลต้องได้ โยกหัวต้องมา

เพราะก่อนหน้านี้ จี๊ดมาในแนวดนตรีไทย ตีขิม เป็นนางรำ เธอเพิ่งเข้าวงมาทีหลัง “เพื่อนๆ ในวงก็นำไปกันหมดแล้ว หนูเพิ่งเริ่มจากศูนย์ก็ตามให้ทัน ซ้อมทุกวัน ทำการบ้านส่งวันละ 10 คลิป ถ้าจะมาแข่งต้องฝึกให้เยอะ ต้องเก่งเท่าเพื่อนให้ได้”

เวลากว่า 3 เดือน จี๊ดทำสำเร็จ เธอสามารถก้าวขึ้นเวทีประกวดกับเพื่อนๆ ได้ ที่จี๊ดเลือกเล่นคีย์บอร์ดก็เพราะว่าได้เต็มที่กับตัวเอง “มันได้ใช้นิ้วกดใช้แรงดี และการเล่นคีย์บอร์ดถ้าเราอยากใส่ความเป็นตัวเองลงไปเราก็สามารถเลือกเสียงได้”

แม้จะเริ่มช้าแต่ด้วยการฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงและตั้งใจทำให้จี๊ดมีวันนี้ “หนูไปเปิดคลิปที่เขาสอนดูเพิ่มเติม และฝึกแกะเพลงไปเรื่อยๆ”

การที่เธอเพิ่งมาเริ่มหัดคีย์บอร์ดเพราะอยากเข้าวงกับเพื่อนๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย “จากขิมมาที่คีย์บอร์ดมันต่างกันมาก เพราะขิมไม่มีชาร์ป ไม่มีแฟลต แต่คีย์บอร์ดมีครบ และมีรายละเอียดในการเล่นเยอะกว่า ต้องกดคอร์ดให้ตรง เล่นเมโลดีให้ได้” และจี๊ดทำได้ สมกับเป็นตัวจี๊ดอีกคนของวงสมชื่อ

 

• บุ๋น – ณัฐฐ์บุญญ์ บุญรุ่งโรจน์

มือกลอง วง OZONE

“ใครๆ ก็ว่าผมน่ารัก

และตีกลองเก่ง

บุ๋นเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่ 4 ขวบ เพราะพ่อแม่อยากให้เขาเล่นดนตรี เสียงมันเพราะดีและเผื่อเลี้ยงชีพได้ในอนาคตด้วย บุ๋นเลยลองมาหมดแล้วทั้งเปียโน เบส กีตาร์ จนสุดท้ายมาจบที่กลอง “เพราะนิ้วผมสั้น (พร้อมกางมือประกอบให้เห็นภาพ น่าเอ็นดู) เล่นเปียโน เล่นกีตาร์…ไม่ถนัด แต่จับไม้กลองได้เลยเลือกตีกลอง และมันเท่ด้วยครับ”

ด้วยความที่ตัวเล็กยังเหยียบกระเดื่องไม่ถึงด้วยซ้ำ บุ๋นเลยมีเทคนิคส่วนตัวเป็นตัวช่วยเล็กน้อย “ต้องปรับเก้าอี้ลงและปรับกลองให้เล็กลงครับ”

การโชว์บนเวที THE POWER BAND นั้น บุ๋นตีกลองไปยิ้มไป ทำให้คนที่ได้ดูยิ้มตาม “บนเวที ผมมี 3 ความรู้สึก ตื่นเต้นนิดเดียว สนุก แล้วก็ลืมตัว…มันเป็นไปเอง แต่ผมตีถูกนะครับ มันซ้อมจนชินไปแล้ว” และเคล็ดลับการตีกลองให้ดีของบุ๋นคือ “ที่จะเก่งขึ้นได้ เราต้องซ้อมทุกวันอย่าให้ขาดครับ”

ในอนาคตที่บุ๋นฝันไว้ “ถ้าเป็นไปได้ผมอยากเป็นหมอที่ตีกลองไปด้วย” เพราะบุ๋นยืนยันว่าเขาคือมือกลองที่เรียนเก่งที่สุดในวง (ฮ่าๆ) อ่านเรื่องของวง OZONE คลิกที่นี่

• เจซี – จาริล คริส เตอร์แคมโป เดอ-คาสโทร

มือเบส วง OZONE

“เสน่ห์คืออะไรครับ”

เจซีถึงกับงง??? เมื่อเราถามว่าเขาหลงเสน่ห์เบสตรงไหน

เพราะเจซีเป็นชาวฟิลิปปินส์จึงอาจจะถนัดภาษาอังกฤษก่อนภาษาไทยอยู่สักนิด และเจซีก็บอกว่าที่เขาอยากเล่นเบสเพราะมีคุณพ่อซึ่งเป็นนักดนตรีอาชีพเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ “ผมเห็นพ่อเล่นเบสมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วรู้สึกเท่ ผมเลยเล่นตาม พ่อก็คอยสอนผมมาตลอด”

เจซีเล่นเครื่องดนตรีได้หลายอย่าง ทั้งอูคูเลเล่ คีย์บอร์ด และกีตาร์ แต่เบสมีดีสำหรับเขาต่างจากเครื่องดนตรีอื่นที่เลือกเล่นอยู่นิดหน่อย “เบสเล่นไม่ยาก แต่มีความรู้สึกเยอะ” เจซีเลยส่งความรู้สึกของเขาบนเวทีมาถึงคนดูได้ดี

“พ่อให้ฝึกสเกล หลังจากนั้นผมลองเอาสเกลนี้ไปลองโซโลอิมโพรไวส์ดู และเรียนจาก YouTube ด้วย” การฝึกแบบนี้ทำให้เขาได้รับคำชื่นชมเสมอ “มีคนชมว่าผมเล่นเบสดีสำหรับอายุเท่านี้ ประทับใจมากครับ”

เจซีบอกว่าเขาไม่รู้หรอกว่าตัวเองมีดีอะไร “แต่สนุกทุกครั้งที่ได้เล่นเบสและได้อยู่บนเวที”

 

• ประวีร์ – ประวีร์ ประเสริฐพร

มือกลอง วง Penmanship

“ผมเป็นมือกลองที่เอเนอร์จีล้น

และรัวกระเดื่องได้เท่

“ไอดอลของผมคือ พี่กานต์ โปเตเต้ ผมอยากเป็นแบบเขา” นั่นเป็นแรงบันดาลใจให้ประวีร์ซ้อมให้หนักขึ้น

“ผมหาสูตรการเล่นกลองตาม YouTube หรือ IG แล้วมาลองฝึกเอง และหาเพลงยากๆ มาแกะแล้วตีดู” เพราะเสน่ห์ของกลองสำหรับประวีร์คือกระเดื่อง “ตอนเด็กๆ ผมเห็นคนเล่นกระเดื่องคู่ ผมเลยอยากลองเล่นบ้าง พอได้ลองตีดู ผมก็คิดว่าสิ่งนี้แหละที่เราจะทำไปเรื่อยๆ เพราะเล่นแล้วมีความสุข” จาก 7 ขวบจนถึงวันนี้ประวีร์ก็ไม่ได้วางไม้กลองอีกเลย”

ประวีร์และวง Penmanship ลงสนาม THE POWER BAND ครั้งแรกในรอบโซนนิ่งที่สนามขอนแก่น แต่ยังไม่ประสบสำเร็จดังหวัง พวกเขาจึงกลับมาอีกครั้งในสนามภูเก็ต และประวีร์ได้นำคำแนะนำของกรรมการไปปรับแก้ไขการตีกลองของตัวเอง “ที่สนามขอนแก่นกรรมการคอมเมนต์เรื่องน้ำหนักกลอง ผมตีทุกอย่างเท่ากันหมด มือขวามือซ้าย กระเดื่อง  ความดังเบาไม่ค่อยดี ผมเลยไปฝึกซ้อมมากขึ้น นำเอาสิ่งที่กรรมการบอกมาปรับใช้ ให้การตีมีไดนามิกดังเบาไปตามเพลง” อ่านเรื่องของสมาชิกวง Penmanship ที่สนามขอนแก่น คลิกที่นี่

เมื่อปรับแก้ก็ไม่แปลกที่ความพยายามมีส่วนผลักดันไปสู่ความสำเร็จ วง Penmanship ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศดังที่พวกเขาหวัง นี่คือตัวอย่างของการนำคำแนะนำไปปรับใช้และความไม่ยอมแพ้ของทุกคน อ่านเรื่องของวง Penmanship คลิกที่นี่

 

• มามู – ณภัทร วิงประวัติ

มือกีตาร์ วง SOUL SYNC

“พ่อผมก็เล่นกีตาร์

พ่อบอกผมตลอด แต่ผมไม่ฟัง

แม้ว่ามามูจะเริ่มเล่นดนตรีเพราะได้แรงบันดาลใจจากพ่อ…เพราะเห็นพ่อเล่นกีตาร์แล้วรู้สึกว่าเท่ดี แต่เขาก็ไม่ค่อยฟังเรื่องการเล่นกีตาร์เวลาพ่อบอก (เป็นงั้นไป)

ก่อนจะเล่นกีตาร์มามูเป็นมือกลองมาก่อน พอที่โรงเรียนดนตรีให้ไปเล่นกลองโชว์ มามูไม่อยากโชว์จึงเลิกเล่นดนตรีไปสักพัก ก่อนที่เขาจะกลับมาจับกีตาร์ตอน ป.6 แล้วก็เล่นยาวมา “เวลาเล่นกีตาร์แล้วมีความสุข อยากเล่นมันเรื่อยๆ จนอยากเล่นเป็นอาชีพไปเลย”

มามูเข้ามาเป็นสมาชิกของวง SOUL SYNC เพราะเคยทำวงกับมือกลองมาก่อน “นักร้องกับมือกลองเขาเคยมา THE POWER BAND เมื่อซีซันที่แล้ว (ตอนนั้นเป็นวง Nothing Matters) พอเขามาชวนผมก็เลยมา น่าจะเป็นโอกาสที่ดี เพราะการประกวดให้ประสบการณ์เยอะมาก ได้ความรู้ใหม่ๆ ได้รู้เรื่องการใช้เอฟเฟกต์ การเล่นไดนามิกเบา-ดัง” ย้อนอ่านเรื่องของวง Nothing Matters คลิกที่นี่

เมื่อเขาเลือกที่จะเล่นดนตรีเป็นอาชีพแล้ว เส้นทางฝันของมามูคือ “ผมอยากทำวงจนมีชื่อเสียงแบบ Big Ass หรือ Bodyslam” เราเชื่อว่ามามูทำได้

• โมโน – ธิติ ชูวิชยานนท์

มือพิณ วง SoundSculpt

“ผมเล่นดนตรีแบบทิ้งทฤษฎี

แต่ใช้ฟีลลิง 100%

ตอนนี้โมโนเรียนดนตรีอยู่ที่โรงเรียนเตรียมอุดมดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เขาเลยรู้สึกว่าดนตรีบอกเล่าทุกอย่างได้ “ดนตรีสามารถสื่อความรู้สึกออกมาได้ดี เวลาเรารู้สึกอะไรแล้วเล่นดนตรีมันก็จะสื่อความรู้สึกนั้นออกมา”

โมโนอยู่กับดนตรีมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อของเขาทำบริษัทเช่าเครื่องเสียงเครื่องดนตรี “ผมไปงานดนตรี ไปคอนเสิร์ตกับพ่อตั้งแต่เด็ก ก็เลยได้ฟังเพลงมาตลอด” โมโนเล่นและเรียนเอกกีตาร์ แต่ในวงนี้เขาเล่นพิณ “ผมเล่นพิณเพราะมีอาจารย์ของผมเป็นไอดอล (อาจารย์ต้นตระกูล แก้วหย่อง) และผมอยากเล่นเพลงวงของอาจารย์ด้วย” อ่านเรื่องของอาจารย์ต้นตระกูล คลิกที่นี่

โมโนเป็นตัวตั้งตัวตีชวนเพื่อนมาทำวง “ผมชอบเล่นดนตรีกับเพื่อน ก็เลยหาเพื่อนที่สไตล์ไปด้วยกันได้” การเล่นดนตรีเลยสนุกขึ้น “บนเวทีผมสนุกมากเพราะได้เล่นกับเพื่อน ถึงจะเป็นการแข่งก็คิดว่าเรามาโชว์มากกว่า เลยไม่ค่อยตื่นเต้น เห็นเพื่อนสนุกเราก็สนุกไปด้วย พอเราสนุกก็ส่งความรู้สึกไปถึงคนดูได้ด้วย”

โมโนยังบอกกับเราอีกว่า เสน่ห์ของเขาอาจจะเพราะพิณที่เขาเล่นมันสะดุดตา แต่เราว่าพิณนั้นดูสะดุดตาเพราะโมโนเป็นคนบรรเลงมันต่างหาก

 

• เจโน่ – ธนวัชร์ สุริยภัคพงศ์

มือเบส วง SoundSculpt

“เวลาผมเล่นเบส สายตาผมมีเสน่ห์”

“ตอนแรกวงนี้มีผมกับเพื่อนแค่ 2 คน” นั่นก็คือตัวเขากับโมโนนั่นเอง “ผมไปบอกโมโนว่ามีเพลงของวง Asia7 ที่ฟังบ่อยและอยากเล่นมาก โมโนก็เคยเล่นเพลงนี้ เลยชวนกันมาหาผู้ร่วมอุดมการณ์จนกลายมาเป็นวงนี้” นั่นคือจุดเริ่มต้นที่มาจากความชอบเหมือนๆ กันของวง SoundSculpt

ตอนเด็ก(กว่านี้)เจโน่ถูกแม่จับเรียนเปียโน แต่เขารู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ก็เลยหนีไปเล่นฟุตบอล วันหนึ่งก็กลับมาเรียนกลอง ฟุตบอลจึงไม่ใช่สิ่งที่ใช่อีกต่อไป แต่มีเพื่อนที่ตีกลองเก่งกว่า เขาเลยย้ายไปเล่นเบส “จนกลายมาเป็นทางของเรา ผมชอบที่ตำแหน่งเบสมันอยู่ข้างหน้าในวง ผมชอบเห็นคนเยอะๆ”

อีกอย่างที่เจโน่ชอบมาก…น่าจะเป็นเรื่องของเพอร์ฟอร์แมนซ์ “เพราะผมชอบอยู่บนเวที”

นั่นทำให้บนเวทีเจโน่ดูฉายแสงและมีความสุขมาก และการได้ขึ้นเวทีบ่อยๆ มันช่วยเจโน่ได้มาก “มันทำให้เรารู้เรื่องการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ต่างๆ เช่น เกิดข้อผิดพลาดแบบนี้เราจะทำอย่างไรให้โชว์มันไปต่อได้” ในวันนี้เจโน่มีความสุขกับการเล่นดนตรี แต่ในอนาคตนั้น “ผมอยากหารายได้จากการเล่นดนตรี ผมอยากแมสให้ทุกคนรู้จักและฟังเพลงของเรา”

 

• เจอาร์ – วสวัตติ์ บุญภักดี

มือกีตาร์ วง Z1NITH 

“กีตาร์เป็นเหมือนเพื่อนผมไปแล้ว”

เจอาร์รู้ตัวว่าเขาชอบดนตรีตั้งแต่เด็ก “ผมชอบร้องเพลง เวลาครูประกาศเรียกเด็กกลับบ้าน ผมชอบแย่งไมค์จากครูมาร้องเพลง นั่นทำให้ผมรู้ว่าผมเริ่มสนใจเพลง”

พอขึ้นชั้นประถมเขาก็เริ่มฟังเพลงร็อก “ผมได้ยินเสียงกีตาร์โซโลแล้วรู้สึกว่ามันเท่มาก อยากทำแบบนั้นได้บ้าง” และเสียงกีตาร์ก็ทำให้เจอาร์มีความสุขเขาอยู่กับมันได้เรื่อยๆ เมื่อเพื่อนชวนมาเล่นกับวงและประกวด THE POWER BAND เขาจึงรีบตกลง “ตอนอยู่บนเวทีผมมีความสุข ไม่ต้องคิดเยอะ สุขที่ได้เล่น ได้เอนจอยกับเพลง กับเพื่อนก็พอแล้ว”

วันนี้เจอาร์ได้เล่นดนตรี ได้เป็นมือกีตาร์แล้ว “วันนี้เหมือนผมเดินทางมาถึงความฝันแล้ว ได้เป็นมือกีตาร์แล้ว แต่ก็ยังต้องอัปสกิลขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะอนาคตผมไม่ได้อยากเป็นแค่มือกีตาร์ ผมอยากเป็นมากกว่านั้น ผมอยากทำซาวนด์ ทำเพลง อยากทำงานเบื้องหลังด้วย” เส้นทางชีวิตของเจอาร์ชัดเจนมาก และเขากำลังมุ่งมั่นทำมันด้วยความตั้งใจและความสุข อ่านเรื่องของสมาชิกวง Z1nith ที่สนามขอนแก่น คลิกที่นี่

 

• มังกร – ณัฐวัฒน์ โชติรัตน์

มือคีย์บอร์ด วง The Humble

“ผมคือมือคีย์บอร์ดที่หล่อ

และร้องเพลงเพราะ”

วง The Humble เคยมาประกวด THE POWER BAND แล้ว แต่นี่คือครั้งแรกของมังกร “เวที THE POWER BAND เป็นเวทีใหญ่ที่สุดที่ผมเคยขึ้นเลย ตื่นเต้นมาก” และที่เราเห็นการแสดงที่อินสุดๆ ของเขาบนเวทีก็เพราะว่า ‘คนมันอิน’ “เพลงแรกที่เล่นวันนี้เป็นเพลงอกหักและผมเพิ่งอกหักมา มันเลยอิน” (โถววว)

แบบนี้เขาเรียกว่าใช้ประสบการณ์ตรงให้เป็นประโยชน์ แต่พอเพลงเร็ว “ผมก็ใส่เอเนอร์จีสนุกๆ ไปเต็มที่” และเขาก็ทำได้ดีมากๆ ด้วย “บนเวทีมีเอเนอร์จีที่ดีและวันนี้ผมโซโลไม่ผิดด้วย สงสัยว่ามากับดวง” แหม ฝีมือกับการฝึกซ้อมก็น่าจะมีผลนะ อ่านเรื่องของวง The Humble สมาชิกในอีกเจน. คลิกที่นี่

มังกรอยู่ในวงประสานเสียงมาก่อน ก่อนที่พ่อจะแอบไปสมัครโครงการเรียนดนตรีฟรีของทางจังหวัดให้เขา และเขาก็ชอบคีย์บอร์ดที่ได้ไปเรียนรู้มา “ผมชอบเสียงคีย์บอร์ด มันเพราะดี”

นั่นทำให้มังกรอยู่กับดนตรีมาจนวันนี้ และมองไกลไปถึงอนาคต “ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากเป็นศิลปินเดี่ยวหรือเป็นตัวหลักในวง หรือแม้ว่าผมจะไม่ได้เรียนต่อด้านดนตรี หรือเป็นอย่างอื่น แต่ผมก็จะมีดนตรีอยู่ในชีวิตเสมอ”

 

Author

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว

Author

นักเล่าเรื่อง ผู้มีหนังสือและการเดินทางเป็นดั่งลมหายใจ นิยมชมชอบท้องฟ้า กาแฟ และแมว

Web Editor

ปิ่นอนงค์ วัชรปาณ

Web Editor

บรรณาธิการเว็บ Thaipower.co อดีตบรรณาธิการบางสำนัก นักข่าวและคอลัมนิสต์จำเป็น โกสต์ไรเตอร์...ผู้รักการเดินทาง หลงใหลกลิ่นกาแฟ และเป็นมูฟวีเลิฟเวอร์

Author

อำพน จันทร์ศิริศรี

Photographer

ช่างภาพอิสระมากว่า 30 ปี...ที่คร่ำหวอดกับการถ่ายภาพรายการทีวีต่างๆ เช่น The Voice, The Rapper, The Stars Idol เป็นต้น และถ่ายภาพคอนเสิร์ตต่างๆ